บทที่439: โน้มน้าว
“อายุสิบห้าแล้ว?” คราวนี้กลายเป็นภูผาที่ตก
ตะลึง
เห็นได้ชัดว่าเขาไม่รู้เรื่องนี้
“นายอนันต์บอกกับนายว่ามีลูกสาว แต่ไม่เคย บอกอายุให้นายหรือไง?”
“ไม่เคยครับ” ภูผาส่ายหัว
“งั้นตอนนี้พี่จะบอกนายรู้เอาไว้นะ ลูกสาวของเขา อายุสิบห้าแล้ว ไม่ใช่เด็กน้อยที่อายุต่ำกว่าสิบปีแล้ว” พิงกี้นวดระหว่างคิ้วด้วยความปวดหัว “นายอยากรับ เลี้ยงหญิงสาวที่อายุสิบห้า นายกะจะเลี้ยงเธอเป็นแบบ ลูกสาวหรอ? ตัวนายเองก็เพิ่งจะอายุยี่สิบเองนะ!”
“ผมรู้แล้วครับ” หลังจากภูผาตกตะลึงเสร็จ ก็ได้ พยักหน้าอย่างแน่วแน่ “แต่ว่า ถ้ารับเลี้ยงไม่ได้ ผม สามารถให้เธออยู่ข้างกายและดูแลเธอแบบน้องสาวได้ นี่ครับ เธออายุสิบหน้าแล้ว งั้นก็พอดีเลย เด็กอายุเท่า นี้ก็น่าจะแยกแยะผิดถูกได้แล้ว เราสามารถสื่อสารกัน อย่างเท่าเทียมกันครับ ดีที่ไม่ใช่เด็ก ถ้าเป็นเกินไปเดี๋ยว ร้องไห้งอแงอีก ”
พิงกี้ “…”
“พี่ไม่เห็นด้วยหรอครับ?”
“ถ้าพี่ไม่เห็นด้วย นายก็จะล้มเลิกความคิดนี้ หรอ?” พิงกี้ย้อนถาม “ภูผา เพื่อให้นายอนันต์มาบริ จาคไขสันหลังให้นาย พี่กับคุณเควินได้ให้เงินอนันต์ไป หนึ่งล้านบาทแล้ว ก็คือให้ลูกสาวเขานั่นแหละ ถึงอนันต์ จะตายไปแล้ว ต่อไปลูกสาวของเขาก็สามารถใช้ชีวิต ดีๆ ไม่ต้องให้นายไปเป็นห่วงเลยด้วยซ้ำ นายเข้าใจ ไหม?”
“แต่เธอน่าสงสารมากเลยนะครับ………. ภูผา
ก็ยังไม่ล้มเลิกความคิดอีก ดูแล้วเหมือนค่อนข้างที่จะ ลังเล
ลูกสาวของอนันต์สูญเสียพ่อกับแม่ เขาก็เหมือน กัน แต่เขาโตกว่าลูกสาวของอนันต์หลายปี อีกทั้งยัง เป็นผู้ชายและเข้มแข็งกว่าเยอะด้วย ลูกสาวของอนันต์ เสียพ่อแม่ไปในวัยนี้ ในมือยังเอาเงินไว้หนึ่งล้านบาท เดิมทีไม่มีความผิด แต่เพราะมีเงินอยู่กับตัวจึงมีความ ผิด ไม่แน่เธออาจจะต้องเผชิญกับอันตรายซะมากกว่า มั้ง?
เด็กผู้หญิงที่เพิ่งจะอายุสิบห้า ยังไม่บรรลุนิติภาวะ เลย สามารถปกป้องตัวเองได้หรือ?
เงินที่อยู่ในมือของเธอ จะถูกญาติพี่น้องที่ไม่ดี ครอบครองหรือเปล่า สุดท้ายต้องตกอับจนไม่เหลือ อะไรและกลับยิ่งตกอยู่ในความย่ำแย่หรือเปล่า?
พอคิดๆแล้ว ภูผาก็รู้สึกทนดูไม่ได้
อนันต์ไม่ใช่คนดีก็จริง แต่ในฐานะที่เป็นลูกสาว ของฆาตกรและผู้ล่วงละเมิดทางเพศ ลูกสาวของเขาน่า จะเป็นผู้บริสุทธิ์มั้ง?
“ใช่ พี่ไม่เห็นด้วย” พิงกี้ไม่มีการปิดซ่อนใดๆเลย เธอพูดอย่างตรงไปตรงมา “สถานการณ์ของนายใน ตอนนี้ นายพาผู้หญิงที่ไม่ใช่ญาติสนิทมิตรสหายไว้ข้าง กาย นายรู้มั้ยว่ามันเป็นปัญหามากแค่ไหน?
“ยังไม่พูดถึงอย่างอื่น แค่พูดถึงตอนนี้ร่างกายของ นายก็ยังไม่ฟื้นฟูกลับมาแข็งแรงเหมือนเดิม อย่างน้อย ยังต้องอยู่ที่โรงพยาบาลอีกหนึ่งเดือน หลังออกจากโรง พยาบาล น้อยสุดก็ต้องพักรักษาตัวครึ่งปีถึงออกไปหา งานทำได้มั้ง? ถึงเวลานายสองคนคือใครจะดูแลใคร? นายมีเรี่ยวแรงไปดูแลเธอหรอ? ภูผา นายดูแลผู้หญิง อายุสิบห้าไม่ใช่ว่าให้เธอได้กินอิ่มมีเสื้อผ้าใส่ก็พอนะ นายยังต้องดูแลการเติบโตของเธอ แต่ตามสถานการณ์ ของนายในตอนนี้ นายแบกรับภาระแบบนี้ไม่ไหวเลย ด้วยซ้ำ!”
“พี่ครับ…….”
“สรุปก็คือ พี่หวังว่านายจะล้มเลิกความคิดนี้ซะ พี่ไม่อนุญาติ!”
พิงกี้ได้พูดตรงๆ
“โอเคครับ” เผชิญกับพิงกี้ที่แข็งกร้าวขึ้นมา ถึง แม้ในใจของภูผาจะลังเลยังไง ก็ได้แต่รับปากเธอ
เดิมทีนิสัยของภูผาก็ค่อนข้างที่จะรีรอและลังเล ไม่กล้าตัดสินใจอยู่แล้ว จุดนี้พิงกี้ไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ หวังว่าภูผาจะสามารถแก้นิสัยจุดนี้ได้ แต่ตอนนี้เธอ กลับรู้สึกขอบคุณเป็นอย่างมากที่นิสัยของเขาไม่ได้ แข็งกร้าวขนาดนั้น
ยังไม่พูดถึงว่าอนันต์เสนอเรื่องนี้ออกมาเพราะมี วัตุประสงค์อย่างอื่นหรือเปล่า และไม่พูดถึงว่าลูกสาว ของอนันต์เป็นเด็กดีเชื่อฟังและเข้าหากันได้ง่ายมั้ย แค่ พูดถึงลูกสาวของอนันต์โตขนาดนี้แล้ว พักอาศัยอยู่กับ ผู้ชายที่บรรลุนิติภาวะแล้ว ไม่จำเป็นจะต้องหลีกเลี่ยง การกระตุ้นให้เกิดความสงสัยเลยหรือไง?
เพราะอย่างไรซะ ตอนนี้ภูผาก็ยังต้องให้เธอดูแล
อยู่เลย
คิดถึงตัวเองยังตั้งครรภ์อยู่ ร่างกายก็ไม่ค่อยแข็ง แรง แถมยังจะต้องกังวลเรื่องนี้ทีกังวลเรื่องนั้นที แถม ยังต้องกังวลเพิ่มอีกคนเพราะภูผา……….นใดนั้นพิงกี้ รู้สึกปวดหัว
“นายพักรักษารตัวดีๆเถอะ อย่าไปคิดเรื่องเพ้อ ฝันพวกนั้นเลย ตอนนี้แม้แต่ตัวนายเองยังต้องให้พี่ดูแล เลย นายอย่าใจดีไปมั่วแล้วมาสร้างปัญหาให้พี่อีกเลย รู้ หรือยัง?” พิงกี้ไม่พูดอ้อมค้อม เธอจิ้มที่ศีรษะของภูผา แรงๆทีนึง “ถ้านายดูแลเด็กผู้หญิงคนนั้นไม่ได้ สุดท้าย ก็ต้องมาตกอยู่ที่พี่ แต่พี่ก็ใช่ว่าจะทำอะไรได้สารพัด อย่างนะ นายเข้าใจ?
ไม่พูดตรงๆหน่อย พิงกี้กลัวไอ้หมอนี่เกิดโง่ขึ้นมา
อีก
ภูผาถึงคลายสีหน้าที่ลังเลลง และพยักหน้าอย่าง จริงจัง “ผมรู้แล้วครับ
ตัวเขาเองลำบากน่ะไม่เป็นไร แต่ถ้าให้พิงกี้ลำบาก เขาก็รู้สึกละอายใจมาก
ก็ใช่น้อ เขาสมองพิการเองที่คิดแบบนั้น
ตอนนี้ตัวเองยังต้องพึ่งพาพี่สาวเลย จะมีหน้าไป ช่วยเหลือคนอื่นได้ยังไง?
การผ่าตัดของภูผาสำเร็จมาก
เพราะไม่ต้องกลุ้มใจเรื่องอะไรเลย สิ่งแวดล้อมในการใช้ชีวิตดีมาก ถูกดูแลอย่างดีในทุกด้าน บวก กับภูผายังหนุ่มยังแน่น เดิมทีร่างกายก็ถือว่าแข็งแรงดี ร่างกายจึงฟื้นฟูได้เร็วมาก
ตอนนี้ก็เดือนกันยายนแล้ว หลังภูผาผ่าตัดมาได้ ครึ่งเดือนก็ย้ายไปอยู่คอนโดที่พิงกี้เตรียมไว้ให้เขา
คอนโดนี้อยู่ห่างจากโรงพยาบาลแค่สองร้อยเมตร
สะดวกกับการเดินทางมาก
อยู่ที่โรงพยาบาลยังไงก็ไม่สบายเท่าอยู่บ้าน ภูผา เป็นคนที่ช่วยเหลือตัวเองได้ ไม่จำเป็นต้องจ้างพยาบาล ส่วนตัวมาคอยดูแล พิงกี้แค่จ้างแม่บ้านวัยกลางคนที่ ทำงานว่องไวและคล่องแคล่วคนหนึ่งก็พอ แม่บ้าคนนี้ ชื่อป้าน้อย ให้ป้าน้อยรับผิดชอบเรื่องอาหารกินและ ทำความสะอาดบ้านของเขา
นอกเหนือจากนี้ ทุกครั้งตอนที่ภูผาต้องตรวจเช็ค ร่างกาย ก็จ้างหมอมาตรวจถึงที่ ถ้าตอนที่ต้องตรวจวัด ด้วยเครื่องมือ ถึงให้ป้าน้อยไปเข้าแถวรับคิวก่อน จาก นั้นภูผาก็ค่อยตามไป
พิงกี้ถือว่าใช้ใจทำเพื่อภูผามากเป็นพิเศษแล้ว
ที่จริงพวกนี้ก็ไม่ถือว่าอะไรหรอก ขอแค่ภูผา สามารถฟื้นฟูกลับมาแข็งแรง พิงกี้ก็โล่งอกไปทีแล้ว
ที่สำคัญกว่าคือ ภูผาไม่เคยพูดถึงลูกสาวของ อนันต์อีกเลย ใจที่แขวนไว้อยู่กลางอากาศของเธอก็ ค่อยๆวางลงมาแล้ว แทบจะลืมเรื่องนี้ไปแล้วด้วยซ้ำ
ถ้าสามารถกังวลเรื่องพวกนี้ให้น้อยลง เธอก็จะมี ความสุขขึ้นไม่น้อยเลย
แต่แล้ว วันนี้เธอเพิ่งเล่นกับน้องแอ๊ปเปิ้ลเสร็จ ก็มี สายเรียกเข้าจากป้าน้อย
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ