บทที่481: พ่อบอกว่าจะให้น้ำหวานเป็นแพะรับบาปแทนผม?
คุณหญิงดวงใจเพิ่งไป คนรับใช้คนหนึ่งก็เดินมาบ อกกับดุสิตว่าไพโรจน์รอเขาอยู่ที่ชั้นบน
แม่มาก่อน ต่อมาก็พ่อมาซ้ำเติม นี่คือจะทำสงคราม หมุนเวียนใช่ไหม?
ดุสิตนวดระหว่างคิ้วด้วยความหงุดหงิด จากนั้นก็ เดินขึ้นชั้นสอง และเคาะประตูห้องอ่านหนังสือ
“เข้ามา ” เสียงที่หนักแน่นดังขึ้น ในเสียงมีบุคลิกที่ สูงส่งและหนักแน่น
ดุสิตผลักประตูเข้าไป
เดิมทีนึกว่าไพโรจน์กำลังสะสางเรื่องงานอยู่ คิด ไม่ถึงว่าเอกสารตรงหน้าของเขาปิดไว้หมด ทั้งห้องอ่าน หนังสืออบอวลไปด้วยควันบุหรี่ ก็ไม่รู้ว่าเขาสูบไปมวน แล้วกันแน่ เห็นได้ชัดว่าอารมณ์เลวร้ายมาก
อาจจะเพราะสูบบุหรี่เยอะเกินไป พอไพโรจน์เปิด ปากพูดอีกที เสียงสามารถฟังออกอย่างชัดเจนว่าแหบ แห้ง “แกก็น่าจะรู้ว่าที่พ่อเรียกแกมามีเรื่องอะไรใช่ มั้ย?
เรื่องที่เกี่ยวข้องกับองค์กรครับ
“ใช่….” ไพโรจน์พยักหน้า จากนั้นก็ถอนหายใจ อย่างหนักหน่วง “คนของพ่อได้ข่าวมาว่า ครั้งนี้เรื่องที่ หมู่บ้านBถูกเควินก่อกวนและล้มเหลว เควินนยังอาศัย โอกาศนี้ขุดคุ้ยหลักฐานไปได้ไม่น้อย เกรงว่าตระกูล เราคงจะโค่นล้มแล้ว”
ถ้าไม่ใช่เรื่องถึงยามวิกฤติ เขาก็ไม่มีสีหน้า เคร่งเครียดขนาดนี้หรอก
“แล้วเราจะทำยังไงกันต่อครับ?” ในใจของดุสิตก็ ตื่นเต้นแล้ว จึงรีบถาม
“พรุ่งนี้พ่อจัดเตรียมให้แกไปพบปะหาคู่กับหลาน สาวของตระกูลศิลปการสกุล แกไปเจอหน้ากันหน่อย ถ้าได้ล่ะก็ ดีที่สุดแกรีบคอนเฟิร์มความสัมพันธ์กับเธอ แล้วไปจดทะเบียนสมรสโดยเร็วตระกูลศิลปการสกุล มีคนสนิทอยู่ตุลาการ ถึงเวลาถ้าแกถูกตัดสินโทษ พ่อ กับแม่จะช่วยแกแบกรับไว้ส่วนหนึ่ง ให้ทางน้ำหวานช่วย แกแบกรับไว้ส่วนหนึ่ง แล้วมีตระกูลศิลปการสกุลช่วย แกเป็นตัวกลางไกล่เกลี่ย โทษของแกก็จะได้เบาลงมา หน่อย”
“ต๊ะ อะไรนะ? นี่พ่อบอกว่าจะให้น้ำหวานเป็นแพะ รับบาปแทนผม?” พริบตาเดียวดุสิตตะลึงไปเลย
“ไม่งั้นล่ะ แกคิดว่าทำไมพ่อต้องบังคับให้เธอเข้า ร่วมในการทำค้าขาย เวลาเซ็นต์สัญญาทุกครั้งก็ต้องให้เธอเซ็นต์ไปทั้งหมด?” แววตาของไพโรจน์มีความร้า ยกาจแว๊บเข้ามา “แกก็ไม่ต้องเสียดายหรอก ขอแค่ผู้ หญิงคนเดียวเฉยๆ!หลังจากแกออกมาจากคุก มีมรดกที่ พ่อทิ้งไว้ให้แกมหาศาล ถึงเวลาแกอยากได้ผู้หญิงอะไร มีหรือที่จะไม่ได้?”
ดุสิตงงเป็นไก่ตาแตก แม้แต่ตอบโต้ก็ลืมไปเลย
เขานึกไม่ถึงเลยว่าพ่อตัวเองจะมีแผนการแบบนี้
ตระกูลภักดีวัฒนากุลทำงานอะไรกับองค์กรSC ดุสิตรู้อย่างกระจ่างแจ้ง แม้กระทั่งเขาเองยังถูกคุณ ปู่บีบบังคับให้เข้าร่วมด้วย มือของตัวเองก็เประเปื้อน ความสกปรกนี้แล้วเหมือนกัน
แต่ว่า พวกนี้ไม่ตรงตามทัศนคติต่อคุณค่าของเขา เลย ดังนั้น ตอนที่น้ำหวานบอกว่าอยากช่วยผู้เสียหายที่ ถูกควักเอาอวัยวะไปขาย เขาก็เห็นด้วยเลย
ด้านหนึ่งคือเขาทนไม่ไหวกับมโนธรรมของในใจ อีกด้านคือเขาก็อยากช่วยเหลือคน เพื่อให้พ่อแม่ตัวเอง ทําบาปน้อยลงหน่อย
อย่านึกว่าเขามองไม่ทะลุปรุโปร่งนะ
ในเวลาที่สถานการณ์คับขันอย่างนี้ คุณปู่พูดจาดู สวยหรูว่าที่ๆอันตรายที่สุดก็คือที่ๆปลอดภัยที่สุด ให้เขากับพ่อแม่อยู่ในประเทศเพื่อตบตาเควิน ก็ไม่ใช่เพราะ อยากละทิ้งพวกเขา ไม่สนว่าพวกเขาจะเป็นตายร้ายดี ยังไงแล้วเหรอ?
เขาคิดอยู่ ถ้าความพยายามพวกนี้ที่เขากับน้ำ หวานทำ บางทีสุดท้ายตระกูลของเขาอาจจะไม่ได้ตก อยู่ในสภาพที่ย่ำแย่ขนาดนั้นก็ได้
แต่ที่ทำให้เขาคิดไม่ถึงคือ คุณแม่ไม่เห็นด้วยที่ เขาคบกับน้ำหวาน คุณพ่อยังอยากให้เขาพยายามรีบ แต่งงานกับผู้หญิงที่ฐานะไม่เลว อยากอาศัยเรื่องนี้เพื่อ เอาตัวรอด
เกี่ยวกับจุดนี้ เขาก็ไม่สามารถพูดได้ว่าพวกท่าน คิดผิดไปแล้ว
อย่างไรก็ตาม ทางบ้านของน้ำหวานมีฐานะที่ ธรรมดา ไม่มีเส้นสายและไม่มีอำนาจ ถ้าหากตระกูล ภักดีวัฒนากุลหมดอำนาจแล้ว ไม่พูดถึงอย่างอื่น แค่ พูดถึงเรื่องที่เขาเคยทำเหล่านั้น ไม่แน่เขาก็อาจจะต้อง ถูกตัดสินโทษจำคุกหลายสิบปีเลย…….ถึงเวลานั้น น้ำ หวานไม่สามารถช่วยอะไรเขาได้จริงๆ บางทีประโยชน์ หนึ่งเดียวของเธอก็คือช่วยเขารับโทษแทน
แต่ว่า เขาไม่อยากเพราะเหตุนี้ก็ต้องเลิกลากับน้ำ หวาน ยิ่งไม่อยากเอาความผิดทั้งหมดนี้ให้น้ำหวานแบก รับไว้
ถ้าเป็นแบบนั้นล่ะก็ เขายังถือเป็นผู้ชายอะไรอีก
“ขอโทษครับพ่อ เรื่องนี้ผมรับปากไม่ได้ครับ ดุสิตสีหน้าเหงาหงอยเศร้าซึม แต่กลับพูดอย่างเด็ด เดี่ยว “น้ำหวานเป็นผู้บริสุทธิ์ ผมเป็นผู้ชาย ลูกผู้ชาย กล้าทำก็กล้ารับ ผมไปวางอุบายผู้หญิงคนหนึ่งแบบนี้ ไม่ได้ครับ”
“นี่แก……” ไพโรจน์โมโหจนเขวงที่เขี่ยบุหรี่ไป “ถ้าแกเฉียบขาดขนาดนี้ ทำไมตอนนั้นถึงไม่ตายเพื่อ ปฎิเสธคุณปู่ของแกล่ะ? ไอ้เศษสวะ!”
“ตอนนั้นคุณปู่ใช้พ่อกับแม่มาข่มขู่ผม ผมไม่ รับปากได้เหรอครับ?
“แกนี่มันลูกเนรคุณจริงๆ! ไม่ว่าจะยังไง คืนพรุ่งนี้ แกก็ต้องไปพบหลานสาวของตระกูลศิลปการสกุลให้ ได้ ฉันให้พี่ชายแกจับกลุ่มแก๊งเพื่อนไปเที่ยวสังสรรค์ พรุ่งนี้หนูมาช่าก็ไปด้วย แกจะต้องเอาใจเธอให้มากๆ เพื่อให้หนูมาช่าประทับใจในตัวแก ขอแค่หนูมาน่าจะ อยู่กับแกอย่างสุดจิตสุดใจ ถึงตระกูลศิลปการสกุลจะ คัดค้านก็ไม่มีประโยชน์ แกรู้ไหม?
“ผมไม่อยาก…………
“นี่แกจะให้พ่อคุกเข่าให้แกใช่ไหม?” ไพโรจน์เบิก ตาโต แววตาเต็มไปด้วยเส้นเลือดแดง ทำให้คนตัวสั่น
ดุสิตถูกเขาจ้องมองด้วยความโกรธ คำพูดที่ใกล้ ออกมาจากปากก็ได้กลืนลงไปใหม่
เรื่องที่พบปะหาคู่ครองกับมาช่า ดุสิตไม่ได้ตอบ ตกลง แต่ไพโรจน์อารมณ์ขึ้นไปหลายรอบ คุณหญิง ดวงใจก็มาร้องไห้ให้เขาไปรอบหนึ่ง แม้กระทั่งยังปาด น้ำตาจะคุกเข่าลงมาขอร้องเขา สุดท้ายเขาก็ได้แต่ รับปาก
เขาคิด อย่างมากก็แค่ก็แต่เล่นละครพอเป็นพิธี หรือไม่ก็พาน้ำหวานไปด้วย เขาไม่เชื่อว่าทำแบบนี้แล้ว มาช่ายังจะชอบเขาได้
ดุสิตกับน้ำหวานนัดเจอกันที่หน้าไนท์คลับเนเวอร์ แลนด์ ภายใต้การนำทางของพนักงานได้เดินไปยังห้อง ที่การินจองเอาไว้
ปกติดุสิตไม่ค่อยมาสถานที่แบบนี้ เขาไม่ค่อยชอบ สถานที่แบบนี้
เมื่อก่อนเขาเคยเปิดไนท์คลับแห่งหนึ่ง ก่อนที่พิง กี้มารับช่วงต่อเขาก็ไม่ค่อยไปสนใจเรื่องของไนท์คลับ หลังจากไนท์คลับตกแต่งเสร็จเขาก็ไม่ค่อยใส่ใจเรื่อง ของทางร้าน ตอนนี้ไนท์คลับที่ตกแต่งได้สวยงามนั้นได้ ขายออกไปแล้ว
เดินเข้าไปในห้อง เพิ่งผลักประตูออก ด้านในก็มี เสียงดังสนั่นพุ่งมาที่ตรงหน้า
การินเพิ่งกลอกเหล้าคนอื่นไปแก้วหนึ่ง เห็นดุสิต ผลักประตูเข้ามา เขารีบถือแก้วเหล้าเดินมา “ทุกคนรอ นายอยู่แค่คนเดียว นายนี่ชักช้าจังเลย อ้อ~ใช่แล้ว ข้าง กายนายคนนี้…….ก็คือแฟนของนายใช่ไหม?”
สายตาเยาะเย้ยหล่นอยู่ที่บนตัวของน้ำหวาน กา รินพูดชวนให้คิดลึก “ในที่สุดก็ได้เจอตัวจริงสักที คุณ สวยกว่าในรูปเยอะเลยนะครับ”
รูปถ่าย?
ยังจะมีรูปถ่ายอะไรได้อีกล่ะ?
นึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นในวันนั้นและรูปถ่ายที่ถูกถ่าย เอาไว้ น้ำหวานก็สีหน้าซีดขึ้นมาทันที
เธอไม่รู้ว่าลูกพี่ลูกน้องของดุสิตมาด้วย
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ