คุณชายมาดเข้มกับคุณหนูสุดแสบ

บทที่417: เก็บของดีไว้



บทที่417: เก็บของดีไว้

แทบจะแค่พริบตาเดียว ในอากาศก็ตลบอบอวลไป ด้วยกลิ่นปัสสาวะ

กลิ่นเหม็นฉุนที่โชยมาจากร่างกายของตนเอง มอง ดูสีหน้าของคนรอบกายที่เดินอ้อมผ่านเธอเพื่อหลบ หลีกด้วยความรังเกียจ มาลาตีที่ผมเผ้ายุ่งเหยิงเหมือน คนบ้าอึ้งไปครู่นึง จู่ๆในใจเกิดความเศร้าขึ้นมาและ ร้องไห้ฟูมฟายเสียงดัง

เสียงร้องไห้เศร้าสุดๆ เธอรู้สึกตัวเองเฮงซวยถึง สุดขีดแล้วจริงๆ

ชีวิตนี้เธอไม่เคยสิ้นหวังขนาดนี้มาก่อน

สามีติดคุกและถูกตัดสินโทษประหารชีวิต แถมอีก ไม่นานก็จะถูกประหารชีวิตแล้ว

ทรัพย์สินก็ถูกยึดไปหมด เหลือเพียงแต่บ้านที่ถูก เผาจนไม่มีชิ้นดีหลังนึง นอกจากหลบลมได้หน่อย ไม่ สามารถพักอยู่อาศัยได้เลยด้วยซ้ำ

ลูกสาวก็ไม่สนใจเธอ ใจไม้ไส้ระกำ และไม่เคารพ เธอที่เป็นแม่เลยสักนิด ตอนนี้ยิ่งแล้วใหญ่จะไล่เธอออก จากโรงพยาบาล ตัดขาดทางออกของเธอ

ส่วนลูกชาย………
ลูกชายที่เธอทุ่มเทหยาดเหงื่อแรงกายให้มากที่สุด ก็โทรหาไม่ติดเลย!

หน้าตาที่นั่งร้องไห้ขี้มูกโป่งอยู่บนรถเข็น ดูไม่ออก เลยว่าสักนิดว่าเมื่อก่อนเป็นคนสูงส่ง เย่อหยิ่งและถือตัว อย่าให้พูดเลยว่าตกตะลึงพรึงเพริดแค่ไหน

แต่เธอที่เป็นแบบนี้ ทำให้พยาบาลที่เดิมทีเห็นอก เห็นใจอยากช่วยเหลือเธอ เพราะกลัวเธอจะตะโกนจน รบกวนผู้ป่วยท่านอื่นกลับยิ่งหลบหลีกไปไกลๆ

เพราะอย่างไรซะ ใครก็ไม่อยากหาเหาใส่หัวและ ถูกหมาบ้ากัดเข้าคำนึงหรอก

สุดท้าย ยังเป็นพยาบาลที่โทรหาภูผาติด หลังจาก ภูผารับสายหนึ่งชั่วโมง ก็ได้มารับมาลาตีที่โรงพยาบาล สักที

ในโรงพยาบาลไม่มีมาลาตีที่จะเป็นจะตายแล้ว ใน ที่สุดอากาศก็ตื่นตัวขึ้นมา

อย่าว่าแต่พยาบาลที่ต้องคบค้าสมาคมกับมาลาตี อยู่ตลอด เพียงเพราะเห็นแก่เควินและพิงกี้จึงไม่กล้าบ่น เฉยๆเลย แม้แต่คนไข้ที่แก้วหูแทบแตกก็รู้สึกโล่งอกไป ทีเหมือนกัน
ชีวิตที่สงบสุขถือว่าได้มาถึงเสียที!

ภูผารับมาลาออกมาจากโรงพยาบาล และคอย เข็นรถเข็นของมาลาตีไว้ ข้างๆเท้ามีสัมภาระวางอยู่ เป็นกอง เขามองซ้ายมองขวาแล้วสมองรู้สึกมึนตึ๊บ ไม่รู้ เลยด้วยซ้ำว่าจะพามาลาตีไปปักหลักที่ไหน

สุดท้าย ยังเป็นพยาบาลคนนึงที่เดินมาให้คำ แนะนำกับภูผาที่หมดหนทาง แนะนำเขาสามารถหาที่ ปักหลักที่พอถูๆไถๆไปก่อน

ทีนี้ภูผาถึงดึงสติกลับมาได้

เพราะข้าวของๆมาลาตีมีเยอะมาก สุดท้ายหลัง ออกมาจากโรงพยาบาลภูผาก็ได้แต่หาโรงแรมระดับ ปานกลางที่อยู่ระแวกนี้ เปิดห้องเดี่ยวห้องนึงและเอา ของไปวางไว้ จากนั้นก็ให้มาลาตีปักหลักอยู่ที่นี่ไปก่อน ชั่วคราว

จ้างพนักงานทำความสะอาดของโรงแรมมาเปลี่ยน เสื้อผ้าให้มาลาตี ภูผากับมาลาตีที่อารมณ์ค่อยๆฟื้น กลับมาปกตินั่งจ้องหน้ากันไปมา สีหน้าของทั้งสองต่าง ก็หนักหน่วง

“แล้วแม่วางแผนจะทำยังไงกับวันข้างหน้าครับ?”ภูผาเป็นคนทําลายความเงียบ

น้ำเสียงของเขาแฝงด้วยความเหนื่อยล้าที่ลึกซึ้ง มาลาตีฟังแล้วหัวใจกระตุก อดไม่ได้ที่จะน้ำตาไหล พรากลงมา “ภูผา ลูกคงจะไม่ทิ้งแม่เหมือนพี่สาวที่ ใจร้ายใจ คนนั้นใช่มั้ย?

“แม่ว่าพี่คนไหนครับ?

เหนือความคาดหมายของมาลาตี ภูผาย้อนถาม อย่างนี้มาคำนึง

“ห้า?”

“ถ้าแม่บอกว่าลิสาคือพี่สาวผม เธอทำแม่และ ทำลายครอบครัวเราเป็นแบบนี้ยังไม่แย่พออีกหรอ ครับ? ถ้าแม่บอกว่าพิงกี้คือพี่สาวผม แล้วแม่ทำแบบนั้น กับเธอได้ยังไง ทำลายความสัมพันธ์เสี้ยวสุดท้ายที่มี ต่อแม่ทิ้งได้ยังไง? ไม่ใช่เธอใจดำหรอก แต่เพราะแม่ ต่างหากที่บีบบังคับเธอมาโดยตลอด เธอถึงถูกแม่บีบ จนใจดำไร้เยื่อใย เรื่องมันมาถึงขั้นนี้ก็แม่เป็นคนทำเอง แท้ๆ นี่แม่ยังไม่รู้ตัวอีกหรอครับ?”

“อะไรนะ?” มาลาตีอึ้งจนอ้าปากค้าง

เธอไม่เคยคิดมาก่อน ว่าลูกชายที่เป็นเด็กดีและ เชื่อฟังเธอมาโดยตลอดจะพูดจาแบบนี้กับเธอ
หรือว่า ภูผาก็รำคาญเธอและรู้สึกเธอเป็นตัวถ่วง แล้ว?

“เอาล่ะ ไม่พูดถึงเรื่องก่อนหน้านั้นแล้ว เรามาคิด ก่อนดีกว่าว่าต่อไปจะทำยังไงดี?” อาจจะเพราะรู้ว่า ตัวเองค่อนข้างอารมณ์ขึ้น มองดูความตะลึงบนใบหน้า ของมาลาตีแล้ว อารมณ์ของภูผาได้ซอฟลงไปบ้าง เขา ถามด้วยความกลัดกลุ้มใจเล็กน้อย “ไม่มีความช่วย เหลือของพี่พิงกี้ ต่อไปชีวิตของแม่กับอาการป่วยของ ผม เราคงต้องคิดหาวิธีเองแล้วล่ะครับ”

“เป็นไปได้ยังไง?!” เกี่ยวโยงถึงอาการป่วยของ ภูผา พริบตาเดียวมาลาตีก็มีใจฮึกเหิมขึ้นมาทันที “นัง พิงกี้ไม่สนใจแม่ก็ถือว่าแล้วไป ลูกเป็นน้องชายแท้ๆของ มัน ความสัมพันธ์ดีกับมันมาโดยตลอด และไม่เคยทำ เรื่องที่ผิดต่อมันด้วย มันจะช่วยลูกหน่อยไม่ได้หรือยัง ไง?ถ้ามันไม่หาผู้บริจาคที่เข้ากับของลูกให้ งั้นแม่ก็จะ ไปแขวนคอตายที่หน้าบ้านมัน ดูซิว่ามันจะกลัวฝันร้าย ไปชั่วชีวิตหรือเปล่า!

“แล้วแม่วางอผนไว้ยังไงครับ?” ภูผาขมวดคิ้ว และเปลี่ยนประเด็น

“แม่วางแผนไว้ยังไง? แม่ก็ต้องใช้ชีวิตอยู่กับลูก น่ะสิ เฮ้อ…..” มาลาตีถอนหายใจทีนึง จากนั้นก็กลอก ตาขาวอย่างดูถูกทีนึง “ยังดีที่แม่มีลูกชายที่ดีและเชื่อ ฟังอย่างลกอย่ ถ้าชีวิตแม่คาดหวังได้แค่นังพิงกี้คนเดียวล่ะก็ งั้นบั้นปลายชีวิตของแม่ก็ไม่มีที่พึ่งพิงแล้ว ”

ภูผายิ่งรู้สึกกดดันเข้าไปใหญ่ มือทั้งสองเสยผมไว้ หลังจากเสยผมแรงๆไปหลายทีก็พูดขึ้นมาว่า “ แม่ครับ ผมขอโทษครับ…….ผมมันไม่เอาไหน ต่อไปคงต้องให้ แม่ลําบากด้วยกันกับผมแล้วครับ”

ถึงเขาไม่ต้องจ่ายค่ารักษาพยาบาลเอง แต่ต่อไปก็ ไม่มีหน้าให้พิงกี้เลี้ยงดูเขาตลอดหรอก

ถ้าเป็นแบบนั้น เขายังจะเรียกว่าผู้ชายได้ยังไง?

รอให้ร่างกายฟื้นฟูกลับมาดีขึ้น เขาก็จะไปหา งานทำแน่นอน แต่คนที่เพิ่งเริ่มงานใหม่ๆโดยที่ยังไม่มี ประสบการณ์การทำงานเลย เงินเดือนก็คงไม่สูงหรอก ยังไงก็ต้องทําไปสักปีสองปีก่อนถึงจะได้เพิ่มเงินเดือน

มาลาตีอยู่กับเขา สี่ห้าปีแรกๆคงไม่ได้อยู่อย่างสุข สบายแน่นอน

อย่างน้อย ชีวิตที่อยู่ในโรงพยาบาลที่อยากได้ อะไรก็มีหมด ทุกอย่างคอยมีคนปรนนิบัติ และใช้ ชีวิตอย่างไม่ต้องกังวลอะไรเลยคงจะไม่สามารถมีให้ แน่นอน

ภูผาเหมือนต้นไม้ที่ถูกพายุหิมะทับจนคดงอ ส่วน มาลาตีกลับมีสีหน้าไม่แคร์
เธอดึงภูผาด้วยแววตาเปล่งประกาย ดึงเขาเข้ามา ใกล้นิดหน่อย แล้วพูดด้วยเสียงลับๆล่อๆ “เด็กโง่ ลูกคิด ว่าแม่ไม่มีการเตรียมตัวแม้แต่น้อยเลยจริงๆหรอ? แม่จะ บอกลูกนะ ในมือของแม่ยังมีของดีอยู่!”

“จริงหรอครับแม่?”

“ก็จริงน่ะสิ” มาลาตียิ้มอย่างได้ใจ สีหน้ามีความ สูงส่งและเย่อหยิ่งกลับมาอีกครั้ง “ก่อนหน้านั้นแม่มี ฝากเครื่องประดับไว้ที่ธนาคารอยู่ ถ้าคิดคร่าวๆก็น่าจะ มีมูลค่าประมาณสิบห้าล้านบาทได้อยู่ ลิสานังแพศยา นั่นเอาเครื่องประดับที่แม่ไว้ในบ้านไปเยอะมาก แต่เธอ ยังไม่ได้ขายมันออกไป สุดท้ายก็ยังตามกลับมาได้เป็น บางส่วนอยู่ เครื่องประดับส่วนนี้ก็อยู่ในมือแม่เหมือน กัน..…….…….”

มาลาตีมองดูสัมภาระที่ทิ้งอยู่หัวมุมแล้วพูดว่า “ ก็ อยู่ในกระเป๋าสีดำที่มีกุญแจล็อคใบนั้นนั่นแหละ มองดู ไม่เด่น คนอื่นมีแต่จะคิดว่าแม่เอาไว้เก็บพวกของจุกจิก ที่ไม่มีค่า แต่แท้จริงแล้วข้างในมีของมีค่าอยู่ไม่น้อย เลย!”

จริงหรอครับเนี่ย?” ภูผาตาสว่างเลย

ถ้าเป็นแบบนี้ ต่อไปทั้งสองก็ไม่ต้องกลุ้มใจกับชีวิต

ในวันข้างหน้าแล้วน่ะสิ
“จริงสิ!” มาลาตียิ้มอย่างภาคภูมิใจ “ลูกกคิดว่า ก่อนหน้านั้นที่แม่ไม่ใช้เงินส่วนนี้ ดันจะต้องให้พิงกี้ควัก เงินตัวเองออกมาจ่ายเพราะอะไร? ก็เพราะลูกน่ะสิ! ถ้า แม่ไม่เอาของพวกนี้เก็บไว้ให้ลูก ต่อไปลูกชายคนเดียว ของแม่คงต้องลำบากน่าดูเลย!”

มาลาตีลูบศีรษะของภูผา สีหน้าเต็มไปด้วยความ รักและความเมตตา พร้อมพูดอย่างรับประกัน “ลูก วางใจเถอะ แม่จะต้องให้พิงกี้รับผิดชอบอาการป่วยของ ลูกให้ถึงที่สุดแน่นอน


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ