คุณชายมาดเข้มกับคุณหนูสุดแสบ

บทที่508: น้ำหวาน เธอคิดว่าเตชิตเป็นยังไงบ้าง?



บทที่508: น้ำหวาน เธอคิดว่าเตชิตเป็นยังไงบ้าง?

“ของพวกนี้ คุณทำให้พิงกี้เหรอคะ?”

ไม่รู้แฝงด้วยความคิดอะไร สมองของน้ำหวาน ยังดึงสติกลับมาไม่ได้ แต่ปากก็ถามออกมาแล้ว

ในใจมีความรู้สึกที่บอกไม่ถูก

อาจจะมีความอิจฉาริษยานิดหน่อยมั้ง

พิงกี้มีความรักที่สมบูรณ์แบบไม่มีที่ติ แถมยังมี ลูกชายที่น่ารักคนหนึ่ง มีเควินที่รักและเอ็นดูอย่าง สุดๆไม่พอ ข้างกายยังมีเตชิตที่แอบชอบเธอโดยที่ ไม่หวังสิ่งตอบแทนอีก เหมือนได้กลายเป็นผู้หญิงที่

โชคดีที่สุดแล้ว

แต่ตัวเธอเองล่ะ?

เธอไม่มีอะไรเลย

แววตาของน้ำหวานมืดมนลงมา ในใจรู้สึกยังไง

ก็ไม่รู้

เตชิตไม่ได้สังเกตเห็นอารมณ์ที่เปลี่ยนแปลง ของเธอ มือหยุดไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็เผยรอยยิ้มที่ รื่นรมย์ออกมา เขาพูดเล่นกวนประสาทเหมือนปกติ“ก็ใช่น่ะสิ ไม่นึกเลยว่าคุณจะเดาถูก สมองคุณก็ไม่ ได้โง่เหมือนอย่างที่ผมคิดหนี่ ชิ…..ไอคิวน่าจะเกิน ห้าสิบแล้ว”

ไอคิวห้าสิบ?

นี่มากสุดก็เป็นแค่ไอคิวของเด็กไม่ใช่เหรอ?!

นี่คือชมหรือโจมตี

ต้องเป็นการโจมตีแน่ๆเลย!

คนๆนี้นี่ไม่ได้พูดจาเหน็บแนมเธอวันหนึ่ง นี่รู้สึก ไม่สบายไปทั้งเนื้อทั้งตัวใช่มั้ย?

เมื่อกี้ในใจของน้ำหวานยังรู้สึกหึงและอิจฉา เล็กน้อย ตอนนี้อารมณ์พวกนี้พริบตาเดียวก็ถูกจุด ไฟขึ้นมา ได้กลายเป็นความโกรธขึ้นมาทันที

.” เดิมทีอารมณ์ก็ไม่ดีอยู่แล้ว แถมยัง ถูกด่าอีก น้ำหวานหายใจลึกๆทีหนึ่ง เธอได้เหยียบ ที่เท้าของเตชิตแรงๆทีหนึ่งเหมือนก่อนหน้านั้น จาก นั้นก็หันหลังจากไป

“เย็ดแม่ง! กูเจ็บจะตายอยู่แล้ว…..กู เฮ้ย รอก่อน! ” เตชิตเรียกเธอไว้

“ทำไม?” น้ำหวานหันหลัง “คุณอยากเอาคืน เหรอ?”

เธอยื่นเท้าไปที่ด้านหน้าอย่างไม่แคร์อะไร “มา เถอะ อยากเหยียบก็เหยียบเลย ถ้าฉันร้องเจ็บถือว่า ฉันแพ้!”

“ผมเป็นคนแบบนั้นเหรอ? สุภาพบุรุษไม่ ทะเลาะกับผู้หญิง! “เตชิตใช้สายตาทิ่มแทงเธอไป สองที หยิบชากุหลาบที่อยู่ข้างๆโยนมาให้เธอถุง หนึ่ง และพูดด้วยน้ำเสียงดุร้าย “ให้คุณ! คุณดูดีๆ ล่ะนี่ยังไม่ได้แกะกล่องเลยนะ ไม่ใช่ของเหลือ! คุณ เอาไปดื่มให้ผิวเนียนๆหน่อย เป็นผู้หญิงถ้าหยาบ กระด้างอย่างคุณ ก็ไม่รู้ว่าต่อไปจะมีคนเอามั้ย? แม้แต่ผมที่ไม่เรื่องมากและไม่พิถีพิถัน มองคุณแล้ว อย่างรู้สึกเป็นภัยต่อดวงตาเลย”

น้ำหวาน

เธอก็ไม่มีความคิดที่อยากจะสวนกลับไปด้วย ความโกรธ

ใช่
เธอเป็นแค่ผู้หญิงที่หน้าตาไม่ถือว่าสวย หุ่นก็ แสนจะธรรมดาเฉยๆ

ก่อนหน้านั้นเพื่อคบค้าสมาคมกับองค์กรSC เธอยังมีอารมณ์และมีแรงผลักดันที่จะแต่งตัวสวยๆ ตอนนี้ก็เพิ่งจะอกหัก แถมยังขังตัวเองอยู่แต่ในบ้าน ไม่ไปเจอผู้เจอคน ต่อมาเธอก็ปล่อยโทรมจนไม่แคร์ อะไรแล้ว

นี่ไม่เรียกว่าหยาบกระด้างแล้วเรียกว่าอะไร?

เดิมทีก็ไม่ใช่คนสวยมาแต่เกิดอยู่แล้ว แถมยัง ไม่แต่งเนื้อแต่งตัวอีก มันก็ขัดหูขัดตาจริงๆแหละ เทียบกับพิงกี้ไม่ได้เลยสักนิด……..เธอมีสิทธิ์อะไร ไปอิจฉาเพื่อนรักตัวเอง?

มือจับชากุหลาบที่แพ็คกิ้งสวยงาม น้ำหวานยืน สงบอยู่หลายวินาที จากนั้นก็หันหลังจากไปอย่าง เงียบๆ

เธอไม่ได้หันหลังกลับมามอง แต่หลังจากเธอ หันหลังจากไป เตชิตมองมาด้วยความแปลกใจ แวว ตาแฝงด้วยความกังวล

“ยัยบ๊องนี้โกรธเหรอเนี่ย? หรือว่าเราพดจาแรงไปวะ? ครั้งหน้า….ยอมๆเธอหน่อยก็แล้วกัน ชิ…..”

เตชิตพูดพิมพา

ตอนนี้ก็ดึกมากแล้ว น้ำหวานกลับไปที่ห้องนอน แล้ว เวลานี้เขาไปเคาะประตูก็คงไม่ดี คนอื่นจะนอน แล้ว ถึงเขาไปขอโทษมันก็เป็นการรบกวนอย่างหนึ่ง

คิดๆแล้ว เขาตัดสินใจทำงานในมือต่อ

น้ำหวานกลับมาถึงที่ห้องนอนของตัวเอง เธอ เดินไปที่ข้างเตียงของต้นข้าวและห่มผ้าห่มให้เธอ อาศัยแสงจันทร์ที่มืดสลัวนอกหน้าต่างนั่งอยู่บนพรม ใกล้ริมหน้าต่าง ในมือกำถุงดอกกุหลาบไว้ตลอด ไม่ นานเบ้าตาก็รู้สึกเปียกชื้น

ดอกกุหลาบมีกลิ่นหอมอ่อนๆฟุ้งกระจายอยู่ น้ำ หวานเอาศีรษะมุดไปที่หัวเข่า ในสมองเต็มไปด้วย ภาพวันวานของเธอกับดุสิต

ถึงแม้พยายามลืมเลือน แต่เธอก็จะนึกขึ้นมาได้

อยู่เสมอ

ตอนที่เสียใจและไร้กำลัง เธอชอบนึกถึงความ สุขเหล่านั้นในตอนที่เขาอยู่เคียงข้างเธอ
ระหว่างเธอและเขาเคยมีความหวานแหววกัน

อยู่

เพียงแต่………..

หยิบมือถือออกมา น้ำหวานส่งข้อความหาพิงกี้ ด้วยความหดหู่ ไพิงกี้ จู่ๆฉันรู้สึกตัวเองล้มเหลวมาก อิจฉาเธอมากที่ได้ครอบครองความรักที่ดีขนาดนั้น แถมยังมีเจ้าซาลาเปาที่น่ารักขนาดนี้……ฉันใกล้จะ อิจฉาเธอจะแย่อยู่แล้ว จนฉันเองไม่กล้าส่องกระจก แล้ว)

เดิมทีนึกว่าข้อความนี้จะไม่มีการตอบกลับ แต่ ที่ทำให้น้ำหวานคิดไม่ถึงคือ พิงกี้ตอบอย่างรวดเร็ว มากเพราะอะไร?

น้ำหวาน: (ทำไมเธอตอบข้อความไวขนาดนี้ เธอก็นอนไม่หลับเหรอ?

พิงกี้:[หลังจากฉันบอกเรื่องที่ดุสิตจะขึ้นศาล ให้เธอฟัง ฉันรู้ว่าเธอต้องนอนไม่หลับทั้งคืนแน่นอน เลยเป็นห่วงเธอ ฉันก็เลยนอนไม่ค่อยหลับเหมือนกัน พอมือถือเสียงดังขึ้นมาปุ๊บ ฉันก็ตื่นแล้ว
เห็นข้อความบนมือถือ น้ำหวานเม้มปาก หัวใจ ที่หนาวเย็นเหมือนถูกแช่อยู่ในน้ำผึ้ง ค่อยๆอบอุ่น และหวานชื่นขึ้นมา

(เธอยังไม่ได้บอกฉันเลยว่าทําไมไม่กล้าส่อง กระจก ? คงไม่ใช่นิทานผีมั้ง?)พิงกี้ส่งข้อความมาอีก

นําหวานตอบด้วยความรี่ยรมย์:[เพราะฉัน อิจฉาเธอ ความอิจฉาเลยทำให้คนน่าเกลียดยังไง ล่ะ 555……พิงกี้ ขอบใจนะ มีเธอเป็นอยู่ข้างกาย ฉันดีจังเลย)ถึงไม่ได้อยู่ข้างกาย แต่อย่างน้อยก็ไม่ เหมือนไอ้คนน่ารำคาญบางคน ตอนที่เธออารมณ์ไม่ ดียังชอบมารังแกเธออีก

เหอะๆ!

[ต่อไปจะต้องมีคนอยู่ข้างกายเธอ

แน่นอน…..อ้อใช่ น้ำหวาน เธอเคยคิดจะมีรักครั้ง

ใหม่มั้ย?

มีรักครั้งใหม่?

น้ำหวาน:[ตอนนี้ยังไม่ได้คิด ต่อไปถ้าไม่เจอ คนที่เหมาะสม ฉันอาจจะใช้ชีวิตโสดคนเดียวตลอดไปก็ได้

จากนั้น เธอก็เห็นพิงกี้ส่งมาหนึ่งคำ

(น้ำหวาน เธอคิดว่าเตชิตเป็นยังไงบ้าง?

เตชิต?

น้ำหวานตื่นตกใจ มองดูอีกรอบหนึ่งพบว่าตัว เองไม่ได้ดูผิด และไม่ได้เกิดภาพลวงตา ทันใดนั้น ในใจมีอารมณ์ที่ไม่สามารถพูดออกมาเป็นคำพูดได้

เตชิต…..ถือว่าฝืนใจพอได้มั้ง?

ไม่ ต้องบอกว่าดีมากเลยแหละ

ถ้าไม่ใช้อารมณ์มาประเมินค่าล่ะก็ เตชิตเป็น ผู้ชายที่เพอร์เฟคมาก ก่อนหน้านั้นเธอยังเคยอิจพิง กี้เพราะเหตุนี้อยู่เลย แล้วจะฝ่าฝืนหัวใจบอกว่าเต ชิตไม่ดีได้ยังไง?

แต่ว่า เธอไม่คู่ควรกับเขา

ไม่มีอารมณ์พูดคุยต่อ น้ำหวานตอบไปคำหนึ่ง ก็บอกว่าจะพักผ่อนแล้ว จากนั้นก็เดินไปที่เตียงแล้วปิดเสียงมือถือ

ศาลพิพากษาคดีของดุสิต น้ำหวานคิดๆแล้ว ก็ได้ตัดสินใจว่าจะไปฟังสักหน่อย

เธอกะว่าตอนเช้าจะบอกกับพิงกี้ แต่คิดไม่ถึง เพิ่งตื่นมาอาบน้ำอาบท่าเสร็จ ป้าแดงก็มาบอกว่าพิง กี้มารอเธออยู่ที่บ้านแล้ว

เธอใส่เสื้อผ้าเสร็จก็รีบออกมาจากห้องเลย

“พิงกี้ ทำไมเธอถึงมาเช้าขนาดนี้?” น้ำหวาน แปลกใจ แต่พริบตาเดียวก็นึกถึงเจตนาที่พิงกี้มา “เธอมาเพราะเรื่องของดุสิตใช่มั้ย?”

“อืม” พิงกี้พยักหน้า “ถ้าเธออยากไปล่ะก็ ฉันไปเป็นเพื่อนเธอ”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ