คุณชายมาดเข้มกับคุณหนูสุดแสบ

บทที่224 นาทีสุดท้าย



ที่ผ่านมา หวานก็เป็นคนนิสัยโผงผาง พิงก็คบกับเธอมานานขนาดนี้ ไม่เคยเห็นเธอ เสียใจขนาดนี้มาก่อน

เธอเป็นห่วงมาก!

ตอนนี้เธอไม่มีเวลาสนใจอะไรแล้ว เปลี่ยน เสื้อผ้าเสร็จก็วิ่งลงมาชั้นล่างอย่างเร่งรีบ

“คุณพิงกี้จะไปไหนคะ?” ป้าเฉินเห็นเธอ เดินไปอย่างเร่งรีบ จึงถามขึ้นมาว่า “คุณจะ ออกไปข้างนอกหรอคะ?

“ใช่ เพื่อนคนนึงของฉันเกิดเรื่อง ฉันจะ

ต้องรีบไปหาเธอค่ะ”

ป้าเฉินพูดด้วยความลำบากใจ “แต่ที่บ้าน ไม่มีรถแล้วนะคะ คุณจะออกไปยังไงคะ? อีก อย่างคุณเควินได้สั่งดิฉันไว้โดยเฉพาะว่าถ้า คุณไม่ฟังคำพูดของเขาล่ะก็…..ดิฉัน ดิฉันต้อง แจ้งคุณเควินก่อนค่ะ”

พิงกี้หยุดก้าวเท้า
ใช้สิ เธออยากออกไปข้างนอก หนึ่งคือ ไม่มีพายุคอยติดตาม สองคือไม่มีรถ แค่ป่าเนื้ นบอกกับเควิน เขาต้องไม่ยอมแน่ๆ

เควินรู้ว่าเธอเป็นคนไม่เชื่อฟัง ดังนั้นเลยให้ คนเอารถในบ้านไปจอดข้างนอกหมด นอกจา กมายบัคสีดำที่ใช้อยู่ประจำแล้ว ไม่มีรถคันอื่น เลย

แต่ว่าเธอก็ไม่มีเวลามาไม่สนใจเยอะแยะ ขนาดนั้นแล้ว

“ป้าบอกคุณเควินเถอะค่ะ เขาจะต้องให้

คนไปหาฉันแน่นอน……..

ระหว่างพูด พิงกี้ก็พุ่งออกไปภายใต้สายตา ร้อนรนใจของป้าเฉิน

คนที่พักอยู่ในโซนของL.K.Crystalวิลล่า นี้ ต่างก็เป็นคนมีฐานะ ถ้าสามารถได้เจอรถซิ่ง คันนึงผ่านมาก็ดีแล้ว
ฟังกี้เดินออกไปข้างนอกและคอยสังเกตุ รอบๆไปด้วย

อาจจะเพราะเธอโชคดี เดินไม่ถึงสิบนาที ก็ มีรถขับมายังทิศทางของเธอจริงๆ มองแล้วรู้สึก คุ้นๆด้วย เธอรีบโบกมือขวางรถไว้ คิดไม่ถึงว่า รถจะจอดลงมาที่ตรงหน้าเธอจริงๆด้วย

“คุณผู้ชายท่านนี้…..” เพิ่งพูดไปห้าคํ พิงกี้ตาค้างขึ้นมาทันที “คุณดุสิต?!”

“ผมเอง” ดุสิตพยักหน้า “มีอะไรรึเปล่า?

“ฉันมีธุระด่วนจะเข้าตัวเมืองเที่ยวนึง ถ้า คุณสะดวก ฉันขอติดรถไปด้วยได้มั้ยคะ?

“ขึ้นรถเลยครับ” ดุสิตพยักหน้า

รถได้ขับเคลื่อนอยู่บนถนน ทั้งสองไม่ได้ พูดคุยกัน ยังดีที่เปิดดนตรีไว้ อย่างน้อยก็ทำให้ อึดอัดน้อยลง
พอขับมาถึงครึ่งทาง ดุสิตเป็นคนทําลาย ความเงียบก่อน “คุณจะไปไหน? ผมส่งคุณไป

“ไม่ต้องแล้วค่ะ เดี๋ยวฉันนั่งรถไฟใต้ดินไป ก็พอ” พิงกี้ส่ายหัว “คุณงานเยอะ ไปทำธุระ ของคุณเถอะ ฉันนั่งรถไฟใต้ดินก็สะดวกมาก ค่ะ”

“ดูคุณรีบร้อนขนาดนี้ มีเรื่องเร่งด่วนอะไร รึเปล่า?” ดุสิตถามเหมือนไม่แคร์อะไร

.อืม เพื่อนเกิดเรื่องนิดหน่อยค่ะ”

“ใช่น้ำหวานมั้ย?”

“อี๋ม?” พิงกี้มองไปที่ดุสิตทันที “คุณรู้ได้ ยังไงคะว่าเป็นเธอ

มือที่วางอยู่บนพวงมาลัยกำแน่นขึ้น ดุสิต พูดเฉยเมยอีกเช่นเคย “ผมก็รู้จักเพื่อนคุณแค่ คนนี้คนเดียว ก็แค่เดาไปมั่วครับ”
“อ๋อ…. ” พิงกี้พยักหน้า

ในเมื่อคนอื่นก็เดาออกแล้ว เธอก็ไม่มีอะไร ต้องปิดบัง คําพูดเธอแฝงด้วยความกังวล “ใช่ ค่ะ นําหวานเกิดเรื่องนิดหน่อยฉันถึงได้ร้อนรน ใจขนาดนี้”

“เกิดเรื่องอะไรครับ?

..” เงียบไปครู่นึง พิงกี้สายหัว “ฉันก็ ไม่ค่อยรู้ชัดค่ะ ต้องไปถึงที่นั่นถึงจะรู้ค่ะ”

33

เรื่องของผู้หญิงค่อนข้างเป็นความลับ เธอ

รู้สึกให้คนอื่นรู้ยิ่งน้อยยิ่งดีกว่า

เธอหลีกเลี่ยงชัดเจนขนาดนี้ ก็ไม่รู้ว่าดุสิต สังเกตุเห็นมั้ย แต่เขาก็ไม่ได้ถามอะไรต่อ

ดุสิตถามสถานที่เสร็จก็ดื้อดึงจะส่งพิงกี้ไป ที่โรงพยาบาล
ถึงแม้พิงกี้รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย เพราะ เธอกับดุสิตก็ไม่ได้สนิทกัน แม้กระทั่งเพื่อมานพ แล้วเขาถึงขั้นมีความคิดเห็นกับเธอ แต่ตอนนี้ เขาจะส่งเธอไปโรงพยาบาล เธอก็เร่งรีบด้วย เลยไม่ได้ปฎิเสธ

ถ้าปฎิเสธก็โง่แล้ว!

ในใจคอยเป็นห่วงน้ำหวานอยู่ตลอดเวลา พิงกี้รู้สึกมองหน้าเย็นชาของดุสิตก็ไม่ได้เป็น เรื่องที่ทนไม่ไหวอะไร

พอถึงโรงพยาบาล พิงกี้รีบโดดลงรถทันที เธอโบกมือให้ดุสิต “ขอบคุณนะคะคุณดุสิต บ๊ายบายค่ะ”

มองดูร่างเงาที่จากไปไกลของพิงกี้ ดุสิต จุดบุหรี่ขึ้นมามวนนึงแล้วดูดไปคำนึง ควันบุหรี่ อบอวลอยู่ตรงหน้าของเขา บังแววตาที่ซ่อนเร้น ไม่ชัดเจนของเขาไว้ ทำให้เขายิ่งอยู่ยิ่งดูซึม เศร้าขึ้นมา
“พิงกี้!”

วิ่งมาถึงชั้นหกของโรงพยาบาลด้วย ความเร่งรีบ พิงกี้ยังไม่มีเวลาตามหาร่างเงาของ นําหวาน ก็ได้ยินเสียงที่เหมือนร้องไห้ดังขึ้น

มองไปตามเสียง น้ำหวานที่ดวงตาแดงก่ำ และอิดโรยจนดูไม่ได้กำลังเดินมาหาเธอ

ไม่ได้เจอหน้ากันแค่ระยะเวลาสั้นๆ นึกไม่ ถึงว่าน้ำหวานจะผอมลงเยอะขนาดนี้

คิดถึงเรื่องที่น้ำหวานคุยในโทรศัพท์แล้ว พิงกี้รู้สึกไม่สบายใจอย่างยิ่ง เธอรีบเดินไปหา เธอพร้อมถามว่า “เธอเป็นอะไรกันแน่? แม้แต่ ฉันก็พูดไม่ได้หรอ หรือว่า…เพราะสถานะของ ผู้ชายคนนั้นมีปัญหา

น้ำหวานเป็นคนที่นิสัยไม่เหมือนใคร แต่ที่ จริงทั้งจิตใจดีงามและไร้เดียงสา พูดตามหลัก ถ้าเธออยู่กับผู้ชายคนนึงจริงๆ เธอต้องรู้สถานะ ของคนๆนั้นให้ละเอียดถึงจะถูกสิ อย่างน้อยก็ไม่ใช่คนที่มีเจ้าของแล้ว

แต่ตอนนี้ มองดูแววตาของน้ำหวานกลับ เต็มไปด้วยความขมขื่น

“น้ำหวาน เธอคงไม่……..

“อืม” น้ำหวานเผยรอยยิ้มที่ขมขื่นออกมา ไม่นานก็พูดอย่างตรงไปตรงมา “แต่ว่าเรื่องนี้ ไม่ใช่ความผิดของฉันนะ ตอนที่ฉันอยู่กับเขา ยังโสดอยู่ ถึงแม้ฉันเป็นคนหน้าด้านไปเข้าหา เขาก่อนเอง แต่…แต่ฉันก็ไม่ได้ผิดมั้ง? ตอนนี้ แค่…คนที่เขาอาลัยอาวรณ์กลับมาแล้ว เดิมที เขาก็ไม่ได้รักฉันอยู่แล้ว ลูกในท้องของฉันก็เอา ไม่ได้เฉยๆ”

“นี่มันเรื่องอะไรกันแน่?” พิงกี้ทั้งช็อกทั้ง

สงสาร

“ก็ไม่มีอะไรหรอก แค่เลิกกันเฉยๆ”

“แล้วลูก…คือเขาเป็นคนไม่อยากเอาไว้หรือ?” มือ ห้อยอยู่ข้างกายกำแน่นขึ้น เจ็บใจ และยากที่จะอดทน

ผู้ชายส่วนใหญ่ต่างก็เย็นชากว่าผู้หญิง ตอนที่อยู่ด้วยกันก็รักกันหวานแหวปานจะกลืน กิน ตอนที่จะจากกันถึงลูกเป็นรูปเป็นร่างอยู่ใน ท้องแล้ว บอกไม่เอาก็ไม่เอาได้ เพราะยังไงที่ เสียสุขภาพจิตและสุขภาพกายไม่ใช่พวกเขา สักหน่อย!

“อืม” น้ำหวานพยักหน้า

“ไม่มีทางกอบกู้กลับมาแล้วหรอ?”

“ฉันไม่อยากกอบกู้กลับมา

“งั้นโอเค ฉันอยู่เป็นเพื่อนเธอเอง!” พิงกี้ กุมมือของน้ำหวานไว้ ใช้แรงเล็กน้อยเหมือนส่ง พลังให้เธอ199537430_842678629994235_694593055879539659_n


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ