บทที่431: หัวเราะเพราะคุณน่ารักมาก
ถ้าเป็นเมื่อก่อน พิงกี้ไม่มีความคิดที่จะหลบหลีก เตชิต แต่ตอนนี้ เผชิญหน้ากับแววตาที่ลึกจนราวกับว่า มองไม่เห็นก้นบึ้ง จู่ๆหัวใจของเธอค่อนข้างที่จะเต้นแรง
เหมือนสัตว์ที่ถูกนักล่าจ้องเอาไว้ รู้สึกถึงอันตราย มีความวู่วามที่อยากจะวิ่งหนีอย่างเดียว
ถ้าไม่ใช่ว่าสติยังอยู่ เธอคงจะรีบลุกขึ้นมาแล้ว
เตชิตกลับยิ้มอ่อนๆ
เขามองดูพิงกี้ด้วยการหยอกล้อ แววตาเต็มไปด้วย รอยยิ้ม “ทำไม เป็นเพราะว่าไม่ได้คุยกันนาน คุณเลย ไม่คุ้นเคยกับผมแล้วใช่มั้ย? ทำไมผมถึงรู้สึกว่าตอนนี้ คุณระวังผมมากเป็นพิเศษเลย คงไม่ใช่เพราะว่าช่วงนี้ เจอแต่เรื่องวุ่นวายแล้วทำให้คุณเป็นโรคหวาด วาดระแวง มั้ง?”
* พิงกี้ถูกหยอกล้อจนเขินเล็กน้อย แต่ ว่าเธอก็ไม่ได้กระตุ้งกระติ้ง “ใช่ ก็รู้สึกอึดอัดเล็กน้อย อยู่…..ฉันก็นึกว่าคุณอยู่ที่นี่วันนึง ก็จะหลบหน้าฉันวัน นึงเสียอีก”
สิ่งที่คนอื่นสามารถมองเข้าใจได้ พิงกี้ก็ย่อมเข้าใจอยู่แล้ว
ช่วงเวลาที่อยู่บ้านหลังนี้ เพื่อหลีกเลี่ยงการกระตุ้นความสงสัย เตชิตจึงหลบหน้าเธอตลอด พยายามใกล้ ชิดโดยตรงกับเธอให้น้อยที่สุด แม้กระทั่งทานข้าวก็ยัง ทานอยู่ในห้องคนเดียว………..
เห็นได้ชัดขนาดนี้ เป็นไปไม่ได้ที่พิงกี้จะไม่เข้าใจ
แต่ว่าเธอเคารพการตัดสินใจของเตชิต เพราะ สาเหตุบางอย่าง อย่างห่างกับเตชิต เธอกลับรู้สึกอิสระ มากกว่า
“คุณก็สังเกตเห็นเหมือนกันหรอ?” เตชิตหัวเราะ เบาๆ “ก็ใช่น้อ เป็นไปได้ยังไงที่คุณจะสังเกตไม่เห็น คุณเป็นคนฉลาดจะตาย”
อดไม่ได้ที่จะยื่นมือไปจับผมที่ทิ้งตัวมาที่แก้มของ พิงกี้ ทีนี้แววตาของเตชิตยิ่งลึกซึ้งเข้าไปใหญ่
“แต่ตอนนี้จู่ๆผมคิดตกแล้ว ก่อนหน้านี้ผมคิดผิด ไปแล้ว เมื่อก่อนผมคิดแต่จะอยู่ข้างกายคุณ แต่ที่ผ่าน มาผมไม่มีโอกาสเลย……….ตอนนี้โอกาศอยู่แค่เอื้อม ของผมแล้ว ผมสามารถอยู่ใกล้คุณขนาดนี้ นี่คือของ ขวัญที่ฟ้าประทานมาให้ผม ผมไม่ควรจะผลักใส่ไล่ส่งสิ ถึงจะถูก “พิงกี้ “
“เพราะฉะนั้น ต่อไปผมตัดสินใจจะยั่วยวนคุณอย่างจริงจัง ไม่แน่คุณอาจจะเห็นผมดีกว่าเควิน และ หันมาชอบผมก็ได้ล่ะ?” เตชิตกระพริบตาปริบๆ เหมือน กําลังล้อเล่น แต่ก็เหมือนพูดจริง
พิงกี้รู้สึกหัวชาไปหมด
เธออดไม่ได้ที่จะลุกขึ้นมา “คุณเตชิต มุขนี้มันไม่ ตลกเลยนะ”
“เอาล่ะๆ ผมแค่ล้อเล่นเฉยๆ คุณอย่าอารมณ์ขึ้น สิ” เตชิตยิ้มอย่างอันธพาล เขายื่นมือดึงมือของพิงกี้ไว้ และพาเธอนั่งลงที่โซฟา “นานๆทีจะมาพูดคุยกับคุณ ทำไมคุณนี่ล้อเล่นไม่ได้เลย?”
มือถูกฝ่ามือใหญ่ของผู้ชายกุมไว้อย่างแน่น หลัง มือของพิงกี้ถูกความร้อนของฝ่ามือเขาเผาไหม้อยู่ ยิ่ง อยู่ยิ่งรู้สึกอึดอัด
“คุณเตชิต คุณปล่อยฉันก่อนค่ะ”
ดิ้นยังไงก็ดิ้นไม่หลุดจากมือของเตชิต พิงกี้ได้แต่ พูดอย่างจนปัญญา
น้ำเสียงของเธอมีความอายจนโกรธ และค่อนข้าง
ทำอะไรไม่ถูก
ด้วยจิตใต้สำนึกทำให้เธอมองดูรอบๆ กลัวจะถูกคนพบเห็นภาพนี้เข้า แต่นาทีที่หันหลังก็เผชิญกับ ดวงตาดำเข้มและลุ่มลึกของผู้ชาย
“เควิน?” พิงกี้อึ้ง
เธอพยายามใช้แรงขัดขืนออกจากมือของเตชิต ดี ที่เตชิตก็ไม่ได้ล้อเล่น”ต่อ เธอจึงดิ้นหลุดจากมือของ เขาอย่างง่ายดายได้
เดินไปตรงหน้าของเควินที่ยืนอยู่หัวบันได พิงกี้เม้ม
ปากและมองเขาด้วยความตื่นเต้น “คุณ…..คุณลงมา เดินเล่นหรอคะ? อ้อ~ใช่แล้ว คุณจะดื่มน้ำมั้ยคะ? ฉัน เพิ่งชงชาเก๊กฮวยเสร็จว่าจะเอาไปให้คุณ ตอนนี้อากาศ ร้อน ดื่มชาเก๊กฮวยกำลังดีเลยค่ะ
มองดูพิงกี้อย่างลึกๆหลายที แล้วเหลือบ มองเตชิตด้วยสายตาเย็นชาทีนึง เควินพยักหน้าด้วย ความเยือกเย็น “ยกขึ้นมาที่ชั้นบน”
พอพูดจบ เขาก็หันหลังเดินขึ้นไปชั้นบน
พิงกี้ “
หายใจทางปากทีนึงด้วยความตื่นเต้น เธอพุ่ง เข้าไปที่ห้องครัวอย่างเร่งรีบ เทชาเก๊กฮวยที่ตัวเองเพิ่ง ชงเสร็จออกมาแก้วนึง แถมยังใส่น้ำตาลกรวดเข้าไป ก้อนนึงอย่างเอาใจใส่ และตักเก๊กฮวยดอกที่สวยที่สุดออกมาใส่ในแก้ว แบบนี้… นาดนั้นแล้วมั้ง? ..เดี๋ยวใครบางคนก็คงจะไม่โกรธข
มือถือชาเก๊กฮวยไว้ พิงกี้เคาะประตูห้องอ่าน หนังสือด้วยความระมัดระวัง
“เข้ามา”
ผลักประตูเดินเข้าไป พิงกี้ก็เห็นผู้ชายรูปร่างสูง ใหญ่นั่งอยู่ด้านหลังของโต๊ะอ่านหนังสือด้วยความ สีหน้าจริงจัง ถึงตอนที่เธอเดินแกล้งส่งเสียงดัง เขาก็ไม่ คิดจะเงยหน้าขึ้นมามองเธอเลย
“ที่รักคะ….”หัวใจของพิงกี้ค่อนข้างตุ้มๆต่อมๆ อดไม่ได้ที่จะพูดด้วยน้ำเสียงหวานปานน้ำผึ้ง กระพริบ ตาปริบๆและถามอย่างระมัดระวัง “เอ่อ…..นี่คุณโกรธ หรือคะ?”
“ตอนนี้รู้จักเรียกที่รักแล้วหรือ?” มือเรียวยาวของ เควินยกออกมาจากแป้นพิมพ์ แววตาดำเข้มมองไปที่พิง
พิงกี้ “…”
เลื่อนเก้าอี้ไปด้านหลัง เควินยื่นมือมาที่ทิศทางของ เธอ และพูดบางเบา “มานี่”
พิงกี้เดินมาที่ข้างกายเขาอย่างเชื่อฟัง นาทีต่อมา ก็ถูกเขาดึงเบาๆ ร่างกายล้มนั่งลงที่บนตักของเขาอย่าง ควบคุมไม่ได้ คนทั้งคนถูกเขาโอบไว้ในอ้อมอก
โพรงจมูกเต็มไปด้วยกลิ่นไอเฉพาะของผู้ชาย พิง กี้หน้าแดงเล็กน้อย และรู้สึกอยากหัวเราะ
รู้ทั้งรู้ว่าไม่ควรจะหัวเราะ แต่แววตาก็อดไม่ได้ที่จะ มีรอยยิ้มโผล่ขึ้นมา
“คุณหัวเราะอะไร?” เสียงของเควินแหบเล็กน้อย และแฝงด้วยความไม่พอใจ
“ก็หัวเราะคุณน่ารักมากน่ะสิคะ” พิงกี้เงยหน้า มองเขา ใบหน้าสะสวยเต็มไปด้วยการอวดดี “คุณเควิน คุณพูดมาตามตรงเถอะ คุณหึงใช่มั้ยล่ะ?”
“ผมหึงไม่ได้หรือไง?” เควินหรี่ตาอย่างอันตราย
“คุณใกล้ชิดกับเตชิตลับหลังผมซะขนาดนั้น แม้แต่มือ ก็ถูกเขากุมไว้จนไม่อยากขัดขืน เป็นเพราะว่าช่วงนี้ผม ไม่ได้หึงคุณ คุณเลยรู้สึกว่าชีวิตช่วงนี้รสชาติมันจืดไป ใช่มั้ย?”
พิงกี้ “…”
แหมๆๆ ประธานใหญ่ท่านนี้ถือว่ายอมรับสักทีว่า ตัวเองกำลังหึง
แต่ว่า เธอก็ต้องแก้ตัวอยู่
“คุณรู้ได้ยังไงคะว่าฉันไม่ขัดขืน? ฉันขัดขืนแล้ว! แต่แรงของฉันจะสู้แรงของผู้ชายได้ยังไง แถมยังตั้ง ครรภ์อยู่ ก็ฉันกลัวใช้แรงขัดขืนเยอะไปจะเกิดอุบัติเหตุ ได้นี่คะ!”
“จริงอ่ะ?”
“จริงแท้แน่นอนค่ะ” พิงกี้ยกมือขึ้นมาสาบาน และ กอดเอวของผู้ชายไว้ เอาแก้มไปแนบชิดอยู่ที่อ้อมอก เขาและออดอ้อน “อีกอย่าง คุณก็รู้อยู่ว่าตอนนี้ฉัน ท้องลูกของคุณอยู่นะ เป็นไปได้ยังไงที่จะมั่วกับผู้ชาย คนอื่นในบ้าน? ไม่เพียงแต่จะถูกคุณพบเห็น แถมเป็น ตัวอย่างที่ไม่ดีต่อลูกในครรภ์ด้วย ฉันไม่มีทางทำเด็ด ขาดหรอกค่ะ!”
เควินชายตามองเธอ
“ที่รัก คุณเชื่อเค้าเถอะนะ!” พิงกี้ออดอ้อนปุ๊บ เสียงที่พูดออกมาเธอเองก็ยังสั่นเลย
นี่มันประจบสอพลอเกินไปจริงๆแล้ว!
ดีที่ใช้ไม้นี้กับเควินได้ผลอยู่
ไม่เพียงแต่ใช้ได้ผล แต่ยังรู้สึกอ้อนแค่นี้ไม่พอด้วย ซ้ำ “คุณก็แค่พูดปากไปแค่นั้นแหละ”
“งั้นจะให้ทำยังไงอีกคะ?” พิงกี้จ้องตาโต
เควินจ้องมองเธออย่างลึกซึ้ง ความรู้สึกอยาก จู่โจมของแววตายิ่งอยู่ยิ่งเข้มข้น เหมือนกับว่าได้สาน แหใหญ่ที่ใช้งานได้จริงออกมาผืนนึง และปกคลุมพิงกี้ ไว้ในนั้นอย่างแน่น ทั้งๆที่เขาไม่ได้ใช้แรงขนาดนั้น แค่ โอบกอดเธอไว้เบาๆ แต่เธอก็รู้สึกว่าตัวเองหนีไม่รอด แล้ว
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ