คุณชายมาดเข้มกับคุณหนูสุดแสบ

บทที466: สิ่งหนึ่งย่อมข่มอีกสิ่งหนึ่ง



บทที466: สิ่งหนึ่งย่อมข่มอีกสิ่งหนึ่ง

พิงกี้รู้ดีว่าจุดอ่อนของเควินอยู่ตรงไหน

เขากลัวเธอไม่สบาย ขอแค่เธอออดอ้อนหน่อย ไฟ โมโหของเขาก็จะดับลง อย่างมากก็แค่……ถูกเขาสั่ง สอนบนเตียงหน่อยแค่นั้นเอง

เพราะถูกสั่งสอนไม่ใช่แค่ครั้งสองครั้งแล้ว เธอ ชินตั้งนานแล้ว ชินจนไม่มีอะไรน่าแปลกใจแล้ว เธอ สามารถนอนราบและยิ้มรับพายุมรสุมทุกอย่าง

ผู้หญิงตัวจริง ก็ง่ายๆและชิวๆแบบนี้แหละ!

ที่สำคัญที่สุดคือ เธอคุ้นเคยนิสัยที่เลือดเหล็ก เหี้ยมโหดของเขามาก ถ้าหากทำให้เขาโมโหขึ้นมา จริงๆ เขาขับเฮลิคอปเตอร์กลับแล้วทิ้งเธอไว้จะทำยัง ไง?

เรื่องอย่างนี้อยู่ที่บนตัวเขา เขาทำได้แน่นอน!

ต้องรู้ไว้นะ ความรู้สึกที่อยู่ในกระเป๋าเดินทาง หลายชั่วโมงมันไม่ดีเลยจริงๆ เธอไม่อยากล้มเหลว เนื่องจากขาดความพยายามครั้งสุดท้ายจริงๆนะ!

พิงกี้ความคิดเปลี่ยนไวเหมือนกระแสไฟ ยิ่งอยู่ยิ่ง รู้สึกว่าตัวเองต้องพัฒนาเส้นทางที่ตามใจท่านประธาน นี้ดีๆแล้ว จะทำแบบมารจิ้งจอกน้อยที่ใสซื่อ ไม่ดัดจริต ที่ต่อต้านอย่างแข็งกร้าวแบบข้างนอกไม่ได้วางแผนอย่างบ้าระห่ำอยากใช้ความ “ดื้อด้านขัดใจ”ที่แตกต่าง มาปราบเขา

“เควิน เหมือนฉันจะขาดออกซิเจนอ่ะค่ะ อยู่ใน กระเป๋าเดินทางมาหลายชั่วโมง ฉันรู้สึกหายใจลำบาก จังเลยค่ะ……

อยู่ในสายตาที่โกรธกริ้วของเควิน พิงกี้เคลื่อนย้าย ความสนใจของเขาด้วยหน้าตาน่าสงสาร

“นี่คุณ….ทำไมคุณถึงโง่อย่างนี้? น้ำเข้าสมอง หรือไง ถึงได้มาทรมานร่างกายตัวเองแบบนี้?!” สุดท้ายก็เป็นห่วงพิงกี้อยู่ดี เควินหน้าบึ้งและหลุบตาลง ยื่นมือตบที่หลังเธอเบาๆ “แบบนี้รู้สึกดีขึ้นมาหน่อยหนึ่ง หรือยัง?”

“…….ยังไม่ดีเลยค่ะ ฉันรู้สึกคุณสามารถให้ ออกซิเจนฉันหน่อยนะคะ” พิงกี้กอดแขนเขาไว้อย่าง ได้คืบจะเอาศอก

เควิน “.….………. ”

หน้าห้อยไว้ เขาบริการให้พิงกี้อย่างยอมจำนนต่อ ชีวิต ถึงในใจอยากจับเธอมาตะคอกด้วยความโกรธ รอบหนึ่ง ดีที่สุดเอาไม้เรียวฟาดก้นเธอหน่อย แต่พอเห็น เธอผมเผ้ายุ่งเหยิง ตัวกลมดิ๊กซบอยู่ในอ้อมอกของตัว เอง เขาก็โมโหใส่เธอไม่ลงแล้ว
รังสิตที่นั่งควบคุมเฮลิคอปเตอร์อยู่ตรงหน้าด้วย และสังเกตความเคลื่อนไหวของด้านหลังไปด้วย เขา แทบอยากจะส่งเสียงหัวเราะออกมา

สิ่งหนึ่งย่อมข่มสิ่งหนึ่งจริงๆ!

คิดไม่ถึงว่าหัวหน้าก็มีวันนี้ด้วย

แน่นอนว่าหัวหน้าที่ปกติสีหน้าเยือกเย็น ก็แค่อยู่ ตรงหน้าของผู้หญิงที่ตัวเองชอบเท่านั้นแหละถึงเผย สีหน้าจนปัญญาแบบนี้ อยู่ข้างนอกก็ยังเย็นชาสูงส่งจน ไม่อาจเอื้อมอีกเช่นเคย

แต่ว่า ด้วยความที่เกิดจากมนุษยธรรมและมีใจ อยากแบ่งเบาความกังวลให้หัวหน้า รังสิตก็ยังหวังดี เตือนท่านประธานใหญ่ที่เป็นหัวหน้าว่า “คุณเควินครับ จะให้ดึงแผ่นกั้นลงมามั้ยครับ? แบบนี้ คุณจะได้พูดคุย กับคุณผู้หญิงสะดวกครับ!”

“อะไรนะ?” เควินเงยหน้าขึ้นอย่างเรียบเฉย

“ผมบอกว่า ในนี้มีแผ่นกั้นอยู่ จะเลื่อนลงมาไหม ครับ?”

เสียงใบพัดของเฮลิคอปเปอร์ดังมาก เควินโยนหู ฟังทิ้ง รังสิตหมดหนทาง ได้แต่บิดตัวมาถามเควิน เขา ตะโกนเสียงดัง ถ้าเสียงละเอียดอ่อนเกินไป เขากลัวเสียงของตัวเองจะไม่ก้องไปที่หูของเควิน

เผชิญกับการสอบถามของรังสิต เควินพยักหน้า อย่างเย่อหยิ่ง

แต่ว่าเขาก็มีข้อเรียกร้องอยู่ “เอาหูฟังมาให้ฉัน สองอัน จากนั้น ปรับหูฟังของด้านหลังเป็นคลื่นความถี่ เดี่ยว ถ้านายกล้าแอบฟังล่ะก็.

ถ้าไม่ใช่ว่ากำลังควบคุมเฮลิคอปเตอร์อยู่ รังสิต เกือบจะยกมือทั้งสองข้างขึ้นมายอมจำนนแล้ว “คุณเค วินครับ ผมไม่กล้าทำแบบนั้นเด็ดขาดครับ!

เขาก็แค่ใจกล้าจินตนาการอยู่ในสมองเฉยๆว่า เดี๋ยวด้านหลังจะมีฉากสวยงามอะไร ถ้าให้เขาแอบฟัง ถึงเขากินหัวใจหมีดีเสือชีตาร์มาร้อยแปดสิบอันเขาก็ไม่ กล้าหรอก!

อีกอย่าง ทำไมเขาต้องรนหาเรื่องด้วย ?!

“อืม” เควินพยักหน้า

รับหูฟัง รังสิต มให้ เขาใส่หูฟังให้พิงกี้

มีหูฟังคอยปกป้อง เสียงดังสนั่นของเฮลิคอปเตอร์ ถือว่าเบาลงเยอะเลย พิงกี้นวดหู รู้สึกว่าแก้วหูปลอดภัย ขึ้นเยอะเลย
จากนั้น เธอก็เห็นแผ่นกั้นระหว่างด้านหน้ากับด้าน หลังที่สั่งทำขึ้นมาพิเศษได้ค่อยๆเลื่อนลงมา กั้นด้าน หน้ากับด้านหลังให้เป็นโลกเล็กๆสองใบ

ความรู้สึกแบบนี้ เหมือนเคยประสบที่ไหนมาก่อน

เธอเงยหน้ามองไปที่เควิน

พอยื่นหูฟังให้และเลื่อนแผ่นกั้นลงมา รังสิตก็ ควบคุมเฮลิคอปเตอร์อย่างตั้งใจต่อ

ร่วมรักบนอากาศ ยอดเยี่ยมจริงๆเลย!

เฮลิคอปเตอร์ลำนี้ไม่ใช่เฮลิคอปเตอร์ที่เควินใช้ เฉพาะ แต่สั่งทำขึ้นมาพิเศษให้ทีมของหน่วยสืบลับใช้

เพราะหน่วยสืบลับต้องส่งตัวอาชญกรอยู่เป็น ประจำ เพื่อความปลอดภัย ก็เลยติดตั้งแผ่นกั้นระหว่าง ด้านหน้ากับด้านหลังของเฮลิคอปเตอร์เพื่อปกป้องคน ขับ แบบนี้สามารถเลี่ยงไม่ให้นักบินถูกโจมตีระหว่างขับ เฮลิคอปเตอร์ได้

สถานการณ์ตอนนี้ไม่ต้องป้องกันใคร แต่มันก็มี

ประโยชน์ใช้งานมาก!

ถ้าพูดอย่างเคร่งครัด แผ่นกั้นนี้ก็มีประโยชน์ใช้ งานเหมือนกับรถมายลัคสีดำของเควิน สามารถบดบังการมองเห็น

ส่วนเรื่องกันเสียงอะไรนั่นก็……

แต่เสียงดังสนั่นของเฮลิคอปเตอร์ก็ทำให้หูหนวก จะแย่อยู่แล้ว ขอแค่การทำสงครามของทั้งคู่ไม่ดุเดือด เกินไป คาดว่าคงไม่ได้ยินอะไรหรอก

รังสิตควบคุมเฮลิคอปเตอร์อยู่ด้านหน้าไปด้วย และยังอดไม่ได้ที่จะจินตนาการๆทำสงครามของเควิน กับพิงกี้ไปด้วย ในฐานะที่เป็นชายหนุ่มที่ฮอร์โมนพลุ่ง พล่าน ถึงแม้เขามีแฟนอยู่ แต่ไม่ค่อยมีเวลาได้อยู่ด้วย กันเลย คิดๆแล้วก็เศร้าใจ

เขาหวังอยากให้เควินมีความสุขอยู่บนเครื่องจริงๆ ดีที่สุดมีความสุขจนให้เขาหยุดหนึ่งวันเลย ก็ให้เขาได้ เสพสุขกับความสวยงามของเรือนร่างผู้หญิงบ้าง

รังสิตมีความคิดอะไร พิงกี้ไม่รู้ เพราะเธอได้อึ้งค้าง ไปแล้ว

เธอจ้องมองเควิน เควินก็มองดูเธอ

แถมในแววตาดำเข้มยังแฝงด้วยการท้าทายและ การหยอกล้อ

นี่ นี่มันมหัศจรรย์เกินไปแล้ว.
ไม่มีสาเหตุอย่างอื่น ที่สําคัญที่สุดคือ………..หลัง จากที่รังสิตถามว่าจะเลื่อนแผ่นกั้นลงมาไหม เธอที่นั่ง อยู่บนตักของเควินก็รู้สึกถึงความผิดปกติแล้ว

ผิดปกติมาก!

แผ่นกั้นถูกเลื่อนลงมาหมด ด้านหน้ากับด้านหลัง ถูกกั้นเอาไว้ หลังจากที่รังสิตบิดให้คอขาดยังไงก็ไม่ สามารถเห็นสถานการณ์ด้านหลังได้……..ความรู้สึกผิด ปกติอย่างนี้ยิ่งอยู่ยิ่งหนักขึ้นแล้ว!

เธอกระพริบตาปริบๆ สีหน้าไร้เดียงสา

ในที่สุด ยังเป็นเควินที่ทนไม่ไหวเปิดปากพูดก่อน “ทำไม คุณยังจะเอายังไงอีก?”

พิงกี้ “

ไม่ เธอไม่ได้จะเอายังไงอีก! เธอออกจะเป็นคน ซื่อสัตย์ขนาดนี้ เป็นไปได้ยังไงที่จะทำเรื่องแล่นเรือไป ตามลม ได้เปรียบแล้วยังแสร้งทำเป็นทองไม่รู้ร้อนอีก? นั่นมันไม่สอดคล้องกับตรรกะเลย!

เธอ……เธอก็แค่รู้สึกว่าตัวเองเหมือนน่าจะมี อันตรายแล้ว

ไม่ใช่เธอจะเอายังไง แต่เขาจะเอายังไงมากกว่ามั้ง?

“ทำไมฉันถึงรู้สึกว่า คุณอยากจัดการฉัน?” พิงกี้ กัดริมฝีปาก

“ใช่ ผมอยากจัดการคุณจริงๆ เพราะผมรู้สึกว่า คุณมันน่าโดนจัดการมาก แล้วคุณคิดว่ายังไงล่ะ?” เค วินหรี่ตาเล็กน้อย จ้องพิงกี้เหมือนจ้องกระต่ายน้อย ก้ม หน้าลงไปกัดที่ซอกคอเธอ พูดด้วยเสียงโกรธ “ถ้าผม ไม่จัดการคุณสักหน่อย เดี๋ยวครั้งหน้าคุณก็กล้าทำซี้ซ้ำว อีก!”

“ใครใช้ให้คุณไม่ยอมให้ฉันมาด้วยล่ะ ฉันถึงต้อง ทำแบบนี้..……..

พิงกี้ไม่กล้าพูดอย่างเต็มปากเต็มคำ

ที่จริงเธอก็ไม่อยากทารุณตัวเองขนาดนี้หรอก ใครใช้ให้เควินตัดสินใจอะไรสักอย่างแล้วก็ไม่ยอม เปลี่ยนแปลงเลย ไม่ว่าเธอจะใช้มารยาหญิงยังไงก็ไม่ บรรลุเป้าหมายสักที?

เป็นไปไม่ได้ที่เธอจะไปหาน้ำหวานที่หมู่บ้านBคน เดียว และถ้าไปไม่ทันก็ไปเสียเที่ยวเปล่าๆ สุดท้ายได้ แต่สมรู้ร่วมคิดกับป้ามะลิ เอาตัวเองซ่อนอยู่ในกระเป๋า เดินทางใบใหญ่
ดีที่เธอผอมไปเยอะมาก ช่วงนี้ถึงพักฟื้นร่างกาย น้ำหนักก็ยังไม่เพิ่มขึ้นเท่าไหร่ อยู่ในกระเป๋าเดินทาง เหมือนเล่นกายกรรม ที่จริงก็ไม่ค่อยอึดอัดเท่าไหร่

เพียงแต่ไม่ได้ขยับเขยื้อนเนี่ยสิทรมานจะแย่อยู่

แล้ว

“ความหมายของคุณคือ คุณทำซี้ซ้ำวแล้วยังเป็น ความผิดของผมงั้นหรอ?” เควินย้อนถาม

“ที่จริง….ฉันก็ไม่ได้ทำอะไรซ้ำวนี่คะ……..

ตอนนี้เธอไม่ใช่ยังมีชีวิตดีๆอยู่เลยหรอ?

เธอทำงานอย่างมีเป้าหมาย และมีการวางแผนอยู่

นะ!

“ดีมาก ถึงตอนนี้แล้วยังกล้าต่อปากต่อคำอีก ผม รู้สึกว่าสภาพจิตใจคุณดีมาก ดูเหมือนว่ายังร่าเริงเกิน กว่าเหตุด้วย ใช่มั้ย?” เควินยกมุมปากขึ้น “ยังมีอีก ถึง ก่อนหน้านั้นคุณไม่ได้ทำเรื่องซี้ซัว ตอนนี้คุณทำเรื่อง ซี้ซัวได้แล้ว”

พิงกี้ “

“อยู่บนเฮลิคอปเตอร์ เพิ่งจะทำเป็นครั้งแรกซะ

ด้วย คุณเฝ้ารอไหม?”
พิงกี้ “

เธอยังไม่ทันได้พูดความคิดเห็นออกมาเลย ริม ฝีปากของผู้ชายก็ประทับลงมาแล้ว

เฝ้ารอกับผีสิ!

พิงกี้ถูกคนกดทับและจูบเอาไว้ แผ่นหลังแนบกับ ลำตัวของเครื่องบินที่เย็นเฉียบ รู้สึกคนทั้งคนก็จะสลบ อยู่แล้ว

ที่ยิ่งเอาชีวิตกว่าคือ คิดถึงว่ารังสิตยังขับ เฮลิคอปเตอร์อยู่ด้านหน้า แต่พวกเขาทำเรื่องแบบนี้ อยู่ที่ด้านหลัง ใบหน้าเธอก็เผาไหม้จนแดงก่ำ ที่เมื่อกี้ รังสิตถามว่าจะเอาแผ่นกั้นลงมาหรือเปล่า ก็เพราะคง รู้“ความตื่น”ของเควินแหละมั้ง?

ผู้ชายมันก็เหมือนๆกันทั้งนั้นแหละ!

พิงกี้ถูกจูบจนสับสนไปหมด แถมยังต่อต้านไม่ได้ ซะด้วย ถ้าต่อต้านอย่างรุนแรงเกิน นั่นไม่ใช่เท่ากับว่า กำลังบอกให้รังสิตที่อยู่ด้านหน้ารู้ว่าด้านหลังกำลังทำ อะไรอยู่เหรอ?

ถึงแม้เธอไม่พูด คนอื่นก็คงรู้ตั้งนานแล้วมั้ง?


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ