คุณชายมาดเข้มกับคุณหนูสุดแสบ

บทที่ 73 ต้องดูว่าคนนี้เธอรู้หน้าที่ไหม?



บทที่ 73 ต้องดูว่าคนนี้เธอรู้หน้าที่ไหม?

เห็นฟังก็ลงมาอย่างเชื่อฟัง เควินก็รู้สึกผ่อนคลาย

หน่อย

“ เธอไม่ใช่ถามฉันว่ามีสิทธิ์อะไรหรือ?สิทธิ์ของฉันก็

คือฉันมีอำนาจ !

ไม่มีสิทธิ์ต่อกลอนกับฉันก็เชื่อซะฟังดีๆ อย่าหาเรื่อง หยามตัวเอง ”

“ ถ้าวันหนึ่งฉันมีอำนาจใหญ่โตขึ้นมาหล่ะ? เธอ

ถามกลับ

“ ชีวิตฉันอยู่ตรงนี้ ขอแค่เธอเอาไปได้ เธอมาเอา

ได้ทุกเมื่อ

เฮอะ…” พิงกี้ยิ้มอย่างดูถูก “คุณอย่าเพิ่งได้ใจ

ทำเป็นไม่กลัว

ไม่แน่สุดท้ายคุณตายด้วยน้ำมือฉันก็เป็นได้ ! ”

“ ฉันรอวันนั้น” น้ำเสียงเควินมั่นใจเหมือนไม่กลัว

เพราะเขาคิดว่าเธอรักเขาเลยไม่กล้าลงมือ

หรือว่าเพราะมีความมั่นใจในตัวเองสูงจนไม่กลัวพิงก็ไม่รู้ เงียบไปครู่นึง

เธอเปิดปากคุยเงื่อนไข “ ถ้าฉันไปกับคุณ คุณจะ

ยอมปล่อยเขาไหม?

ถ้าคุณไม่ปล่อยเขา รอให้ฉันมีแรงฉันก็จะอาละวาด

พลิกแผ่นดินให้คุณไม่ได้อยู่อย่างสงบเลย

คนเราเวลาตกที่นั่งลำบากจำเป็นต้องก้มหัวเพราะรู้

ว่าหนีไม่รอด

เธอเก็บความห้าวหาญไว้

อยากได้แค่คำรับประกันเพื่อแลกกับความปลอดภัย

ของมานพ

ก็ต้องดูว่าคืนนี้เธอรู้หน้าที่ไหม?”

“…เฮอะๆ

” พิงกี้แกล้งหัวเราะคำนึง รู้หรือไม่รู้

หน้าที่ พูดซะไพเราะ

โถ่! มันก็คือเรื่องอย่างว่าที่ชายหญิงชอบทำกันนั่น

แหล่ะ?
เพื่อไม่ให้คนรอบข้างได้รับความเดือดร้อน เธอยัง

กล้าไม่รู้หน้าที่หรือ?

* ปล่อยฉันลงมา ฉันเดินเองได้

“ ไม่ต้อง อุ้มเธอไม่เหนื่อย

” พิงกี้ทำตาขาวใส่

“ ฉันไม่ได้กลัวคุณเหนื่อย แต่ฉันรู้สึกร้อน คุณ

ปล่อยฉันลงมาเถอะ

.เควินไม่พูดแต่กูดูออกอย่างชัดเจนเขาไม่มี

ทีท่าจะปล่อยเธอลงมา

พิงกี้เห็นเขาไม่พูดจา เธอก็อยากไม่ขัดขืน ผู้ชาย คนนี้นิสัยแข็งทื่อและเย็นชา

แถมเป็นคนแข็งกล้าขนาดไหนเธอเคยเห็นมาตั้ง นานแล้ว ช่างมัน ร้อนก็ร้อนเถอะ

ร้อนตายไปเลยยิ่งดี! เดินออกมาถึงนอกตลาด

พายุที่รออยู่ข้างรถตลอดยืนต้อนรับอย่างยิ้มแย้ม

” ท่านประธานหาดพิงกี้เจอแล้วหรือครับ? รีบขึ้นรถเร็วครับ

อากาศข้างนอกมันร้อน อยู่ในรถเปิดแอร์ไว้แอร์เย็น

สบายกว่าครับ ”

แล้วเขาก็มาประจบพิงกี้

“คุณพิงกี้ครับ

ผมกลัวคุณพิงกี้จะร้อนเลยเตรียมเครื่องดื่มเย็นๆไว้

บนรถแล้วครับ

คุณเลือกดูว่าจะดื่มอะไรนะครับ

* คุณเป็นคนส่งข่าวเขาใช่ไหม?) ไม้นี้ใช้ไม่ได้ผล

กับพิงกี้หรอก

เธอไปจากห้องพักผ่อนที่ออฟฟิศ คนที่เห็นก่อนคน แรกต้องเป็นพายุแน่ๆ

ถ้าไม่ใช่พายุไปบอกเควิน ไม่แน่เธออาจจะไม่ถูกจับ เร็วอย่างนี้หรอก

ที่จริงเธอก็โง่เขลาจริงๆ เธอน่าจะปิดเครื่องให้เร็ว กว่านี้หน่อย

เธอสามารถให้จิ้งจอกลับหามานพเจอได้ เควินก็

สามารถหาเธอเจอได้
ความสามารถของเขาแกร่งกว่าที่เธอคิดไว้เยอะ

คนกระจอกอย่างเธอเป็นคู่ต่อสู้เขาไม่ได้แน่ๆ! ขึ้น

รถแล้ว

แอร์ที่เย็นสบายทำให้พิงกี้หายใจสบายๆยาวๆไป

เชือกนึง

แต่ว่าเธอก็ยังเป็นห่วงมานพอยู่ดี เธอหยิบโทรศัพท์ ขึ้นมาเตรียมโทรหาน้ำหวาน

ให้น้ำหวานมาดูแลมานพ เธอคงปล่อยให้เขาสลบ อยู่ที่พื้นแบบนี้ตลอดไม่ได้

แต่คิดไม่ถึง เธอเพิ่งหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาก็ถูกเควิน แย่งไป “ ห้ามใช้โทรศัพท์

คุณนี่ยุ่งเรื่องฉันมากเกินไปแล้วมั้ง

ฉันโทรศัพท์แล้วไปเดือดร้อนอะไรคุณไม่ทราบ

เธอยื่นมือไปแย่งโทรศัพท์อย่างโมโห แต่แย่งไม่ได้

เธอเลยยกขาขึ้นไปนั่งตักบนตัวเควินเลย

เธอใช้ฝีมือการขี้โกงที่เธอถนัดกอดแขนเขาไว้ในอก
ถึงได้แย่งโทรศัพท์มาได้ด้วยความลำบาก แต่ว่า ท่วงท่านี้ของเธอค่อนข้างอันตราย

เธอนั่งบนตักเควินด้วยลำตัวที่ช่วงบนที่ตรง หน้าอกที่ นุ่มนวลของเธออยู่ตรงหน้าเขาพอดี

ระยะห่างของทั้งสองห่างกันแค่ไม่กี่เซนติเมตร หลัง แย่งโทรศัพท์ได้

พิงกี้อยากลงมาจากตัวเขา แต่ถูกเควินจับที่เอวเธอ ไว้ “ นั่งแบบนี้แหล่ะ

แค่ตัวเธอโน้มไปข้างหน้าโดยไม่ระวัง หน้าอกที่นุ่ม นวลของเธอก็ไปโดนที่หน้าของเขา

ตัวคุณร้อนขนาดนี้ อยากให้ฉันร้อนตายหรือไง?

พิงกี้รีบพยุงร่างกายตัวเองออกจากหน้าเขา ใบหน้า

เธอแดงก่ำ

“ ถ้าคุณไม่อยากให้ฉันร้อนตายก็รีบปล่อยฉันเดี๋ยว

นี้! ” แต่อุณภูมิของรถต่ำมาก

จะทำยังไงก็ไม่มีทางร้อนขึ้นมา พายุส่งเสียง “ ๆ

หัวเราะออกมา
ทำให้พิงกี้ตกที่นั่งลำบาก เธอจ้องและเค้นถามเควิน

* คุณทำไมจนจังเลย บนรถแผ่นบังกั้นระหว่างหน้า รถและหลังรถก็ไม่มี

ทำอะไรก็ไม่สะดวกเลย? หมูหมากาไก่ก็สามารถแอบ ฟังได้หมด น่าเบื่อที่สุดเลย! ”

เควินคิดอย่างจริงจังไปครู่นึง “ เดี๋ยวฉันให้คนมาใส่

” มันก็ไม่สะดวกจริงๆ

จะทำอะไรก็ไม่ได้ เขาส่งสายตาแบบตักเตือนให้

ทันใดนั้น พายุทำท่ารูดซิปปากและไม่กล้าพูดต่อ

แม้แต่มองไปที่เบาะหลังยังไม่กล้ามอง เขากลัวจะ

โดนฆ่าปิดปาก

พิงกี้ “

เธอรู้สึกไม่คุ้นชิน ร่างกายผู้ชายเหมือนเตาผิงใหญ่

เธอนั่งตกเขาก็เหมือนนั่งบนภูเขาเปลวไฟ แต่เควิน ไม่ปล่อยเธอๆจะทำยังไงได้
ที่จริงเขายังยอมให้เธอโทรศัพท์ถือว่าเมตตากับเธอ

แล้ว อย่างอื่นเธอไม่สน

เธอรีบโทรหาน้ำหวานก่อน เธอบอกสถานการณ์ของ มานพให้น้ำหวานฟัง

ให้น้ำหวานรีบไปดูแลพี่ชาย เธอย้ำแล้วซ้ำอีก คำ พูดที่เป็นห่วงมานพจากใจจริง

ทำให้เควินที่อยู่ข้างๆหน้าเขียวและไม่พอใจ แต่ว่า

เขาก็ไม่ได้ห้ามปรามเธอ

รอเธอวางสายแล้วเขาจึงถาม

“ ผู้ชายคนนั้นทำให้เธอเป็นห่วงถึงขั้นกินไม่ได้นอน

ไม่หลับขนาดนี้เลยหรือ?

* ใช่สิ ” พิงกี้โน้มตัวไปข้างหลังแล้วพิงกับเบาะ

หลังฝั่งคนขับ

ใบหน้าที่ขาวใสแฝงไปด้วยคำประชด “ พี่มานพ

กับฉันมาก

รู้ว่าฉันร้อนเงินก็รีบเอาเงินมาให้ฉัน

เขาได้รับบาดเจ็บกล้าฉันเป็นนางก็เลยปิดบังไม่ให้ฉันรู เขาคิดเผื่อฉันทุกอย่าง

คุณคิดว่าฉันเป็นคนใจดำจนไม่รู้สึกซาบซึ้งเลยหรือ

ไง? ”

* เพราะว่าซาบซึ้ง เธอก็เลยยอมให้เขาทำอะไรกับ เธอตามใจชอบได้งั้นหรือ?

เควินนึกถึงภาพเมื่อกี้ของมานพและพิงกี้แล้วสีหน้า

” เขาทำตามอำเภอใจอะไรกับฉัน? ” พิงกี้ถูกเหยียด

หยามได้

แต่ไม่ยอมให้คนอื่นดูถูกมานพ เธอพูดอย่างโมโห

พี่มานพได้รับบาดเจ็บและล้างแผลเองไม่ได้

ฉันก็แค่ทำแผลและเช็ตตัวให้เขามีอะไรไม่ได้หรือ?

อ๋อ…ฉันเป็นคนจิตใจดี

ถ้าวันไหนคุณได้รับบาดเจ็บใกล้ตาย ไม่แน่ฉันก็อาจ จะใจบุญช่วยเหลือคุณก็ได้นะ

“ จริงหรือ? ” สีหน้าเควินเบิกบาน เขานึกว่าเธอคง

เกลียดเขาตายเลย
ถงเขาตายตรงหน้าเธอ เธอกคงนาตาไมไหลสก หยด คิดไม่ถึงว่าเธอจะดูแลเขา

พิงกี้ “

ดูสีหน้าเควินเธอก็รู้ว่าเขาเข้าใจคำพูดเธอผิด เธอ

กำลังประชดเขา

แต่เขานึกว่าเธอกำลังบอกรักเขา แต่เธอก็ขี้เกียจ

อธิบาย

ก็ให้ผู้ชายที่คิดว่าตัวเองใหญ่เข้าใจผิดไปเถอะ

เพราะยังไงเนื้อบนร่างกายเธอก็ไม่ได้หายไปแม้แต่ ชิ้นเดียว ตอนนี้เรื่องที่เธอต้องคิดคือ

เดี๋ยวลงจากรถแล้วเธอจะทำหน้าที่ให้เควินพอใจยัง

?เขาถึงจะยอมปล่อยมานพ

และคนอื่นๆ….นอกจากเรื่องนี้ อย่างอื่นเธอไม่

ไง

อยากไปคิดถึง


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ