คุณชายมาดเข้มกับคุณหนูสุดแสบ

บทที่491: ตาต่อตา ฟันต่อฟัน



บทที่491: ตาต่อตา ฟันต่อฟัน

เตชิตเข้าใกล้น้ำหวาน พร้อมแฝงด้วยความดูถูก

เล็กน้อย

ดวงตาพราวเสน่ห์จ้องมองเธอ หางตาที่ยกขึ้นมา เล็กน้อยเผยให้เห็นถึงความยโสโอหัง เหมือนผู้ชาย สมัยโบราณของช่วงฤดูใบไม้ผลิที่แข่งม้าเดินผ่านถนน พริบตาเดียวก็สามารถดึงดูดสายตาผู้คนทั้งหมด

น้ำหวานเพิ่งลงจากรถก็ถูกกักไว้ คนทั้งคนถูก ห้อมล้อมอยู่ที่ระหว่างเตชิตกับช่องโหว่ของรถที่คับ แคบ แม้แต่ลมหายใจก็ได้จะหยุดชะงักลง

ถอยไปด้านหลัง ถอยไม่ได้

เดินไปด้านหน้า………

จะเดินยังไง?

ไม่รู้ว่าเตชิตไอ้หน้าด้านไร้ยางอายคนนี้อยากทำ อะไร อยากแกล้งเธอเพื่อให้เธอขายหน้าใช่มั้ย เธอรู้สึก ถ้าตัวเองโกรธล่ะก็ เขาต้องหัวเราะเยาะเสียงดังออกมา แน่นอน แต่ถ้าไม่พูดอะไรเลยก็พุ่งออกไป แค่ไม่ระวัง ก็พุ่งเข้าไปในอ้อมอกของเขาแล้ว ถ้าอย่างนี้เดี๋ยวก็ถูก เขาว่าเสนอตัวเข้าไปหาเขาอีกหรอก

น้ำหวานลําบากใจจะแย่อยู่แล้ว
เธอไม่กล้าขยับ กลัวแค่ตัวเองขยับก็จะตกอยู่ใน สถานการณ์ที่อึดอัดทุกอย่าง แต่เธอเองก็รู้ ถึงแม้เธอ ไม่ทำอะไรเลย ตอนนี้ก็อึดอัดเก้อจะแย่อยู่แล้ว

ในขณะที่เธอหน้าแดงหูแดงจนใกล้จะขาด ออกซิเจน มีเสียงฝีเท้าที่เร่งรีบพุ่งมาที่เธออย่างไว

น้ำหวานที่หลุบตาอยู่มองไปด้วยความแปลกใจ

ใบหน้าแดงก่ำพริบตาเดียวก็ซีดขึ้นทันที

ดุสิต……..

ไม่นึกเลยว่าเธอจะเจอเขาอยู่ที่นี่

“นี่คุณปล่อยเขานะ!” เสียงตะคอกด้วยความ โกรธ ดุสิตที่แต่ไหนแต่ไรมาเป็นคนสุภาพเรียบร้อย นาทีนี้ระเบิดอารมณ์ที่ดุเดือดออกมา มือจับไปที่ไหล่ ของเตชิตก็จะแยกเขาออกจากน้ำหวาน ต่อมาก็ชกเข้า ที่ใบหน้าของเตชิต

“หยุดนะ!”

น้ำหวานไม่ได้เป็นคนพูดคำนี้ คนที่พูดคือพิงกี้

พริบตาที่เธอเห็นดุสิตพุ่งไปหาเตชิต เธอก็นึกถึง ตอนนี้เตชิตมีเลือดออกไม่ได้ทันที ทันใดนั้นเธอทั้งส่ง เสียงขัดขวางด้วยความร้อนรนใจและด้วยความเสียใจ
“ไม่ต้องเป็นห่วงผมนะ” เหมือนอ่านความคิดของ พิงกี้ออกอย่างชัดเจน เตชิตยังยกมุมปากปลอบโยนเธอ

พิงกี้ไม่ไว้วางใจเลย

แต่ความจริงพิสูจน์ว่า เธอกังวลอย่างเปล่าประโย ชน์จริงๆ

ฝีมือของเตชิตสูสีกับเควิน จัดการคนอย่างดุสิต เหลือเฟืออยู่แล้ว ถึงแม้เตชิตที่ร่างกายได้รับบาดเจ็บก็ สามารถจัดการดุสิตได้คนหนึ่ง ยิ่งตอนนี้ร่างกายของ เขาแข็งแรงมาก เพียงแต่เชื้อไวรัสที่อยู่ในตัวไม่ได้ กำจัดหมดแค่นั้นเอง

แค่ไม่กี่นาที เตชิตก็จับมือของดุสิตไขว้ไปด้าน หลังแล้ว ควบคุมเขาที่โกรธกริ้วเอาไว้

“เตชิต นายปล่อยมือเดี๋ยวนี้นะ!”

กลางวันแสกๆถูกคนควบคุมตัว ไม่ใช่เรื่องที่คุ้มค่า ให้แก่การดีใจเลย

ช่วงนี้ดุสิตทำอะไรก็ไม่ราบรื่น เดิมทีในใจก็มีความ โกรธอยู่แล้ว นาทีนี้ยิ่งพ่ายแพ้ให้กับเตชิตอีก อยู่ตรง หน้าของผู้หญิงที่ตัวเองรัก ความรู้สึกที่ต่อสู้พ่ายแพ้ให้ กับศัตรูหัวใจยิ่งทำให้เขาอารมณ์ขึ้น
“ไม่ต้องเป็นห่วงผมนะ” เหมือนอ่านความคิดของ พิงกี้ออกอย่างชัดเจน เตชิตยังยกมุมปากปลอบโยนเธอ

พิงกี้ไม่ไว้วางใจเลย

แต่ความจริงพิสูจน์ว่า เธอกังวลอย่างเปล่าประโย ชน์จริงๆ

ฝีมือของเตชิตสูสีกับเควิน จัดการคนอย่างดุสิต เหลือเฟืออยู่แล้ว ถึงแม้เตชิตที่ร่างกายได้รับบาดเจ็บก็ สามารถจัดการดุสิตได้คนหนึ่ง ยิ่งตอนนี้ร่างกายของ เขาแข็งแรงมาก เพียงแต่เชื้อไวรัสที่อยู่ในตัวไม่ได้ กำจัดหมดแค่นั้นเอง

แค่ไม่กี่นาที เตชิตก็จับมือของดุสิตไขว้ไปด้าน หลังแล้ว ควบคุมเขาที่โกรธกริ้วเอาไว้

“เตชิต นายปล่อยมือเดี๋ยวนี้นะ!”

กลางวันแสกๆถูกคนควบคุมตัว ไม่ใช่เรื่องที่คุ้มค่า ให้แก่การดีใจเลย

ช่วงนี้ดุสิตทำอะไรก็ไม่ราบรื่น เดิมทีในใจก็มีความ โกรธอยู่แล้ว นาทีนี้ยิ่งพ่ายแพ้ให้กับเตชิตอีก อยู่ตรง หน้าของผู้หญิงที่ตัวเองรัก ความรู้สึกที่ต่อสู้พ่ายแพ้ให้ กับศัตรูหัวใจยิ่งทำให้เขาอารมณ์ขึ้นแต่ครอบครัวนายล่ะ? พวกนายหลอกใช้เธอยังไง ใส่ ร้ายป้ายสีเธอยังไง? นายกล้าพูดมั้ยว่าเรื่องที่ไพโรจน์ ให้น้ำหวานเป็นแพะรับบาปแทนนาย นายไม่รู้เรื่อง นายอาจจะรู้ แต่แค่แกล้งทำเป็นไม่รู้มากกว่ามั้ง? สัตว์ เดียรัจฉายที่ปากหวานก้นเปรี้ยว ไม่มีความกล้าหาญ เลย!”

ตาต่อตา ฟันต่อฟัน

เตชิตกับดุสิตต่อกรกัน ไม่มีคนออกมาคลี่คลาย สถานการณ์

น้ำหวานไม่รู้เรื่องที่ไพโรจน์จะเอาเธอมาเป็นแพะ รับบาปเลย ถูกคำพูดของเขาสองคนทำเอาตกตะลึง และดึงสติกลับมาไม่ได้ด้วยซ้ำ ส่วนพิงกี้คือ……… เกียจสนใจ

ฉากสนุกนี้เธอเป็นคนวางแผนขึ้นมาเอง ทำไมเธอ ต้องสั่งหยุดด้วย?

หลุบตามองกระเป๋าสีดำที่ถือไว้ในมือ ในหนัง จระเข้ที่มีหินออบซีเดียนฝังไว้อยู่เป็นการประดับ หนึ่ง เม็ดในหินออบซีเดียนนั้นมีกล้องรูเข็มซ่อนอยู่

คำพูดที่คุยกับดุสิตในร้านกาแฟ และคำพูดที่ถูกเตชิตกระตุ้นออกมาครั้งนี้ ต่างก็ถูกบันทึกไว้

เธอไม่รู้เรื่องกฎหมาย ไม่รู้ว่าถึงเวลาหลักฐานพวก นี้จะสามารถใช้เป็นเป็นประโยชน์ได้ไหม แต่เธอรู้สึก เตรียมการไว้ล่วงหน้าก็จะดีกว่าดังนั้นเธอถึงได้สร้าง ละครฉากนี้ขึ้นมา เพราะฉะนั้สเธอถึงได้ขอร้องเตชิต

ก็ไม่ใช่ว่าเธออาศัยอำนาจบาตรใหญ่ข่มเหงคนอื่น

ไปทั่วนะ

มีเควินอยู่ ขอแค่เธอมีหลักฐาน และไม่ได้ปลอม แปลง ถึงหลักฐานพวกนี้จะใช้ไม่ได้ในกระบวนการทาง กฎหมาย แล้วจะเดินเส้นสายอื่นไม่ได้เลยรึไง? เรื่อง เป็นสิ่งที่ตายตัว แค่คนเป็นสิ่งมีชิต ต้องคิดหาวิธีได้ แน่นอน

ถึงตอนนั้นจะถูกคนชี้หน้าด่า เธอก็ยอม

จะปิดบังเรื่องราวกับน้ำหวานตลอดไม่ได้

หลังจากได้หลักฐานสองอย่างที่อาจจะสามารถ กลายเป็นคำสารภาพของดุสิต นั่งอยู่บนรถที่จะกลับ วิลล่า พิงกี้ก็ได้พูดออกมาหมดเปลือก

ตอนแรกที่ปกปิดน้ำหวานคือเพราะกลัวเธอจะใจอ่อน ถึงเวลาจะมีผลกระทบกับแผนการของเธอ แต่ ถ้าปิดบังเพื่อนรักไว้ตลอด งั้นตัวเองก็ทำไม่ถูกแล้ว จุด นี้พิงกี้แยกแยะได้ดีมาก และจะไม่ใช้ความหวังดีมาเป็น ข้ออ้างเด็ดขาด


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ