คุณชายมาดเข้มกับคุณหนูสุดแสบ

บทที่378: ขอโทษ หน่วยสืบลับของฉันไม่ต้อนรับนาย



บทที่378: ขอโทษ หน่วยสืบลับของฉันไม่ต้อนรับนาย

“ผลลัพธ์นี้ นายยอมรับได้มั้ย?”

เอาเอกสารที่อยู่ในมือยื่นให้เตชิต เควินมองเขา ด้วยแววตาลึกซึ้ง แววตามีความเสียดายที่เห็นได้ชัด มาก

ที่ผ่านมาเควินเป็นคนที่ไม่ค่อยแสดงอารมณ์ออก มา สามารถทําให้อารมณ์เขาชัดเจนขนาดนี้ เห็นได้ชัด ว่าเรื่องของเตชิตสะกิดใจเขามากแค่ไหน

เตชิตมองเขาไปสองที

เขาสะบัดกระดาษบางๆหลายแผ่นไปสองสามที แล้วถามเควินว่า “นายคงเสียแรงไปไม่น้อยเลยสินะ?

ถ้าไม่ใช่เควินไกล่เกลี่ยให้ ผลที่ดีที่สุดของเขาอาจ จะคือถูกไล่ออกจากหน่วยรบพิเศษ เป็นไปได้ยังไงที่ ยังสามารถเป็นผู้ร่วมทีมพิเศษหนึ่งในนั้นอยู่ และแค่ถูก แย่งชิงสิทธิ์ที่เป็นหัวหน้าทีมเฉยๆ?

เควินไม่ได้ปฎิเสธ แต่ก็ไม่ได้ยอมรับ เขาแค่พูด อย่างเรียบเฉยว่า “พอนายหายดีแล้ว สามารถไป รายงานตัวได้ทุกเมื่อเลย แถมยังสามารถทำงานที่นาย ชอบต่อด้วย” ไม่ถึงขั้นที่ความพยายามของยี่สิบกว่าปี มานี้ถูกปฎิเสธ

สำหรับคู่แข่งที่เห็นอกเห็นใจซึ่งกันและกัน นี่คือสิ่งเดียวที่เขาสามารถทำได้

แต่เตชิตกลับหัวเราะ “ฉันไม่ไปหรอก” “เพราะอะไร?” เควินขมวดคิ้ว

“ทีมหมาป่าแดงของฉันมีมือซ้ายมือขวาสองคน ถ้าฉันเดาไม่ผิดล่ะก็ ครั้งนี้ฉันถูกปลดจากตำแหน่ง คน ที่มาแทนตำแหน่งฉันน่าจะเป็นนายโชคชัยใช่มั้ย?”

“………………….” เควินขมวดคิ้วเล็กน้อยและพยักหน้า

“ใช่”

“ฉันไม่อยากทํางานภายใต้บังชาการของเขา” เต ชิตพูดอย่างตรงไปตรงมา “ถึงให้ฉันทำงานใต้บังชา การของมือขวาเขาฉันก็ไม่ยอมหรอก ยิ่งอย่าบอกว่าให้ ฉันเป็นลูกทีมธรรมดาที่กล้ำกลืนความอัปยศอดสูเพื่อที่ จะดำเนินการให้ภารกิจที่หนักอึ้งนั้นสำเร็จเลย

“เตชิต นี่นายอย่าลืมสิ ไม่ว่าจะลูกทีมธรรมดาใดๆ ก็แล้วแต่ ต่างก็เป็นที่น่าเคารพทั้งนั้น!”

“ใช่ ฉันรู้ ฉันก็รู้สึกภาคภูมิใจเหมือนกัน แต่ฉัน ยิ่งรู้คือถ้าฉันทำงานใต้บัญชาการของโชคชัยจริงๆ ชาตินี้ฉันคงได้แต่ใช้ชีวิตยามแก่อยู่ที่หน่วยสืบหมาป่า แดง ชาตินี้ทั้งชาติก็ไม่มีโอกาสได้ไปสู้รบที่แนวหน้า หรอก! “เตชิตเพ่งมองคนที่อยู่ตรงหน้า ในแววตาราวกับมีเปลวไฟสีดำเผาไหม้อยู่

ในฐานะหัวหน้าของทีมหมาป่าแดง เขาลุยน้ำลุย ไฟและฝ่าอันตรายมาหลายครั้งมาก ทุกครั้งก็เอาความ เป็นความตายทิ้งไว้ข้างหลัง ถ้าเขากลัวตายจริงๆ แล้ว จะเลือกงานแบบนี้ได้ยังไง?

สิ่งที่เขากลัวคือต่อไปไม่มีโอกาศแสดงความ สามารถของตัวเองอีก ก็เหมือนสิงโตตัวผู้ที่ถูกขังอยู่ใน กรง และไม่สามารถล่าสัตว์อีกต่อไป

จุดนี้ เควินก็เห็นอกเห็นใจ เหมือนตัวเองก็เคย

ประสบมาเหมือนกัน ไฟแห่งความโกรธในใจของเขาสงบลงมาหน่อยนึง

เขาจึงถามต่อว่า “งั้นนายอยากเอายังไง?”

“ฉันอยาก………..” เตชิตยกมือขึ้นมานวดขมับ หายใจออกมาอย่างจนปัญญาและพูดเหมือนไม่เต็มใจ อย่างมาก “เอางี้ งั้นฉันก็ฝืนใจไปอยู่ที่หน่วยสืบลับของ นายก็แล้วกัน?”

“ขอโทษด้วย หน่วยสืบลับของฉันไม่ต้อนรับ นาย”

“นายจะให้ฉันไปแน่นอน เพราะพูดจากอีกมุมนึง แล้ว นายกับฉันมันก็คนแบบเดียวกัน นายเข้าใจความคิดของฉัน

เควิน “

แววตาที่เงียบสงบไร้คลื่นจ้องมองเตชิตไปพักนึง เขาหันหลังจากไปโดยที่ไม่พูดสักคำพร้อมปิดประตู ทิ้ง ไว้แต่แต่ความเงียบให้ห้องของเตชิต

นั่งอยู่บนเตียง เตชิตพิงไปด้านหลัง ส่ายหัวพร้อม ส่งเสียงหัวเราะออกมา

สักพัก เตชิตพูดพึมพำอย่างทอดถอนใจ

“เป็นคนกลางเพื่อที่ไปช่วยฉันไกล่เกลี่ยจริงๆด้วย

หรอเนี่ย…….”

โรงพยาบาล

มาลาตีที่อัมพาตครึ่งซีกขมวดคิ้วขึ้นมาอย่าง กระทันหัน ใบหน้ามีแววตาและสีหน้าที่อึดอัด

มองดูป้าจำปาที่นั่งถักไหมพรมอยู่ไม่ไกล หลังจาก เธอกระแอมไปสองที ก็ได้พูดด้วยน้ำเสียงที่สั่งการ“มา เปลี่ยนกางเกงให้ฉันหน่อย ตัวนี้ใส่แล้วไม่สบาย
ป่าจําปาวางเสื้อไหมพรมในมือลง ไม่ได้พูดอะไร สักคำ และเดินไปรับน้ำอุ่นที่ห้องน้ำมาหนึ่งกะละมัง แล้วเอากางเกงสะอาดออกมาจากตู้เสื้อผ้า

เธอรู้สึกชินตั้งนานแล้ว

เพราะเหตุเพลิงไหม้ทำให้มาลาตีอัมพาตครึ่งซีก ไม่ว่าถ่ายเบาหรือถ่ายหนักก็ควบคุมตัวไม่ได้ คนทั้งคน ทั้งหงุดหงิดทั้งอารมณ์เสียและอึดอัดมาก ทุกวันตกอยู่ ในสภาพที่อารมณ์แปรปรวน

ภายใต้สถานการณ์แบบนี้ ถ้าคนอื่นพูดเยอะหรือ ว่ามีสีหน้าทำให้มาลาตีอารมณ์เสีย ไม่แน่ก็อาจจะถูก ด่าเป็นชุดใหญ่เลย

ป้าจำปามีภูมิคุ้มกันกับการด่ารุนแรงอย่างบ้าคลั่ง ของมาลาตีแล้ว แต่เพื่อให้มาลาตีสงบปากสงบคำ เธอ ก็ขี้เกียจไปยั่วโมโหมาลาตี เพราะไม่ว่ายังไงเรื่องที่จะ ต้องทำ ยังไงก็ต้องทำอย่างหนีไม่รอดอยู่แล้ว

ดึงผ้าห่มออก กลิ่นเหม็นฉุนก็โชยมา มาลาตีฉี่ราด ใส่กางเกงอีกแล้วจริงๆซะด้วย ดีที่ช่วงล่างได้ปูผ้ารอง เตียงซับฉี่ไว้ชั้นนึง จึงไม่ต้องเปลี่ยนผ้าปูด้วย

ดีที่ป้าจำปาดูแลเธอเป็นอย่างดีมาก ภายใต้การ ดูแลของป้าจำปา พอเปลี่ยนกางเกงให้มาลาตีเสร็จ เธอ ก็กลับมาสดชื่นและสบายตัวอีกครั้ง
พอเปลี่ยนกางเกงเสร็จ ถ้าตามการพัฒนาของ ก่อนหน้านี้ มาลาตีควรจะต้องรักษาความสงบไว้ แกล้ง ทำเป็นไม่แคร์และละเลยป้าจำปาโดยตรงถึงจะถูก แต่ ครั้งนี้เธอกลับต่างจากวันปกติ เธอได้หาเรื่องคุยกับป้า จําปา

“สองวันนี้ลูกสาวฉันได้โทรมาหรือเปล่า?”

“เปล่าค่ะ”

“เปล่างั้นหรอ?” มาลาตีใช้สายตาจ้อง “เอามือ ถือมาให้ฉันเดี๋ยวนี้ สองวันนี้เธอไม่โทรมาหาฉัน นี่คงลืม แม่อย่างฉันไปแล้วมั้ง! ถ้าฉันปล่อยให้เธอเป็นแบบนี้ต่อ ไป ไม่แน่นั่งเด็กคนนี้ก็จะไม่มาเยี่ยมฉันและไม่สนใจแม่ อย่างฉันอีกต่อไปแล้ว!”

มาลาตีจะทนดูสถานการณ์แบบนี้เกิดขึ้นไม่ได้

ถ้าพิงกี้ไม่สนใจเธอ หรือเธอต้องคาดหวังภูผาที่ เรียนอยู่ที่อเมริกา? เธอไม่อยากไปรบกวนลูกตัวเอง หรอก และไม่อยากใช้เรื่องพวกนี้ไปแยกสมาธิของเขา ด้วย เธออยากให้เขาตั้งใจเรียนดีๆ

ส่วนลิสา ไม่ได้อยู่ในของข่ายพิจารณาของเธอตั้ง

นานแล้ว

ถึงคิดได้ นั่นก็ขบเคี้ยวเขี้ยวฟันอย่างโกรธแค้นจะแย่

แต่ว่า วันนี้มาลาตีกลับได้ยินชื่อของลิสา แถมยัง พูดจากปากของป่าจำปาด้วย

“สองวันนี้คุณพิงกี้ยุ่งมาก ถึงคุณจะโทรศัพท์ไป คุณพิงกี้ก็ไม่มีเวลามาคุยกับคุณหรอกค่ะ”

“ห้า อะไรนะ?” มาลาตียิ่งไม่พอใจเข้าไปใหญ่ เธอพูดอย่างประชดประชัน “ผู้หญิงที่พึ่งผู้ชายอย่าง พิงกี้จะมีเรื่องอะไรให้ยุ่งอีก? ไม่ต้องทำกับข้าว ไม่ต้อง ทำความสะอาดบ้าน แค่แต่งเนื้อแต่งตัวสวยๆนอนกับ ผู้ชายก็พอแล้ว ทำไมจะไม่มีเวลารับสายฉัน?”

ป้าจำปามองมาลาตีด้วยสายตาที่ซ่อนความดูถูก

ตอนนี้มาลาตีก็เป็นแค่เสือกระดาษ ที่กล้ายโส โอหังตรงหน้าเธอเฉยๆ ถ้าพิงกี้มาอยู่ตรงหน้าเธอจริงๆ เธอก็ไม่กล้าแม้กระทั่งตดอีกเช่นเคยนั่นแหละ

ในใจของป้าจำปาค่อนข้างจะทนความโมโหไม่ไหว เปิดปากพูดด้วยท่าทีที่รอดูความบันเทิง “สองวันนี้คุณ พิงกี้งานยุ่งจริงๆค่ะ ได้ยินข่าวว่าลิสาถูกจับตัวมาดำเนิน คดี คุณเควินมัวแต่จัดการเรื่องของลิสาอยู่ทุกวัน ก็คง เลี่ยงไม่ได้ที่จะละเลยที่บ้าน คุณพิงกี้ต้องคอยดูแลน้อง แอ๊ปเปิ้ลทุกวัน ยังจะมีกะจิตกะใจคิดเรื่องอื่นเสียที่ไหน ล่ะคะ?”
“ห้า อะไรนะ?!” มาลาตีตกตะลึงอีก

ถามด้วยสีหน้าแววตาที่ซับซ้อน “นี่เธอ…..เธอ บอก เธอบอกว่าลิสา ไม่ นังลิสาถูกจับแล้วหรอ?”

พอพูดจบปุ๊บ ป้าจ๋าปาก็รู้สึกเสียใจทีหลังเลย เธอทำไมวู่วามพูดเรื่องนี้ออกมาได้นะ?

ถึงแม้คุณพิงกี้ไม่ได้บอกว่าเรื่องนี้บอกกับมาลาตี ไม่ได้ แต่ตามนิสัยที่ชอบก่อเรื่องอย่างมาลาตี ถ้ารู้เรื่อง นี้ก็ไม่รู้ว่าจะอาละวาดใส่คุณพิงกี้มั้ย?

ในขณะที่หัวใจของป้าจำปาเต้นแรงเหมือนตีกลอง ตอนที่คิดอยู่ว่าจะรีบปล่อยให้เรื่องนี้ผ่านๆไปยังไง มาลาตีก็ได้ตบที่เตียงแล้วโวยวาย “เอามือถือให้ฉัน ฉัน จะโทรหาพิงกี้!”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ