บทที่406คุยโทรศัพท์ไปด้วยและท่าเรื่องมิดีมิร้ายไปด้วย
ได้ยินคำพูดของภูผาแล้ว มาลาตีสีหน้าเปลี่ยนไป
ทันที
นึกถึงชาตรีที่อยู่ในคุกและถูกตัดสินโทษ ตอนนี้ก็ รอแค่เวลาประหารชีวิตอย่างเดียวแล้ว มาลาตีรู้สึกไม่ สบายใจและรู้สึกรำคาญ
ถ้าเทียบกับความเจ็บปวดที่แทบจะขาดใจตายใน ตอนแรกหลังจากชาตรีถูกจับเข้าคุก ตอนนี้เห็นได้ชัด ว่าเธอปลงไปเยอะแล้ว
อย่างไรก็ตาม ตอนนี้เธอพึ่งพาพิงกี้อยู่ก็ไม่ได้ ขัดสนเรื่องกินเรื่องใช้อยู่แล้ว ไม่ต้องกังวลว่าต่อไปจะ ทำยังไงดี เธอถือว่าได้รู้แล้ว ถึงแม้ที่พิงกี้ดูแลเธอแค่ เพราะกลัวว่าคนอื่นจะว่าเธออกตัญญู แต่ยังไงพิงกี้ก็ยัง ต้องดูแลเธออยู่ดี!
แต่ตอนนี้.
เธอจะบอกกับภูผายังไงว่าบ้านดำรงกูลไม่ใช่บ้าน ดำรงกูลเหมือนที่เขาคิดอีกต่อไป?
เพื่อเรื่องนั้นแล้ว ยังไงภูผาก็ต้องกลับมาใน ประเทศอย่างแน่นอน แม้กระทั่งอาจจะไปอ้อนวอนกับ ชาตรีด้วยซ้ำ ดูท่าเรื่องนี้ปิดบังเขาได้ไม่นานแล้ว
มาลาตีฝืนยิ้ม “ลูกนะลูก นี่ลูกยังหวังจะให้คุณพ่อไปคุยกับพิงกี้หรอ? ลูกใช่ว่าจะไม่รู้สักหน่อยว่าคุณพ่อ เกลียดพิงกี้มากแค่ไหน เขาแทบไม่อยากไปมาหาสู่กับ พิงกี้เลยด้วยซ้ำ เพื่อจะได้ไม่ต้องไปรับอารมณ์ของเค วินด้วย ก็มีแต่แม่คนนี้แหละที่จะยอมทุ่มเทสุดแรงสุดใจ เพื่อลูก เฮ้อ~ ”
พอได้ยินมาลาตีพูดแบบนี้ ภูผาก็ไม่กล้าพูดอะไร ไปมากกว่านี้แล้ว เพื่อจะได้เลี่ยงไม่ทำให้มาลาตีลำบาก ใจไปมากกว่านี้
เพียงแต่ หลังจากวางสาย ในใจของภูผากลับมี ความสงสัยโผล่ขึ้นมา
มองดูมือถือของตัวเอง แววตาเขาเต็มไปด้วยความ
งงงวย
ทำไมเขาถึงรู้สึกว่าแม่ของตัวเองกำลังปิดบังอะไร
ตัวเองอยู่?
มาลาตีไม่ให้เขาติดต่อพิงกี้และชาตรี…….เดิมที แค่สงสัยนิดหน่อย ตอนนี้มันเพิ่มพูนมากขึ้นเรื่อยๆ ก่อน หน้านั้นเพราะไม่รอบคอบเลยละเลยรายละเอียดไป มาก แต่นาทีนี้กลับโผล่อยู่ที่ตรงหน้าเขา
อย่างเช่น ค่าใช้จ่ายของเขายิ่งอยู่ยิ่งได้ไม่ตรง ตามเวลา อีกอย่างยิ่งอยู่ยิ่งได้น้อยลงด้วย
อย่างเช่น เขาโทรหาพ่อไม่ติด ทุกครั้งที่เขาคุย โทรศัพท์กับมาลาตีและบอกว่าอยากคุยกับพ่อ มาลาตี ก็ไม่ให้ชาตรีมาคุยสายเลย สีหน้าดูไม่เป็นธรรมชาตเอา สักเลย แววตา การหลบหลีก
เมื่อก่อนเขาเดาว่าอาจจะเป็นเพราะพ่อกับแม่มี เรื่องขัดแย้งกัน แต่ตอนนี้ เขาคิดว่าเรื่องมันไม่ได้ง่าย ขนาดนี้แล้ว
อย่างเช่น จู่ๆมาลาตีก็เปลี่ยนทรงผม เมื่อก่อนเธอ ชอบหวีผมขึ้นและเผยหน้าผากโหนกนูนสวยงามของ เธอ อีกอย่างภาคภูมิใจกับรูปหน้าที่สวยงามของตัวเอง มาก แต่ตอนนี้เธอกลับปล่อยผมลงมา และดัดเป็นผม ลอนเล็กๆ บังใบหน้าของเธอไปเยอะเลย
อย่างเช่น มาลาตีในเมื่อก่อนให้ความสำคัญกับ บุคลิกภาพของตัวเองมาก เธอไม่ทำท่าทางเล็กๆพวก นั้น แต่ตอนนี้เอะอะๆก็ยกมือลูบจับผมข้างซ้ายของตัว เอง
อย่างเช่น……..
มีจุดผิดสังเกตเยอะมาก ภูผารู้สึกตัวเองละเลยไม่
ได้เลยด้วยซ้ำ
เวลาบ่ายสามของอังกฤษ คือเวลาห้าทุ่มของใน
ประเทศแล้ว
ภูผาควบคุมแล้วควบคุมอีก ในที่สุดก็เอาชนะความ วู่วามของในใจที่อยากรู้ความจริงของเรื่องราวไม่ได้ เขาจึงได้โทรหาพิงกี้โดยตรง
L.K.Crystal วิลล่า
“คุณเควิน คุณ คุณเบาหน่อยค่ะ.……
“เบาหน่อย?”
“ใช่…..ฉันทนไม่ไหวแล้ว อ๊ะ….” พิงกี้ทนรับไม่ ไหว เธอหดตัวเล็กน้อย แต่แบบนี้ยิ่งทำให้ร่างกายของ ตัวเองแนบชิดผู้ชายยิ่งขึ้น ผู้ชายแค่ก้มศีรษะเล็กน้อย ก็กัดลูกท้อชมพูของเธอไว้ ทำให้เธอส่งเสียงครางออก มาอีก
อยากเอา แต่ก็ถูกเอาจนโหดเกิ๊น
ลำบากใจจริงๆ
สองมือของพิงกี้ถูกผู้ชายล็อคเอาไว้และวางที่ข้าง หมอน ผมดำเงางามเหมือนสาหร่ายที่ปูไว้บนเตียง และ เหมือนผ้าไหมซาตินที่นุ่มนวลสวยงาม ภายใต้แสงไฟ เส้นผมของเธอ ผิวพรรณของเธอ ล้วนแต่มีแสงเปล่ง ประกายอยู่
ในขณะนี้เอง จู่ๆเสียงโทรศัพท์ได้ขัดจังหวะ
บรรยากาศที่สวยงามของในห้อง
ความคิดของพิงกี้ก็ดิ้นรนจนตื่นตัวขึ้นมา
ใครโทรมา?
ทำไมถึงโทรมาดึกป่านนี้?
ในขณะนี้ เควินได้อุ้มเธอขึ้นมาจากเตียงพอดี และ พลิกเธอไปด้านหลังแล้วบุกเข้าไปจากด้านหลังเธอ มือ ทั้งสองของเธอได้รับอิสระแล้วก็หยิบมือถือมาดู
พอดูปุ๊บ ก็ค่อนข้างรู้สึกตะลึงเลย
ไม่นึกเลยว่าจะเป็นภูผา น้องชายแท้ๆที่เธอไม่ค่อย ได้ติดต่อแต่ยังถือว่าค่อนข้างชอบอยู่
“ใครโทรมา?” เสียงแหบแห้งของเควินดังขึ้น
พิงกี้ตอบ “ภูผาค่ะ”
“เดี๋ยวค่อยรับ”
พิงดี้ค่อนข้างลังเล “ปกติน้อยมากที่ภูผาจะเป็น ฝ่ายติดต่อฉันก่อน เขาต้องมีเรื่องแน่นอนถึงได้โทรมา หาฉัน ให้ฉันรับสายก่อนเถอะนะคะ? คุณเควิน คุณ คุณหยุดแป๊บนึงได้มั้ยคะ?
“คุณคิดว่าไงล่ะ? อืม…….” เพราะพูดเลยยิ่งยาก ที่จะควบคุม ผู้ชายส่งเสียงครางออกมาอย่างห้ามใจไม่ ได้
เสียงเซ็กซี่เสียงนี้ ในค่ำคืนที่เงียบสงบฟังแล้ว ทำให้คนหน้าแดงและใจเต้นแรงเป็นพิเศษ
พิงกี้หันศีรษะไปดูข้างหลังอย่างถูกสะกดจิต ช่วง บนของผู้ชายกำลังตัวตรงอยู่ คุกเข่าอยู่ที่ด้านหลังเธอ ขยับเขยื้อนอย่างช้าบ้างเร็วบ้าง
ดวงตาที่แฝงด้วยรอยยิ้มของเขากำลังจ้องมองเธอ
อยู่
แสงไฟสาดส่องอยู่บนผิวสีน้ำผึ้งที่แน่นปึกของเขา มองไปจากมุมของเธอ สามารถเห็นซิกแพคของเขาได้ อย่างชัดเจน ฮอร์โมนเพศชายในตัวกำลังพลุ่งพล่าน อย่างดุดันอยู่
พิงกี้อดกลืนน้ำลายไม่ได้ “ไม่ได้เหรอคะ?
พูดตามตรงนะ นี่มันถามก็เหมือนไม่ได้ถามชัดๆ
เพราะในขณะที่พวกเขากำลังมีSEXกันอยู่ เควิน ไม่คิดจะหยุดลงมาเลยด้วยซ้ำ กลับกันยังขยับตัวอย่าง ไม่หยุด ถึงขั้นป่าเถื่อนและดุดันกว่าเมื่อกี้อีก ราวกับว่า สายตาของเธอเป็นแรงบันดาลใจที่ดีที่สุดของเขา
พิงกี้ “
มือถือได้ตัดสายไปแล้ว เธอโล่งอกไปที
แต่ว่า ในขณะที่เธอเตรียมตัววางมือถือกลับไปยัง ที่เดิม มือถือก็ได้ดังขึ้นมาอีกครั้ง เหมือนถ้าเธอไม่รับ สายก็จะไม่ยอมเลิกลาอย่างไรอย่างนั้น
ที่ยิ่งเอาชีวิตคือ เพราะมือเผลอไปสไลด์โดนปุ่ม เธอจึงรับสายโดยที่ไม่ได้ตั้งใจ
ทีนี้พิงกี้ยิ่งตื่นเต้นเข้าไปใหญ่ ร่างกายเกรงไว้ มอง ดูมือถือที่รับสายอย่างเอ๋อ เธอตกที่นั่งลำบากจนจะ ร้องไห้ออกมาอยู่แล้ว
เธอตื่นเต้น ผู้ชายกำเริบเสิบสานที่อยู่ด้านหลังก็ มียิ่งความสุขเข้าไปใหญ่ เพราะความตื่นเต้นของเธอ ทำให้จุดบอบบางที่สุดยิ่งฟิตขึ้น
หยาดเหงื่อที่ไหลลงมาจากหน้าอกของเขาได้ฟาด มาที่แผ่นหลังของเธอ พิงกี้มองดูมือถือที่มีเสียงของ ภูผาก้องมาอย่างทำอะไรไม่ถูก เขาจึงโน้มตัวลงมา กัดติ่งหูของเธอไว้บๆและเตือนเธอ
“คุณพูดสิ………
สั้นๆคำเดียว เหมือนได้กดโดนสวิทช์เปิดปิดของ
เธอหยิบมือถือขึ้นมาอย่างเอ๋อ
“ภูผา นาย นายโทรมาหาพี่มีอะไรหรือเปล่า?”
พิงกี้รับสายมานานมาก หลังจากรับสายก็ไม่ได้ พูดจาไปอีกสักพัก ถึงภูผาโง่ขนาดไหนก็รู้ว่าตัวเองโทร มาผิดเวลา เขาจึงถามด้วยความเกรงใจ “พี่พิงกี้ ผม โทรมารบกวนพี่รึเปล่า? พี่หลับหรือยังครับ?”
“เปล่าจร้า พี่ยังไม่ได้นอน พี่ …… .อ๊ะ!” เพราะ ท่าทางของผู้ชายที่อยู่ด้านหลัง ทำให้พิงกี้ส่งเสียงอุ ทานสั้นๆออกมา
ภูผารีบถาม “พี่เป็นอะไรครับ?”
“เอ่อ….ตอนที่พี่เปิดไฟพลิกโดนเอว ไม่ ไม่เป็นไร จร้า………. ” พิงกี้พยายามควบคุมเสียงหายใจที่ผิดปกติ และจ้องผู้ชายที่อยู่ด้านทีนึง
มุมปากของเควินมีรอยยิ้มอ่อนๆ กุมเอวที่เพรียวบางของเธอไว้และขยับไปมาเบาๆ ครั้งแล้วครั้งเล่า ไม่ดุดัน เพราะความเชื่องช้าแบบนี้กลับยิ่งทรมานคน มากกว่า
ทุกๆครั้ง ราวกับว่ากระตุ้นโดนจุดลึกสุดของ วิญญาณ ความต้องการที่ท่าทางเชื่องช้านำพามานี้ เหมือนมดคลานอยู่ในกระดูก ทำให้คนจั๊กจี้ไปทั้งตัว
พิงกี้อดทนไว้ และฟังภูผาพูด
“พี่ครับ ช่วงนี้ที่บ้านเป็นยังไงบ้างครับ?
” พิงกี้ก้ดริมฝีปากไว้ ไม่รู้จะตอบยังไงดี “ทำไมจู่ๆถึงถามแบบนี้ล่ะ?”
“วันนี้ผมคุยโทรศัพทร์กับแม่แล้วรู้สึกเธอผิด สังเกต ผมไม่ได้โทรหาพ่อมานานมากแล้ว เกือบจะสอง เดือนแล้วมั้งครับ เฮ้อ~ถึงแม้ก่อนหน้านั้นก็ไม่ค่อยได้ ติดต่อพ่อบ่อยเท่าไหร่ แต่ก็ไม่รู้เพราะอะไร ผมรู้สึกครั้ง นี้มันแปลกๆ”
พิงกี้อารมณ์ซับซ้อน อยากปลอบโยนภูผา แต่ก็ ไม่รู้จะพูดอะไร
เธอรู้ว่ามาลาตีปกปิดเรื่องนี้เอาไว้ ไม่ได้ให้ภูผารู้ มาลาตีรักลูกชายคนนี้ที่สุด แม้แต่สามีกับลูกสาวยังสู้ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนคนนี้ไม่ได้เลย ตระกูลดำรง กูลเกิดเรื่องใหญ่ขนาดนี้ มาลาตีคงคิดอยากจะให้ภูผา ห่างไกลจากเรื่องกลุ้มใจทั้งหมดนี้ อยากให้เขาตั้งใจ เรียนสื่อสืออยู่ที่ต่างประเทศดีๆ ชีวิตวันข้างหน้าอย่าถูก ตระกูลดำรงกูลพาลทำให้เดือดร้อนไปด้วย
ก็เพราะรู้พวกนี้ ในใจของพิงกี้ก็ชอบน้องชายคนนี้ อยู่ เธอก็ไม่รู้ว่าควรจะพูดความจริงออกมามั้ย
“ไม่ว่าจะยังไง ที่คุณหญิงมาลาตีทำก็เพราะหวังดี กับนายทั้งนั้น จุดนี้นายไม่ต้องสงสัยเลย
ท้ายสุด พิงกี้ก็ได้แต่ตอบแบบนี้
เธอถูกเควิน“รังแกไปด้วย และคิดทบทวนไป ด้วย แถมยังต้องคิดหาวิธีปกปิดการหายใจที่ผิดปกติ ของตัวเองด้วย ที่จริงลำบากมากจริงๆ รู้สึกสมองก็ไม่ ได้แล่นเหมือนปกติแล้ว
ผม
“ผมรู้ครับ แต่แม่ไม่ให้ผมโทรหาพี่ด้วย
พูดถึงตรงนี้ ภูผาอยากพูดแต่ก็หยุดเอาไว้
พิงกี้ไม่ได้คิดมาก เธอถามตรงๆ “นายเป็นอะไร ไป? อยากโทรหาพี่ก็โทรมาเลย ไม่ต้องสนใจ ไม่ต้อง สนใจเธอหรอก………… พอพูดจบ พิงกี้ก็ได้จ้องเควินอีกที
เมื่อกี้ผู้ชายคนนี้ได้แทงเธอแรงๆทีนึงอีกแล้ว!
ร้ายจริงๆ!
เควินยักคิ้ว ถึงแม้หน้าก็ยังหนักแน่นและสุขุมอยู่ เช่นเคย แต่แววตาที่เต็มไปด้วย“ถ้าคุณไม่พอใจก็มา กัดผมสิ แบบนั้น กลับทำให้คนโมโหยิ่งนัก
“วันนี้แม่มาหาพี่ใช่มั้ยครับ?” พอคิดไตร่ตรองแล้ว ภูผาก็ได้ถามขึ้นอีก
………..ใช่” พิงกี้ตอบ จากนั้นก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย “แต่ว่า เธอไม่ได้พูดอะไรเลยก็กลับไปแล้ว…..หรือ ว่า ที่คุณหญิงมาลาตีมาในวันนี้ก็เพื่อนาย? นายอยู่ที่ อังกฤษค่าใช้จ่ายสูง ไม่มีตังค์ใช้แล้วใช่มั้ย?
พิงกี้คิดไปครู่นึง น่าจะเป็นเพราะเรื่องนี้แน่ๆเลย
แต่ที่ทำให้เธอคิดไม่ถึงคือ นาทีต่อมาภูผาก็โยน ระเบิดที่ตะลึงโลกออกมา “พี่พิงกี้ ผม….แม่มาเพราะ เรื่องของผม แต่ไม่ใช่เพราะเรื่องงานครับ
“แล้วเพราะเรื่องอะไรล่ะ?
“ผมป่วยเป็นมะเร็งเม็ดเลือดขาว แม่มาหาพี่ก็เพื่ออยาก อยากให้พี่ไปตรวจที่โรงพยาบาลดู ว่าจะบริจาค เซลล์ต้นกำเนิดของเม็ดเลือดให้ผมได้มั้ย………
“ห้า อะไรนะ?” พิงกี้อุทานเสียงนึง พริบตาเดียว ก็เอ๋อและตัวแข็งทื่อไปเลย “นาย นายเป็นมะเร็งเม็ด เลือดขาวงั้นหรอ?”
.ใช่ครับ”
พิงกี้ “.….………….”
พริบตาเดียว ความคิดสวยงามอะไรก็ถูกเธอทิ้งไป ข้างหลังหมดแล้ว
ในใจเธอและในสายตาเธอมีแต่คำว่า “โชคชะตา กลั่นแกล้งคนชัดๆ”
ภูผาที่อยู่ในสายขอร้องด้วยความเกรงใจ “พี่ครับ คุณหมอบอกถ้าญาติพี่น้องไปตรวจ มีความเป็นไปได้ สูงกว่าว่าอาจจะเข้ากันได้ เรื่องนี้พี่ช่วยผมหน่อยได้มั้ย ครับ?”
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ