บทที446:มาแบบกระทันหัน
พิงกี้แปลกใจ จึงชะโงกมองไปที่ห้องโถง
ยืนอยู่ที่หน้าประตู ในใจเธอก็คลายการระวังตัว แล้ว เธออยากดูว่าคนที่เตชิตให้เควินมาเอาคือใครกัน แน่ ใช่คนที่เธอคิดหรือเปล่า ไกรสร ถ้าใช่ไกรสร จริงๆ เธอสามารถเข้าใจว่าทำไมเมื่อกี้เตชิตถึงได้ยิ้มน่า เกลียดกว่าร้องไห้เสียอีก
แต่ว่า พอมองไปปุ๊บ สีหน้าที่ดูผ่อนคลายลงเล็ก น้อยของพิงกี้จู่ๆกลับแข็งทื่อขึ้นมา ร่างกายก็ค่อนข้างที่ จะสั่น
ห่างออกไปสองร้อยเมตร ไกรสรกำลังยกปืนขึ้น และเล็งมาที่เตชิต แววตาของเขาแดงเถือกเหมือนสัตว์ ร้ายที่ถูกจับและกำลังขัดขืนอย่างสุดฤทธิ์
“เตชิต ระวัง!” จู่ๆพิงกี้จ้องตาโต และตะโกนเสียง
ในขณะเดียวกัน
ไกรสรก็เหมือนถูกกระตุ้นอย่างไรอย่างนั้น ทันใด นั้นเขาก็ได้เหนี่ยวไก
พิงกี้ผลักเตชิตไปข้างๆ และเอียงกายไปบังอยู่ที่ ตรงหน้าของเขา ในขณะนี้เอง เสียงลั่นไกได้ดัง “ปัง” ขึ้นมาเสียงหนึ่ง
ราวกับว่าสามารถได้ยินเสียงปืนยิงเข้าที่ร่างกาย
พริบตาเดียวความเจ็บปวดได้ระเบิดออกมาใน ร่างกายทันที พิงกี้ตัวสั่นไปครู่นึง ถูกแรงดันของกระสุน ยิงจนขาทรงตัวไม่ได้ คนทั้งคนล้มไปที่อ้อมอกของเต ชิต ถูกมือที่สั่นไหวของเขากอดเอาไว้
ที่เธอคิดอยู่ในใจคือ บนตัวของเตชิตยังมีสารพิษที่ แม้แต่ดนัยเองยังรู้สึกรับมือยากหลงเหลืออยู่ ถ้ากระสุน ถูกเขาล่ะก็ ไม่แน่อาจจะทำให้เสียเลือดเยอะ ถ้าห้าม เลือดไม่ทันก็ถึงขั้นช็อกและเสียชีวิตได้………..
เธอไปบังอยู่ที่ตรงหน้าเขาอย่างไม่คิดอะไรเลย แต่นาทีที่กระสุนยิงเข้าที่ร่างกาย เธอก็รู้สึกกลัว
กลัวจนน้ำตาไหลออกมาในพริบตา แม้กระทั่งยังนึกเสียใจทีหลังด้วย “ช่วยฉันด้วย……..” น้ำตาอาบแก้ม
พิงกี้ดึงแขนเสื้อของเตชิตไว้ และจับไว้แน่น “ช่วย
ฉัน ลูกของฉัน..…………….
“ช่วยๆๆ ผมช่วยคุณ!
เตชิตดึงสติกลับมากระทันหัน อุ้มพิงกี้พุ่งออกไป อย่างไม่คำนึงอะไรทั้งสิ้น ถึงแผ่นหลังของตัวเองจะมี ไกรสรใช้ปืนเล็งไว้ก็ไม่แคร์
มีคนพุ่งมาเรียกเขา “คุณเตชิตครับ รถ
ครับ.
ตามติดอยู่ข้างกายของเตชิตมานาน ผู้ช่วยส่วนตัว ของเขาย่อมรู้ว่าพิงกี้มีความหมายยังไงกับเตชิต พิงกี้ ช่วยเตชิตรับไปหนึ่งกระสุน ตอนนี้ถึงมีเรื่องใหญ่โตแค่ ไหน ก็ขัดขวางเตชิตไปส่งเธอที่โรงพยาบาลไม่ได้
แต่ก็คงจะอุ้มเธอเดินไปที่โรงพยาบาลไม่ได้มั้ง?
“เตรียมรถ!” เตชิตหันมา ตะคอกเหมือนสัตว์ร้าย ที่ถูกขัง อุ้มพิงกี้ยืนอยู่ที่เดิมอย่างไม่รู้จะรับมือยังไง ดู เหมือนจะร้องไห้และโศกเศร้า ดวงตามีเสน่ห์เต็มไปด้วย แววตาที่บ้าคลั่ง
เขาโกรธกริ้วแล้ว โกรธอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
พิงกี้ถูกเตชิตอุ้มขึ้นรถด้วยความเร่งรีบ ไม่นาน เลือดที่ไหลออกมาจากร่างกายเธอก็ได้หยดลงที่เบาะรถ ในรถอบอวลด้วยกลิ่นคาวของเลือด
เธอรู้สึกเลือดของร่างกายได้ไหลออกมาทีละนิดๆ
ไม่ถือว่าเยอะมาก แต่ความเจ็บปวดทำให้เธอตื่น ตกใจและกลัว เธออุ้มท้องไว้ ยากที่จะทน ในปากอดไม่ ได้ที่จะส่งเสียงเจ็บปวดออกมา หัวใจทั้งดวงถูกแขวน อยู่กลางอากาศ
ไม่เพียงแต่แผ่นหลังที่ถูกกระสุน แล้วก็..
ท้องของเธอก็เจ็บมากด้วย
อายุครรภ์เจ็ดแปดเดือน เด็กได้ขยับอยู่ในครรภ์ตั้ง นานแล้ว แต่ตั้งแต่ถูกยิงจนถึงตอนนี้ ก็ไม่รู้ว่าเป็นเพราะ เธอตื่นเต้นเลยกระทบเบบี่ที่อยู่ในครรภ์หรือเปล่า เธอ ไม่รู้สึกว่าลูกในท้องมีความเคลื่อนไหวอีกเลย
น้ำตาไหลพรากออกมาอย่างไม่หยุด
พิงกี้ถูกเตชิตอุ้มไว้แน่น ถูกเขาอุ้มจนเจ็บมาก แต่ เธอก็ไม่ได้ส่งเสียงบอกให้เขาปล่อยเธอ สิ่งเดียวที่เธอ คิดก็คือเด็กในท้องจะต้องไม่เป็นอะไรเด็ดขาด
ถ้าไม่อย่างนั้นเธอคงจะเกลียดตัวเองตายเลย
พอมาถึงที่โรงพยาบา พิงกี้ก็ถูกส่งเข้าห้องฉุกเฉิน
เกี่ยวพันถึงสองชีวิต คุณหมอใช้เวลาอันรวดเร็ว ที่สุดในการช่วยเธอตรวจ และให้ผลตรวจทุกอย่างออก มาในเวลาอันรวดเร็วที่สุด พอดูผลการตรวจแล้วคุณ หมอมีสีหน้าที่ตึงเครียด
“คุณพิงกี้ครับ กระสุนยิงเข้าไปแผ่นหลังด้านซ้าย แต่ว่าถ้าตอนนี้ไม่เข้าห้องผ่าตัด เรายากที่จะรู้ว่ากระสุน ติดคาอยู่ที่ตำแหน่งไหน ไม่รับการผ่าตัดไม่ได้ แต่ถ้า ผ่าตัดปุ๊บ เด็กในท้อง………เราไม่สามารถรับประกันได้ จุดนี้คุณรับได้มั้ยครับ?”
“อะไรคือไม่สามารถรับประกัน? ” พิงกี้กุมท้องเอา ไว้ สีหน้าแววตาตื่นเต้น แต่น้ำเสียงอ่อนแอ “เมื่อกี้เพิ่ง อัลตราซาวน์ไปและตรวจอัตราการเต้นของหัวใจทารก ที่อยู่ในครรภ์ เด็กยังดีๆอยู่เลย เด็กยังดีอยู่เลยไม่ใช่ หรือ? ทําไมถึงรับประกันไม่ได้?”
“ถ้าเกิดระหว่างผ่าตัดมีสถานการณ์ที่ไม่คาด คิด อาจจะ……ต้องเลือกคนใดคนหนึ่งระหว่างเด็ก กับผู้ใหญ่ครับ นี่คือความเสี่ยงของการผ่าตัด ใครก็ไม่ สามารถรับประกันได้หรอกครับ”
“แล้วไม่เอากระสุนออกได้มั้ยคะ?” พิงกี้เม้มปาก แววตาดื้อรั้น
อย่างมากสุด เธอก็อดทนไว้ รอให้คลอดลูกออก มาก่อน แล้วค่อยมาผ่าเอากระสุนออก
“ก็ไม่ได้ครับ ถ้าไม่ผ่าเอากระสุนออก อาการบาด เจ็บของคุณก็จะไม่หายสักที อาจจะทำให้แผลเลวร้าย ลง ถ้าเกิดแผลมีการติดเชื้อขึ้นมา ก็มีผลเสียกับเด็กใน ท้องเหมือนกันครับ”
สรุปก็คือ อะไรก็มีความเสี่ยงทั้งนั้นแหละ
พิงกี้ฟังที่หมออธิบายไปหลายนาที ตามเวลาที่ ผ่านไปเรื่อยๆ เธอยิ่งอยู่ยิ่งเป็นห่วง กลัวว่าเสียเวลายิ่ง เยอะ สถานการณ์กลับยิ่งเลวร้ายลง
คุณหมอก็บีบให้เธอตัดสินใจว่าจะผ่าตัดเดี๋ยวนี้ เลยมั้ย ถ้าระหว่างผ่าตัดเกิดสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุด คือจะเอาลูกหรือจะยังไง?
เข้ารับการผ่าตัดมีความเสี่ยงต่างๆ ต้องเซ็นต์ใบ ยินยอมและอื่นๆอีกด้วย
เหนื่อยที่จะพูด พิงกี้ก็ได้แต่พยักหน้า และเซ็นต์ใบ
ยินยอม
ตอนที่เธอคุยกับหมอ เตชิตก็ยืนรออยู่ที่ข้างหลัง เธอ ดวงตาแดงก่ำมองดูเธอไว้ มือที่ห้อยอยู่ข้างกายกำ แน่นเป็นหมัด
แต่ว่านอกจากเฝ้าอย่างสงบ เขาทำอะไรไม่ได้เลย
เตรียมทําการผ่าตัด
คุณหมอถามพิงกี้ครั้งสุดท้าย ว่าจะเลือกฉีดยาชา ทั้งตัวหรือว่าเฉพาะที่ พิงกี้รู้ว่าเควินต้องมาทันแน่นอน เธออยากให้เขาเป็นคนตัดสินใจ แต่ว่าสุดท้ายเธอก็ได้ เลือกฉีดยาชาเฉพาะที่
เรื่องนี้ เธอจะหลบหนีไม่ได้
พิงกี้นอนอยู่ที่เตียงผ่าตัดด้วยความตื่นเต้น น้ำตา ไหลพรากไม่หยุด กระดูกสันหลังเจ็บจรัดขึ้นมาเป็น พักๆ ยาชาที่เย็นเฉียบเข้าสู่ร่างกายเธอ
โรงพยาบาล
เสียงเท้าเดินที่เร่งรีบดังขึ้น เควินมาถึงที่โรง พยาบาลด้วยความร้อนรนใจ
ผู้ชายที่ปกติแต่งตัวเนี้ยบและดูดี นาทีนี้ทรงผม ค่อนข้างยุ่งเหยิง แขนเสื้อข้างนึงติดกระดุมเอาไว้ ส่วน อีกข้างม้วนขึ้นมา ดูแล้วต่างจากปกติ
แววตาของเขาเยือกเย็น เม้มริมฝีปากบางไว้แน่นเหมือนสิงโตที่ถูกยั่วจนโมโห
เห็นเตชิตที่ยืนรออยู่หน้าห้องผ่าตัด เขาพุ่งไปหา อย่างไว และก๋าคอเสื้อของเตชิตไว้โดยตรง จ้องมอง เขาอย่างโหด
“เตชิต นี่มันอะไรกันแน่?! ตอนนี้เธอเป็นยังไงบ้าง อันตรายหรือเปล่า? เธอเป็นอะไรกันแน่?!”
ยิงมาหลายคำถามรวด เควินโมโหจนแทบอยากจะ
กินคน
เดิมทีพิงกี้ยังดีๆอยู่เลย เขามองดูเธอขึ้นรถกลับ บ้านเองกับตา แถมเธอยังได้ส่งข้อความบอกว่าตัวเอง กลับถึงบ้านอย่างปลอดภัยแล้ว……ทำไมเธอไปที่ วิลล่าNo.3เที่ยวเดียวก็ถูกยิงซะแล้ว?!
ทำไมถึงเป็นแบบนี้?
ทั้งหมดนี้เกี่ยวข้องกับเตชิตหรือเปล่า?
เกี่ยวข้องกับไกรสรหรือเปล่า?
นึกถึงสายเรียกเข้าระหว่างทางตอนที่ขับรถ กลับบ้านของวันนี้แล้ว แววตาของเควินยิ่งเยือกเย็น ลงมา ลึกจนไม่เห็นก้นบึ้ง เขามีเซ้นส์ว่าทั้งหมดนี้ต้อง เกี่ยวข้องกับไกรสรแน่นอน
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ