คุณชายมาดเข้มกับคุณหนูสุดแสบ

บทที่482: ฉันไม่พิศวาสผู้ชายอย่างคุณแล้ว!



บทที่482: ฉันไม่พิศวาสผู้ชายอย่างคุณแล้ว!

น้ำหวานไม่รู้จะตอบยังไง ก็ได้แต่กัดริมฝีปากไว้ แน่น ควบคุมอารมณ์ของตัวเองไว้

พริบตาเดียวบรรยากาศก็ได้แข็งทื่อมาก

“อุ๊ย คุณดูซิ ผมนี่ชอบพูดผิดจังเลย” การินแสร้ง ทําเป็นยื่นมือตบที่หน้าตัวเองอย่างพอเป็นพิธี และ อธิบายเหมือนจะจริงไม่จริง “ก่อนหน้านั้นผมเคยเห็น รูปถ่ายที่คุณถ่ายคู่กับดุสิตในมือถือของเขา ตอนนั้นก็ รู้สึกว่าคุณสวยมากแล้ว…….ฟ้าดินเป็นพะยานได้ ผม ไม่ได้มีความหมายอย่างอื่นจริงๆนะ”

“เอาล่ะๆ พี่การิน พี่ก็พูดน้อยๆหน่อยเถอะ” ดุสิต ใช่ว่าไอคิวจะไม่ไหวสักหน่อย เห็นสีหน้าน้ำหวานไม่ดี ทันใดนั้นเขาก็รีบพูดขึ้นมาว่า “วันนี้คือมาสนุกสนาน ไม่ใช่มาฟังพี่พูดมั่วซั่วนะ ถ้าพี่ยังเป็นแบบนี้อีก ผมก็จะ พาน้ำหวานกลับแล้ว”

“โอเคๆ พี่ไม่พูดไร้สาระแล้ว ไหนๆก็มาแล้วก็เล่น ให้คึกคักและเล่นอย่างเปิดกว้างหน่อย ถ้านายกลับ ฉัน จะบอกกับพ่อแม่นายยังไง? นี่นายอย่าทำร้ายพี่สิ!”

การินชูแก้วใส่น้ำหวาน จากนั้นก็เดินไปพร้อมรอย ยิ้มที่ชวนให้คิดลึก ดุสิตทักทายกับคนอื่นๆที่เขารู้จัก เสร็จ จากนั้นก็ดึงน้ำหวานมานั่งบนโซฟาที่ใกล้กับประตู

น้ำหวานมีใจอยากไปจากที่นี่ แต่ดุสิตกลับดูความมุ่งหมายของเธอออก เขาดึงเธอไว้ไม่ให้เธอไป

“น้ำหวาน เมื่อกี้พี่ชายผมพูดไม่คิด คุณอย่าถือว่า เขาเลยนะ?”

“เขาพูดไม่คิด? ฉันว่าเขาจงใจพูดแบบนั้น มากกว่า!” น้ำหวานหายใจเร่งรีบ โมโหจนหน้าแดง

ไม่ใช่เธอคิดมาก คนปกติต่างก็คิดแบบนี้เหมือน

กัน!

ไม่พูดอย่างอื่น แค่พูดถึงสายตาที่การินมองเธอ แบบนั้น ก็ทำให้เธอไม่สบายเอาอย่างมากแล้ว

ดุสิตก็ไม่ค่อยพอใจการินเหมือนกัน แต่เขายังมี งานจริงจังต้องทำ “แต่ก่อนมาผมก็ได้บอกกับคุณแล้ว คืนนี้ที่พ่อแม่ผมให้ผมมาร่วมงานสังสรรค์นี้ก็เพื่ออยาก ให้ผมพบปะหาคู่ครองกับตระกูลศิลปการสกุล ถ้าคุณ ไม่อยู่ เดี๋ยวผมตัวคนเดียวจะรับมือยังไง?”

“แล้วคนที่จะมาพบปะหาเนื้อคู่กับคุณยังไม่มาเห รอคะ?”

“แต่ไหนแต่ไรคุณหนูมาช่าก็เป็นคนเย่อหยิ่ง ออกงานทุกครั้งจะมาเป็นคนสุดท้าย เป็นไปได้ยังไงที่ จะมาเช้าขนาดนี้?” ดุสิตส่ายหัว
ชื่อเสียงของมาช่า อยู่ในเมืองหลวงก็ถือว่าโด่งดัง

แต่ว่า ไม่ใช่ชื่อเสียงที่ดีเลย

เย่อหยิ่ง เอาแต่ใจ สายตาสูงเท่าฟ้า…….

จากการประเมินผลของมาช่า ก็ทำให้ดุสิตใช้ เหตุผลที่ตัวเองความสามารถไม่พอมาบ่ายเบี่ยงมาช่า อย่างมีมารยาทแล้ว ไม่งั้นเขาก็คิดไม่ได้หนอกว่าจะ พาน้ำหวานมางานพบปะหาเนื้อคู่แบบนี้ ต้องรู้ไว้นะ นี่ เป็นการแสดงให้มาช่าเห็นทางอ้อมเลยว่าเขาไม่มีใจให้ เธอ

“น้ำหวาน ผมคิดยังไงกับคุณๆก็รู้อยู่ ไม่งั้นคืนนี้ ผมก็ไม่ให้คุณมากับผมหรอก ผมรู้ว่าคุณกล้ำกลืนฝืน ทน แต่เพื่อผมแล้วคุณทนอีกหน่อยได้ไหม?” ดุสิต เกลี้ยกล่อมด้วยเสียงอ่อนนุ่ม

“.…..…….อืม” น้ำหวานหายใจลึกๆทีหนึ่ง “งั้นฉันไป (( เข้าห้องน้ำแป๊บหนึ่ง เดี๋ยวกลับมา โอเคไหมคะ?”

“โอเค คุณไปเถอะ”

“อืม”

“รีบไปรีบกลับนะ”
ครั้งนี้น้ำหวานไม่ได้ตอบ เธอได้เปิดประตูออกไป

เลย

นั่งอยู่ฝาชักโครกตั้งนาน อารมณ์ของน้ำหวานก็ยัง ไม่กลับคืนสู่ความสงบเลย

ความเจ็บปวดของเรื่องบางเรื่องไม่หายไวขนาดนั้น หรอก ความเจ็บปวดที่แทบจะขาดใจในตอนนั้น ความ โกรธเคืองและความตกอับในตอนที่รู้ว่าดุสิตเอารูปถ่าย พวกนั้นให้คนอื่นดู ถูกการินเยาะเย้ยต่อหน้า อายจน แทบอยากจะแทรกแผ่นดินหนี เหมือนคลื่นซัดมาโจมตี เธอเป็นระลอกๆ ทำให้เธออยากขวางยังไงก็ขวางเอาไว้ ไม่อยู่

อารมณ์ย่ำแย่มาก

น้ำหวานหยิบมือถือออกมาอยากจะโทรหาพิงกี้ แต่ สุดท้ายก็ได้ลังเลอีก

ตอนนี้ตัวเองก็เหมือนไวรัสที่นำพามาซึ่งพลังงงาน ด้านลบ เธอไม่อยากเอาอารมณ์ด้านลบแบบนี้แพร่ไป ให้เพื่อนรัก………..เดิมทีพิงกี้ก็กังวลเรื่องของเธอมาก พอแล้ว ถ้ารู้เรื่องของเธออีก ไม่แน่เธออาจจะทิ้งลูกทิ้ง สามีมาหาเธอเลยก็เป็นได้
จะไปรบกวนเธอไม่ได้

อย่างมากก็แค่หลังจากมาช่าถึงแล้ว โชว์หวานกับ ดุสิตเสร็จก็กลับบ้านเลย อืม…..เอาตามนี้แหละ

คิดถึงตรงนี้แล้ว น้ำหวานออกจากห้องน้ำอย่าง แฝงด้วยอารมณ์ที่“รีบตายจะได้รีบไปเกิดใหม่

ล้างมืออย่างใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว น้ำหวานหัน หลัง จู่ๆก็ชนเข้าไปในอ้อมอกของผู้ชาย

“ขอโทษค่ะ….…..” เธอก้มหน้าขอโทษ และเดินไป ด้านข้าง

จะไปรู้ได้ยังไง เธอเพิ่งขยับ ผู้ชายก็ขยับตามเธอ

แล้ว

เธอเดินไปทางซ้าย ผู้ชายก็เดินมาทางซ้ายตาม เธอ ทำให้เธอหมดโอกาศที่จะจากไป

ถึงจะใจลอยแค่ไหน เชื่องช้าแค่ไหน น้ำหวานก็ สังเกตเห็นว่านี่ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่ว่าผู้ชายจงใจทำ แบบนี้

“คุณผู้ชายท่านนี้คะ…….

นึกว่าผู้ชายคนนี้จงใจแกล้งเธอ ทันใดนั้นน้ำหวานเงยหน้าขึ้นมามอง พอเงยหน้าปุ๊บ แววตาที่โกรธเคืองได้ กลายมาเป็นความประหลาดใจและขยะแขยงทันที

คนที่มาขวางทางเธอคือ การิน!

“นี่คุณจะทำอะไร?” น้ำหวานสีหน้าเย็นชา

“อย่าอารมณ์ขึ้นสิครับ ผมไม่ได้มีเจตนาร้าย นะ……” การินยกมือทั้งสองข้างขึ้นมาอย่างยอมจำนน “ผมก็แค่เห็นว่าคุณอยู่ที่ห้องน้ำคนเดียวมานานมาก แล้ว กลัวคุณจะเกิดเรื่องอะไรขึ้นมา เลยตั้งใจมาดูคุณ โดยเฉพาะเลย”

“ฉันสบายมาก ไม่รบกวนคุณแล้ว “น้ำหวานถูก เขาวงล้อมอยู่ในช่องว่างระหว่างเขาและอ่างล้างมือที่ คับแคบ รู้สึกอากาศที่สูดเข้าไปก็ยังมีกลิ่นเลวทรมาน ของเขาปะปนด้วย ทันใดนั้นสีหน้าเธอยิ่งเยือกเย็นขึ้น ไปอีก เหมือนมีน้ำแข็งเคลือบไว้ชั้นหนึ่ง

การินพูดซะฟังดูดี แต่คำพูดที่เขาพูดแต่ละคำ ไม่ แม้แต่ตัวเครื่องหมายเธอก็ยังไม่เชื่อเลย!

“คำพูดของคุณน้ำหวานก็เฟคเกินไปหรือเปล่า ครับ ทั้งๆที่อารมณ์ไม่ดีทำไมดันจะต้องบอกว่าตัวเอง สบายมากด้วย? ผู้หญิงไม่ซื่อสัตย์นี่มันไม่น่ารักเลยนะ ใช่ไหม?” รู้สึกได้ว่าน้ำหวานถอยห่าง ริมฝีปากของกา รินแฝงด้วยรอยยิ้มที่ชั่วร้าย ร่างกายไม่ถอยห่างให้ไม่พอแต่ยิ่งใกล้เข้าไปอีก เข้าใกล้ทีละก้าวๆ บีบจนแผ่น หลังของน้ำหวานแนบชิดอยู่ที่อ่างล้างมือ

“ฉันซื่อสัตย์หรือไม่ซื่อสัตย์ แล้วมันเกี่ยวอะไรกับ คุณด้วย? คุณไม่ใช่ลูกฉันสักหน่อย ฉันจำเป็นต้องทำ สีหน้าดีใส่คุณด้วยเหรอ?”

“ผมไม่ใช่ลูกคุณอยู่แล้ว แต่ผมสามารถมีลูกกับ คุณได้นะ คุณคิดว่าเป็นไงบ้าง?” การินโน้มตัว ดมไปที่ ข้างหูของน้ำหวาน หลับตาไว้และพูด “คุณน้ำหวาน ไฝ ตรงหน้าอกคุณสวยมาก ผมลองจับดูได้ไหม?”

“นี่แก……ไอ้สารเลว!” น้ำหวานโมโหจนผลักกา รินอย่างแรง มือยื่นออกไปจะตบเขา แต่กลับถูกเขาจับ ข้อมือไว้แล้วจูบลงที่หลังมือของเธอ ทันใดนั้นสีหน้า ของน้ำหวานยิ่งแดงก่ำ เธอโมโหจนตัวสั่น

การินอาศัยตอนที่เธอโมโหจนมึนตึ๊บ ได้ดึงเธอมา ในอ้อมอกโดยตรง และถามอย่างบางเบาว่า “คืนนี้ไป กับผมนะ โอเคมั้ย? ผมรับประกันว่าผมจะอ่อนโยนกับ คุณมาก จะไม่เหมือนผู้ชายป่าเถื่อนพวกนั้นเด็ดขาด”

น้ำหวานกัดฟันไว้ “ไสหัวไป!”

“นี่พวกคุณกำลังทำอะไรกันน่ะ?”

จ่ๆเสียงโกรธกริ้วและตื่นตกใจดังขึ้น ดสิตเดินก้าวยาวมา แววตา มืดครึ้มจ้องทั้งสองไว้ แต่แล้ว ตอนที่ เขาเห็นสีหน้าที่โมโหจนอยากตายของน้ำหวาน ความ โกรธที่ถูกทรยศในแววตาได้เปลี่ยนมาเป็นความโกรธที่ แฟนตัวเองถูกรังแกเหยียดหยาม

“การิน ไอ้เดียรัจฉาน!”

เสียงด่าที่หนักแน่น ดุสิตกำหมัดชกไปที่หน้าของ

การิน

แต่การินดึงน้ำหวานมาบังหมัดของดุสิต น้ำหวาน ถูกดึงไปอย่างไม่ทันตั้งตัว แผ่นหลังเธอหันให้กับดุสิต จึงถูกชกเข้าอย่างจัง ทันใดนั้นเธอเจ็บจนหน้าผากมี เหงื่อไหลออกมาเป็นเม็ดใหญ่

“น้ำหวาน!” ดุสิตเรียกด้วยความตื่นตกใจ จากนั้น ก็รีบไปดูสถานการณ์ของน้ำหวาน “คุณเป็นยังไงบ้าง ผมทําคุณเจ็บมากหรือเปล่า?”

เจ็บหรือเปล่า?

เจ็บ!

แต่ที่ยิ่งทำให้น้ำหวานโกรธคือ ไม่ใช่ถูกชกที่หลัง แต่ถูกคนเหยียดหยาม

เธอตีมือของดุสิตทิ้งอย่างแรง อารมณ์พังทลายพูดเสียงดังอย่างควบคุมอารมณ์ไม่ได้ “คุณอย่ามา แสร้งทำเป็นถามฉันว่าตอนนี้ฉันเป็นยังไงบ้างเลย นี่ ไม่ใช่สิ่งที่คุณอยากได้หรอ?”

“ผมทำไม?”

“ตอนที่คุณเอารูปถ่ายให้คนอื่นดูอย่างไร้มันสมอง คุณก็ไม่เคยคิดหรือว่าจะมีเหตุการณ์อย่างวันนี้? ดุสิต คุณเป็นผู้ชายนะ ไม่ใช่เด็กที่ยังไม่ได้หย่านมแม่ คุณมี ความคิดเห็นของตัวเองหน่อยได้มั้ย อย่าเจอเรื่องอะไร ก็ใจร้อนลุกลี้ลุกรนไปถามคนอื่นได้มั้ย? ต่างก็บอกว่า อย่าเอาเรื่องขายหน้าของที่บ้านแพร่ออกไปข้างนอก แต่คุณนี่แทบอยากจะให้คนทั้งโลกได้รู้ว่าฉันถูกข่มขืน ใช่มั้ย?”

“ทำไมคุณถึงคิดว่าผมเป็นคนแบบนั้น?”

“ฉันไม่คิดว่าคุณเป็นแบบนั้น แล้วจะให้ฉันคิดว่า คุณเป็นคนแบบไหนได้อีก?” น้ำหวานหายใจลึกๆทีหนึ่ง พิงอยู่ที่ฝาผนังอย่างหมดเรี่ยวแรง “ช่างเถอะ ฉันไม่ อยากคุยอะไรกับคุณอีกแล้ว เราจบกันแค่นี้เถอะ”

“จบยังไง?”

“จบอย่างเลิกลากัน”

“น้ำหวาน!” ดสิตพดเสียงสง น้ำเสียงเต็มไปด้วยความไม่กล้าที่จะเชื่อ “เพราะเรื่องแค่นี้ คุณก็จะเลิกกับ ผมเลย?!”

“เพราะเรื่องแค่นี้ หรือนี่ยังไม่พออีกเหรอ? คุณ อยากเอายังไงอีก?” น้ำหวานพูดย้ำด้วยความโกรธ “สรุปก็คือฉันเลิกกับคุณ เราเลิกกันแล้ว! คุณได้ยิน มั้ย? คุณอยากไปพบปะหาเนื้อคู่กับคุณมาช่าง คุณก็ไป เถอะ ฉันไม่พิศวาสผู้ชายอย่างคุณแล้ว!”

น้ำหวานพุ่งออกมาจากห้องน้ำด้วยความโกรธ ดุสิตอึ้งไปสักพักเสร็จอยากไปดึงเธอ แต่ว่าเธอเดินไว เกิน เขาแค่ลังเลไปครู่เดียว ก็พลาดโอกาศที่ดึงเธอไว้ เลย

“น้ำหวาน!” มองดูร่างเงาที่เดินไปอย่างไวของน้ำ หวาน ดุสิตได้วิ่งตามไป

น้ำหวานไม่อยากสนใจเขา ยิ่งเร่งฝีเท้าให้ไวขึ้น

เธอโชคดีมากที่วันนี้ไม่ได้ใส่ส้นสูง

ประมาณ7-8เซนติเมตรมา ดังนั้นเธอถึงวิ่งไวมาก และ ไม่ต้องกลัวว่าข้อเท้าจะพลิกด้วย

เธอเข้ามาในลิฟท์ปุ๊บก็กดปุ่มปิดลิฟท์อย่างบ้าคลั่ง ตอนที่ดุสิตมาถึง ประตูลิฟท์ก็ได้ปิดสนิทแล้ว เธอพิง ลิฟท์ที่เย็นเฉียบอย่างโศกเศร้า
น้ำตาไหลพรากลงมาอย่างไม่หยุด


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ