คุณชายมาดเข้มกับคุณหนูสุดแสบ

บทที่393: นอนคนเดียวมันทรมาน



บทที่393: นอนคนเดียวมันทรมาน

พิงกี้มีการเตรียมใจไว้แล้ว

และแล้ว เธอเพิ่งออกมาจากห้องน้ำ ตอนที่เปิด ก๊อกน้ำกำลังเตรียมล้างมือ ก็เห็นร่างเงาสูงใหญ่ของ ผู้ชายผ่านหน้ากระจก

เขาได้ยืนอยู่ข้างหลังเธออย่างสงบ จ้องมองเธอ ไว้ ทําให้เธออยากหลอกตัวเองว่าเขาไม่ได้มาหาเธอก็ หลอกไม่ได้เลย

พิงกี้ถอนหายใจทีนึง

งอนมานานขนาดนี้ รู้สึกความโกรธในใจก็ได้จาง หายไปตั้งเยอะแล้ว

อีกอย่าง กลับไปดูน้องแอ๊ปเปิ้ลอย่างลับๆล่อๆอยู่ เป็นปรำจะก็ไม่ใช่เรื่อง สองสามครั้งหลังๆน้องแอ๊ปเปิ้ล เจอเธอก็ร้องไห้หนักจะแย่อยู่แล้ว มือน้อยๆจับเธอเอา ไว้ไม่ยอมให้เธอไป เธอแค่เห็นก็สงสารจับใจจะแย่อยู่ แล้ว

แต่ว่าอารมณ์ของเธอก็ไม่ใช่ว่าอยู่ดีๆแล้วจะมา

เป็นแบบนี้

ผู้หญิงล้วนแต่มีความคิดเล็กๆน้อยๆอยู่แล้ว ไม่พูด ออกมาก็รู้สึกอดกลั้นจนใจกระวนกระวายสับสน แต่ถ้า พูดออกมาก็ทำให้ตัวเองขายหน้าและดูด้อยค่า
ตั้งแต่เล็กพิงกี้ก็ไม่เคยได้สัมผัสถึงความรักจากพ่อ แม่ มีปัญหาเยอะมากที่เธอต้องคอยกังวลเอง

ไม่พูดว่ามีใจแต่ไม่มีเรี่ยวแรงหรือเปล่า ไม่พูดว่า เธอเองเต็มใจกังวลหรือเปล่า แต่ตอนที่เธอต้องการ ตอนที่เธอไม่สะดวกออกหน้าเอง ไม่มีใครสามารถ ยืนอยู่ในมุมมองของฝ่ายแม่และเธอช่วยเธอพูดอะไร หน่อยเลย

อย่างเช่น เรื่องที่เควินไม่ยอมเปรยเรื่องแต่งงานสัก

ที

ตอนนี้ถึงเธอจะมีสมุดจดทะเบียนเล่มนึง แต่ใน ทะเบียนบ้านยังเป็นสถานะโสดอยู่ คนอื่นก็ไม่รู้ว่าเธอ คือฐานะอะไรกันแน่ แม้แต่พายุอยู่บ้านก็เรียกเธอคุณ ผู้หญิง” แต่อยู่ข้างนอกก็ยังเรียกเธอ“คุณพิงกี้” อยู่

บางทีไม่แคร์ รายละเอียดพวกนี้ก็ไม่คุ้มค่าให้แก่ การพูดถึง แต่บางทีพอแคร์ขึ้นมา เธอก็รู้สึกเสียใจเป็น อย่างมาก

นึกถึงความรู้สึกหมดหนทางตอนที่

เข้าL.K.Crystal วิล่าไม่ได้ ความเสียใจแบบนั้นก็ได้ กลายมาเป็นความโกรธ

แต่อารมณ์แบบนี้ เควินไม่มีทางเข้าใจหรอก
ส่วนเธอก็ไม่มีทางเป็นฝ่ายเปิดปากพูดก่อนด้วย

นี่คือความหยิ่งในศักดิ์ศรี

ถึงแบบนี้จะมีผลเสียต่อการสื่อสาร และยิ่งไม่ดีต่อ ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ แต่เธอก็ทิ้งศักดิ์ศรีตัวเองไม่ลง จริงๆ

เงียบไปนานมาก เควินยื่นมือมาจับที่ข้อมือเธอไว้ “คืนนี้ป้ามะลิทำอาหารที่คุณชอบหลายอย่างเลย กลัว คุณจะทานอาหารข้างนอกไม่ชิน ผมให้นายพายุส่งมา ที่โรงพยาบาล เดี๋ยวเราทานด้วยกันนะ”

(( พิงกี้สีหน้าเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย เธอ เงยหน้ามองเขา “คุนแน่ใจเหรอว่าจะพูดเรื่องกินใน ห้องน้ำ?

กลิ่นของที่นี่ไม่ถือว่าดีนะ

เควิน “

เขาได้จูงมือของพิงกี้เดินออกมาจากห้องน้ำ

พิงกี้อยากสะบัดมือของเขาทิ้ง เธอพูดเสียงเบา อย่างไม่พอใจ “เควิน ครั้งนี้คุณยังไม่ได้ขอโทษฉัน เลย!”
ถึงแม้เควินจะเป็นคนที่นิสัยเงียบและเคร่งขรึม แต่ ก็ไม่เคยห้ามพูดความผิดของตัวเอง ยิ่งไม่ดื้อรั้นใส่เธอ แม้กระทั่งยอมก้มหัวกล่อมเธอด้วยซ้ำ แต่ครั้งนี้ เขาลืม อะไรไปหรือเปล่า?

พิงกี้นึกว่าเสียงของตัวเองเบามาก แต่แถวห้องน้ำ เงียบมาก แค่พูดจาเสียงดังหน่อยก็มีคนได้ยินแล้ว

เควินมีแววตาจนปัญญา “กลับไปค่อยพูดไม่ได้ หรือไง?”

พิงกี้ “

เขาได้หยุดฝีเท้าไว้โดยตรง มือทั้งสองกุมไหล่เธอ เอาไว้ “ที่นี่คนเยอะ เดี๋ยวกลับไปค่อยไปขอโทษคุณดีๆ โอเคมั้ย?”

พิงกี้ “

เธอเข้าใจแล้ว

เหลือบมองคนที่ล้างมือและเดินออกจากมาห้องน้ำ ทีนึง พิงกี้ก็รู้แล้วว่าเขาเป็นคนเอาหน้าเหมือนกัน

เธอเอาหน้า เขาเองก็เอาหน้าเหมือนกัน……..

พิงกี้เหลือบมองผู้ชายที่มีแววตาจนปัญญาแต่ยิ่งกลัวเธอโกรธมากกว่าแล้ว จู่ๆเธอปิดปากกลั้นหัวเราะ เอาไว้ ดวงตาทั้งคู่ยิ้มเป็นรูปเสี้ยวพระจันทร์

เควินเห็นภาพนี้แล้วสีหน้าดูผ่อนคลายลง “พิงกี้ คุณให้อภัยผมแล้วใช่ไหม?”

“ถือว่าใช่”

เควินรู้สึกดีใจและถามต่อว่า “บอกสาเหตุกับผม ได้มั้ย?” ขอแค่รู้สาเหตุ ครั้งหน้าเขาก็จะระวังไม่ทำผิด อีก

ชีวิตที่นอนคนเดียวครึ่งเดือนมานี้มันช่างทรมาน ใครไม่เจอกับตัวไม่รู้หรอก!

“ไม่ได้” พิงกี้มองเขาด้วยสายตาตักเตือน “ถ้ายัง ถามอีกฉันจะโกรธอีกแล้วนะ! อย่าถามๆอยู่นั่นแหละ คุณเป็นหัวหน้าของหน่วยสืบลับ เป็นท่านประธานใหญ่ ไม่ใช่หรอ? เรื่องแค่นี้ก็ไม่เข้าใจ เอาคุณไว้มีประโยชน์ อะไร?”

เควิน “

สรุปนี่คือง้อสำเร็จแล้วหรือว่าง้อไม่สำเร็จ? เขา คิดว่าเดี๋ยวถ้ายังง้อไม่สำเร็จ เขาก็จะแบกเธอกลับบ้าน โดยตรง เพราะยังไงซะก็บรรเทาลงหน่อยแล้ว ใช้ความ แข็งกร้าวก็น่าจะไม่มีปัญหาแล้วมั้ง?
ท่านประธานมีแผนอยู่ในใจ

การผ่าตัดครั้งที่สองของเตชิต ที่จริงถ้าพูดอย่าง เข้มงวดก็ไม่ถือว่าเป็นการผ่าตัดหรอก

แค่เพราะว่าสถานการณ์พิเศษมาก อาจจะต้อง ใช้มาตรการฉุกเฉินทุกเมื่อ ดังนั้นถึงได้มีหมอพวกนึง เตรียมพร้อมกับการช่วยเหลือ

ผ่านไปอีกเกือบแปดชั่วโมง การผ่าตัดถือว่าได้จบ

ลงเสียที

เตชิตถูกเข็นออกมาจากห้องผ่าตัด ครั้งนี้เขามีสติ อยู่ เพียงแค่สีหน้าดูไม่ดีเฉยๆ

เพราะจะต้องฉีดสารพิษตัวใหม่เข้าไปในร่างกาย ของเขาเพื่อมาถ่วงดุลกับสารพิษของก่อนหน้านั้น ดัง นั้นคุณหมอจึงจะสังเกตอาการของเขาทั้งกระบวนการ จึงจำเป็นต้องให้เขาอยู่ภายใต้ความตื่นตัวและให้ความ ร่วมมือกับคุณหมอเกี่ยวกับปฎิกิริยาของเขา จะได้ สามารถปรับเปลี่ยนการรักษาตามอาการของเขา

ความเจ็บปวดทรมานมากมาย จึงต้องแบกรับเอา ไว้อย่างนี้
นี่เป็นการทดสอบความมุ่งมั่นที่เกินกว่ามนุษย์ชัดๆ

เตชิตนอนอยู่ที่เตียงผู้ป่วยด้วยสีหน้าซีดเซียว เหงื่อซึมจนเส้นผมของเขาเปียกชุ่ม ทั้งเนื้อทั้งตัว ของเขาดูอิดโรยมาก มีแต่ดวงตาดำเข้มที่ยังคงเปล่ง ประกาย เพ่งมองพิงกี้ไว้ ราวกับว่าจะบอกว่า “ผมผ่าน มันมาได้แล้ว”

พิงกี้รู้สึกทั้งทรมานและทั้งรู้สึกปลื้มใจ ไม่มีเวลา สนใจด้วยซ้ำว่าด้านหลังยังมีท่านประธานที่สีหน้าดูแย่ และอารมณ์ไม่ดีอยู่ เธอก็ยกฝีเท้าเดินตามรถเข็นของ เตชิตไปอย่างห้ามใจไม่ได้แล้ว

คุณหญิงเพียงดาวก็อยู่

เดินตามหลังรถเข็น ดวงตาทั้งคู่ของคุณหญิงเพียง ดาวแดงก๋า แต่ก็ยังสาทารถปลอบโยนเตชิตด้วยความ อ่อนโยน สามารถเห็นได้เลยว่าภายในระยะเวลาอัน สั้นเธอได้เติบโตขึ้นไม่น้อย จากคุณหญิงสูงส่งที่ถูก ลูกชายและสามีปกป้องอย่างดี ตอนนี้กลายมาเป็นคุณ แม่ที่แข็งแกร่ง

ที่คุณหญิงเพียงดาวอยู่ที่นี่ ก็มีสาเหตุอยู่

เพราะการผ่าตัดของเตชิตในครั้งนี้มีความเสี่ยงสูง พิงกี้คิดว่าจะปิดบังคุณหญิงเพียงดาวไว้อย่างนี้ตลอด ไม่ได้ จึงพูดโน้มน้าวเตชิตแล้วแจ้งให้คุณหญิงเพียงดาวทราบ

สามารถบอกได้เลยว่า ในโลกใบนี้ไม่มีใครเป็นห่วง เตชิตเท่าคุณหญิงเพียงดาวอีกแล้ว ในฐานะที่เป็นแม่ ของเตชิต เธอมีสิทธิ์ที่จะได้รับรู้ และจำเป็นที่จะได้รับรู้ ด้วย

ดีที่การผ่าตัดยังถือว่าสำเร็จอยู่ คุณหญิงเพียงดาว กับเตชิตไม่ได้เดินมาถึงขั้นจนตรอก

หลังจากได้รู้รายละเอียดของสถานการณ์จาก ดนัย พิงกี้ก้รู้สึกวางใจลงอย่างสิ้นเชิงแล้ว

พิษต้านพิษของครั้งนี้ไม่ได้เกิดเรื่องเหนือความ คาดหมายเหมือนคราวก่อน ถึงกระบวนการจะเจ็บปวด และทรมาน แต่สารพิษที่อยู่ในร่างกายของเตชิตได้ ขจัดไป80%แล้ว สารพิษที่เหลือก็สูญเสียการโจมตี ถ้า เปลี่ยนถ่ายเลือดอีกครั้ง ก็สามารถขจัดสารพิษได้หมด แล้ว

นี่เป็นข่าวดีมาก

ถึงเปลี่ยนถ่ายเลือดจะมีความเสี่ยง ค่าใช้จ่ายของ แต่ละครั้งก็หลายล้านบาท แต่พูดจากเศรษกิจของ ตระกูลมหาเจริญศิลป์แล้ว ตอนนี้ยังมีเตชิตอยู่ ยังไม่ได้ ล้มละลาย นี่ไม่ใช่ภาระสำหรับพวกเขาเลย
พูดจากด้านความเสี่ยง เพื่อสุขภาพของวันข้าง หน้า ทุกข์ทรมานที่ตอนนี้ได้รับก็ถือว่าคุ้มค่าแล้ว

ในโรงพยาบาล มีคุณหญิงเพียงดาวอยู่เป็นเพื่อน เตชิต พิงกี้ถึงเวลาก็เตรียมตัวขอกลับก่อนแล้ว

ไม่ต้องให้เควินให้ส่งสัญญาณให้ลับๆด้วยซ้ำ

นั่งอยู่ที่ห้องผู้ป่วยไม่ถึงสิบนาที พิงกี้ลุกขึ้นขอตัว ลาก่อน ไว้พรุ่งนี้จะมาเยี่ยมใหม่ เธออยู่ที่นี่เตชิตไม่ สะดวกเปลี่ยนเสื้อ แน่นอนว่ากลับเร็วหน่อยจะดีกว่า

คุณหญิงเพียงดาวส่งเธอถึงหน้าประตู ถึงแม้ สายตาของเตชิตจะมองดูเธออยู่ตลอด แต่กลับไม่ได้ พูดจารั้งเธอไว้

เขารู้ว่ารั้งเธอไม่อยู่

ออกมาจากโรงพยาบาล พิงกี้นึกว่าจะ กลับL.K.Crystalวิล่าโดยตรง นิสัยที่ไม่สามารถ ยอมรับความผิดพลาดเล็กๆน้อยๆของเควิน คาดว่า คงจะดึงเธอมาคุยดีๆ ถามให้ชัดเจนว่าทำไมครั้งนี้ถึงได้ โกรธและทำสงครามเย็นนานขนาดนี้

แต่ที่ทำให้เธอคิดไม่ถึงคือ ครั้งนี้เธอเดาผิดแล้ว


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ