คุณชายมาดเข้มกับคุณหนูสุดแสบ

บทที่304:เรื่องบางเรื่องใจกว้างเกินไม่ได้



บทที่304:เรื่องบางเรื่องใจกว้างเกินไม่ได้

เควินเห็นภาพนี้แล้วขมวดคิ้วเล็กน้อย

วันนี้เขาเพิ่งกลับมาในประเทศ ก่อนหน้านั้นเพราะมี ขีดจํากัด เขาไม่มีช่องทางรู้สถานการณ์รอบตัวของพิงกี้ มี เรื่องเยอะมากที่เขาไม่รู้ แต่เขานึกว่าถึงแม้ระหว่างป้าเฉิ นกับพิงกี้มีอะไรไม่ลงรอยกันก็น่าจะไม่รุนแรง

ตอนนี้ดูท่าแล้ว………..

รู้สึกว่าเรื่องนี้ไม่ได้ธรรมดาเหมือนที่เขาเคยเลย

เดิมทีตอนที่ทานข้าวอยู่ในบ้าน ป้าเฉินก็ทานข้าวร่วม โต๊ะเดียวกันกับพวกเขา เขากับพิงกี้ต่างก็ไม่ใช่คนที่ชอบ วางมาด เห็นป้าเฉินก็เป็นคนในครอบครัวคนนึงเหมือนกัน เลยไม่ได้ให้ความสำคัญกับกฎระเบียบพวกนั้น

แต่ว่า ครั้งนี้เขากับพิงกี้นั่งที่โต๊ะอาหารแล้ว ป้าเฉินก ลับหลบหลีก คนทั่วไปดูแล้วรู้สึกเหมือนป้าเฉินเหลือช่อง ว่างส่วนตัวให้พวกเขา แต่อยู่ในสายตาของเขา เขากลับ รู้สึกว่าป้าเฉินกำลังร้อนตัวและไม่กล้าเผชิญหน้าเขา

พริบตาเดียว หัวใจของเควินรู้สึกหนักหน่วงขึ้นมา

ทันที

หลังทานข้าวเสร็จ เควินส่งสายตาให้พิงกี้ ทั้งสองได้เดินขึ้นชั้นสองภายใต้สายตาที่ตื่นเต้นของป้าเฉิน

“เกิดอะไรขึ้นกันแน่?

มาถึงห้องนอนใหญ่ ปิดประตูล็อคกลอนเสร็จ เควิน ก็ได้ถามพิงกี้ตรงๆ

“ก็คงต้องบอกว่าเจตนาดีแต่ทำเรื่องชั่วและก้าวก่าย เรื่องของฉันไปหน่อยค่ะ” พิงกี้ได้สรุปสั้นๆคำนึงก่อน และ เล่าเรื่องทั้งหมดของป้าเฉินอย่างละเอียดไปรอบนึง ทีนี้ ถึงถามว่า “ป้าเฉินเป็นคนที่คุณหามา ทำงานที่บ้านมาก หลายปีเหมือนกัน ก่อนที่คุณกลับมาฉันก็ลำบากใจที่จะ จัดการ ตอนนี้คุณกลับมาแล้ว คุณคิดว่าจะจัดการยังไงดี คะ?”

ดวงตาคู่สวยของเธอจ้องมองเควินไว้ รอคำถามของ

เขา

พูดตามตรง เธอมีความผูกพันกับป้าเฉิน เพราะยังไง ซะตอนที่มีข่าวที่เควินตายแพร่สะพัดกลับมาในประเทศ ตอนที่เธออยู่อย่างเดียวดายและหมดหนทาง ป้าเฉินเป็น คนยืนกรานที่จะอยู่ข้างกายเธอและให้กำลังใจเธอ

แต่ว่าถึงมีความรักความผูกพันมากแค่ไหน ต่อมา หลังจากที่ป้าเฉินยิ่งอยู่ยิ่งก้าวก่ายชีวิตของเธอ แม้กระทั่งเพราะเหตุนี้ยังทำให้น้องแอ๊ปเปิ้ลตกอยู่ในอันตรายด้วย หลังจากที่ทำให้เธอไปติดกับดักของลิสา แล้ว ความรัก ความผูกพันนี้ก็จางหายไปเกือบหมดแล้ว

ซ้ายขวาก็นําบากใจ นี่จึงเป็นสาเหตุที่เธอไม่ได้ จัดการสักที ตอนนี้เควินกลับมาแล้ว ให้เขาจัดการถึงจะ เป็นวิธีที่ดีที่สุด

เงียบไปพักนึง เควินถึงเปิดปากพูดว่า “ผมจะหาคน ที่เชื่อถือได้มาคนนึง ส่วนป้าเฉิน……..ผมคิดว่าแค่ให้เธอ ลาออกก็พอแล้ว คุณคิดว่ายังไงบ้าง?

“อืม ได้ค่ะ” พิงกี้ไม่ได้คัดค้าน

ถึงเธอไม่ได้แสดงออกว่าไม่พอใจ แต่เควินก็ต้อง อธิบายสักสองสามคำ

“ก่อนหน้านั้นป้าเฉินประจำการอยู่ที่หน่วยสืบลับ สามีของเธอก็เป็นสมาชิกของหน่วยสืบลับ เดิมทีความ สัมพันธ์ของทั้งสองดีมาก เป็นตัวอย่างสามีภรรยาดีเด่น ในหน่วยสืบลับ แต่มีอยู่ครั้งนึงตอนที่ไปปฏิบัติการภารกิจ สามีของเธอกับลูกชายของเธอถูกฆ่าอย่างโหดเหี้ยม เธอ เองก็ได้รับบาดเจ็บสาหัสจนตัดไตออกข้างนึง สุดท้าย ร่างกายไม่ค่อยแข็งแรงจึงต้องตัดสินใจเกษียณ เธอได้ รับกระทบกระเทือนทั้งกายและใจ หลังจากเกษียณ สภาพจิตใจของเธอย่ำแย่มาก ถ้าไม่ใช่แบบนี้ ผมก็ไม่ให้มาเธอ อยู่ข้างกายของผมหรอก

ตอนนั้นเขาเพิ่งจะสิบกว่าขวบเอง ป้าเฉินอาจจะ เพราะคิดถึงลูกเกินไปเลยดูแลเขาเหมือนลูกชาย เธอถึง ได้ค่อยๆเดินออกมาจากปมในใจ

มีความสัมพันธ์นี้อยู่ บวกกับป้าเฉินก็ไม่ได้จงใจทรยศ เขาจึงลงโทษป้าเฉินเด็ดขาดเกินไปไม่ได้

“ฉันรู้ค่ะ ฉันก็รู้สึกว่าเนื้อแท้ของป้าเฉินไม่ได้มี ปัญหาอะไร…….” พิงกี้พยักหน้าเบาๆและพูดว่า “ถ้า คุณรู้สึกลำบากใจ เรารักษาสภาพแบบนี้ไว้ก็ได้ค่ะ ฉันเชื่อ ว่าผ่านเรื่องครั้งนี้แล้ว ป้าเฉินก็คงจะไม่ทำผิดซ้ำสองแล้ว ค่ะ”

“ไม่” เควินกลับส่ายหัว “เรื่องบางเรื่องจะใจกว้าง เกินไปไม่ได้ ใจกว้างเกินไปอาจจะก่อให้เกิดผลที่ร้ายแรง ตามมา ไม่มีอะไรสำคัญกว่าความปลอดภัยของคุณกับ แอ๊ปเปิ้ลแล้ว อย่างอื่นเอาไว้ข้างหลังได้

“ค่ะ”

พิงก็อดยิ้มมุมปากไม่ได้
คำพูดนี้พูดซะจนเธอดีอกดีใจมาก แม้แต่คิ้วยังคลาย ลงไปเยอะเลย

“ทางคุณเกิดเรื่องอะไรขึ้นคะ เล่าให้ฉันฟังหน่อยได้

มั้ยคะ?” พิงกี้ถาม “ตอนนี้คุณยังมีปัญหาอะไรอีกมั้ยคะ” “ตอนนี้ก็ยังมีปัญหาอยู่ แต่ว่าคุณไม่ต้องเป็นห่วง

หรอก ผมจัดการเองได้”

พิงกี้รู้สึกไม่พอใจ

“เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับผู้ใหญ่ระดับสูงของในประเทศ ตอนนี้ผมยังเปิดเผยกับคุณไม่ได้ คุณจะไม่ทำให้ผม ลำบากใจใช่มั้ย?” พูดถึงตรงนี้ แววตาของเควินตึงเครียด ทันที

เขากลับมาแล้ว คนบางคนคงนั่งไม่ติดกับที่แล้วมั้ง?

เขาต้องคิดบัญชีกับคนพวกนี้ดีๆแล้ว!

“……ค่ะ” สำหรับเรื่องนี้ พิงกี้ฝืนใจไม่ได้จริงๆ แต่ว่าเธอก็ได้ถามอีก “งั้นครั้งนี้คุณเอาคลิปของกล้อง วงจรปิดพวกนั้นมาได้ยังไงคะ เรื่องนี้คุณน่าจะพูดกับฉัน ได้มั้ง?”
เธอรู้ล็กแปลกใจมาก

“ก็ไม่มีอะไรหรอก ก็แค่แฮกเข้าไปในระบบของโรง พยาบาลส่วนตัวของตระกูลมหาเจริญศิลป์ เอาข้อมูลที่ พวกเขาลบทิ้งไปดึงกลับมาใหม่ จากนั้นก็ก๊อปปี้ออกมาชุด นึงแค่นั้นเอง” เควินพูดอย่างบางเบา

“แค่นี้เองหรอคะ? …….ใช่ แค่นี้เอง” พิงกี้ “ ……..

เธอยังนึกว่าเอาหลักฐานพวกนี้ต้องยากมากเสียอีก ถ้ารู้ว่าง่ายขนาดนี้ตั้งแต่แรก เธอขอความช่วยเหลือจาก เจษฎาก็คงจะล้างมลทินให้ตัวเองได้ไวกว่านี้แล้ว

เธอนี่โง่จริงๆที่ลืมนึกถึงจุดนี้ไปได้

เห็นสีหน้าที่โกรธของเธอแล้ว เควินก็รู้เลยว่าเธอ กำลังคิดอะไรอยู่ นิ้วมือดีดหน้าผากที่ขาวใสของเธอที่นึง และพูดตักเตือนว่า “ต่อไปห้ามไปหานายเจษฎาอีก ตอน นี้ฝีมือของผมก็ไม่แย่ มีเรื่องอะไรก็มาหาผม ถ้าคุณไม่จำ เรื่องนี้ไว้ ผมไม่ถือสาที่จะลงโทษคุณหลายครั้งหน่อย เพื่อให้คณจําขึ้นใจ
“ห้า?” พิงกี้มึนตึ๊บ

“ไม่งั้น ครั้งนี้คุณคิดว่าใครจะมีความสามารถขนาด นี้ ที่จะสามารถแฮกเข้าไปในระบบของโรงพยาบาลตระกูล มหาเจริญศิลป์ได้?”

“คงไม่ใช่คุณมั้งคะ?”

“ก็ต้องผมแน่นอนอยู่แล้ว!” เควินยักคิ้ว แววตาเต็ม ไปด้วยความรื่นรมย์

ตอนนั้นเพราะหึง ไม่ชอบที่พิงกี้ชอบไปขอความช่วย เหลือจากนายเจษฎาอยู่เป็นประจำ เขาก็เลยเริ่มเรียนเท คนิกการแฮกข้อมูล ไม่คิดเลยว่าแค่เรียนก็หลงรักเข้ามา ถึงตอนนี้ก็ถือว่าได้ความรู้ไม่น้อยเลย

พิงกี้เอ๋อไปแล้ว

ท่านประธานใหญ่คนนี้แฮกข้อมูลเก่งขนาดนี้ตั้งแต่ เมื่อไหร่กัน?

แน่นอน ถ้าเธอรู้ว่าครั้งนี้ที่เควินสามารถโชว์อิทธิฤทธิ์ เก่งกาจขนาดนี้และช่วยเธอออกมาจากน้ำลึกไฟร้อน สาเหตุเริ่มต้นเพราะหึงหวงเธอล่ะก็ คาดว่าสีหน้าของเธอ ต้องดูอึ้งกว่านี้แน่
“เอาล่ะ ไปอาบน้ำเถอะ”

พูดคุยกันไปสักพัก เควินอดใจไม่ไหวที่จะเร่งรัด ตบ ที่บั้นท้ายของพิงกี้ทีนึง

ได้เวลาทำอะไรสักหน่อยแล้ว


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ