บทที่384: ตายแล้ว
ลิสาเป็นนักโทษที่ออกข่าวตั้งนานแล้ว เรื่องชั่วที่ ก่อไว้ล้วนมีหลักฐานทั้งนั้น คำตัดสินโทษไม่นานผลก็ ออกมาแล้ว หน้าหลังไม่เกินหนึ่งสัปดาห์
หนึ่งสัปดาห์นี้ ยังเป็นเควินที่ยืดเยื้อเวลาเอาไว้ เพราะเขาต้องใช้เวลาจัดการเรื่องต่างๆหน่อย และให้ เวลามาลาตีด้วย ให้เธอสามารถมีโอกาศเล่นตุกติก
ผลการตัดสินลงมา ลิสาถูกตัดสินโทษประหาร ชีวิตโดยที่ไม่เหนือความคาดหมาย
ดูจากกฏหมายของเมืองZ เจตนาฆ่าคน ขาย ชาติ เจตนาทำร้ายอย่างรุนแรง ข่มขืน ลักทรัพย์ ด้วยกำลัง ลักพาตัว ใช้วิธีที่อันตรายทำร้ายความ ปลอดภัยของสาธารณะ หรือทุจริตคอรัปชั่นที่ตัวเลข มหาศาล…….ต่างก็จะถูกตัดสินโทษประหารชีวิต
นอกจากนี้ อาชญกรที่โทษฐานร้ายแรงก็จะถูก ตัดสินประหารชีวิตเหมือนกัน
ดูจากเรื่องที่ลิสาทำ เธอไม่รู้ทำผิดกฏตั้งกี่ข้อ เรื่อง ราวที่ก่ออาชญกรรมก็ชั่วร้ายมาก สามารถบอกได้ว่า ตายไปก็ไม่น่าเสียดาย! ถึงตายก็ยังน้อยไปกับเธอด้วย
วันที่ลิสาถูกตัดสินประหารชีวิตโดยการใช้ปืนยิง พิงกี้ไม่ได้ไปดูที่เหตุการณ์ เธอไม่มีความสนใจในเรื่องนี้ที่เธอติดตามคือเรื่องที่จะพัฒนาในต่อไป
แต่มาลาตีได้ไปดูอยู่
เธออารมณ์คึกคักมากเป็นพิเศษ
ป้าจําปาที่มาเป็นเพื่อนเธอถามด้วยความงงงวย “คุณหญิงคะ คุณรู้ทั้งรู้ว่านี่คือของปลอม คือการแสดง ละคร ทำไมดันยังจะให้คุณพิงกี้เรียกคนพาคุณมาดูให้ ได้คะ? มันมีความหมายอะไรคะ?”
“มีน่ะไม่มีความหมายอะไรหรอก แต่ฉันดูแล้ว อารมณ์ดีนี่”
ลิสาไม่รู้ความคิดของเธอ
ก่อนที่จะถูกประหาร ลิสานึกว่าตัวเองจะตายจริงๆ ความหวาดกลัวที่จะถูกประหารเป็นความจริงทั้งนั้น
ในห้องขัง ลิสานั่งกอดหัวเข่าอยู่ที่พื้นอย่างสั่นไป
หลังจากแสดงละครถูกประหารชีวิตเสร็จ เธอก็ถูก
ขังไว้ในคุก
ที่นี่คือโซนเรือนจําหญิง ห้องนึงมีสี่เตียง แต่ห้องที่ เธอพักมีนักโทษร่วมห้องแค่สองคนเท่านั้น
นักโทษร่วมห้องหนึ่งในนั้นที่ชื่อกัญญา เธอได้ ลงมือฆ่าสามีขี้เหล้าของตัวเองที่ชอบใช้ความรุนแรง กับครอบครัว จากนั้นก็แล่เนื้อของสามีเป็นแผ่นๆเอามา กิน ส่วนนักโทษอีกคนที่ชื่อจริยา คือนักโทษที่ใช้ไฟเผา บ้านของศัตรูตายไปทั้งหมดสี่คน ส่วนมีอีกหนึ่งเตียงก็ ว่างไม่มีคนนอน
ตอนที่ลิสาเพิ่งมาถึงใหม่ๆ ในใจรู้สึกตื่นตระหนก มาก ถึงตัวเธอเองจะเป็นคนที่โหดเหี้ยมอำมหิต แต่พอ เจอผู้หญิงสองคนที่ไม่ได้จิตใจดีงามกว่าตัวเอง ในใจ รู้สึกอ่อนล้า
ตั้งแต่ถูกขังเข้ามาในนี้สองวัน เธอก็ไม่ได้นอนหลับ ดีๆเลย ตกดึกนอนอยู่ที่บนเตียงยังไงก็นอนไม่หลับ
แต่ว่า หลังจากวันนี้เธอก็ไม่ต้องอกสั่นขวัญแขวน
เพราะว่าเธอจะตายแล้ว
ตรงหน้าของลิสามีอาหารที่หรูหราวางอยู่ แต่เธอ ไม่มีกะจิตกะใจกินแม้แต่คำเดียว พออาหารร้อนได้ เย็นลงหมดแล้ว เธอก็ยังรักษาท่าทางที่นั่งอยู่บนพื้นไว้ พร้อมแววตาเหม่อลอย
นักโทษร่วมห้องที่ชื่อกัญญาจ้องมองเธอที่นึง แฝง ด้วยอารมณ์ที่ซับซ้อนจากนั้นก็ได้หัวเราะเยาะออกมาที นึง “นี่เป็นมื้อสุดท้ายแล้ว กว่าจะได้กินอาหารดีๆไม่ใช่ ง่ายๆ ดันจะเล่นตัวไม่กินอีก เชอะ~”
จริยาทนไม่ไหวที่จะย้อนคำนึง “ถ้าเธออยากกิน งั้นเธอไปกินแทนมันมั้ย?”
กัญญาแบะปากทีนึงและดึงสายตากลับด้วยความ
รังเกียจ
อาหารมื้อสุดท้ายใครจะอยากกิน?
กับข้าวเย็นแล้ว ถึงลิสาไม่อยากกิน เวลาประหารก็ ไม่เปลี่ยนแปลงเพราะเหตุนี้หรอก
ผู้คุมนักโทษหญิงเดินมา เปิดประตูออกและเคาะ ไปสองที “ลิสา ออกมาได้แล้ว ”
“ไม่ ฉันไม่ไป! แกอย่ามานะ พวกแกอย่าเข้า มานะ!” ลิสาเงยหน้าอย่างกระทันหัน และไปหดตัวอยู่ ที่หัวมุม ดูแล้วช่างน่าสงสาร “ขอร้องพวกคุณล่ะ ปล่อย ฉันไปเถอะ ฉันถูกปรักปรำ ฉันถูกปรักปรำจริงๆนะ!?
ผู้คุมหญิงเป็นคนที่เคยเห็นอะไรมาเยอะ เธอได้ ถือกระบองไฟฟ้าเดินไปข้างหน้าของลิสาโดยตรง และ ช็อตจนเธอปางตาย จากนั้นก็ได้หิ้วเธอที่ฉี่ราดกางเกงออกไปข้างนอก
พอผู้คุมหญิงหิ้วคนออกไปปุ๊บ กัญญาที่รังเกียจ ก็ได้เปิดปากพูดอีก “จะตายก็รีบไปตายสิ ดันจะทำให้ อากาศที่นี่เป็นมลพิษถึงจะมีความสุขอีก นังบ้านี้น่าตบ สั่งสอนซะจริงๆ”
พอด่าเสร็จ เธอเองก็มีสีหน้าขมขื่น
ลิสาถูกคนหิ้วไว้ ถึงจะไม่มีแรงต่อต้านแล้ว แต่ น้ำตายังไหลลงมาอย่างไม่หยุด คนทั้งคนอิดโรยจนดู ไม่ได้ น้ำตาท่วมหน้า ผมเผ้ายุ่งเหยิงเหมือนคนบ้า
สุดท้าย เธอก็มาขอร้องว่าจะกินข้าวอีกครั้ง บอก ว่าไม่อยากตายไปแล้วเป็นผีเปรตที่หิวโหย ที่จริงก็แค่ อยากยื้อเวลาแค่นั้นแหละ
ผู้คุมหญิงมองเธอทีนึง สุดท้ายก็ได้เอาข้าวให้เธอ
ทานชุดนึง
ในเรือนจำทุกที่มีกล้องวงจรปิดไม่น้อย มาลาตี หลบอยู่ข้างหลังกล้องวงจรปิดดูลิสาน้ำตาท่วมหน้ากิน อาหารมื้อสุดท้ายในคุก มองดูเธอถูกคนคุมตัวไว้และ คุกเข่าอยู่บนพื้นคอยขัดขืนและกรีดร้องไปด้วย มอง ดเธอถกนำตัวไปที่ๆประหารชีวิต อย่าให้พูดเลยว่ามาลาตีดีใจแค่ไหน
ถึงแม้นี่จะเป็นของปลอม แต่ของปลอมก็สามารถ ทำให้มาลาตีสะใจได้
การเตรียมการหลังจากลิสา “ตาย”ก็ยิ่งชุด ใหญ่กว่า ไม่เพียงเธอที่เฝ้ารอ เธอคิดว่าลิสาก็คงจะ รู้สึก“เซอร์ไพรส์มากเช่นกัน
พอดูสภาพการตายที่ย่ำแย่ของลิสาด้วยความพึง พอใจเสร็จ มาลาตีก็บอกว่าจะกลับแล้ว
พอมาลาตีถูกป้าจำปาเข็นขึ้นรถไปแล้ว เธอถึง ถามป้าจำปาที่อยู่ข้างกายว่า “นำตัวออกมาหรือยัง?”
ป้าจำปาโน้มตัวพยักหน้า “นำตัวออกมาแล้วค่ะ”
“อยู่ที่ไหน?” มาลาตีอยากไปดูหน่อย
ป้าจำปาชี้ไปที่ท้ายรถ “เอาไว้ข้างในค่ะ คุณหญิง อยากไปดูหน่อยมั้ยคะ?”
เดิมทีมาลาตีอยากไปดูอยู่ หลังจากดูแล้วถึงจะ รู้สึกจิตใจสงบ แต่พอถูกป้าจำปาถามแบบนี้ จู่ๆมาลาตีก็ ทำตัวหยิ่งยโสขึ้นมา
เธอแสร้งทำเป็นสีหน้าสงบมาก “ไม่ดู ดูทำไม? คนก็อยู่ในมือของฉันแล้ว ฉันยังกลัวมันจะหนีไปได้ยังไง? หรือแกคิดว่าคนที่ฉันหามาทำงานไม่ได้เรื่องรึยังไง?”
มาลาตีรู้สึกตัวเองฉลาดมากจริงๆ
ตอนที่เธอเอาสายมืดมอบให้กับเควินเพื่อแสดง ถึงความจริงใจ ได้แอบเหลือไว้บางสายมืดที่ตัวเอง สามารถใช้งานได้ จุดประสงค์ก็คืออยากให้เควิน จัดการคนอื่น จะได้เชือดไก่ให้ลิงดู เพื่อให้สายมืดที่เธอ ไม่ได้เอาให้เควินเชื่อฟังแต่โดยดี
ถ้าพวกมันไม่รู้กาลเทศะ งั้นก็อย่าโทษเธอที่มอบ พวกมันออกไปให้เควินก็แล้วกัน
ครั้งนี้แค่ข่มขู่พวกมันไปสองคำ คนพวกนั้นก็ไม่ใช่
ช่วยเธอทํางานอย่างเชื่อฟังแล้วหรือ?
ประสิทธิผลในการทำงานก็ถือว่าใช้ได้
มาลาตีรู้สึกพึงพอใจมาก
แต่ที่เธอไม่รู้คือ เธอเพิ่งติดต่อสายมืดนั้นไปครู่ เดียว ไม่นานสายมืดเหล่านั้นก็ถูกเควินควบคุมตัวไว้ แล้ว หลังจากติดต่อกับทุกฝ่าย เรื่องที่หลังจากให้ลิ สาถูกประหารชีวิตปลอมและขโมยเอาคนออกมาจาก เรือนจำ ต่างก็เป็นทางฝั่งของเควินจัดเตรียมทั้งนั้น
ถ้าคนอื่นมาทำเรื่องนี้ ไม่แน่อาจจะทำไม่สำเร็จ หรอก
เรื่องพวกนี้ป่าจำปารู้หมด สำหรับมาลาตีที่มีความ รู้สึกอยู่เหนือกว่า เธอแค่มองดูอย่างเย็นชาและรู้สึก ตลกสิ้นดี
“ไม่ใช่ค่ะ คุณหญิงเป็นคนมองการณ์ไกลและ รอบคอบ เป็นไปได้ยังไงที่จะทำงานไม่ได้เรื่องล่ะคะ?” ป้าจำปาประจบมาลาตีไปคำนึง ภายใต้สายตาที่มาลาตี ได้ใจ เธอได้นั่งลงที่เบาะนั่งข้างคนขับ
ป้าจำปาดูถูกมาลาตี แต่ก็ไม่อยากแสดงออกให้ เธอเห็นอย่างซึ่งๆหน้า เธอก็แค่เห็นมาลาตีเป็นคนโง่คน นึงเฉยๆ
ผ่านไปสองชั่วโมง รถได้จอดสนิทที่ใต้ตึกแห่งนึง
ของชานเมือง
มาลาตีถูกป้าจำปาอุ้มลงจากรถ และนั่งลงที่รถ
เธอควบคุมรถเข็นไปที่ข้างท้ายรถด้วยตัวเอง จาก นั้น เธอก็เห็นป้าจำปาหอบกล่องใบใหญ่ออกมาจากท้ายรถ
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ