คุณชายมาดเข้มกับคุณหนูสุดแสบ

บทที่312: ผมชอบยืนหยัดจนถึงที่สุดมากกว่า



บทที่312: ผมชอบยืนหยัดจนถึงที่สุดมากกว่า

ถ้าเทียบกับริมทางเดินที่มีผู้คนไปมาและเสียงดัง ห้องผู้ป่วยvipที่กว้างขวางนี้เงียบสงบมาก

ประตูปิดไว้ ผนังในห้องกันเสียงได้ค่อนข้างดี แต่ แล้วบนประตูกลับมีกระจกโปร่งใสที่มีความกว้างประมาณ สามสิบเซนติเมตรแทรกอยู่ ขอแค่มีคนยืนอยู่ด้านนอกก็ สามารถมองเห็นสถานการณ์ภายในห้องผู้ป่วยผ่านกระจก ได้

ถึงจะมีความเป็นส่วนตัว แต่ในความเป็นส่วนตัวก็มีขีด

จํากัดอยู่

พิงกี้นั่งหันหลังให้กับประตู มือได้ยื่นเข้าไปใต้ผ้าห่ม

ใบหน้าที่ขาวเนียนแดงก่ำเล็กน้อย เธอรู้สึกว่าฝ่ามือ ใกล้จะร้อนจนละลายแล้ว ทำเหมือนวิธีที่เคยดูในวิดีโอ ก่อนหน้านั้น มือของเธอลองเคลื่อนไหวขึ้นลงและถาม ด้วยความอายว่า “แบบนี้ได้ไหมคะ?

เดิมทีแค่ล้อเล่นเฉยๆ แต่ตอนที่สาวน้อยกุมจุดสำคัญ ของชีวิตไว้จริงๆ เควินกลับอดที่จะหลับตาลงไม่ได้ ขมวด คิ้วเล็กน้อย ในลำคอส่งเสียงครางทุ้มต่ำออกมาทีนึง
พิงกี้ไม่แน่ใจว่าแบบนี้สําหรับเขาคือโอเคหรือไม่ โอเค เธอจึงหยุดความเคลื่อนไหวเพื่อรอเขาให้คําตอบที่ ชัดเจนกับเธอ

เควินรอไปสักพัก เห็นว่าเธอหยุดเคลื่อนไหวแล้ว แววตาที่ดำแวววาวเหมือนแมวมองเขาด้วยความสงสัย และแปลกใจ ทันใดนั้นเควินอดยิ้มมุมปากไม่ได้ พร้อมพูด เสียงทุ้มต่ำว่า “ทำต่อเลย”

” พิงกี้ใบหน้าร้อนผ่าวและบริการเขาต่อ

ดีที่เควินแค่ได้รับบาดเจ็บที่ขาข้างซ้าย อวัยวะภายใน กับร่างกายไม่ได้รับบาดเจ็บ ถ้าได้รับบาดเจ็บสาหัสล่ะก็ เธอไม่มีทางปล่อยให้เขาเหิมเกริมขนาดนี้หรอก

ต้องรู้ไว้นะ ทำเรื่องทั่วๆแบบนี้ก็เป็นการเผาผลาญ อย่างนึงนะ

แน่นอนว่าเป็นงานลําบากด้วย

พิงกี้ใช้มือขวาเคลื่อนไหวไปหลายนาทีก็รู้สึกเมื่อย มือจะแย่อยู่แล้ว เธอเอามือออกและนวดที่แขน พูดด้วย สีหน้ากล้ำกลืนฝืนทน “คุณเควิน คุณอันนั้นไวหน่อยไม่ ได้ยังไงคะ?”
“ไม่ได้” แววตาของเควินเต็มไปด้วยรอยยิ้มที่ลึกซึ้ง “ผมชอบยืนหยัดจนถึงที่สุดมากกว่า”

ยืนหยัดที่จะไม่ปลดปล่อยออกมากกว่ามั้ง

พิงกี้หมดคำพูดจริงๆ

“เปลี่ยนมืออีกข้างแล้วทำต่อ .” พิงกี้ยอมจำนนต่อโชคชะตาแล้ว สลับมือทั้งสองข้างไปเรื่อยๆอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ครั้งแรกที่พิงกี้รู้สึกว่าผู้ชายอึดเกินไปก็เป็นบาปอย่าง

นึงนะ

หาความสุขบนความทุกข์ เธออดล้อเล่นกับตัวเอง อยู่ในใจไม่ได้ รู้สึกตัวเองเหมือนพนักงานรีดนมเลย เรื่อง ที่เธอทำอยู่ในตอนนี้มีจุดที่เหมือนรีดนมจริงๆ ใช้ท่าทาง ที่เหมือนกัน ส่วนของที่รีดออกมา………….ก็ใกล้เคียง

เห้ย! คิดฟุ้งซ่านไปแล้ว
ทําสมองให้ว่างเปล่าอย่าคิดฟุ้งซ่านอีก!

ส่วนเควิน ถึงแม้เทคนิกของพิงกี้ไม่ได้ถือว่าชานาญ แม้กระทั่งบางเวลายังทำให้เขาเจ็บด้วยซ้ำ แต่ยังไงเขา ก็ชอบผู้หญิงคนนี้ ขอแค่ถูกเธอกุมตรงนั้นไว้ เขาก็จะ รู้สึกสบายไปทั้งตัวเหมือนมีกระแสไฟอ่อนๆส่งผ่านมาที่ ร่างกาย

ร่างกายถูกปรนนิบัติจนเสียวซาบซ่านมาก เขาพิง อยู่ที่บนหมอน ดวงตาทั้งคู่มองใบหน้าของพิงกี้ไว้ มองดู สีหน้าที่เปลี่ยนแปลงของเธอ เดี๋ยวขมวดคิ้วเดี๋ยวแอบยิ้ม ก็ไม่รู้ว่าในสมองกำลังคิดอะไรอยู่ ในใจเขาก็รู้สึกตลกเล็ก น้อย

พอมาถึงสุดถึง ความแข็งแรงก็ยังไม่พอ

เควินยื่นมือมากุมมือของพิงกี้ไว้ พาเธอเคลื่อนไหว ขึ้นลง ที่นี้ถึงได้ครางเสียงต่ำพร้อมปลดปล่อยออกมา

ของที่ปลดปล่อยออกมานั้นย่อมหล่นอยู่ในฝ่ามือของ พิงกี้อยู่แล้ว

“คุณ…..นี่คุณ ทำไมคุณไม่บอกสักคำเลย

พิงกี้รู้สึกมือก็ไม่ใช่มือของตัวเองแล้ว ถูกเสียดสีจนเจ็บไม่พอ ตอนนี้ไอ้ของที่เหนียวข้นพวกนี้ทำให้สมองเธอ มึนตึ๊บจริงๆ ไม่รู้จะดึงสติกลับมายังไง

“ฮม…..” เควินกระแอมอย่างไม่เป็นธรรมชาติทีนึง “คณไปล้างก่อน

“ยังจะไม่ล้างได้อีกหรอคะ?”

จ้องเควินไปทีนึง พิงกี้รีบลุกขึ้นและพุ่งไปที่ห้องน้ำ ชำระล้างของเหนียวข้นบนมือออกอย่างหน้าแดง รู้สึกว่า ทั้งเนื้อทั้งตัวเต็มไปด้วยกลิ่นไอของผู้ชาย

คนๆนี้………..

ไม่ เขาไม่ใช่คน แต่เป็นหมาป่าที่หิวโหยชัดๆ!

ออกมาจากห้องน้ำปุ๊บ พิงกี้ก็ได้เปิดหน้าต่างเพื่อ ระบายอากาศ เพื่อเลี่ยงเดี่ยวพยาบาลเข้ามาจะได้ไม่ได้ กลิ่นที่ไม่พึงประสงค์

เพิ่งเสร็จสิ้นไปสองนาที พยาบาลก็มาเคาะประตูแล้ว

“คุณพิงกี้คะ ดิฉันเข้ามาได้มั้ยคะ? ดิฉันมาเปลี่ยนถุง น้ำเกลือให้คุณเควินค่ะ” พยาบาลถามอย่างมีมารยาทอยู่ หน้าห้อง
“เข้ามาเลยค่ะ” พิงกี้แสร้งทำเป็นไม่มีอะไรเกิดขึ้น

เงยหน้าปุ๊บเธอถึงพบว่าเมื่อกี้ตอนที่ทั้งคู่เหิมเกริมกัน น้ำเกลือในถุงได้หมดลงแล้ว ถ้าไม่ใช่พยาบาลมาเดือน เขาสองคนอาจจะไม่ได้สังเกตุเห็นด้วยซ้ำ

ทั้งๆที่ก่อนจะเหิมเกริม เธอยังใส่ใจกับเรื่องนี้มากเลย

พอพยาบาลเปลี่ยนถุงน้ำเกลือเสร็จและออกจาก ห้อง พิงกี้ได้จ้องเควินด้วยความโกรธทันที เมื่อกี้เขายังมี สีหน้าเย็นชาเคร่งขรึมอยู่เลย นาทีนี้กลับแหมือนน้ำแข็ง ที่ละลายอย่างไรอย่างนั้น เผยรอยยิ้มที่อ่อนโยนและพึง พอใจออกมา

พิงกี้ c

กว่าเควินจะกลับมาในประเทศไม่ใช่ง่ายๆ ไม่อยาก พักอยู่ในโรงพยาบาลนานด้วยซ้ำ นอนโรงพยาบาลแค่คืน เดียว วันที่สองเขาก็เรียกร้องจะออกจากโรงพยาบาลแล้ว

เพราะเขาได้รับบาดเจ็บที่ขาข้างซ้ายเฉยๆ ปกติพัก ฟื้นอยู่ในบ้านคอยระวังตัวหน่อยก็พอแล้ว อยู่บ้านกับอยู่ โรงพยาบาลก็ไม่ได้ต่างกัน ในเมื่อแบบนี้เพื่อความสะดวกของตัวเอง เขาย่อมยอมอยู่บ้านมากกว่าอยู่แล้ว

พิงกี้นึกถึงที่บ้านยังมีผู้ป่วยอย่างพายุอยู่ เธอก็เลยไม่

ได้ขัดขวาง

แต่ว่าร่างกายของพายุได้ฟื้นฟูกลับมาปกติแล้ว ไม่ แน่พอถึงสุดท้ายอาจจะมีแค่ท่านประธานใหญ่คนเดียวที่ กอดตัวเองร้องไห้

กลับมาถึงบ้านไม่นาน ก็มีสายเรียกเข้าจากรังสิต

ขอเส้นผมตรวจDNAจากสมคิดกับวันเพ็ญไม่ใช่ เรื่องที่เปลืองแรงอะไรเลย ไม่ต้องลับๆล่อๆ ยื่นมือขอพวก เขาด้วยความซื่อตรง อย่าบอกว่าผมเส้นนึงเลย ถึงดึงลง มาจนหมดพวกเขาก็ไม่กล้าพูดอะไรสักคำหรอก

หลังจากได้เส้นผมมาแล้ว เมื่อคืนรังสิตก็ได้จัดเตรียม ให้เทียบDNAอย่างหามรุ่งหามค่ำ

วันนี้ผลก็ออกมาแล้ว

“สถานการณ์เป็นยังไงบ้าง แน่ใจฐานะของผู้ตาย หรือยัง?” พิงกี้รีบถาม

ชั้นใต้ดินเกิดเหตุเพลิงไหม้ มีผู้เสียชีวิตหลายคนในนั้นมีทั้งผู้หญิงและผู้ชาย แต่ที่เธอเป็นห่วงที่สุดคือ สถานการณ์ของลิสา สำหรับคนอื่นๆถึงจะตรวจDNAออก มาก็ยากที่จะเทียบเพราะไม่มีข้อมูล ว่ากันว่าในนั้นมีต่าง ชาติอยู่สามสี่คนด้วย แบบนี้ย่อมตามฐานะไม่เจออยู่แล้ว

รังสิตตอบ “แน่ใจแล้วครับ ดูจากผลการตรวจศพผู้ หญิงหนึ่งในนั้นก็คือลิสาครับ เพียงแต่…


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ