คุณชายมาดเข้มกับคุณหนูสุดแสบ

บทที่498: ฉันยอมรับว่าคุณหล่อมากค่ะ



บทที่498: ฉันยอมรับว่าคุณหล่อมากค่ะ

“แบบนี้มันจะดีเหรอ?” น้ำหวานแทบอยากจะ ร้องไห้

ทำไมพูดๆอยู่ ไม่เพียงแต่ต้องอยู่บ้านหลังเดียวกัน กับเตชิต แต่ยังต้องมากังวลเรื่องเรียนของเด็กด้วย?

ถ้าไม่ใช่ว่าอายุไม่เข้ากัน คนไม่เข้ากัน นี่ก็ใกล้เป็น จังหวะของการแต่งงานมีลูกแล้วสินะ

คิดถึงตรงนี้แล้ว น้ำหวานพยายามส่ายหัว เพื่อไล่ ความคิดออกจากหัว

“เฮ้อ……ที่จริงฉันก็รู้ว่าบางทีเตชิตก็หลุดโลกเกิน ไป ปากหมาไม่พอแถมยังชอบแกล้งคนอีกต่างหาก แต่ ว่าอนุบาลในโซนวิลล่าคือเปิดให้เจ้าบ้านของวิลล่าโดย เฉพาะ ถ้าต้นข้าวพักที่บ้านเตชิต ให้เตชิตไปจัดการจะ ดีกว่า ” พูดถึงตรงนี้ พิงกี้เองก็ใกล้จะไม่เชื่อตัวเองแล้ว

“งั้นก็ได้.……….……….” น้ำหวานกลับเชื่อคำพูดของ เพื่อนรักตัวเองอย่างสนิทเลย หลังจากลังเลก็ได้แต่ พยักหน้า

พิงกี้เม้มปากยิ้ม แววตาเป็นประกาย แอบดีใจอยู่ ในใจอย่างลับๆ

ถ้าพัฒนาตามอย่างนี้ไปเรื่อยๆ ไม่แน่ความคิดที่ เคยโผล่ขึ้นมาในหัวของเธอ สักวันอาจจะสมปรารถนาจริงๆก็ได้ล่ะ

วันนี้พิงกี้ตั้งใจมารับต้นข้าวออกจากโรงพยาบาล โดยเฉพาะ และแวะส่งน้ำหวานกับต้นข้าวไปที่วิลล่า ของเตชิต น้ำหวานเก็บกระเป๋าสัมภาระของทั้งสอง เสร็จก็สามารถไปเลย

ก่อนไป พิงกี้ไปเข้าห้องน้ำก่อน

“พี่น้ำหวานคะ เราจะพักกับพี่พิงกี้จริงๆเหรอคะ? พอพิงกี้ไปปุ๊บ ต้นข้าวก็ดึงเสื้อของน้ำหวานไว้ ใบหน้า เล็กๆขมวดเป็นก้อน สีหน้าแววตามีความทุกข์ที่ไม่ใช่ เด็กทั่วไปจะมี

“เราไม่ได้พักที่บ้านพี่พิงกี้ค่ะ แต่เราจะไปพักที่ บ้านของพี่ผู้ชายหน้าตาหล่อมากๆอีกคนค่ะ หนูโอเคมั้ย คะ?”

“พี่ชายคนนั้นชอบพี่ใช่มั้ยคะ?” ต้นข้าวถามด้วย

ความกังวล

“เป็นไปได้ยังไง?” น้ำหวานรีบส่ายหัว “เขาไม่ ชอบพี่สิถึงจะปกติ ถ้าชอบพี่ นั่นสิถึงเรียกว่าเห็นผี เรา จะไปขออาศัยอยู่ที่บ้านของเขาแค่ชั่วคราวเฉยๆ เดี๋ยว รอให้คนร้ายถูกจับเข้าคุกหมด เราก็สามารถย้ายไปอยู่ ที่อื่นแล้วค่ะ”
น้ำหวานไม่คิดจะหลอกเด็กไปมั่ว เพราะอย่างไร ซะต้นข้าวไม่ใช่เด็กทั่วไป เธออายุยังน้อย แต่เคย ลำบากมาตั้งแต่เด็ก ชินกับการดูสีหน้าคน และเข้าใจคำ พูดของเธอ

จริงๆซะด้วย เธอพูดปุ๊บ ต้นข้าวก้มหน้าคิดทบทวน ไปครู่หนึ่งก็พยักหน้าด้วยความเข้าใจแล้ว “โอเคค่ะ งั้น เราก็ไปพักที่บ้านคุณลุงก็ได้ค่ะ”

“ต้นข้าวเป็นเด็กดีที่สุดเลย

น้ำหวานลูบศีรษะเธอด้วยความใกล้ชิดสนิทแนบ แน่น ก็ไม่ทันตั้งใจฟังดีๆว่าต้นข้าวเรียกเตชิตว่าลุง

ต้นข้าวยอมรับได้แล้วกับการไปอยู่ที่บ้านของเต ชิต แต่ว่า…..น้ำหวานกลับลังเลแล้ว

หลังจากขึ้นรถ เธอก็อดคิดหน้าคิดหลังไม่ได้ ไม่รู้ เพราะอะไร หัวใจเธอขึ้นๆลงๆเหมือนตีกลองอยู่เลย

ถึงแม้รู้ว่าเตชิตปากหมาไปหน่อย แต่ก็รู้ว่าเขา ไม่ชอบทำให้คนลำบากใจในเรื่องสำคัญแบบนี้ แต่น้ำ หวานก็ยังรู้สึกปวดหัวอยู่ดี

เธอจะเปิดปากพูดกับเขายังไงล่ะ
อาจจะเป็นเพราะว่าก่อนหน้านั้นตาต่อตา ฟันต่อ ฟินกับเตชิตมานานเกิน ตอนนี้ให้เธอไปขอร้องเตชิต เธอเปลี่ยนบทบาทไม่ทันจริงๆ

หันไปมองพิงกี้ น้ำหวานอยากพูดแต่ก็หยุดเอาไว้

ไหนๆก็เห็นด้วยกับการเข้าพักที่บ้านของเตชิต แล้ว ก็แค่ขอร้องให้เขาช่วยฝากต้นข้าวเข้าไปเรียน ……เรื่องยากลําบากเป็นกองโต ไหนๆก็ขจัดไม่ได้ ในชั่วขณะอยู่แล้ว งั้นก็ไม่ไปกลุ้มใจกับมันแล้ว เอาตาม นี้เถอะ

พิงกี้กังวลเรื่องเธอมามากพอแล้ว เรื่องที่สามารถ แก้ไขเองได้ก็แก้ไขเองเถอะ

น้ำหวานตัดสินใจอย่างแน่วแน่ด้วยหน้าตาน่า

สงสาร และคอยพูดโน้มน้าวตัวเองอยู่ในใจ

รถได้จอดลงไปวิลล่าNo.3

เตชิตอยู่บ้าน รถเพิ่งจอดนิ่ง เขาก็เดินออกมาอย่าง

ชิวๆแล้ว

ต่อไปต้องพักอยู่ที่บ้านหลังเดียวกันกับเตชิตแล้ว นําหวานรู้สึกเกรงใจเล็กน้อย รู้สึกอยู่เสมอว่าตอนที่ เผชิญหน้ากับเตชิต แม้แต่ต่อปากต่อคำกับเขาก็ไม่มี ความมั่นใจแล้ว…….เพราะยังไงซะก็มาอาศัยอยู่บ้านคนอื่น แถมยังเป็นแบบที่ไม่ต้องจ่ายค่าเช่าด้วย ถ่อมตน หน่อยจะดีกว่ามั้ง?

น้ำหวานจูงมือต้นข้าวมาถึงที่ตรงหน้าของเตชิต พูดทักทายด้วยความอายและลำบากใจ “คุณเตชิต ต่อ ไปต้องรบกวนคุณแล้วนะคะ”

เพื่อสงบศึก น้ำหวานถึงกับพูดทักทายด้วยความ เคารพเลยทีเดียว

แต่เสียดาย ดวงตาที่สวยหยาดเยิ้มของเธอเหมือน โยนไปให้หมาดูเลย

เตชิตไม่ได้เข้าใจความหมายที่เธออยากขอสงบ ศึกเลย แต่กลับตัวสั่นอย่างโอเวอร์ และใช้มือลูบขนที่ ลุกซู่เหมือนหนังไก่ขึ้นมา “นี่ น้ำหวาน สมองคุณไม่ได้ เพี้ยนใช่มั้ยเนี่ย?”

น้ำหวาน

“ทำไมจู่ๆถึงได้เกรงอกเกรงใจผมขนาดนี้ หรือว่า จู่ๆคุณก็พบเห็นความดีของผมแล้ว จึงอยากวางแผน ทำอะไรมิดีมิร้ายกับผมอีกใช่มั้ย? ผมจะบอกคุณให้นะ ทางที่ดีที่สุดคุณล้มเลิกความคิดนี้ซะ ผมชอบใครก็ไม่ ชอบคุณหรอก!”

น้ำหวาน “งั้นก็พอดีเลยค่ะ ฉันรู้สึกปลอดภัยจากสิ่งชั่วร้ายขึ้นมาทันทีเลยค่ะ”

“คุณก็อย่าดูแคลนตัวเองสิ ที่จริงคุณเกิดมาก็ มีหน้าตาที่ปลอดภัยมาตลอดอยู่แล้ว”

“แต่ฉันรู้สึกว่าหน้าตาคุณไม่ปลอดภัย”

“นั่นมันแน่นอนอยู่แล้ว ผมหน้าตาหล่อขนาดนี้ ได้ รับความนิยมจากสาวๆอยู่ตลอดเวลา …….ผู้หญิงที่ ตายใต้กางเกงผมมีเยอะแยะถมเถไป

“อุ๊ย~จริงหรือคะเนี่ย ใช้ใบหน้าภัยพิบัติที่หลังจาก เกิดภัยพิบัติก็ยังมีความยากลำบากซ้ำๆของคุณเหรอ คะ?”

เตชิต “

ที่แท้ความหมายของคำว่า “ไม่ปลอดภัย” ไม่ใช่ ชมว่าเขาหล่อ แต่ว่าเขาเป็นภัยพิบัติงั้นเหรอ?

เขาถูกทำจนพูดไม่ออก

นี่…..คาดว่าต่อไปชีวิตคงไม่น่าเบื่อแล้ว แต่ว่าอาจ จะต้องกล้ำกลืนหน่อย

พิงกี้ที่ดูอยู่ข้างๆเห็นนํ้าหวานคว้าชัยชนะอย่าง ขาดลอย มีความมั่นใจอยู่ลับๆกับเรื่องที่นำมาสู่การให้นําหวานอยู่บ้านเตชิต เห็นบรรยากาศเริ่มอึดอัดแล้ว เธอจึงรีบออกมาคลี่คลายสถานการณ์ “เอาล่ะๆ ด้าน นอกร้อนจะแย่อยู่แล้ว ต้นข้าวคงทนไม่ไหวแล้ว เราพา เธอเข้าไปพักผ่อนก่อนเถอะ”

..โอเค มา เอาต้นข้าวให้ผมอุ้มเถอะ”

เตชิตอาศัยมีเรี่ยวแรงเยอะกว่า หวังดีอยากช่วยน้ำ หวานแบ่งเบาภาระที่อุ้มต้นข้าวไว้ คิดไม่ถึงว่าจะถูกต้น ข้าวปฏิเสธ

ต้นข้าวเห็นเตชิตยื่นมือมาหาเธอ ทันใดนั้นใบหน้า น้อยๆได้ขาวซีดขึ้นมาทันที ดวงตากลมโตเต็มไปด้วย ความหวาดกลัว เธอหันหน้าไปมุดอยู่ที่ซอกคอของน้ำ หวาน ร่างเล็กๆยังสั่นเล็กน้อย

“พี่น้ำหวานคะ หนูเดินเองได้ค่ะ” เธอขัดขืนเบาๆ ไปครู่หนึ่ง อยากลงมาจากบนตัวของน้ำหวาน เห็นแล้ว ช่างน่าสงสาร

“ไม่เป็นไร พี่อุ้มหนูไหว” น้ำหวานลูบศีรษะต้นข้าว เบาๆ นาทีต่อมาเธอก็ไม่ขยับแล้ว

นําหวานรู้ว่าทําไมต้นข้าวถึงเป็นแบบนี้

เด็กผู้หญิงที่เจอเรื่องแบบนั้นต่างก็ต่อต้านผู้ชาย เข้าไปถึงกระดกดำ แบบนี้ไม่เป็นปกติ แต่ก็ไม่มีหนทางทำให้เธอลืมความเจ็บปวดที่ลึกเข้าไปถึงกระดูกได้ ไวขนาดนั้น

นี่ไม่ใช่เรื่องเล็ก

น้ำหวานใช้ท่าทางปากพูดกับเตชิตไปครู่หนึ่ง สีหน้าของเตชิตก็ค่อยๆเคร่งขรึมขึ้นมา จากนั้นก็พยัก หน้าด้วยความสงบ

ในเวลานี้เห็นได้ชัดว่า ทั้งสองก็รู้ใจซึ่งกันแล้วกัน

อยู่

เพราะได้คอนเฟิร์มกับเตชิตไว้ตั้งนานแล้วว่าน้ำ หวานกับต้นข้าวจะมาวันนี้ เตชิตก็ได้ให้คนรับใช้เก็บ กวาดทําความสะอาดห้องไว้เรียบร้อยแล้ว

เดิมทีคือจองไว้สองห้อง แต่ต้นข้าวติดน้ำหวาน งอมแงมเลย น้ำหวานคิดๆแล้วกลัวเธอไม่ยอมนอนคน เดียว ก็เลยตัดสินใจนอนห้องเดียวกับต้นข้าว

“คุณลองดูห้องซิว่าชอบมั้ย ถ้ามีตรงไหนอยาก ปรับเปลี่ยนก็บอกผมได้เลย ผมจะได้ให้คนมาประดับ ตกแต่งใหม่” เตชิตผลักประตูออก และหลีกทางให้ อย่างมีความเป็นสุภาพบุรุษ และให้น้ำหวานอุ้มต้นข้าว เข้าไปก่อน

น้ำหวานมองดรอบหนึ่ง ก็ชอบห้องนี้เข้าแล้ว
ห้องนอนนี้อยู่ทิศใต้ แสงอาทิตย์ที่แจ่มใสสาดส่อง เข้ามาผ่านนอกหน้าต่าง ไม่ได้รู้สึกร้อน แต่กลับรู้สึก อบอุ่นมาก

“ขอบคุณมากนะคะ ฉันชอบห้องนี้มากค่ะ” น้ำ หวานขอบคุณเตชิตด้วยความจริงใจ เธอเป็นฝ่ายยื่นมือ ออกมา “ต่อไปเราเข้าหากันดีๆนะคะ อืม…..ฉันยอมรับ ว่าคุณหล่อมากค่ะ”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ