คุณชายมาดเข้มกับคุณหนูสุดแสบ

บทที่402:อย่าปฏิเสธผม



บทที่402:อย่าปฏิเสธผม

ยิงมาสามคำถามรวด น้ำหวานไม่รู้จะตอบคำถาม

ไหนก่อนดี

แต่เธอไม่ใช่คนโง่ที่ไอคิวต่ำ เธอฟังน้ำเสียงที่ เซอร์ไพรส์ สงสัยและจนปัญญาของดุสิตออก

น้ำหวานเงยหน้าและมองเข้าไปในนัยน์ตาลึกๆ ของดุสิต จากนั้นก็กระโจนเข้าไปในอ้อมกอดเขาอย่าง กระทันหัน และก็กอดเขาไว้แน่น “ดุสิต ฉันกลับมาแล้ว ค่ะ ฉันไม่รู้ว่าอนาคตจะเป็นยังไง แต่อย่างน้อยตอนนี้ ฉันอยากอยู่ข้างกายคุณ…..ฉันอยากอยู่ข้างกายคุณ ไปตลอดค่ะ!”

“เด็กโง่ คุณรู้มั้ยว่าคุณตัดสินใจอะไรลงไป?”

แค่ประมาทนิดเดียว ก็จะไม่มีทางที่จะฟื้นคืนได้ ตลอดไป

“ฉันรู้ค่ะ” น้ำหวานพูดเสียงต่ำจนไม่สามารถ ได้ยิน แต่ดุสิตกลับสามารถได้ยินเข้าหูของตัวเอง “แต่ ว่า ฉันไม่เสียใจค่ะ”

แค่ไม่เสียใจคำเดียว ก็สามารถพูดแทนความ สัมพันธ์ของเขาสองคนจนหมดแล้ว
พิงกี้หลับลึกมาก แต่หลังจากน้ำหวานจากไปครึ่ง ชั่วโมง จู่ๆเธอกลับสะดุ้งตื่น

เธอฝันเห็นน้ำหวานจากไปโดยที่ไม่ล่ำลา

เธอบอกกับตัวเองว่านี่คือความฝัน แต่ตอนที่เธอ ขยี้ตามองไปที่ข้างเตียงด้วยความง่วง กลับพบว่าไม่มี ร่างเงาของน้ำหวานอยู่แล้ว………ฝันร้ายกลายเป็นจริง พริบตาเดียวความง่วงก็จางหายไปเลย

“น้ำหวาน!” พิงกี้รีบลุกขึ้นจากเตียง ในใจยังตั้ง ความหวังอยู่ว่าน้ำหวานจะอยู่ที่ห้องน้ำหรือเปล่า

แต่ที่ห้องน้ำก็ไม่มีร่างเงาของเธออยู่เลย

“เธอไปได้ครึ่งชั่วโมงแล้ว”

เสียงทุ้มต่ำได้ดังมาจากข้างเตียง พิงกี้หันไปมอง ทีนี้ถึงเห็นเควินนั่งอยู่บนโซฟาตรงหัวมุมที่มืดสลัว แวว ตาซ่อนอยู่ในความมืดมน เลือนลางจนมองไม่ชัด

พิงกี้อึ้ง “เธอไปไหนคะ?”

“คุณคิดว่าไปไหนล่ะ?”

.” พิงกี้ถาม “เธอกลับไปหาดุสิตหรอ?”
พิงกี้ “

เมื่อคืนเธอยังพูดกับน้ำหวานไปตั้งเยอะ ให้น้ำ หวานตัดขาดความสัมพันธ์กับดุสิต ปกป้องตัวเองดีๆ แต่ พอมาตอนนี้…..……เวลายังไม่ถึงหนึ่งวันเลย น้ำหวานก็ ถึงขั้นอดใจรอไม่ไหวที่จะไปหาดุสิตแล้ว

เธอจะบ้าตายเพราะน้ำหวานจริงๆ!

ในขณะนี้เอง เสียงของเควินได้ดังขึ้นมาอีก “ก่อน เธอไปได้ทิ้งข้อความไว้ให้คุณด้วย คุณลองเปิดดูสิ

‘ พิงกี้ขมวดคิ้วมองไปที่เขา น้ำเสียงแฝง ด้วยการตำหนิ “ตอนที่น้ำหวานจากไป คุณรู้เหรอคะ?”

“ผมกลัวเธอจะทำอะไรมิดีมิร้ายกับคุณ ผมก็เลย เฝ้าจับตาดูสถานการณ์ของห้องนอนหลัก

พิงกี้อึ้งค้างไปอีก

ด้านนึงคือเธออยากหักล้างว่าน้ำหวานไม่มีทางทำ อะไรมิดีมิร้ายเธอเด็ดขาด อีกด้านนึง เธอก็สงสารเควิน มากที่ไม่ได้หลับไม่ได้นอนมาทั้งคืนเพราะเป็นห่วงความ ปลอดภัยของเธอ
เพราะแบบนี้ เธอจึงพูดคำหยาบใส่เควินไม่ได้ ไม่ งั้นก็จะเห็นได้ชัดว่าเธอไม่มีมโนสำนึก

เพียงแต่ เธอก็ยังรู้สึกหดหู่อยู่ดี “ในเมื่อคุณรู้ว่า เธอจะไป ทำไมไม่รั้งเธอเอาไว้คะ? ถ้าเธอไปหาดุสิต นี่ก็เพิ่มความยุ่งยากให้กับการทำงานของคุณไม่ใช่ หรอ?”

“คนที่มีใจอยากไป คุณรั้งยังไงก็รั้งไม่อยู่หรอก นอกเสียจากคุณยอมเอาตัวเธอมอบให้หน่วยสืบลับ ควบคุมตัวเอาไว้ ไม่งั้นช้าเร็วเธอก็ต้องกลับไปหาดุสิต อยู่ดีแหละ”

พิงกี้ c

เธอไม่เห็นด้วยกับการแบบนี้กับน้ำหวานอยู่แล้ว

ถึงจะปกป้องน้ำหวาน เธอก็ไม่อยากให้น้ำหวาน ย้ายจากสถานที่ถูกควบคุมตัวที่นึงไปที่สถานที่ควบคุม ตัวอีกที่นึงหรอก ถ้าเป็นแบบนั้นยังจะมีความหมายอะไร อีก?

แต่ว่า เหตุผลที่เควินพูดก็มีเหตุผลเหมือนกัน

หายใจออกมาแรงๆทีนึง ราวกับว่าแบบนี้ก็จะ สามารถเอาความหดหู่ออกจากตัวได่ พิงกี้หยิบมือถือ ขึ้นมา อยากดูซิว่าน้ำหวานทิ้งข้อความอะไรไว้ให้เธอ มีอะไรจะกำชับเธอหรือเปล่า?

ข้อความของน้าหวานยาวมาก

ไพิงกี้ ขอโทษด้วยที่ฉันจากไปแบบนี้ ฉันรู้ว่าฉันผิด ที่ทำให้เธอเป็นห่วง แต่ดุสิตทำเพื่อฉันเยอะมาก ถึงแม้ คนอื่นดูแล้วรู้สึกมันก็สมควรแล้ว แต่ฉันทิ้งเขาและไม่ สนใจเขาไม่ได้ ชีวิตของฉันเขาเป็นคนช่วยเอาไว้ ไม่ว่า ต่อไปจะเป็นยังไง ฉันอยากเดินไปข้างหน้าพร้อมเขา

ฉันรู้ว่าตอนนี้เขาตกอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่ดี แต่ ถ้าอนาคตเขาจะต้องถูกตัดสินโทษประหารจริงๆ งั้น ตอนนี้ฉันยิ่งจากไปไม่ได้ ฉันจะให้เขาโดดเดี่ยวเดียว ดายไม่ได้ ฉันรู้ว่าเป็นไปไม่ได้ที่เธอจะไม่เป็นห่วงเรื่อง ของฉัน แต่ฉันก็ยังอยากพูดคำว่าขอโทษอย่างเห็นแก่ ตัว ต่อไปฉันไม่อยากให้ตัวเองต้องมานั่งเสียใจทีหลัง

พิงกี้ เราเป็นเพื่อนที่ดีที่สุด เพราะเราต่างก็จริงจัง กับความรักมาก และยึดมั่นมากกับเรื่องที่ตัดสินใจแล้ว ไม่ใช่เหรอ? ถึงแม้รู้ว่าเธอจะไม่ด่าฉันแน่นอน แต่ฉันก็ หวังว่าเธอจะเข้าใจและสนับสนุนฉันนะ)

อ่านข้อความยาวเหยียดนี้เสร็จ พิงกี้หลับตาพิงอยู่ ที่หัวเตียง รู้สึกเพียงหน้าผากเจ็บจี๊ดขึ้นมาเป็นพักๆ

น้ำหวานนะน้ำหวาน
เธอจะทำยังไงกับเพื่อนรักคนนี้ดี?

เธอรู้ทั้งรู้ว่ากลับไปที่ข้างกายของดุสิตเป็นเรื่องที่ อันตรายมาก ไม่เพียงแต่อาจจะถูกตระกูลภักดีวัฒนา กุลแก้แค้นเอาคืน และอาจจะติดร่างแหกับตระกูลภักดี วัฒนากุลด้วย แต่เพื่อดุสิตแล้ว เธอก็ยังกลับไปอย่างบุก รุดหน้าด้วยความห้าวหาญโดยไม่ยอมหวนกลับ

ยับผู้หญิงโง่คนนี้นี่!

แต่ว่า…….. ก็เหมือนที่น้ำหวานพูด สมมุติถ้าหาก วันนี้เปลี่ยนเป็นเธอที่มาเจอสถานการณ์แบบนี้ ให้เธอ ตัดสินใจ เธอก็คงเลือกจะอยู่ข้างกายของเควินเหมือ นกันมั้ง?

ชีวิตนี้ คนเราส่วนใหญ่ต่างก็ใช้ชีวิตอยู่อย่าง ระมัดระวังและประพฤติตัวเรียบร้อยไม่ออกนอกลู่นอก ทาง แต่จะมีคนนึงและเรื่องนึงเสมอที่ทำให้เราแหวก โค่นดงหนามและบุกป่าฝ่าดงก็จะวู่วามสักพัก

นี่ก็อาจจะคือใจคนแหละมั้ง

“นี่คือการตัดสินใจของเธอเอง ในเมื่อเธอตัดสินใจ แบบนี้แล้ว ผมว่าเธอก็คงคิดดีแล้วแหละ คุณก็ไม่ต้อง เป็นห่วงเธอให้มากหรอก” เควินเดินมานั่งที่ข้างเตียง และกุมมือเธอไว้ เสียงที่ทุ้มต่ำแฝงด้วยพลังที่สามารถ ปลอบโยนหัวใจคน “ผมเองก็จะให้คนของผมแอบดแลน้ำหวานอย่างลับๆ พยายามสุดความสามารถในการรับ ประกันความปลอดภัยของเธอ ต่อไปถ้าเธออยากไป จากตระกูลภักดีวัฒนากุล ผมก็จะให้ความช่วยเหลือ เธออย่างสุดความสามารถเช่นกัน”

“ค่ะ” พิงกี้ลืมตาขึ้นมา ความร้อนรนใจเหมือน บรรเทาลง

เธอกอดเขาไว้เบาๆ

ครั้งนี้เควินอาศัยโอกาศที่ขอพิงกี้แต่งงาน“เชื้อ เชิญ”ดุสิตกับน้ำหวานกลับมาในประเทศ ที่จริงเป้า หมายก็เพื่อจะรั้งน้ำหวานไว้ ไม่เพียงให้ตระกูลภักดี วัฒนากุลขาดตัวประกันที่เป็นเกราะกำบังไปคนนึง แต่ ยังเพื่อให้พิงกี้วางใจลงด้วย

ตอนนี้ถึงแม้เรื่องมีการเปลี่ยนแปลง ในใจของพิงกี้ ยังเต็มไปด้วยความซาบซึ้งอีกเช่นเคย

“คุณเควิน ขอบคุณนะคะ” พิงกี้ซบที่ไหล่ของเค วิน พร้อมพูดด้วยอารมณ์ซับซ้อน และรู้สึกน้อยใจที่น้ำ หวานจากไปโดยที่ไม่ล่ำลา

“ยังเรียกคุณเควินอีก?”

“หืม…..เควิน?”
“เรียกที่รัก”

พิงกี้

“เด็กดี เรียกให้ผมฟังหน่อยนะ”

ในใจของพิงกี้ทั้งหวานชื่นและซาบซึ้ง แต่แล้ว ไม่ นานความรู้สึกแบบนี้ก็ได้กลายมาเป็นความเขินอายจน โกรธ เพราะมือของผู้ชายได้เริ่มทะลึ่งขึ้นมาแล้ว เขา ล้วงจากชายเสื้อขึ้นไปบีบนวดที่หน้าอกนุ่มนวลของเธอ และจุดไฟในร่างกายของเธอให้ปะทุขึ้นมา

“เควิน!” เธอเรียกด้วยความหดหู่ “เมื่อคืนยังไม่ พออีกเหรอ ห้า?”

“คุณคิดว่าพอเหรอ?” เควินย้อนถาม “ถ้าผมจำ

ไม่ผิด เมื่อคืนคนที่นอนข้างกายคุณไม่ใช่ผมนะ”

“เมื่อคืนก่อนเที่ยงคืนเราก็ทำไปแล้วหนิ

“แค่สองครั้งเอง จะพอได้ยังไง?”

“ตอนนี้ยังมีเวลาอยู่ อย่าปฎิเสธผมนะ?”

เสียงหัวเราะด้วยความรื่นรมย์ดังขึ้นที่ข้างหูของพิงกี้ ผู้ชายอมติ่งหูของเธอไว้อย่างร้ายๆ การสัมผัสอุ่นๆ นั้นทำให้เธอตัวสั่นอย่างห้ามใจไม่ได้ เธอยังจะทำยังไง ได้อีกล่ะ?

ครางเสียงตาออกมาทีนึง ร่างกายของเธออ่อน ยวบยาบดั่งสายน้ำ

เสื้อผ้าถูกถอดออกทีละชิ้นๆ ตอนที่ร่างกายสัมผัส กับอากาศอย่างสิ้นเชิง มีความรู้สึกหนาวเย็นคืบคลาน เข้ามาหา

พิงกี้นอนเงยหน้าที่บนเตียง รู้สึกได้ถึงผู้ชายดูดที่ ซอกคอและจูบผ่านไข่มุกสีแดงสองเม็ดของเธอ จาก นั้นก็จูบลงไปข้างล่างเรื่อยๆจนถึงขาอ่อนของเธอ ไม่ นึกเลยว่าสุดท้ายจะจูบไปตรงจุดที่บอบบางที่สุดของ เธอ

“เควิน อย่าค่ะ….ที่นั่นสกปรก…..”

พริบตาเดียว ราวกับว่ามีพลุไฟระเบิดอยู่ใน สมองของพิงกี้ การกระตุ้นที่รุนแรงมากนั้นทำให้พิงกี้ ครวญครางออกมาอย่างไม่หยุด ไม่นานเธอก็แพ้อย่าง ราบคาบ แม้แต่พูดจายังติดๆขัดๆ แทบจะจมตายอยู่ใน กระแสน้ำที่โหมกระหน่ำนี้

แต่แล้ว เควินกลับไม่มีทีท่าจะหยุดลงเลย
ลิ้นอุ่นๆของเขาเลียดูดไว้ ปลายจมูกโด่งคอยถูไถ ลูบไล้จุดเล็กๆที่ซ่อนอยู่ในเกสร ทำให้พิงกี้ค่อยๆพูดไม่ ออกเลยด้วยซ้ำ ได้แต่หายใจคำโตๆ ไม่ถึงขั้นจมอยู่ใน กระแสน้ำที่โหมกระหน่ำ

พอเธอถูกส่งขึ้นไปสววค์ชั้นเจ็ด เขาถึงได้ลุกขึ้น ด้วยรอยยิ้ม และเอาอาวุธใหญ่ของตัวเองสอดใส่เข้าไป

ในความอบอุ่นของเธอ

พุ่งชนอย่างโหด

ครั้งแล้วครั้งเล่า พิงกี้ที่ยังไม่ได้บรรเทากลับมา จากความซาบซ่านที่หลงเหลืออยู่ก็ถูกท่าทางที่ดุเดือด เป็นพักๆนี้กระตุ้นจนจะแย่อยู่แล้ว แต่เควินดันไม่อนุ ญาติให้เธอหลับตาไว้อย่างนี้

“มองผมไว้ ที่รัก” เควินเปิดปากพูด

พิงกี้กัดริมฝีปากไว้และลืมตาขึ้นมา ตอนที่สายตา หล่นอยู่ที่ริมฝีปากแดงชุ่มชื้นและมีคราบน้ำอยู่ของเขา ทันใดนั้นใบหน้าของเธอแดงก่ำขึ้นมาอีก ราวกับว่าแค่ บีบก็สามารถมีเลือดหยดออกมาอย่างไรอย่างนั้น

นั่น นั่นคือ………

เควินยิ้มมุมปากเล็กน้อย “ชอบมั้ย?”
พิงกี้ “

“ไม่พูด?” รอยยิ้มของเควินยิ่งลึกซึ้งขึ้นไปอีก พุ่งชนเข้าไปแรงๆทีนึง วิญญาณของพิงกี้ถูกพุ่งชนจน กระจัดกระจายไปหมดแล้ว

เธอรีบเปิดปากพูด “ชอบ ชอบค่ะ……

“ในเมื่อชอบ งั้นก็อย่าคิดมาก ตั้งใจเพลิดเพลิน อย่างเดียวก็พอ โอเค็มั้ย?”

……อืมๆ”

ตอนที่ท่าทางของผู้ชายกำเริบเสืบสานขึ้นมา พิงกี้ ไม่มีกำลังไปคิดเรื่องอื่นจริงๆแล้ว

มองดูหน้าตาที่เคลิบเคลิ้มของเธอ รอยยิ้มของเค วินยิ่งลึกซึ้งเข้าไปใหญ่ เขาสัมผัสได้ด้วยตัวเอง…..นี่ ถือว่าได้ข้อสรุปอย่างนึงจากประสบการณ์เลย ตอน ที่ผู้หญิงคิดมาก เขาสามารถ“มุมานะและลุยงานด้วย ตนเอง” ทำให้เธอหมดหนทางที่จะคิดมากได้

ทำหลายๆครั้งหน่อยก็โอเคแล้ว แบบนี้ดีกับเขาทั้ง
ตอนที่พิงกี้ไปหาน้ำหวาน ห้องของน้ำหวานกับ ดุสิตก็ว่างเปล่าแล้ว ดูจากเวลาที่พนักงานบอก พวกเขา น่าจะจากไปหลังจากที่น้ำหวานกลับมาห้องได้ไม่นาน

รู้ผลลัพธ์แล้ว พิงกี้ก็ยังรู้สึกเสียใจเพราะเรื่องนี้

อยู่ดี

เพียงแต่ ตอนที่เธอเห็นแหวนเพชรที่อยู่ในมือ ในใจ ก็มีความหวานชื่นโผล่ขึ้นมาอีก หัวใจรู้สึกผ่อนคลายลง เล็กน้อย

มีเควินอยู่ เปอร์เซ็นต์ที่น้ำหวานจะเกิดเรื่องน่าจะ น้อยลงไปมากเลยมั้ง?

ฟังจากคำพูดของน้ำหวาน เพื่อความปลอดภัย ของเธอ ดุสิตถึงได้เข้าไปพัวพันและทำมาค้าขายกับ องค์กรSC ที่จริงเขาทำไปเพราะจำใจและถูกบังคับ

ขอแค่ดุสิตมีใจปกป้องน้ำหวานแบบนี้ตลอด น้ำ หวานไม่น่าจะเกิดเรื่องอะไร ถ้าคิดวนเวียนจากจุดนี้ล่ะ ก็ ดุสิตอาจจะไม่ถูกตัดสินโทษหนักขนาดนั้นก็ได้ ไม่แน่ อาจจะมีโอกาศรักษาชีวิตเอาไว้อยู่

อย่างอื่น ก็ได้แต่มอบให้ฟ้าเบื้องบนแล้ว
กลับมาถึง L.K.Crystal วิลล่า เรื่องแรกที่พิงกี้ทำ ก็คือไปวิ่งไปดูน้องแอ๊ปเปิ้ล

น้องแอ๊ปเปิ้ลที่คลอดก่อนกำหนด ตอนนี้ได้กลาย เป็นอาตี๋น้อยที่ขาวจั๊วะและน้ำม่ำแล้ว ดูแล้วช่างน่ารัก จริงๆ

แต่ที่ทำให้พิงกี้คิดไม่ถึงคือ วันนี้ในห้องของน้อง แอ๊ปเปิ้ลกลับมีแขกสองคนที่ไม่ได้รับเชิญมาหา


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ