บทที่464 :น้องต้นข้าว
“เด็กตัวแค่นี้ ทิ้งก็ทิ้งสิ มีอะไรน่าเสียดายด้วย?
ผู้ชายเดินออกมาจากมุมมืด เดินมาถึงที่หน้าห้อง อาศัยแสงไฟสามารถดูออกว่าเขาหน้าตาไม่เลว แต่ เพราะมีทรงจมูกเหยี่ยวและริมฝีปากบาง ทำให้คนมี ความรู้สึกเย็นชาและร้ายกาจ
เดิมทีเจ้าหมาใหญ่จูงมือของน้ำหวานไว้ ตอนนี้ ก็ได้หลบอยู่ที่ด้านหลังเธออย่างหวาดกลัว เหมือนกลัว ผู้ชายมากอย่างไรอย่างนั้น
น้ำหวานบีบมือของเจ้าหมาใหญ่อย่างลับๆ เพื่อ ปลอบโยนเขา
ภายนอก เธอก็ยังยิ้มแย้มเหมือนดอกไม้ผลิบาน “พี่บอล ฉันจะบอกให้นะ นี่ไม่ใช่เด็กผี แต่เป็นสินค้าที่ ฉันหามาเชียวนะ พี่นึกว่ากว่าฉันจะจับเด็กกำพร้ามาได้ มันง่ายมากนักหรอ? นี่ก็ต้องอาศัยโอกาศช่วยด้วยนะ เดี๋ยวฉันจะพาเขาไปตรวจร่างกายที่คลีนิก ถ้าร่างกาย ของเขาปกติดีทุกอย่าง พี่ก็ต้องคิดค่าหัวให้ฉันด้วย”
“ตัวเล็กแค่นี้ เธอก็ทำได้ลงคอน้อ 555……
“ทำไมฉันจะทำไม่ลงคอ ยิ่งอวัยวะของเด็กเล็กแค่ นี้ก็ยิ่งได้ราคาสูงไม่ใช่หรอ? เงินมากองอยู่ตรงหน้าฉัน ถ้าฉันไม่เอาก็โง่แล้ว ก่อนหน้านั้นไม่ใช่มีลูกค้าคนหนึ่ง อยากได้ไตของเด็กอายุห้าหกขวบพอดีเหรอ? ฉันดูเด็กคนนี้ใช้ได้เลย”
“เธอนี่ก็ใจร้ายเหมือนกันนะเนี่ย”ผู้ชายมองพิงกี้ ด้วยสายตาไม่ซื่อตรงพลางยิ้ม “แต่ว่า เธอคงไม่ใช่มา เล่นละครตบตาฉัน ที่จริงแล้วแอบเป็นสายลับให้คนอื่น มั้ง? ฉันจำได้ว่าการค้าขายหลายครั้งที่ผ่านมือเธอ ต้อง ล้มเลิกไปกลางคันกว่าครึ่งเลยนะ”
“นี่จะมาโทษฉันได้ยังไง?” น้ำหวานพูดด้วยความ ไม่พอใจ “มีคนหมั่นไส้ฉันที่เป็นผู้หญิงก็ยังสามารถ หากินกับอาชีพนี้น่ะสิไม่ว่า ดังนั้นถึงได้จงใจทำให้ฉัน ลำบากใจ พวกมันก็ไม่คิดดูบ้าง ปกติพวกมันก็มีตอนที่ พลาดบ้างเหมือนกันแหละ แถมยังไม่น้อยกว่าฉันด้วย ถือสิทธิ์อะไรมาจ้องจับตาฉันดูตลอด?”
“เอาเถอะๆ เธอพาคนเข้าไปเถอะ ฉันไปห้อง ข้างๆ”
“อืมๆ” น้ำหวานยิ้มเบาๆ
พอผู้ชายเดินออกจากห้อง เธอปิดประตู ทันใดนั้น รอยยิ้มบนใบหน้าได้จางหายไปหมด
เธออารมณ์ไม่ดี เจ้าหมาใหญ่ยืนอยู่ข้างกายเธอไม่ กล้าขยับตัวเลย ดวงตาทั้งคู่จ้องมองเธออยู่ตลอดเวลา
ผ่านไปสักพัก ในที่สุดน้ำหวานถึงปรับอารมณ์ได้
“นี่พี่ทำให้เราตกใจใช่ไหม?” นั่งลงที่ตรงหน้าของ เจ้าหมาใหญ่ น้ำหวานลูบศีรษะเขาเบาๆ “พี่เห็นเสื้อของ เราสกปรก เมื่อกี้พี่เลยซื้อเสื้อให้ผมหลายตัวเลย ไป เดี๋ยวพี่พาไปอาบน้ำ
เธอจูงมือของเจ้าหมาใหญ่ไว้ เจ้าหมาใหญ่เดินตาม เธออย่างเชื่อฟัง
พอมาถึงห้องน้ำ เธอเปิดฝักบัว น้ำอุ่นไหลลงมา จากฝักบัว
สิ่งแวดล้อมของโรงแรมนี้ไม่ดี แต่ดีที่สิ่งอำนวย ความสะดวกถือว่าครบครันอยู่
น้ำหวานถอดเสื้อผ้าให้เจ้าหมาใหญ่ จากนั้นก็อึ้ง
ค้างไว้
เธอนึกมาตลอดว่าเด็กที่เธอพากลับมาเป็นเด็ก ผู้ชาย คิดไม่ถึงว่าจะเป็นเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง……….มองดู หน้าตาเจ้าหมาใหญ่ที่ใจเสาะและระมัดระวังยืนอยู่ตรง หน้าแล้ว น้ำหวานอดขำไม่ได้
“ในเมื่อเธอไม่มีชื่อ งั้นพี่ตั้งชื่อให้หนูดีไหม?”
..ดี” เจ้าหมาใหญ่พยักหน้า
“งั้นต่อไปหนูชื่อต้นข้าวนะ”
..อืมๆ” ต้นข้าวพยักหน้า
“ช่วงนี้มีข่าวของน้ำหวานกับดุสิตไหมคะ?
พิงกี้ยืนถามอยู่ที่หน้าห้องอ่านหนังสือ
หลังจากคราวก่อนรู้เรื่องของน้ำหวานแล้ว เธอก็ วางใจไม่ลงสักที ทุกวันจะต้องคอยถามวันละครั้ง เดิมที นึกว่าจะได้คำตอบว่า “ไม่มี “อีกเช่นเคย แต่ที่ทำให้พิงกี้ คิดไม่ถึงคือ ครั้งนี้เควินพยักหน้าบอกว่า “มี”
“จริงหรอคะ?” พิงกี้ดีใจเพราะดีกว่าที่คาดการณ์ เอาไว้ รีบผลักประตูเข้ามา “เป็นข่าวอะไรคะ? ใช่ข่าวที่ หาน้ำหวานเจอหรือเปล่าคะ?”
“ ……ถือว่าใช่” เควินกดเข้าไปที่ไฟล์งานหนึ่ง “มี คนของผมส่งข่าวมา บอกว่าแถวหมู่บ้านBพบผู้หญิงที่ สงสัยว่าเป็นน้ำหวาน เรากำลังส่งคนไปตรวจสอบความ จริงอยู่”
“สงสัย?” พิงกี้ชะโงกศีรษะ “คุณลองให้ฉันดู หน่อยซิ ฉันจะบอกคุณนะ ฉันกับน้ำหวานซี้กันมาก ถึง เธอเละเป็นผงฉันก็ยังสามารถดูออกเลย”
เละเป็นผง…….
ถ้าคนที่ไม่รู้ยังนึกว่าเธอเป็นศตรูกับน้ำหวานเสีย
อีก
เควินชาญฉลาดอย่างไม่ได้แสดงความคิดเห็น แต่ แค่ขยายภาพให้พิงกี้ดูอย่างละเอียด
คนที่ถ่ายรูปเทคนิกไม่ถือว่าดี ไม่มีองค์ประกอบ ของการหามุมและวิวทิวทัศน์ สิ่งเดียวที่มีคือภาพถ่าย ชัดแค่นั้นเอง แต่ก็คือรูปถ่ายอย่างนี้ อยู่ในพท้นหลังที่ มืดสลัวและยุ่งเหยิง หญิงสาวที่สวมใส่เดรสสีแดงโชว์ แผ่นหลังกลับสวยสดงดงามเป็นพิเศษ เหมือนดอก โบตั๋นที่เบิกบานอยู่ในดินโคลน
พิงกี้ตั้งใจดู สุดท้ายในแววตาก็มีความหนักแน่น โผล่ขึ้นมา “ใช่ เธอคือน้ำหวานค่ะ
“คุณแน่ใจ?” เควินขมวดคิ้วเล็กน้อย “พิงกี้ คุณ แน่ใจจริงหรือ?”
ช่วงนี้พวกเขากำลังสะกดรอยตามน้ำหวานกับ ดุสิต ถ้าพิงกี้แน่ใจว่าคนๆนี้คือน้ำหวาน งั้นเขาก็จะส่ง กำลังที่สอดคล้องไปแล้ว
ต้องรู้ไว้นะ น้ำหวานเป็นตัวเชื่อมของตระกูภักดี วัฒนากุล ปกติสถานที่ๆเธอปรากฎตัวต้องมีการค้าขาย แน่นอน ขอแค่สะกดรอยตามน้ำหวาน ไม่แน่พวกเขา ก็อาจจะสามารถจับคนขององค์กรSCได้ชุดหนึ่ง และช่วยเหลือผู้บริสุทธิ์ออกมาได้ชุดหนึ่งเลย
“ฉันแน่ใจค่ะ!” พิงกี้พยักหน้า ในขณะเดียวกัน แววตาของเธอมีความตื่นเต้นที่เควินดูไม่เข้าใจลุกไหม้ ขึ้นมา “อีกอย่าง ฉันยังสามารถแน่ใจได้ว่าน้ำหวาน เป็นผู้บริสุทธิ์ เธอไม่ใช่คนที่เห็นแก่อำนาจเงินทอง และ ไม่ใช่คนที่เห็นเงินเท่าชีวิต เธอกำลังส่งข่าวให้ฉันอยู่ ค่ะ!”
“ส่งข่าวอะไร?”
“คุณดูรูปถ่ายใบนี้สิคะ” พิงกี้ชี้ไปที่รูปและพูด ว่า “รูปถ่ายใบนี้น้ำหวานเอามือข้างหนึ่งวางไว้บนเอว ดูสีหน้าเหมือนไม่ใส่ใจ แต่มือกลับทำท่าปืนเอียงลงไป ทาบอยู่บนเอว……..คนทั่วไปอาจจะดูไม่ออก แต่นี่ เป็นความลับเล็ๆระหว่างฉันกับเธอ! เราเคยใช้ท่าทางนี้ นัด….…………….….
“นัดอะไร?”
……แฮ่มๆ ” พิงกี้กระแอมสองที “นัดต่อยคนให้ ตายกันไปข้างค่ะ
เควิน “ ………….………”
พิงกี้อธิบาย “สมัยฉันเด็กๆมีชีวิตย่ำแย่ซะ ขนาดนั้น ตระกูลบุญถาวรไม่ให้ข้าวฉันกิน ฉันก็เลยพัฒนาการไม่ดีตัวเล็กนิดเดียว แถมยังชอบถูกคนรังแก อยู่เป็นประจำ ถูกคนรังแกเยอะเข้าๆ ฉันก็ต้องเอาคืน บ้างสิ จากนั้นน้ำหวานก็จะไปต่อยคนกับฉัน เพื่อลงมือ ด้วยความเข้าใจโดยปริยาย เราก็เลยนัดทำท่าทาง แบบนี้ ขอแค่ใครทำท่าทางนี้ออกมาลับๆก็แสดงว่าจะ เปิดฉากการโจมตีทั้งหมดแล้ว ตอนนั้นเราก็จะเตะต่อย อย่างแรงเอาให้ตายกันไปข้างเลย…….
เควิน “………..”
“จุดสำคัญของตอนนี้คือ ฉันแน่ใจว่าคนๆนี้คือน้ำ หวาน ส่วนน้ำหวานเองก็เป็นไปได้ว่าใช้ท่าทางนี้มาส่ง สัญญาณให้พวกเรา เราจะพิจารณาความเคลื่อนไหว ของต่อไปไหมคะ?” พิงกี้หายใจลึกๆทีหนึ่ง “คุณเค วิน ฉันรู้ว่าตอนนี้คุณยังสงสัยน้ำหวานอยู่ แต่สงสัยมัน ก็ส่วนสงสัย ส่งคนไปเจรียมการล่วงหน้าก็ไม่เสียหาย อะไร ถูกไหมคะ?”
เพราะในใจตื่นเต้นและหดหู่ จากที่เธอเรียก“เค วิน”มาตั้งนาน ก็ได้เปลี่ยนมาเรียก “คุณเควิน อีก
เควิน “…”
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ