บทที่533 รู้สึกไม่ค่อยสบายใจ
แต่ว่า ตอนที่เปลี่ยนรองเท้าเสร็จเตรียมตัวจะ ปิดประตู น้ำหวานกลับอดไม่ได้ที่จะหันไปมองที่ ทิศทางของประตู
หน้าประตูเหล็กสีดำ พายุกับรถของเขายังอยู่ แสงไฟสลัวส่องอยู่ที่บนตัวเขา ทำให้เขาดูอบอุ่น มาก เหมือนบนตัวเขาสามารถส่องแสงเจิดจรัสด้วย
ไม่รู้เพราะอะไร ถึงแม้ในใจไม่ได้คาดหวังเรื่อง ความรักอีกเช่นเคย แต่…….ก็มีความรู้สึกหวั่นไหว เล็กน้อย
อาจจะเพราะ……….
ก็เหมือนแมลงเม่าก็มีความรักที่ร้อนแรงต่อไฟ มนุษย์ก็อยากมุ่งเข้าไปหาความอบอุ่นเหมือนกันมั้ง?
วันที่สอง พิงกี้ก็รู้เรื่องที่พายุบอกรักน้ำหวาน
คนที่บอกเรื่องนี้กับเธอไม่ใช่น้ำหวาน แต่เป็นแล้ว
เมื่อคืนพิงกี้“ออกกำลังกายหนักมาทั้งคืน ทั้ง เนื้อทั้งตัวรู้สึกอ่อนระทวยเหมือนตุ๊กตาผ้าที่ถูกยัด เต็มด้วยสำลี ไม่มีเรี่ยวแรงที่จะขยับเลยด้วยซ้ำ แต่ ว่า เธอยังมีหูอยู่ สามารถได้ยินเสียงที่เควินคุยกับ คนอยู่
“มีธุระก็ว่ามา ไม่มีก็วางสาย”
.ต๊ะ อะไรนะ?”
“อืม เรื่องนี้ฉันรู้แล้ว เพราะฉะนั้นล่ะ วัตถุประสงค์ที่นายโทรมาคืออะไร?”
“ไม่ได้”
“เรื่องของนาย นายก็ไปแก้ไขเอง ผู้หญิงของ ฉันไม่ใช่ติวเตอร์เรื่องความรักของนาย เธอไม่มี หน้าที่ๆจะต้องมาชี้แนะให้นายว่าต้องจีบน้ำหวานยัง
“พายุ นายหุบปาก!
“ทำตัวซื่อสัตย์หน่อย ไม่งั้นก็ไปแอฟริกาซะ”
ในที่สุดโลกก็เงียบสงบลงสักที
เควินวางสายด้วยความรังเกียจ พอหันหลังก็ เผชิญกับดวงตาที่สืบหาความจริง
เพราะในห้องเงียบมาก ดังนั้นแม้กระทั่งเสียง ของพายุ พิงกี้ยังสามารถได้ยินแว่วๆเลย เพราะ ฉะนั้นเลยเดาความเป็นมาของเรื่องราวได้
พอเป็นแบบนี้ อารมณ์ก็ค่อนข้างที่จะซับซ้อน
แล้ว
แรงลงมือปฎิบัติของพายุไอ้หมอนั่น ถือว่าไม่ เลวเลยนี่!
“คุณตื่นแล้วหรอ?” เควินเดินกลับมาที่ข้าง เตียง โน้มตัวปัดผมที่ชุ่มเหงื่อที่ติดอยู่บนหน้าผาก พูดอ่อนโยนด้วยความรู้สึกผิด “รีบตื่นขึ้นมาทำไม ทำไมไม่นอนต่ออีกสักพัก? เพราะผมคุยโทรศัพท์ เลยทำเอาคุณตื่นเลยใช่มั้ย?
“ไม่ใช่ค่ะ…. ‘ พิงกี้จับฝ่ามือใหญ่เขาไว้ “ที่รัก พายุโทรมาใช่มั้ยคะ?”
“ใช่ .….……….….”
ตื่นขึ้นมาปุ๊บ ผู้หญิงของตัวเองก็เป็นห่วงแต่ เรื่องของคนอื่น นี่ไม่ใช่เรื่องดีเลยจริงๆ
“แล้วเขาบอกรักกับน้ำหวาน และเริ่มจีบน้ำ หวานแล้วเหรอคะ?”
“เมื่อคืนบอกรักน้ำหวานไป แต่ถูกปฎิเสธ เค วินยกมุมปากขึ้นเล็กน้อย แฝงด้วยการหยอกล้อที่ รอดูความบันเทิง “ไอคิวอย่างนายพายุเนี่ย อยาก จะจีบคนติดคงต้องรอชาติหน้าแล้วแหละ”
พิงกี้กระพริบตาปริบๆ
“ทำไม คุณคิดจะเข้าไปยุ่งจริงๆด้วยเหรอ?” เควินหรี่ตามองด้วยสายตาที่อันตราย “ถ้าคุณมี เรี่ยวแรงมากขนาดนั้น งั้นเรามาอีกสองรอบดีมั้ย?”
“……ไม่ได้” พิงกี้รีบตะโกนเรียกหยุดเอาไว้ และพูดอย่างความชอบธรรม “เควิน คุณเข้าใจมั้ย อะไรเรียกว่า ใช้น้ำวันละนิดวันละหน่อย ยังไงน้ำก็ ไม่มีวันแห้ง? คุณต้องควบคุมตัวเองหน่อยสิ!
“ทุกครั้ง น้ำที่ผมให้คุณขนาดนั้น ให้ทีละนิดๆ ไม่ได้หรอก”
” พิงกี้ถูกความไร้ยางอายของเขา ทําเอาตกใจจนอึ้งค้างไว้ เขาคิดว่าตรงนั้นของเขา คือก๊อกน้ำ ที่เปิดปิดยังไม่สามารถควบคุมได้งั้นเห รอ? ไม่ ไม่ถูก เขาไม่คิดว่าเขาคือก๊อกน้ำ เขาคิดว่า ตัวเองเป็นเขื่อนสำรองน้ำมากกว่า!
“แต่……แต่ร่างกายของฉันไม่ไหวแล้วนี่น่ะ!” เธอเริ่มโศกเศร้าแล้ว
“ทำไมจะไม่ไหว? เมื่อคืนผมเป็นคนทำอยู่ ตลอด คุณแค่นอนราบอย่างเดียว ” เควินอดขำไม่ ได้ และแกล้งพูด “ผมดูตอนนี้คุณก็กระปรี้กระเปร่า ดี น่าจะทำได้อีกสองครั้งอยู่”
ยังจะทําอีก?!
แถมยังจะเอาอีกสองครั้ง?
ไอ้โรคจิตนี่!
พิงกี้รีบกลิ้งอยู่บนเตียง ใช้ผ้าห่มม้วนตัวเองไว้ จ้องผู้ชายที่อยู่ข้างเตียงด้วยการแจ้งเตือน ราวกับ ว่าเขาเป็นน้ำป่าที่อันตรายอย่างไรอย่างนั้น เธอพูด อย่างร้องเรียน “เควิน ไอ้สารเลว ถึงฉันเป็นซิลิก้า เจล คุณก็ต้องให้ฉันพักผ่อนบ้างสิ! ซิลิก้าเจลก็เสียเป็นเหมือนกัน! ซิลิก้าเจลก็ถูกทิ่มแทงเป็นพรุนได้ เหมือนกัน!”
พูดถึงสุดท้าย พิงกี้มีความเศร้าโผล่ขึ้นมาเลย ชัดๆ ติดคอจนพูดไม่ออก
กลั้นไม่ไหวอีกต่อไป เควินขำกร๊กออกมา
พิงกี้
สำหรับเรื่องความรักของน้ำหวาน ด้วยความ ฉลาด พิงกี้ไม่ได้เข้าไปแทรกแซง
แต่ว่า……..
เธอก็ยังความคิดเล็กๆของตัวเองอยู่ดี
ผ่านมาสองวัน เห็นเตชิตที่เหมือนคนไม่มี งานการทำมากินฟรีดื่มฟรีที่บ้าน แถมยังให้ป้ามะลิ ทำคุกกี้ให้เขากิน พิงกี้นั่งหยอกน้องแอ๊ปเปิ้ลเล่นอยู่ บนโซฟา เจ้าซาลาเปาน้อยอารมณ์ดีจนยิ้มไม่เห็นตาแล้ว จู่ๆพิงกี้เหมือนนึกอะไรขึ้นมาได้ เธอหันหน้า ไปถามเตชิต “คุณเตชิต คุณบอกรักน้ำหวานแล้ว ใช่หรือเปล่า?”
“ต๊ะ?” เตชิตอิ้งค้างไว้ ผ่านไปหนึ่งวินาทีถึง ดึงสติกลับมาได้ เขาส่ายหน้าด้วยความรังเกียจ “ผมยังไม่อยากตายเร็วขนาดนั้นนะ”
.………..” พิงกี้ถาม “นี่มันเกี่ยวอะไรกับตายเร็ว ด้วย?”
กลอุบายที่น่ากลัวที่สุดบนโลกนี้ก็คือ เธออยาก วางกลอุบายคนอื่นอย่างจริงจัง แต่คนอื่นดันไม่เดิน ตามกลอุบายที่เธอวางไว้
ช่างน้าเศร้าจริงๆ!
“คุณรู้มั้ยว่าน้ำหวานนี่ไม่มีความเป็นผู้หญิง เลย?” เตชิตส่ายหัว หยิบกุ๊กกี้ขึ้นมาชิ้นหนึ่งแล้ว โยนเข้าปาก “ผมรู้คุณกลัวว่าผมยังจะมีใจให้คุณ อยู่ แต่ถึงคุณอยากจับคู่ผมกับใคร ก็ไม่ต้องจับคู่ให้ กับน้ำหวานมั้ง? คนบ้านนอกแบบนั้น จะคู่ควรกับแบ รนด์เนมรุ่นลิมิเต็ดอย่างผมได้ยังไง?”
” พิงกี้หยิบมือถือออกมา “น้ำหวานบ้านนอกตรงไหน แล้วคุณเป็นรุ่นลิมิเต็ดยังไง?”
“อย่างเธอยังไม่เรียกว่าบ้านนอกเหรอ?” เต ชิตย้อนถาม “แต่งเนื้อแต่งตัวเชย เชยตั้งแต่หัวจรด เท้า ผมรู้สึกจุดที่เธอบ้านนอกที่สุดก็คือไม่ยอมรับ ความหล่อของผม ประเมินค่าความหล่อไม่เป็น!”
“ยังมีอีก เธอไม่เพียงแค่บ้านนอกนะ แถมยัง เป็นซาลาเปาเล็กด้วย” เตชิตพูดเสริม
“ซาลาเปาเล็ก? นี่หมายความว่ายังไงคะ?” พิง กี้ถามต่อ
“ฮ่มๆ……” เตชิตเกือบจะหลุดปากบอกว่า คัพAออกมา ดีที่ไหวตัวทัน เขาเอามือลูบไล้จมูก ด้วยความอึดอัด “อันนี้ คุณต้องไปทำความเข้าใจ เอง”
พิงกี้ “
แกว่งมือถือไปมา เธอมองเตชิตด้วยความ เห็นใจ “ขอโทษด้วยนะ คุณเตชิต คำพูดที่คุณว่าน้ำ หวานเมื่อกี้ ฉันได้อัดเสียงไว้หมดแล้ว ในฐานะที่เป็น เพื่อนสนิทของน้ำหวาน ฉันคงต้องใจร้ายหักหลัง คุณแล้ว แน่นอน ที่จริงในใจฉันก็ยังเห็นใจคุณมากอยู่ และเสียใจแทนคุณมากด้วย”
จู่ๆ เตชิตเหมือนถูกเสกให้นิ่งเอาไว้
เดี๋ยวก่อน……เมื่อกี้เขาพูดอะไรไปบ้าง? ทำไม จู่ๆทำไมถึงนึกไม่ออกแล้ว?
พิงกี้เอียงศีรษะ ทั้งๆที่เป็นคนทำเรื่องทั่วไป และกลับยักไหล่ด้วยสีหน้าเห็นใจ แต่ก็หมดหนทาง ที่จะช่วยเหลือ “ถึงแม้ยั่วโมโหผู้หญิงเป็นเรื่องที่น่า กลัวมาก แต่ว่า คุณคงต้องสู้ไปด้วยตัวเองแล้วล่ะ”
เตชิต
กลับมาถึงบ้าน เตชิตนอนอยู่บนโซฟา จู่ๆรู้สึก
ไม่สบายใจ
เขารู้อยู่ว่าเขาไม่ได้บอกรักน้ำหวาน แต่ความ หมายของพิงกี้ เห็นได้ชัดว่าไม่รู้พิงกี้ไปฟังมาจาก ไหนว่ามีคนบอกรักน้ำหวาน งั้น……..คนที่บอกรัก น้ำหวานคือใครกัน?
หรือว่าจะเป็นนายพายุ?
คืนนั้น ไอ้หมอนั่นขวางทางน้ำหวานไว้ที่ห้องน้ำ ตอนที่เขาไปหา นายพายุยังซื่อบื้อมาบอกกับเขาว่า ตัวเองอยากบอกรักน้ำหวาน แต่ตอนนั้นไม่มีเวลาให้ เขาได้พูดด้วย ?
หรือว่า เขาจะบอกรักน้ำหวาน ตอนที่เขาส่ง เธอกลับมาที่บ้าน?
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ