คุณชายมาดเข้มกับคุณหนูสุดแสบ

บทที่534: ตั้งกฎให้คุณหน่อย!



บทที่534: ตั้งกฎให้คุณหน่อย!

คาดว่า………

ไม่ ไม่ใช่คาดว่า พายุหน้าตาขี้เหร่ขนาดนั้น คง ต้องถูกน้ำหวานปฎิเสธแน่นอนมั้ง?

คิดถึงตรงนี้ เตชิตยักคิ้วด้วยความได้ใจ อารมณ์ผ่อนคลายลงเยอะเลย

แม้แต่เขาที่หน้าตาหล่อขั้นเทพขนาดนี้ ยัยโง่ นั่นยังไม่ชอบเลย แล้วจะชอบนายพายุที่หน้าตาไม่ หล่อแถมยังไม่มีสมองได้ยังไง?

แต่ว่า บางทีผู้หญิงก็อาจจะน้ำเข้าสมอง แล้วไป รับปากก็เป็นได้ล่ะ………ไม่ใช่บอกว่าผู้ชายมีสติ มาก แต่ผู้หญิงกลับเป็นสัตว์ที่มีความรับรู้ที่กดสติไว้ เหรอ?

นี่ช่างน่าเศร้าใจจริงๆ

อยู่ใต้ชายคาเดียวกันมานานขนาดนี้ เขาจะ มองดูน้ำหวานเดินทางผิดไม่ได้ อะไรที่ควรพูดเขา ก็ต้องพูดอยู่ ถ้าหากต่อไปน้ำหวานเสียเปรียบ คนที่ จิตใจดีอย่างเขาต้องเสียใจกับการเพิกเฉยของวันนี้ แน่
ใช่ ก็คือแบบนี้แหละ!

พอเกิดความคิด เตชิตก็กระโดดขึ้นมาจาก โซฟา พุ่งไปตบประตูที่ห้องนอนของน้ำหวาน พร้อม ตะโกนเสียงดัง “น้ำหวาน คุณออกมาเดี๋ยวนี้!”

เขาอารมณ์ไม่ค่อยดี หลายวิมานี้น้ำหวาน เอาแต่อยู่ในห้อง ถึงขั้นเริ่มโหมดที่ไม่ออกมาทาน ข้าวอีกแล้ว ไม่มีจิตสำนึกที่อยู่บ้านคนอื่นเลย!

มีที่ไหนกันที่อยู่บ้านคนอื่น ยังมาทำตัวเป็นเจ้า ใหญ่นายโตอย่างนี้?

คิดว่าใครๆก็เป็นเหมือนเขาหรอ?

ในห้อง น้ำหวานกำลังศึกษาเรื่องไลฟ์สดอยู่ เธอเห็นเมื่อก่อนพิงกี้ทำไลฟ์สดเคยหาเงินได้ไม่น้อย ตอนนี้เธอยังต้องรอทางฝั่งของเควินจัดเตรียมงาน ก่อน ช่วงนี้เธอก็ไม่อยากอยู่เฉยๆ ดังนั้นเลยดูหน่อย ว่าตัวเองจะสามารถไลฟ์สดได้มั้ย?

ได้ยินเสียงเคาะประตู ทันใดนั้น เธอถอน หายใจด้วยความปวดหัว

คุณชายท่านนี้ไม่รู้เป็นอะไรอีก ไม่คิดจะให้เธอได้อยู่อย่างสงบเลยจริงๆ

ไม่เปิดประตู มันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว

ถ้าเธอไม่สนใจ คาดว่าคนที่ยืนอยู่ด้านนอก สามารถเคาะได้ทั้งวันอย่างไม่รู้จักเบื่อหน่ายเลย สู้ ใช้เวลาไม่กี่นาทีในการทำให้เขาจากไปดีกว่า

ลุกขึ้นมาจากหน้าคอม น้ำหวานเปิดประตูและ ถามด้วยสีหน้าเย็นชา “มีธุระอะไรคะ?

“เหอะ~ไม่มีธุระก็มาหาคุณไม่ได้รึไง?” เตชิต ย้อนถาม “คุณอยู่บ้านผม แต่เหมือนผมยังต้องคอย ประจบคุณอีก คุณนี่ใหญ่โตเก่งกาจจังเลยนะ!”

“เพราะฉะนั้น คุณจะไล่ฉันออกไปใช่มั้ย?” น้ำ หวานแทบอยากจะออกไปจะแย่อยู่แล้ว

“คุณฝันไปเถอะ ผมไม่ไล่คุณออกไปหรอก! คุณบอกให้ผมไล่ ผมก็ต้องไล่งั้นเหรอ แบบนี้ผมก็ ไม่มีหน้ามากเลยน่ะสิ?” เตชิตได้ใจจะแย่อยู่แล้ว

“เพราะฉะนั้น…..คุณจะเอายังไงกันแน่? มีธุระ ก็ว่ามา ไม่มีธุระก็ไสหัวไป…….
“ผมมาแจ้งกฎของบ้านหลังนี้ให้คุณ!” เตชิต เหอะๆทีหนึ่ง มองน้ำหวานจากที่สูงลงมาที่ต่ำ เขา พูดอย่างเย่อหยิ่ง “คุณอยู่บ้านผม ผมไม่เก็บค่าน้ำ ค่าไฟค่าเช่าบ้านคุณ ให้คุณทำตามกฎแค่ไม่กี่ข้อ คงไม่เกินกว่าเหตุมั้ง?

ไม่เกินกว่าเหตุอะไร?

ถึงไม่เกินกว่าเหตุ แต่เธอพักเข้ามานานขนาด นี้ เขาถึงมาแจ้งกฎของบ้านหลังนี้ ไม่รู้สึกมันสายไป หน่อยหรอ?

…คุณว่ามาเลยค่ะ” น้ำหวานตัดสินใจจะ ลองฟังดูซิ

“คุณไม่ให้ผมเข้าไปคุยข้างใน?” เตชิตเหลือบ มองด้านหลังของพิงกี้ “คุณทำเรื่องอะไรที่ให้คน เห็นไม่ได้ ถึงต้องซ่อนอย่างมิดมิดขนาดนี้? คงไม่ใช่ เกิดความอยาก แล้วแอบดูหนังโป๊อยู่ในเน็ตมั้ง?”

น้ำหวาน “รบกวนคุณอย่าเอาความ คิดของตัวเองมาตัดสินคนอื่น คุณคิดว่าใครๆก็จะได้ ยางอายเหมือนคุณงั้นหรอ?”

“คุณเข้าใจผมผิดแล้ว ผมไม่เคยแอบดู ตอนที่ผมดูหนังโป๊ผมดูอย่างเปิดเผยมาโดยตลอด…..อ้อ ใช่ คุณชอบของประเทศไหน ไม่แน่ผมอาจจะ สามารถแชร์ให้คุณดูก็ได้ มีของดีก็ต้องแบ่งปันกัน หน่อสิ คุณไม่ต้องอายผมหรอก”

น้ำหวาน “ …….……….”

“เอาล่ะ เราเข้าไปคุยเรื่องจริงจังกันเถอะ”

เตชิตอยากเข้าไปในห้องนอน น้ำหวานกลับ ผลักเขาออก “ไปคุยที่ห้องรับแขกค่ะ”

ไม่รู้เพราะอะไร เธอไม่อยากให้เตชิตเข้าไปใน

ห้องเธอ

คนๆนี้ชินกับการได้คืบแล้วจะเอาศอก และไม่มี ขอบเขตในการเข้าหากันเลย บางทีเธอกลัวว่าเขา จะสร้างปัญหาอะไรออกมาจังเลย……..

วิธีที่ดีที่สุดก็คือรักษาระยะห่างดีกว่า

ทั้งคู่นั่งอยู่บนโซฟา น้ำหวานจริงจังเคร่งขรึม มาก นั่งตัวตรง มือทั้งสองวางอยู่บนตัก ดวงตากลม โตจ้องมองเตชิตอย่างไม่กระพริบเลย จนเขาที่นั่ง อยู่บนโซฟาก็รู้สึกได้ถึงบรรยากาศที่เคร่งขรึมนี้ เขาก็นั่งตัวตรงอย่างควบคุมไม่ได้

“ก็แค่พูดเรื่องนิดหน่อย คุณจำเป็นต้อง เคร่งขรึมขนาดนี้เลยเหรอ?” เตชิตขมวดคิ้วและ เปิดปากพูด

น้ำหวานมองดูนาฬิกาแขวนบนผนัง “นี่ก็ผ่าน ไปห้านาทีแล้ว คุณอยากพูดอะไรก็รีบพูดมาเถอะ คุณพูดแล้ว ฉันถึงจะรู้ว่าคุณมีข้อเรียกร้องอะไร ไม่ใช่เหรอคะ?”

“มันก็ใช่……” เตชิตพยักหน้า “งั้นผมพูดเลย แล้วกัน”

“อืม” น้ำหวานเตรียมตัวตั้งใจฟัง

“ข้อหนึ่ง ตอนที่อยู่บ้านผม คุณจะยั่วโมโหผม ไม่ได้ ถ้าระหว่างเราสองคนเกิดความขัดแย้งเพราะ เรื่องอะไรก็แล้วแต่ คุณต้องเป็นฝ่ายยอมผม และฟัง ผม ข้อนี้คุณเห็นด้วยมั้ย?”

” น้ำหวานพยักหน้า “

….…..ได้ค่ะ”

ก็ไม่ใช่แค่ยอมเด็กอนุบาลคนหนึ่งเหรอ? เธอก็ ถือซะว่าเป็นต้นข้าวอีกคนก็แล้วกัน
“ข้อสอง บ้านผมเป็นพื้นที่ส่วนตัว ถึงแม้ผมอนุ ญาติให้คุณอาศัยอยู่ที่นี่ แต่คุณก็เห็นที่นี่เป็นถิ่น ของตัวเองไม่ได้ ซึ่งนั่นก็หมายความว่า คุณจะพา คนอื่นมาที่บ้านไม่ได้ ข้อนี้คุณเห็นด้วยมั้ย?”

“เห็นด้วยค่ะ” น้ำหวานพยักหน้า

นี่เป็นข้อเรียกร้องที่ปกติ ย่อมไม่มีปัญหาอยู่

แล้ว

“ข้อสุดท้าย……” เตชิตกระแอมอย่างอึดอัด ไปสองที ดึงสายตากลับ และพูดอย่างไม่ค่อยเป็น ธรรมชาติ “ช่วงที่อยู่บ้านผม ดีที่สุดคุณอย่าคิด เรื่องความรักจะดีกว่า แน่นอนว่าผมไม่ได้ขัดขวาง คุณมีแฟนหรอก ผมกลัวหลังจากคุณมีแฟนจะน้ำ เข้าสมองแล้วพาผู้ชายเข้าบ้าน ถ้าแค่มานั่งเล่นที่ บ้านก็แล้วไป ถ้าเกิดพวกคุณมาเล่นกินตับอยู่ที่บ้าน ผมล่ะ? งั้นผมไม่ต้องขยะแขยงตายเลยเหรอ? ยัง ไง……ยังไงก็คือพาผู้ชายเข้าบ้านไม่ได้ คุณเข้าใจ หรือเปล่า?”

” น้ำหวานไปต่อไม่ถูกเลย “ฉันเข้าใจแล้วค่ะ”

เพราะอย่างไงซะ เธอก็ไม่คิดจะมีแฟนอยู่แล้ว
“มีแค่นี้ใช่มั้ยคะ?” ลุกขึ้นจากโซฟา น้ำหวาน ถาม “ตอนนี้ฉันกลับห้องได้หรือยัง?

“ไม่ได้! ผมเสริมอีกหน่อย ตอนที่ผมพูด ถ้าผม ไม่ให้คุณไป คุณห้ามไป

“แต่คุณพูดจบแล้วหนิ เมื่อกี้เป็นข้อสุดท้าย แล้วไม่ใช่เหรอ?”

“ข้อสุดท้ายแล้วจะทำไม? ข้างหลังของข้อ สุดท้ายก็สามารถเพิ่มเงื่อนไข้เข้าไปได้หนิ

..งั้นคุณพูดมาเถอะ” น้ำหวานนั่งลงมา

ใหม่

แต่ว่า เธอให้ความร่วมมือแล้ว เตชิตกลับมอง ซ้ายมองขวา ก็พูดเงื่อนไขเสริมอะไรไม่ออก

ไม่มีเรื่องแต่หาเรื่องชัดๆ

รอเก้อไปอีกหนึ่งชั่วโมง น้ำหวานรอไปรอมาก็ ไม่เห็นเตชิตเปิดปากพูดสักที ไม่นานร่างกายเธอก็ อ่อนลงไป หลับคาโซฟาด้วยความเหนื่อยล้า

หลายวันนี้เธอมีความกดดันมาก กลางคืนก็หลับไม่สนิท ทุกคืนแทบจะนอนไม่หลับ

ตอนนี้พอความง่วงคืบคลานเข้ามาหา เธอก็

หลับลึกเลย

สภาพของเธอ เตชิตที่เดิมทีก็ไม่มีอะไรทำอยู่ แล้ว นาทีแรกก็สังเกตเห็นเลย เขามองไปที่ทิศทาง ของน้ำหวานแล้วถอนหายใจเบาๆ


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ