คุณชายมาดเข้มกับคุณหนูสุดแสบ

บทที่338:บบลุก



บทที่338:บบลุก

เห็นคนๆนี้เดินมา สีหน้าของมาลาที่ดีขึ้นมาหน่อยนึง

เพียงแต่ พอสายตามองไปยังของที่ถืออยู่ในมือ ทันใดนั้นได้ถามด้วยความโกรธอีก “จอย วันนี้เธอทำอะไร ให้ฉันกินอีก? ไม่ใช่ว่าฉันอยากจะว่าเธอนะ วันๆเธอรู้แค่ สิ้นเปลืองเงินอย่างเดียว ไม่รู้ว่าตอนนี้ที่บ้านกำลังเดือด ร้อนเรื่องเงินอยู่หรอ?”

ตอนนี้ท่านประธานของ G.S.กรุ๊ป นายชาตรีถูกจับไป เข้าคุก เกิดเรื่องใหญ่โตขนาดนี้ สถานการณ์ควบคุมไม่ได้ ตั้งนานแล้ว

ชาตรีติคุก จะให้ค่าน้ำชาก็ต้องใช้เงิน

ภูผายังเรียนอยู่ที่ต่างประเทศ เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าที่ บ้านเกิดเรื่อง วันๆเอาแต่ใช้เงินสุรุ่ยสุร่าย นี่ก็ต้องใช้เงิน เหมือนกัน

เงินๆๆ ทุกอย่างหนีไม่พ้นเรื่องเงิน

ที่ผ่านมามาลา ไม่เคยต้องกลุ้มใจเรื่องเงินเลย แต่ ช่วงนี้ความลำบากทุกอย่างได้ถูกเธอลิ้มรสจนหมดแล้ว ในมือของเธอไม่เหลือเงินเท่าไหร่แล้ว แม้แต่กระเป๋าและ เครื่องประดับที่ก่อนหน้านั้นซื้อไว้ก็ได้ขายออกไปไม่น้อย แล้ว
เพิ่งเจอเรื่องโมโหมา ในใจไม่รู้กล้ำกลืนมากแค่ไหน ตอนนี้ได้ระบายใส่จอยพอดีเลย

ผู้หญิงที่ชื่อจอยกำลังยกซุปเห็ดหูหนูขาวและเม็ดบัว มา เธอใส่แมสไว้ทำให้เห็นใบหน้าไม่ชัด จากนั้นดวงตา ทั้งคู่กลับเต็มไปด้วยความเป็นห่วง พูดด้วยน้ำเสียงแหบ แห้งที่ไม่ค่อยปกติด้วยความเป็นห่วง “ค่ะ ดิฉันรู้ว่าช่วงนี้ คุณผู้หญิงอารมณ์ร้อนเลยตุ๋นน้ำซุปมาให้คุณผู้หญิงดับ ร้อนหน่อยค่ะ”

“ว่าไปแล้วเธอนี่รู้ใจฉันจริงๆเลยนะ”สีหน้าของมาลา ตีซอฟลง “เอามาให้ฉันเถอะ”

รับน้ำซุปมา มาลาตีชิมไปคำนึง พบว่าน้ำซุปถ้วยนี้ อุณภูมิไม่ร้อนและไม่เย็นเกินไป รสชาติก็ถูกปาก ทันใดนั้น แววตามีความพึงพอใจขึ้นมา

ว่าไปแล้วก็แปลก คนที่ชื่อจอยคนนี้รู้ใจเธอทุกเรื่อง

จริงๆ

ความรู้สึกแบบนี้เหมือนเธอสองคนเคยไปมาหาสู่มา นานหลายปี จอยรู้ความเคยชินของเธอหลายอย่างและ เหมือนจงใจประจบสอพลอเธออย่างไรอย่างนั้น

ถ้าไม่ใช่เธอแน่ใจว่าเธอไม่รู้จักจอย และพาจอยมาอยู่บ้านหลังนี้เพราะอุบัติเหตุ ไม่แน่เธออาจจะสงสัยจริงๆว่า จอยคือคนที่เธอรู้จัก

ตั้งใจคิดๆดูแล้ว รับจอยคนนี้มาทำงานที่บ้านก็ดีอยู่ เหมือนกัน

ว่าไปแล้ว จอยยังถือเป็นผู้มีพระคุณที่เคยช่วยชีวิต

เธอด้วยซ้ำ

ดื่มน้ำซุปเสร็จ มาลาตีที่ถูกรังสิตยั่วโมโหได้สงบลง แล้ว เพียงแต่ก็ยังดูไม่มีความสุขอยู่ดี นั่งหน้าตั้งอยู่บน โซฟา

จอยเก็บถ้วยน้ำซุปไป และยกน้ำชาร้อนๆมาอีก แก้วนึง “เป็นเพราะเรื่องของวันนี้ไม่ราบรื่นหรอคะคุณผู้ หญิง?”

“นังแพศยาคนนั้นไม่ให้ความร่วมมือเลย จะราบรื่น ได้ยังไงล่ะ?” มีคนพูดคุยด้วย มาลาดีนวดขมับแล้วเริ่ม บ่น “ยังไงซะฉันก็เคยเลี้ยงดูนังแพศยาคนนั้นมาก่อน ใน ฐานะที่เป็นลูกสาวของตระกูลดำรงกุล เธอทนดูพ่อแท้ๆ ของตัวเองถูกจับเข้าคุกได้ยังไงกัน? มีพ่อที่ติดคุกเธอรู้สึก ได้หน้ามากงั้นหรอ?”

“หญิงสาวสมัยนี้ก็ไม่รู้ว่าคิดยังไง ไม่เห็นความสําคัญของบ้านแม่ตัวเองเลย ตอนนี้นังแพศยาคนนั้นยัง ได้รับความเอ็นดูจากคุณเควินด้วย อาศัยแค่คลอดลูกชาย ให้คุณเควินคนเดียวก็ไม่เห็นหัวของทางบ้านแล้ว ถ้าเธอ แก่ชราแล้วลูกชายก็ไม่กตัญญูกับเธอ ถึงเวลานั้นเธอถึงจะ นึกมาเสียใจทีหลัง! ถึงแม้ตอนนี้ชาตรีติดคุกแล้วจะทำไม ใช่ว่าจะออกมาไม่ได้ตลอดชีวิตสักหน่อย อีกอย่างฉันยังมี ลูกชายที่มีอนาคตก้าวไกลอยู่ ตระกูลดำรงกลใช่ว่าจะไม่ สามารถกลับมาเจริญรุ่งเรืองอีกครั้งสักหน่อย!

“จอย เธอว่าถูกมั้ย?”

บ่นไปยาวเหยียด มาลาตีไม่ได้ยินเสียงเออออตาม เลยมองไปที่เธอ

จอยยืนก้มหน้าไว้ หน้าตาทั้งซื่อตรงและอ่อนโยน เห็นมาลาถามแบบนี้ เธอพูดอย่างควบคุมไม่ได้ “คุณผู้ หญิง ไม่แน่คุณหนูพิงกี้อาจจะมีเรื่องลำบากใจของตัวเอง ก็ได้ค่ะ? วันนี้คุณไปหาเธอ เธอปฏิเสธอย่างแข็งกร้าวเลย หรอคะ?”

“ก็ใช่น่ะสิ!” นึกถึงใบหน้าเสแสร้งของพิงกี้แล้ว มาลาตีก็โมโหขึ้นมาทันที “ฉันจะบอกเธอนะ ฉันไม่รู้จริงๆ ว่าทำไมถึงได้คลอดลูกมารผจญแบบนั้นออกมา ไม่เห็นหัว พ่อไม่นับญาติแม่ ช่างตลกจริงๆ! ลูกสาวแท้ๆคนนี้ยังสู้ลูก เลี้ยงของฉันไม่ได้เลย เฮ้อ……………..
นึกถึงลิสาที่ถูกออกหมายจับแล้ว แววตาของมาลา มีความกังวลแว๊บเข้ามา

บ้านที่อบอุ่น จู่ๆทำไมถึงแตกสาแหรกขาดแบบนี้ไป

หรือพิงกี้จะเป็นกาลกิณีจริงๆ? ไม่งั้นทำไมหลังจาก เธอมาบ้านดำรงกูลแล้ว ที่บ้านก็ไม่สงบสุขทุกที่เลยล่ะ?

เห็นความคิดถึงในแววตาของมาลาคี แววตาของจอ ยมีความซับซ้อนแว๊บเข้ามา เธอได้พูดประเด็นของเมื่อกี้ ต่อ ล่อให้มาลาพูดเรื่องที่ไปเจอพิงกี้ในวันนี้มารอบนึง เหมือนจะตั้งใจและไม่ตั้งใจ

“เรื่องนี้คุณผู้หญิงเป็นคนทำผิดจริงๆค่ะ” ฟังมาลาตี บนจนจบ จอยอดพูดไม่ได้

“ฉันผิดยังไง?” มาลา ขมวดคิ้ว “ก่อนหน้านี้เธอ เป็นคนออกไอเดียนี้ให้เองฉันไม่ใช่หรอ?”

“ไม่ๆๆๆค่ะ ดิฉันเป็นคนพูดผิดค่ะ” จอยแกล้งยกมือ ตบที่หน้าตัวเอง หลังจากขอโทษแล้วได้พูดต่อ “คุณผู้ หญิงยังตามเล่ห์เหลี่ยมคนไม่ทันเกินไปค่ะ คนที่ฉลาด อย่างคุณหนูพิงกี้ แถมยังมีคุณเควินให้ท้ายด้วย คุณผู้ หญิงลุยคนเดียวไปหาพวกเขามีแต่ตัวเองจะเสียเปรียบ
มาลา ถาม “งั้นเธอว่าฉันควรจะทำยังไง?

“คุณผู้หญิงควรจะไปหาคุณหนูพิงกี้อีกครั้งค่ะ ร้องไห้และร้องเรียนเหมือนครั้งนี้เลย แต่ว่าต้องหาสถาน ที่ๆมีผู้คนเยอะๆ ให้ทุกคนดูซิว่าคุณหนูพิงกี้จะไม่สนใจพ่อ แท้ๆของตัวเองหรือเปล่า วิธีที่แอบถ่ายคลิปแบบนั้นมัน อ้อมเกินไปและง่ายต่อการเกิดเรื่องด้วยค่ะ”

“ความเคลื่อนไหวของนังแพศยาคนนั้นเอาแน่เอา นอนไม่ได้ จะหาเรื่องเธอในที่ๆคนเยอะได้ยังไง?

แววตาของจอยมีการวางแผนแว๊บเข้ามา “เมื่อวาน ได้ยินคุณผู้หญิงบอกว่าช่วงนี้คุณหญิงท่านของตระกูล ภิรมย์ภักดีจะฉลองวันเกิดครบรอบแปดสิบปีไม่ใช่หรอคะ? ไม่แน่คุณเควินอาจจะพาคุณหนูพิงกี้ไปร่วมงานด้วยก็ได้ นะคะ ถึงเวลาคุณผู้หญิงก็มีโอกาศแล้วค่ะ”

” มาลาตีถูกโน้มน้าวซะแล้ว อยากตอบ ตกลง แต่พอนึกอะไรขึ้นมาได้ ทันใดนั้นสีหน้าดูแย่ขึ้นมา ทันที “ฟังแล้วไม่เลวเลยนะ เพียงแต่ตอนนี้ฉันยังจะมีโอ กาศได้รับการ์ดเชิญจากคุณหญิงท่านเสียที่ไหนล่ะ คน พวกนั้นดูถูกคนจะตาย และเป็นคนบ้าอำนาจจะตายไป

“คุณหญิงหทัยรัตน์ไม่ใช่พอสนิทสนมกับคุณผู้หญิง อยู่หรอคะ แถมยังชอบเครื่องประดับมากเป็นพิเศษด้วย?ถ้าคุณผู้หญิงมอบกำไลหยกชั้นเลิศชิ้นนั้นให้เธอ ยังไง เธอก็คงจะเห็นแก่กำไลหยกชิ้นนั้นอยู่มั้งคะ?”

มาลาที่กำลังจะพยักหน้า จู่ๆรู้สึกตื่นตกใจ “เธอรู้ได้ ยังไงว่าฉันมีกำไลหยกชั้นเลิศชิ้นนึง?”

กำไลหยกชิ้นนี้เป็นของที่แม่ให้เธอไว้ในตอน แต่งงาน ตอนนี้น่าจะมีมูลค่าหลายสิบล้านบาทอยู่ ที่ผ่าน มาเธอให้ความสำคัญกับกำไลหยกชิ้นนี้มาก ซ่อนไว้ในตู้ เซฟของห้องนอนมาโดยตลอด คนรับใช้ที่เพิ่งมาอยู่ได้ไม่ นานรู้เรื่องกำไลหยกนี้ได้ยังไง?

คิดถึงตรงนี้แล้ว มาลา รู้สึกขนลุกซู่


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ