คุณชายมาดเข้มกับคุณหนูสุดแสบ

บทที่ 339: ผมไม่อยากขอบคุณไว้อีกต่อไป



บทที่ 339: ผมไม่อยากขอบคุณไว้อีกต่อไป

มาลาที่มีความรู้สึกเหมือนถูกคนสอดแนมยังไงไม่รู้ เหมือนความลับทุกอย่างของตัวเองล้วนปิดซ่อนร่องรอย ไม่ได้ทั้งนั้น ส่วนคนที่อยู่ตรงหน้าสามารถหาจุดอ่อนเธอ เจอได้ทุกเมื่อ สามารถทำร้ายเธอได้อย่างแรงอย่างไร อย่างนั้น

น่ากลัวจริงๆ

ถ้าหากเดิมทีเธอรู้สึกว่าจอยคนนี้ทำอะไรถูกใจเธอ ทุกอย่าง งั้นตอนนี้เธอก็รู้สึก ความถูกใจแบบนี้มันน่า กลัวถึงขีดสุดแล้ว

เธอคิดผิดไปแล้ว

ระหว่างเธอกับจอยมีความรู้สึกสนิทสนมกันแบบนี้ ไม่ใช่วาสนาอะไรหรอก ในนี้ต้องมีเงื่อนงำแน่นอน!

ที่ผ่านมาลาตีไม่ถนัดซ่อนอารมณ์ของตัวเอง ตอน ที่เธอกลัว สายตาที่มองจอยได้ระมัดระวังขึ้นมาทันที แม้ กระทั่งมือที่วางอยู่บนโซฟายังสั่นไหวอยู่เลย

ดูก็รู้ว่าเธอกลัว

“คุณผู้หญิงทำไมใช้สายตาแบบนี้มองดิฉันล่ะคะ?” ทันใดนั้นจอยใจร้อนขึ้นมา เพราะความตื่นเต้นจึงได้คุกเข่าลงที่เท้าของมาลาตีโดยตรงเลย เงยหน้ามองเธอด้วย ความจริงใจ “ดิฉันรู้ว่าคุณหญิงอาจจะสงสัยว่าดิฉันมา ขโมยของที่บ้านหรือเปล่า? แต่ดิฉันไม่เคยรื้อค้นของๆ คุณหญิงมาก่อนนะคะ และไม่เคยมีความคิดแบบนี้ด้วยค่ะ จริงๆนะคะ!”

ขโมยของ?

ที่จริงเธอไม่ได้คิดแบบนี้หรอก!

มองจอยที่คุกเข่าอยู่ตรงหน้าตัวเอง หน้าตาดูต่ำต้อย มาก มาลาตีก็รู้สึกไม่ได้กลัวขนาดนั้นแล้ว ความมั่นใจได้ กลับมานิดหน่อยแล้ว

เธอก็ไม่ได้พูดตรงๆว่าตัวเองกำลังกลัวอะไรอยู่ แต่ แค่ถามว่า“งั้นเธอรู้ได้ยังไงว่าฉันมีกำไลหยกชั้นเลิศชิ้น นึง? เธอรู้ว่ากำไลของฉันเอาไว้ที่ไหนมั้ย?”

“ดิฉันไม่รู้ว่าของๆคุณผู้หญิงเอาไว้ที่ไหนค่ะ ที่รู้ว่า คุณผู้หญิงมีกำไลหยกก็เพราะมีอยู่ครั้งนึงคุณผู้หญิงเมา แล้วได้พูดกับดิฉันค่ะ คุณผู้หญิงบอกว่ากำไลชิ้นนั้นสวย และเลอค่ามาก เป็นมรดกตกทอดจากคุณแม่ของคุณผู้ หญิงค่ะ ” จอยอธิบายด้วยความรีบร้อน

แววตาของมาลาที่เหมือนกำลังครุ่นคิดอะไรอยู่“แล้วฉันยังพูดอะไรอีก

จอยก้มศีรษะไว้ และกลัวจนตัวสั่น “คุณผู้หญิงยัง บอกอีกว่ากําไลชิ้นนั้นเป็นของโบราณ ว่ากันว่าเป็นหยก แกะสละของอาจารย์ท่านนึงสมัยราชวงศ์ชิง ต่อไปถ้าเกิด เรื่องใหญ่โตอะไร ขอแค่มีกำไลหยกชิ้นนี้อยู่ก็ไม่ต้องกลัว ว่าจะกลับมาเจริญรุ่งโรจน์ไม่ได้ค่ะ”

“อืม……….” มาลาตีพยักหน้า

นี่เป็นความคิดที่เธอคิดอยู่ประจำ และเป็นคำพูดพี่แม่ ของเธอชอบพูดบ่อยๆ ก่อนที่เธอจะแต่งงาน

“ในเมื่อฉันเมาเหล้าแล้วพูดออกมาโดยไม่ได้ตั้งใจ งั้นก็ไม่โทษเธอแล้ว เธอลุกขึ้นมาเถอะ”

มาลาตีเปิดปากพูด ในที่สุดจอยก็ลุกขึ้นมาจากพื้น

เพียงแต่เธอก้มหน้าอยู่ตลอด เหมือนตกใจมาก อย่างไรอย่างนั้น

มาลาตีพึงพอใจกับหน้าตาที่หวาดกลัวของเธอมาก เห็นจอยที่เป็นแบบนี้ เธอก็จำหน้าตาตาอุบาทที่ตื่นตกใจ จนทำอะไรไม่ถูกของตัวเองไม่ได้แล้ว
“เอาล่ะ ครั้งหน้าเธอก็อย่าคิดเองเออเองก็แล้วกัน ฉันรู้อยู่แก่ใจดี ไม่ต้องคอยให้เธอมาออกความคิดไม่ชาญ ฉลาดพวกนั้น รู้หรือยัง?

“ค่ะ ดิฉันทราบแล้วค่ะ”

“เธอไปทํางานต่อเถอะ ไปบอกให้แม่ครัวเตรียม อาหารเย็นไว้ด้วย

“ค่ะ”

จอยไปแล้ว มาลาตีนั่งอยู่บนโซฟาได้สักพัก ถึงลุก ขึ้นแล้วเดินไปชั้นสอง

พอร่างเงาของมาลาตีสูญหายไปจากบันไดชั้นสอง จอยที่กำลังใช้ผ้าเช็ดเฟอร์นิเจอร์อยู่แววตามีการเยาะเย้ย ที่เย็นชาแว๊บเข้ามา ไม่มีความกลัวของก่อนหน้านั้นเลยสัก

ครั้งนี้มาลาตีดูถูกดูแคลนพิงกี้ต่อหน้าเควิน ขอแค่เค วินแคร์พิงกี้จริงๆ เขาอาจจะให้พิงกี้เป็นภรรยาที่ถูกต้อง ตามกฎหมายให้สมกับฐานะและชื่อเสียงของตัวเอง

อยากได้ฐานะและชื่อเสียงที่สมกับตัวเอง เขาย่อมจะ ให้ผู้คนที่มาร่วมงานได้เห็นว่าอยู่แล้วว่าเขาแคร่พิงกี้มากแค่ไหน

งานฉลองวันเกิดอายุครบแปดสิบปีของคุณหญิงท่าน แห่งตระกูลภิรมย์ภักดี ไม่ต้องกลัวว่าจะไม่มีละครสนุกๆให้ ได้ดูแล้ว

กลับมาถึงL.K.Crystalวิลล่า รังสิตเคาะและเปิด ประตูของห้องสมุด พบว่าพิงกี้ก็รออยู่ข้างในด้วย

“คุณเควินครับ”

“ส่งคุณหญิงมาลาตีกลับไปแล้วใช่มั้ย?”

“ส่งกลับไปแล้วครับ ผมได้แกล้งตะโกนอยู่หน้าบ้าน ของตระกูลดำรงกูล ผมว่าคนที่อยู่ในระแวกนั้นน่าจะรู้เรื่อง ที่มาลามาบีบบังคับคุณผู้หญิง และอยากให้คุณผู้หญิง ช่วยนายชาตรีแล้วครับ

“อืม ทำได้ดี”

“ถ้าไม่มีอะไร งั้นผมขอตัวก่อนนะครับ

“อืม ไปเถอะ”
พอรังสิตไปปุ๊บ พิงกี้ลูบที่ตรงอกและเดินมาที่ข้าง กายของเควินใหม่ “ยังดีที่มีคุณอยู่ ไม่งั้นฉันก็หลงกล มาลา แล้ว เธอยังได้ใจนึกว่าตัวเองทำได้ดีเสียอีก แถม ยังนึกว่าตัวเองเป็นราชินีแห่งการแสดงที่สามารถกลั่น แกล้งมาลา ได้แน่ะ!

ใครจะไปรู้ว่าผู้หญิงโง่คนนั้นยังวางอุบายเป็นด้วย เธอเกือบจะหลงกลเข้าแล้ว!

นี่เป็นจุดด่างพร้อยของชีวิตจริงๆ

“คุณอาจจะท้องอีกแล้วก็ได้มั้ง?” จู่ๆเควินพูดขึ้นมา คำนึง

“หา อะไรนะ?” พิงกี้ตาค้างด้วยความตื่นตะลึง “เรา ไม่ใช่ป้องกันตลอดหรอคะ? หรือว่าคุณตั้งใจจิ้มให้ถุงยาง แตก? เควิน ฉันไม่นึกเลยว่าคุณจะเป็นคนแบบนี้!

น้องแอ๊ปเปิ้ลยังไม่หนึ่งขวบเลย เธอยังไม่อยากรีบมี คนที่สองในตอนนี้

เธอยังสาวขนาดนี้ ยังไงก็ต้องใช้ชีวิตชิวๆสักสอง สามปีก่อนแล้วค่อยวางแผนมีลูกคนใหม่

” เควินกลั้นหัวเราะไว้ และพูดบางเบา “ผมแค่อยากบอกว่า คลอดลูกคนนึงจะโง่ไปสามปี ที่คุณโง่เนี่ ยก็อาจจะเพราะสาเหตุนี้ก็ได้ ไม่ต้องเอามาใส่ใจเกินไป หรอก”

พิงกี้ “

เธอไม่รู้จริงๆว่าท่านประธานใหญ่คนนี้หัดพูดตลก เป็นตั้งแต่เมื่อไหร่ เยี่ยมจริงๆ

เหอะๆ!

กำลังประชดอยู่ในใจ เอวของพิงกี้ก็ถูกแขนที่กำยำ ของผู้ชายขวางเอาไว้แล้ว เธอก้มหน้าดู เผชิญกับดวงตา ดำเข้มและรอยยิ้มที่เอ็นดูจากใบหน้าหล่อเหลาของผู้ชาย “พิงกี้ ผมไม่อยากซ่อนคุณไว้อีกต่อไปแล้ว


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ