คุณชายมาดเข้มกับคุณหนูสุดแสบ

บทที่355:บ้านดารงกูลเกิดเรื่องแล้ว



บทที่355:บ้านดารงกูลเกิดเรื่องแล้ว

“วูๆๆๆ…….” สีหน้าของลุงเต่าวิตกกังวล และเริ่ม ขัดขืนขึ้นมา

ป้าลําดวนก็เหมือนกัน

ทั้งสองต่างก็ถูกผ้ายัดปากเอาไว้ “วๆๆๆๆ ก็ไม่รู้ กำลังพูดอะไรอยู่

อยู่ห้องใต้ดินไม่ต้องกลัวว่ามีคนอื่นได้ยินเรื่องที่ ไม่ควรได้ยิน ลิสานั่งยองๆ ดึงผ้าขนหนูที่ยัดอยู่ในปาก ของลุงเต่าออก และถามด้วยแววตาที่ร้ายกาจ“ แก ปล่อยป้าลำดวนไป เพราะอยากรุมหัวกันไปแจ้งตำรวจ ให้มาจับฉันใช่มั้ย?”

นอกจากเรื่องนี้ เธอไม่รู้ว่ายังมีอะไรที่มีค่าอะไรให้ สองคนนี้สมรู้ร่วมคิดอีก

ห้าแสนบาท!

ก็เพื่อเงินห้าแสนบาทนี้ใช่มั้ย!

ลุงเต๋ากลัวจนตัวสั่น และได้ยอมรับโดยตรง ดิ้นรน คุกเข่าขึ้นมาพร้อมกล่าวขอโทษ“ขอโทษครับคุณผู้ หญิง ขอโทษครับคุณลิสา…….ผมมันน้ำเข้าสมอง ผม ไม่น่าถูกลำดวนสะกดจิตเลย เพราะเธอคนเดียว เพราะ เธอดันจะดึงผมเข้าไปเกี่ยวข้องให้ได้ ต่อไปผมไม่กล้าทำแบบนี้อีกแล้วครับ ไม่กล้าแล้วจริงๆ…….

หนีออกจากบ้านดำรงกูลแล้วถูกชายเสื้อดำจับตัว กลับมา ลุงเต่าราวกับว่าได้ประสบเหตุที่ตกจากสวรรค์ ลงไปยังนรก ตอนนี้เหลือแต่ความหวาดผวา

พวกเขารู้เรื่องที่ไม่ควรรู้ ชีวิตนี้ยังจะสามารถรักษา เอาไว้ไหม?

อย่าบอกว่าห้าแสนบาทนั่นเลย ตอนนี้เขาขอแค่ สามารถมีชีวิตอยู่ต่อก็พิแล้ว!

“ไม่กล้างั้นหรอ? ฉันดูพวกแกใจกล้าจะตายไป ไม่ต้องถามอีกแล้ว ลิสาแน่ใจความคิดของพวกเขาแล้ว “คุณแม่คะ เรื่องมันก็ชัดเชนมากแล้ว เราออกไปเถอะ สองคนนี้ทิ้งไว้ที่ตรงนี้เลย”

“จะให้พวกเขาทานข้าวมั้ย?”

“ไม่ต้องหรอกค่ะ เพราะยังไงซะหิวไม่กี่วันก็ไม่หิว ตายหรอก เดี๋ยวกินอิ่มแล้วมีแรงขัดขืน เราจะควบคุมไม่ อยู่นะคะ”

มาลาตีรู้สึกที่พูดมาก็ถูกนะ

ได้เอาผ้ายัดปากของลุงเต๋าไว้อีกครั้ง ไม่แม้แต่จะ มองแววตาที่อ้อนวอนของป้าลำดวนและลงเต๋าเลย ใลาตีกับลิสาก็ได้เดินออกจากห้องใต้ดินแล้ว

ตอนที่ใกล้ถึงเวลาทานข้าว ทั้งสองก็เริ่มหนักใจ แล้ว

ใครจะเป็นคนทําอาหาร

ปกติบ้านดำรงกูลมีคนรับใช้อยู่สองคน คนขับหนึ่ง คน ตอนนี้บนตัวของลิสามีแต่แผลทำงานไม่ได้ แต่จะ ปล่อยป้าลำดวนกับลุงเต๋าออกมาทำงานไม่ได้เด็ดขาด บ้านดำรงกูลคนที่สามารถขยับได้ก็เหลือแต่มาลาตี เท่านั้นแล้ว

“คุณแม่คะ ให้ลิสามาทำเถอค่ะ” ดูออกว่ามาลาตี ไม่เต็มใจ ลิสารีบเปิดปากพูดพร้อมรอยยิ้ม ตอนที่ลิสา ถูกคนพวกนั้นจับไปเป็นหนูทดลอง เพื่อไม่ต้องถูกเฆี่ยน ตี ลิสาก็ได้ทำกับข้าวให้พวกเขาทานอยู่เป็นประจำ ตอนนี้ฝีมือการทำอาหารของลิสาก็ถือว่าใช้ได้นะคะ”

พอพูดจบ เธอเอาผักสดต่างๆและเนื้อออกมาจากตู้ เย็น เตรียมจะไปล้างผัก

“เอาวางไว้เลย ร่างกายของลูกยังมีแผลอยู่ จะมา โดนน้ำได้ยังไง?” มาลาตีรีบห้ามเธอไว้ สงสารเธอแทบ จะขาดใจ “แม่เป็นแม่ของลูกนะ ลูกยังมาฝืนทำเป็นเข้ม แข็งต่อหน้าแม่ทำไม?”
“แต่ลิสาไม่อยากให้คุณแม่เหนื่อยนี่คะ” ลิสาไม่

“แม่ทูนหัวของแม่ ลูกดูแลตัวเองดีๆก็พอแล้ว” ที่นี้ มาลาตีก็ไม่มีการลังเลใดๆอีกแล้ว

เธอแย่งผักมาจากมือของลิสาแล้วเริ่มล้างผักขึ้น

มา

ลิสาถูกมาลาตีไล่ให้ไปพักผ่อนที่ห้อง ผลักไปครู่ นึง เธอก็ยอมรับในความหวังดีของมาลาตีอย่างไว

เธอเดินขึ้นชั้นบนด้วย และมองดูมาลาตีที่ยุ่งอยู่ใน ห้องครัวไปด้วย แววตาเต็มไปด้วยการหัวเราะเยาะ คิด ไม่ถึงว่ามาลาตีจะดีกับเธอจริงๆ ไม่นึกว่าจะสามารถทำ ถึงขั้นนี้ได้

แต่ว่า เธอในตอนนี้ยากมากที่จะตื้นตันใจ

เธอเองก็ยังนึกหน้าตาของตัวเองในเมื่อก่อนไม่ได้ แล้ว ยังจะให้เธอมามีความรักได้ยังไง?

ก่อนมาลาตีจะแต่งงานเป็นคุณหนูที่ไม่เคยได้แตะ ต้องงานบ้าน ไม่เคยลงมือทำกับข้าวมาก่อน หลังจาก แต่งงานเพื่อความปรองดองของชีวิตคู่ได้เคยทำอยู่บ้าง แต่จํานวนครั้งไม่เยอะ ฝีมือการทำอาหารถือว่าธรรมดา มาก
คนที่ไม่เคยทํางานมานาน ทำไมแค่เริ่มทำงานก็ รู้สึกเหนื่อยมากเป็นพิเศษแล้ว

โน้มตัวล้างผักไปไม่กี่กำ มาลาตีก็เริ่มปวดเมื่อยเอว

เธอค่อนข้างที่อยากจะยอมแพ้

แต่ว่า เพื่อไม่เป็นที่สังเกตุของคนข้างนอก จะให้สั่ง อาหารเดลิเวอรี่ก็ไม่ดี ไปจ้างคนมาทำก็คงไม่ดี ถึงจะไม่ เต็มใจแค่ไหน สุดท้ายก็ต้องลงมือทำเอง

ทั้งเย็น มาลาตีมัวแต่ยุ่งอยู่กับการทำอาหาร

ลิสากลัวมาลาตีไม่เต็มใจ พักผ่อนที่ห้องไปหนึ่ง ชั่วโมงก็ลงมาอยู่เป็นเพื่อนเธอแล้ว

เธอพยายามพูดคำพูดที่ทำให้คนชอบใจ ถึงแม้ มาลาตีทำเสร็จก็จะต้องล้างจาน ล้างจานเสร็จยังต้อง ซักผ้าอีก แต่ว่าถึงมาลาตีเหนื่อยแทบแย่ ขอแค่ได้ยิน เสียงออดอ้อนที่หวานแหววจากลิสา ไม่นึกเลยว่าเธอก็ จะเต็มไปด้วยความอิ่มเอมใจ

เวลาสามทุ่ม ลิสายกนมมาแก้วนึงและนั่งลงที่ ตรงหน้าของมาลาตี “คุณแมคะ วันนี้ลำบากคุณแม่ แล้วจริงๆ ดื่มนมอุ่นๆแก้วนึงแล้วรีบพักผ่อนเถอะนะคะ ร่างกายของคุณแม่สำคัญที่สุดค่ะ”
“ลูกสาวแม่ที่เป็นคนใส่ใจจริงๆ” มาลตียิ้มด้วย ความพึงพอใจ และลูบมือของลิสาเบาๆ

ดื่มนมเสร็จ ไม่นานมาลาตีก็รู้สึกง่วงนอนแล้ว

ปกติเธอเข้านอนประมาณสี่ทุ่มครึ่ง ถึงแม่สงสัย นิดๆว่าทำไมวันนี้ถึงได้ง่วงขนาดนี้ แต่พอคิดๆแล้วนึก ว่าวันนี้ตัวเองทำงานเหนื่อยมาทั้งวัน ก็เลยง่วงนอนเป็น พิเศษ จึงไม่ได้สงสัยอะไรอีก

“คุณแม่ง่วงนอนหรอคะ เดี๋ยวลิสาส่งคุณแม่ไปเข้า นอนเถอะค่ะ” ลิสาใกล้เข้ามาด้วยความเอาใจใส่

‘ลูกไม่ต้องมาส่งแม่หรอก แม่ไปเองก็พอแล้ว” มาลา สายหัว “แผลบนตัวยังไม่หายดีเลย อย่ามัวแต่ มาห่วงแม่ ลูกดูแลตัวเองให้ดีก็พอแล้ว”

พอพูดจบ ฝืนฮึดสู้แล้วเดินขึ้นชั้นบนเอง

เธอไม่อยากให้ลิสาส่ง ลิสาก็ไม่ได้ลุกขึ้นจริงๆด้วย

มองดูร่างเงาของมาลาตีเดินขึ้นไปทีละก้าวๆ ลิสา นั่งอยู่บนโซฟาอย่างชิวๆ มุมปากเผยรอยยิ้มที่อ่อนๆ ออกมา

เธอคิดไม่ถึงเลยว่าโอกาศจะมาถึงไวขนาดนี้
เดิมทีเธออยากค่อยๆทำให้มาลาตีเชื่อใจเธอ ฉวย โอกาศตอนที่ทำความสะอาดบ้านหาของที่Murrayให้ เธอหา แต่คิดไม่ถึงว่าเพราะป้าลำดวนดูออกว่าเธอคือลิ สาเลยเกิดเรื่องเหนือความคาดหมาย โอกาศนี้ก็เลยได้ มาถึงก่อนล่วงหน้าเลย

บ้านดำรงกูลมีทั้งหมดสี่คน ตอนนี้ป้าลำดวนกับลุง เต่าถูกขังอยู่ที่ห้องใต้ดิน มาลาตีดื่มนมที่ผสมยานอน หลับไปก็หลับสนิทเลย ถ้าเธออยากทำอะไรสักหน่อย ยังจะยากอีกหรอ?

รอมาครึ่งชั่วโมง ลิสาได้เดินขึ้นไปชั้นบน

เธอไปดูที่ห้องของมาลาตีก่อนเป็นอันดับแรก หลัง จากพบว่ามาลาตีหลับเหมือนคนตาย หยิกยังไงก็หยิก ไม่ตื่น ที่นี้เธอถึงพยักหน้าความพึงพอใจ

แฝงตัวเข้าไปในห้องอ่านหนังสือของชาตรี ลิสา เริ่มตรวจค้นตามนิสัยความเคยชินของชาตรีขึ้นมา

Murrayให้เธอมาหาใบรายชื่อชุดนึง

ชาตรีคนนี้เป็นคนมีอุบายและเป็นคนเจ้าเล่ห์มาก ตอนที่เริ่มทำงานแรกๆกับองค์กรSC เขาก็เริ่มรวบรวม ข้อมูล เอาคลิปเสียงที่อยู่ในเหตุการณ์ สถานการณ์ ทำการค้าขาย หรือแม้กระทั่งถึงขั้นจดบันทึกรายชื่อ ของสมาชิกองค์กรSCที่เขาเคยได้สัมผัสไว้ทั้งหมด
ตอนที่เควินเริ่มตรวจสอบองค์กรSCแรกๆ เขาก็ มีลางสังหรณ์ว่าตัวเองอาจจะถูกเปิดเผย เพื่อรักษา ชีวิตไว้ เขาถึงจงใจเผยให้Murrayรู้ว่าในมือของเขามี หลักฐานที่เอาชีวิตแบบนี้อยู่ ให้Murrayต้องคิดหาวิธี ปกป้องชีวิตของเขา ไม่งั้นเขาก็จะเอาหลักฐานนี้ส่งมอบ ขึ้นไป ถึงเวลานั้นทุกคนก็อย่าหวังว่าจะรอดชีวิตไปได้ เลย

เอกสารชุดนี้เป็นระเบิดเชียวนะ ตอนนี้ชาตรียังรอ ให้Murrayช่วยชีวิตอยู่ ไม่ได้เอาของที่สาทารถเอา ชีวิตได้นี้ออกมา แต่ถ้าหากวันนึงเขาเกิดอยาก“ทำคุณ ไถ่โทษ”โดยการใช้เอกสารชุดนี้แลกกับการลดโทษจะ ทำยังไง?

Murrayสั่งการให้ลิสา ไม่ว่าจะด้วยวิธีใดก็ต้อง เอาเอกสารชุดนี้มาให้ได้

เวลาผ่านไปทีละนิดๆ

ลิสาหาทุกซอกทุกมุมของห้องอ่านหนังสือแล้ว แต่ ยังไงก็หาเอกสารชุดนั้นไม่เจอ สีหน้าค่อยๆดูแย่ขึ้นมา โมโหจนกำหมัดไว้แน่น จนเล็บได้ทิ่มเข้าไปในฝ่ามือ

เงยหน้าดูนาฬิกาที่แขวนอยู่บนผนัง ตอนนี้ก็ตีสอง

เธอเสียเวลาอยู่ในห้องอ่านหนังสือมาหกชั่วโมงก็ยังหาเอกสารไม่เจอ ต่อไปถ้าหาโอกาศแบบนี้ใหม่มันก็ ไม่ยากเท่าไหร่ แต่ก็จะไม่สะดวกขนาดนี้แล้ว กลอุบาย แบบเดียวกันถ้าใช้บ่อยๆก็ไม่ดี กลัวจะถูกจับได้

อีกอย่าง ถ้าหาเอกสารเจอเร็วๆ เธอก็จะสามารถ ไปจากที่นี่ได้เร็วๆ ความเป็นไปได้ที่จะถูกคนพบเห็นก็ จะน้อยลงด้วย

กระหืดกระหอบ ในที่สุดลิสาที่ระมัดระวังก็อารมณ์ โมโหขึ้นมาแล้ว

เธอทนความโกรธในใจไว้ไม่ไหว คว้าของตั้งโชว์ที่ เป็นภูเขาปลอมขึ้นมาและเขวี้ยงใส่พื้นด้วยการระบาย อารมณ์ เสียงดัง“โพ่ง “ทีนึง เสียงที่ของตั้งโชว์เขวี้ ยงลงมาใส่พื้นทำให้ฟังดูน่าตกใจเป็นพิเศษในสภาพ แวดล้อมที่เงียบงันนี้

สงบสติอารมณ์ไปพักนึง เธอไม่ได้หงุดหงิดขนาด นั้นแล้ว ลุกขึ้นเตรียมตัวเก็บกวาดสภาพที่ย่ำแย่นี้ แต่จู่ๆ หางตาได้เหลือบไปมองเห็นยูเอสบีแฟลชไดรฟ์แทรก อยู่ในกองเศษแก้วนี้

หรือว่านี่ก็คือของที่เธอจะหา

แววตามีแต่ความเซอร์ไพรส์ ลิสาหยิบยอสบีแฟลชไดรฟ์ขึ้นมาแล้วพุ่งไปที่หน้าคอมพิวเตอร์

คอนเฟิร์มแล้วคอนเฟี้มอีก ในที่สุดเธอก็แน่ใจแล้ว ว่าหาข้อมูลที่ชาตรีซ่อนเอาไว้เจอแล้ว

ลุกขึ้นมาจากเก้าอี้ในทันที เธอตื่นเต้นมาก

อะไรเรียกว่าเมฆดำผ่านไปฟ้าจะเจิศจ้า ก็คือ นี่แหละ! ในที่สุดเธอก็หาข้อมูลอันนี้เจอ งั้นเธอก็ไม่ ต้องอยู่บ้านดำรงกูลต่อแล้ว ส่วนคนของบ้านดำรง กูล………ป้าลำดวนกับลุงเต๋าสองคนนี้ต้องกำจัด แน่นอน เพราะพวกเขารู้ฐานะของเธอแล้ว ถ้าไม่กำจัด ทิ้งต้องมีปัญหาตามมาแน่นอน

มาลาตีคนนี้ถึงมีจุดที่น่าเอามาใช้ประโยชน์ได้ แต่ กลับใจเสาะเกินไป ถ้าให้เธอจัดการ ไม่แน่เดี๋ยวเธออาจ จะปล่อยป้าลำดวนกับลุงเต๋าไปก็ได้

มาลาตีก็รู้ฐานะของเธอ แบบนี้ก็ไม่ดี………..

ครุ่นคิดอยู่นานมาก แววตาของลิสามีความโหด เหี้ยมโผล่ขึ้นมา ในที่สุดก็ได้ทำการตัดสินใจออกมา อย่างนึง

“พิงกี้ พิงกี้ คุณตื่นเร็วๆ
รู้สึกมีคนเรียกอยู่ข้างๆอย่างสะลึมสะลือ เสียง เหมือนก้องมาไกลจากสุดขอบฟ้า ไม่ค่อยเหมือนความ จริง พิงกี้ลืมตาขึ้นมาดูด้วยสายตาพร่าเลือน พบว่าคนที่ เรียกเธอคือเควิน ทันใดนั้นเธอไม่อยากสนใจเขาเลย

น่ารำคาญจริงๆเลย

“คุณตื่นเร็ว มีเรื่องจริงจัง ”

“คุณมาปลุกฉันทำไมคะเนี่ย?” พิงกี้ขมวดคิ้ว เอา ผ้าห่มมาม้วนตัวไว้อย่างไม่พอใจ เอาตัวเองม้วนเป็นปอ เปี๊ยะและเอาใบหน้ามุดไปที่หมอน เสียงก็ยังเหมือนคน ง่วงนอนมาก “อย่ามากวนฉัน ฉันจะนอน”

ผู้ชายคนนี้เรียกเธอในเวลานี้ ไม่ต้องคิดก็รู้ว่า อยากนัวเนียกับเธออีกแล้ว ยังแสร้งทำเป็นมีเรื่องจริงจัง อีก

เธอไม่เอาด้วยหรอก!

เสียงของเควินกลับเคร่งขรึมมาก “พิงกี้ ไม่ต้อง นอนแล้ว บ้านดำรงกูลเกิดเรื่องแล้ว”

เขาพูดไปด้วยและขุดเธอออกมาจากในผ้าห่มด้วย “เราต้องรีบออกไปแล้ว คุณรีบตื่นขึ้นมาเปลี่ยนเสื้อผ้า เร็วเข้า ถ้าง่วงจริงๆก็นอนต่อที่รถ”
“ห้า อะไรนะ? เกิดเรื่อง? ใครเกิดเรื่อง? เกิดเรื่อง อะไร?”

พริบตาเดียวก็ทำเอาพิงกี้สะดุ้งตื่นขึ้นมาเลย ความ ง่วงได้จางหายไปหมด

เธอหันไปมองท้องฟ้านอกหน้าต่าง พบว่าด้านนอก ก็ยังมืดสนิทอยู่เลย เธอค่อนข้างข้องใจว่าเวลานี้เป็น เวลาที่ต่างก็นอนหลับกันจะเกิดเรื่องอะไรขึ้นมาได้?

คราวนี้ใครเกิดเรื่องอีกล่ะ?

“บ้านดำรงกูลไฟไหม้ แม่คุณ……เอ่อ มาลาตีกับ คนใช้สองคนและคนขับอีกหนึ่งคนต่างก็ยังติดอยู่ใน บ้านอยู่เลย ตอนนี้หน่วยดับเพลิงกำลังดับไฟอยู่และ พยายามช่วยพวกเขาออกมาอยู่ เรื่องนี้ใหญ่โตมาก มี คนตั้งใจโทรมาหาผม ผมกับคุณไม่ไปที่เกิดเหตุมันจะ ไม่ดี เพราะฉะนั้นเราต้องรีบไปเดี๋ยวนี้เลย

“า อะไรนะ?” พิงกี้จ้องตาโต และถามด้วยความ รีบร้อน “เกิดเหตุเพลิงไหม้มานานเท่าไหร่แล้วคะ?”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ