คุณชายมาดเข้มกับคุณหนูสุดแสบ

บทที่513: ขายหน้า!



บทที่513: ขายหน้า!

นําหวาน กว่าอย่างนี้ก็จบแล้ว

ผู้ชายน่าจะไม่ค่อยมีความขี้สงสัยเหมือนผู้ หญิง ยิ่งไปกว่านั้นเธอกับเตชิตก็ไม่ได้สนิทกันถึง ขั้นนั้น เขาคงไม่ดันต้องรู้สาเหตุที่เธอร้องไห้ให้ได้ มั้ง?

แต่เสียดาย เธอคิดผิดไปแล้ว

“คุณจะพูดหรือไม่พูดกันแน่?” เตชิตถามอีก

“ ……………….” น้ำหวานจนปัญญาแล้ว “คุณบอก ว่าฉันไม่อยากพูดก็ช่าง ปล่อยให้ฉันอัดอั้นใจตาย ไม่ใช่เหรอ?”

“เย็ดเข้!” เตชิตแทบอยากจะโมโหจนย่ำเท้า “ทำไมคุณถึงเป็นแบบนี้? ผมพูดอะไรก็อย่างนั้น นี่ คุณกำลังหยอกผมเล่นใช่มั้ยเนี่ย? ทำไมผมรู้สึก ปกติคุณไม่ได้เชื่อฟังขนาดนี้เลย?!”

เจอคนที่อัดอั้นเก่งกว่า คนที่จะอัดอั้นใจตายก็

คือเขาเอง!

ฟังไม่ออกหรือไงว่าเขากำลังพูดคำพูดที่ตรง กันข้าม?
“เอาล่ะๆ เรากลับไปก่อนโอเคมั้ย?” น้ำหวาน อารมณ์ซับซ้อนเล็กน้อย เกี่ยวพันถึงดุสิต และมี อารมณ์ที่ตัวเองก็ไม่รู้ว่ามันเป็นอะไรกันแน่ ให้เธอ พูดออกมา เธอรู้สึกขายหน้า

ถึงจะเป็นเพื่อนที่สนิทมากแค่ไหน ก็ไม่จำเป็น ต้องจริงใจและตรงไปตรงมาทุกอย่างมั้ง?

ยิ่งไปกว่านั้น……..

เรื่องบางเรื่อง เธอพูดไม่ออกจริงๆ

เธอไม่อยากยอมรับว่าเมื่อกี้มีอยู่แว๊บหนึ่ง เธอ อยากหาไหล่ที่เป็นที่พึ่งพาแล้วร้องไห้ระบายออก มา หลบเข้าไปในอ้อมอกที่อบอุ่นและหลบหนีโลกใบ นี้…………….……. ส่วนใบหน้าที่โผล่มาในใจเธอ ไม่นึกเลยว่า

จะเป็นเตชิต

ในตอนที่เขาพูดว่า “เราก็กลับกันเถอะ” อารมณ์ที่อยู่ในใจเธอได้ถึงขีดสูงสุด เธอก็เลยน้ำตา ไหลออกมาอย่างควบคุมไม่ได้

เธอจะมีหน้าพูดได้ยังไงล่ะ?

“กลับก็ไปสิ ยังต้องให้คุณพูดอีก?” เตชิตมุ่งหน้าเดินไปยังวิลล่าNo.3 เดินไปสองก้าว เขามอง ไปยังเก้าอี้หินอ่อนที่น้ำหวานนั่งก่อนหน้านั้นด้วย สายตาดูถูก “คุณดูคุณซิ อาศัยเหล้าแก้ความกลุ้ม ใจก็ไม่รู้จักรักสิ่งแวดล้อมบ้าง ยังไม่รีบไปเก็บขยะที่ คุณทิ้งเอาไว้อีก?”

น้ำหวาน “ …….

คุณเตชิตนี่สมเป็นคุณเตชิตจริงๆ พูดไม่ถึงสอง คำก็อารมณ์ขึ้นอีกแล้ว นิสัยแบบนี้ เธอรู้สึกถึงเขา จะเปลี่ยนไปชอบผู้หญิงคนอื่นที่ไม่ใช่พิงกี้ ก็ยากที่ จะจีบติดแน่นอน

เก็บกระป๋องเบียร์ด้วยความรวดเร็ว แล้วเอา เบียร์ที่ยังไม่ได้ดื่มแยกใส่ถุงพลาสติกอีกใบหนึ่ง น้ำ หวานใช้ความเร็วในการวิ่งตามฝีเท้าของเตชิตให้

ทัน

เดินมาถึงพื้นผิวถนนที่เป็นอิฐวัฒนธรรมของ โซนวิลล่า ไฟข้างถนนทั้งสองฝั่งมีเยอะกว่าถนนที่ เปลี่ยว เฉลี่ยแล้วประมาณทุกๆสิบกว่าเมตรก็มีแสง ไฟส่องแสงสว่างแล้ว

สายลมอ่อนๆพัดผ่านใบไม้ในยามค่ำคืน มี ความรู้สึกอบอุ่น
ตอนที่คนเดินอยู่บนถนน ตามความเคลื่อนไหว ของฝีเท้า เงาที่หล่นอยู่บนพื้นจะถูกแสงไฟดึงจน ยาวและหดให้สั้นลง ก็เกมส์ของแสงไฟและเงาที่ ธรรมดาแบบนี้แหละ ที่ทำให้น้ำหวานมองจนไม่ คลาดสายตา

เธอเดินอยู่ที่ด้านหลังของเตชิต เดินห่างจาก เขาหลายก้าว ทั้งคู่อย่าบอกว่าจูงมือเลย แม้แต่การ สัมผัสใดๆก็ยังไม่มีเลยด้วยซ้ำ

แต่บนพื้น เงาของเธอกลับชิดอยู่ที่ข้างกายของ เขาอย่างแนบแน่น ดูแล้วเหมือนเดินเคียงบ่าเคียง ไหล่กันเลย

มองดูเงาบนพื้น น้ำหวานฉีกรอยยิ้มอ่อนๆออก มา รู้สึกความมืดครึ้มของในใจที่เพราะเจอเรื่องแย่ๆ ของเมื่อกี้ ได้จางหายไปทีละนิดๆแล้ว

กลับมาถึงบ้าน น้ำหวานเอาเบียร์ไปแช่ตู้เย็น ก่อน จากนั้นก็ค่อยไปอาบน้ำ

พอเธอออกมาจากห้องน้ำ กลับได้ยินด้านนอกมีคนเคาะประตู
ดึกป่านนี้แล้ว ใครยังจะมาเคาะประตูอีก?

ในหัวเพิ่งมีความคิดนี้โผล่ขึ้นมา น้ำหวานก็ได้ ก้มหน้าหัวเราะพร้อมส่ายหัว

ในบ้านหลังนี้ นอกจากป้าแดง ก็มีแค่เตชิต เท่านั้น

ถ้าไม่มีธุระ ป้าแดงไม่มีทางมาหาเธอ เป็นไป ได้ที่สุดก็คือเตชิต

พอเปิดประตูปุ๊บ คนที่ยืนอยู่ด้านนอกคือเตชิต จริงๆซะด้วย

เขาถือเบียร์ไว้ถุงหนึ่ง สีหน้าซีเรียส แต่ดวงตา พราวเสน่ห์คู่นั้นกลับแฝงด้วยความเป็นห่วงที่ดู อึดอัด “ผมก็นอนไม่หลับ เราขึ้นไปตากลมบน ดาดฟ้า เป็นไงบ้าง? ถ้าคุณอารมณ์ไม่ดีแล้วอยาก หาคนมาระบาย ผมยอมให้หน้าคุณก็ได้…..….

น้ำหวานเพิ่งเปิดปากพูด เตชิตก็สีหน้าเปลี่ยน ทันที เหมือนนึกเรื่องที่ไม่รื่นรมย์ขึ้นมาได้ จึงรีบพูด ขัดจังหวะเธอ “แน่นอน! ถ้าคุณไม่อยากระบายให้ผมฟัง คุณไม่ต้องพูดก็ได้! คิดว่าผมอยากเป็นห่วง คุณมากลั่นแหละ เหอะๆ!”

ดูท่าแล้ว ท่าทาง น้ำหวาน ไม่ให้หน้าได้ สร้างปมให้กับหัวใจของเตชิตอยู่

กว่าจะเป็นห่วงคนอื่นบ้างไม่ใช่ง่ายๆ แต่ปรากฎ ว่าคนอื่นกลับไม่อยากเปิดใจคุยกับเขาซะงั้น……..

ขายหน้าจริงจริง!

“โอเคค่ะ” น้ำหวานหัวใจสั่นเล็กน้อย รับเบียร์ ที่อยู่ในมือของเตชิตมา “คุณรอฉันแป๊บหนึ่งนะ ฉัน ไปเปลี่ยนเสื้อก่อน

เงยหน้ามองดู เขาถึงพบว่าน้ำหวานเพิ่งอาบน้ำ

ออกมา

บนตัวเธอสวมใส่เสื้อผ้าสีขาวที่หลวมสบาย ถึงแม้เนื้อผ้าไม่ถือว่าบาง แต่รัศมีกลมดิ๊กของตรง หน้าอก แถมยังมีร่องรอยสีแดงสองจุดที่นูนออกมา อย่างชัดเจนเพราะไม่ได้ใส่เสื้อชั้นใน พริบตาเดียว ได้หล่นเข้ามาในสายตาเขา
ยังดีที่วันนี้เธอไม่ได้สระผม ถ้าหยดน้ำของผม ทำเอาตรงหน้าอกเปียกชื้น งั้นก็ยิ่งสามารถเห็นจุด สีชมพูได้อย่างชัดเจนแล้ว……..

คิดถึงตรงนี้ สมองของเตชิตเหมือนถูกคนทบ แรงๆทีหนึ่งจนว่างเปล่า

“ผม ผม…..คุณยังไม่รีบไปอีก! ไปๆๆ รีบไป เปลี่ยนเสื้อผ้าเร็ว!

พูดติดอ่างไปสองวินาที เตชิตรีบแย่งเบียร์ จากในมือของน้ำหวานมา ใช้มือข้างเดียวปรับหมุน ทิศทางให้น้ำหวาน และผลักเธอเข้าห้องอย่างแรง แล้วปิดประตูอย่างไว

น้ำหวานที่อยู่ในห้องกำลังรู้สึกประหลาดใจกับ ท่าทีแปลกๆของเตชิต เตชิตที่อยู่นอกห้องกลับปวด หัวจนนวดขมับ พึมพำอยู่ในใจอย่างลับๆ “แม่งยัง ดีที่ไม่ใช่สมัยโบราณ กูดูแล้วก็ไม่ต้องรับผิดชอบ พึมพำเสร็จก็คิดถึงอันนี้อีก “นี่กูถือว่าเป็นผู้ชาย เหี้ยๆหรือเปล่าวะ?”

พอน้ำหวานเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จออกมาจากห้อง ก็ไม่เห็นร่างเงาของเตชิตแล้ว
เธอคิดๆแล้วก็ได้ขึ้นไปดาดฟ้าโดยตรง

วิลล่าของNo.3กับวิลล่าNo.1 พอๆกัน ชั้นบน สุดมีห้องอาบแดดกระจกใส

น้ำหวานขึ้นมาชั้นบน แว๊บแรกก็เห็นร่างเงาสูง ใหญ่นั่งอยู่บนเก้าอี้ในห้องอาบแดด หันหลังให้กับ เธออยู่ กำลังมองวิวของชั้นล่าง

รอบๆทั้งๆสี่ด้านต่างก็เป็นบานกระจกเลื่อน กระจกของทั้งสี่ด้านถูกเปิดออกหมด ลมพัดพาเข้า มา กลิ่นหอมอ่อนๆของดอกไม้โชยมาเตะจมูกของ เธอ เธอหายใจลึกๆทีหนึ่ง รู้สึกผ่อนคลายลงไม่น้อย เลย

เดินมานั่งลงที่ข้างๆของเตชิต น้ำหวานกำลัง เตรียมหยิบเบียร์ออกมา คิดไม่ถึงว่าเตชิตยื่นมาให้ หนึ่งกระป๋องโดยตรง “เอา นี่เปิดแล้ว ให้คุณ

“ขอบคุณค่ะ” น้ำหวานพูดขอบคุณด้วยเสียง

“คุณไม่คิดว่าเราสามารถนั่งดื่มเหล้าอยู่ที่นี่ พูดคุยกันหรือแม้แต่ทะเลาะกันก็เป็นเรื่องที่ไม่เลว เลยเหรอ?”
“หืม?” น้ำหวานไม่เข้าใจ ดึงสติกลับมาไม่ได้

ในชั่วขณะ


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ