บทที่381 ลาก่อน ลิสา
ถึงแม้จะควบคุมความอยากที่จะติดต่อกับน้ำหวาน แล้ว แต่พิงกี้ก็ยังอดเป็นห่วงเธอไม่ได้
หลายปีมานี้ เพื่อนที่ดีที่สุดก็มีแต่น้ำหวานคน เดียว ไม่มีใครอื่นอีก เธอจะเสียเพื่อนคนนี้ไปไม่ได้เด็ด ขาด ……เธอก็เชื่อว่า ดูจากนิสัยพี่น้องตระกูลกิจ โอสถแล้ว พวกเค้าไม่มีทางทำเรื่องแบบนี้ออกมาได้!
ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถมาจอดตรงหน้าประตูสถาน ที่กักกันตัวลิสา
เดินเข้ามาในสถานกักกัน พิงกี้สังเกตว่ามาลาตียัง มาไม่ถึง เธอกลับไม่ได้ติดต่อมาลาตี แต่นั่งรอที่เก้าอี้ แล้วคิดเรื่องของน้ำหวาน
คิดไม่ถึงเลย เธอไม่ติดต่อมาลาตี แต่มาลาตีกลับ
โทรมาหาเธอก่อนแล้ว
“พิงกี้ ทำไมลูกยังไม่มารับแม่อีก?”
พิงกี้ขมวดคิ้ว ไม่รู้ว่ามาลาตีคิดจะทำอะไรอีก ก่อน หน้านี้เธอส่งที่อยู่ให้ป้าจำปาแล้วนี่น่ะ ให้ป้าจำปาพา มาลาตีมาที่สถานกักกัน ทำไมมาลาตียังถามอย่างนี้ อีก?
เธอพูดอย่างเฉื่อยชา “ฉันถึงสถานที่กักกันแล้ว จะไปรับคุณยังไง?”
“แต่ลูกไม่มารับแม่ แม่ไม่รู้ทางนี่น่ะ!” มาลาตี ใจร้อนขึ้นมาทันที มองไปที่ป้าจําปาด้วยสายตาที่ทั้ง อึดอัดและโมโห อยากจะใส่อารมณ์กับพิงกี้โดยไม่ต้อง คิดอะไรจริงๆ แต่ก็ทำไม่ได้ ยังไงก็ต้องสะกดอารมณ์ โมโหไว้ ไม่ว่าจะทรมานแค่ไหน
“ก่อนหน้านี้ฉันได้บอกกับป้าจําปาแล้ว ป้าจําปาจะ พาคุณมาเอง เธอไม่ได้บอกเรื่องนี้กับคุณรึไง?” พิงกี้ ถาม
“ฉัน…….เธอ บอกแล้ว…….. “มาลาตีพูดซ้ำๆ
อึ้งๆ
ป้าจําปาบอกแล้วว่าจะพาเธอไปเอง พิงกี้ไม่ได้จะ มารับเธอ แต่เธอไม่เชื่อ
ในใจเธอคิดว่าป้าจำปากำลังประชดว่าเธอไม่ได้ใจ ลูกสาว ไม่ว่ายังไงเธอก็จะพิสูจน์ให้เห็นว่าพิงกี้ยังแคร์ แม่คนนี้อยู่ อยากจะให้พิงกี้มารับเธอ
ไปสถานกักกันต้องผ่านแถวโรงพยาบาลอยู่ ที่จริง ก็ไม่ถือว่าไกล เพียงแต่ถ้าจะให้คนมารับที่โรงพยาบาล โดยเฉพาะล่ะก็ ยังต้องย้อนเสียเวลาอีกหลายสิบนาที ขึ้นลงก็ต้องยุ่งยากอีก
แต่มาลา ไม่ได้คิดเรื่องพวกนี้เลยด้วยซ้ำ
คํานวณเวลาดูแล้ว มาลาตีคิดว่าพิงกี้น่าจะถึงแถว โรงพยาบาลแล้ว เลยรีบโทรหาเธอ
เดิมทีเธอคิดว่าเป็นแค่เรื่องเล็ก พิงกี้จะไม่ปฏิเสธ แต่จะไปรู้ได้ยังไงว่าพิงกี้จะเร็วขนาดนี้ ตอนที่เธอโทร หาพิงกี้ พิงกี้ก็อยู่ที่สถานกักกันแล้ว?
มันช่างน่าโมโหจริงๆ!
แค่ไม่สบายใจ มาลาตีก็พูดจาไม่น่าฟังแล้ว “แกไม่ ต้องสนใจอะไรทั้งนั้น ฉันบอกให้แกมารับฉันมันก็ไม่ใช่ เรื่องใหญ่อะไร เรื่องแค่นี้แกคงจะไม่ปฏิเสธหรอกนะ? แกมาจากสถานกักกันคงไม่ใช่เรื่องยุ่งยากอะไร ออก มาเดี๋ยวนี้ ฉันรอแกอยู่ที่โรงพยาบาล”
“อ้อหรอ คุณคิดว่าไม่ใช่เรื่องใหญ่หรือ?” พิงกี้พูด อย่างเรียบเฉย
“ก็ใช่น่ะสิ! แกคิดว่าความสะดวกสบายของตัว เองสำคัญ หรือว่าแม่แกคนนี้สำคัญกว่า?” มาลาตี ถามอย่างหน้าบึ้ง “ถึงยังไงป้าจำปาก็เป็นผู้หญิง จะมา เคลื่อนย้ายฉันไปมา ถ้าหากไม่ทันระวังทำให้ฉันล้ม ถึง เวลานั้นฉันจะไปหาใคร? ถึงแม้โรงพยาบาลจะรักษาให้ ฉัน ฉันไม่ต้องกังวลเรื่องเงิน แต่คนที่ทรมานก็เป็นฉัน เอง!”
“เชอะ……” พิงกี้หมดความอดทนอีก แล้วยิ้ม อย่างเย็นชา “ข้อแรก ป้าจำปาเป็นคนที่ฉันจ้างมา หาก คุณไม่พอใจ คุณก็ไปหาใครก็ได้ที่คุณพอใจ ฉันจะได้ ไม่ต้องยุ่งยากอีก! ข้อสอง โรงพยาบาลฉันเป็นคนหา ให้คุณ คุณไม่ต้องห่วงเรื่องเงินก็เพราะฉันเป็นคนออก ให้ ถ้าหากคุณคิดว่าแบบนี้แล้วคุณจะทำอะไรก็ได้ แล้ว ยังมาชี้นิ้วสั่งฉันอีกล่ะก็ คุณดูแลตัวเองให้ดีแล้วกัน ดู ซิว่า แบบนี้แล้วก็จะมีคนมารับความทรมานแทนคุณ เปล่า!”
“ฉัน…..ทำไมแกถึงได้ใจร้ายใจดำแบบนี้ ถึงแก จะไม่ชอบแม่คนนี้ แต่แกคงไม่ลืมต้นกำเนิดของตัวเอง หรอกนะ?”มาลาตีตอบกลับ
พิงกี้ไม่อยากพูดกับมาลาตีมากไปกว่านี้แล้ว อยากมาก็มา ไม่อยากมาก็ไสหัวไปซะ
“ฉันรอคุณอยู่ที่นี่ครึ่งชั่วโมง ถ้าหากคุณไม่มา ฉัน ก็จะไปแล้ว ต่อไปนี้อย่าติดต่อฉันเพราะเรื่องนี้อีก”
พูดจบ พิงกี้ก็วางสายไปเลย
เพราะว่ายังไม่ได้ตัดสินโทษ ลิสาจึงได้ถูกฝากขัง ไว้ที่นี่ชั่วคราว เป็นคนใกล้ชิดของเควิน และยังมีพายุ คอยออกหน้า พิงกี้ก็เลยสามารถมาเยี่ยมลิสาได้
ถ้าหากมาลาตีมาคนเดียว ส่วนมากก็คงจะมาเสีย เที่ยวเปล่าๆ
พิงกี้ไม่กลัวว่ามาลาตีจะไม่มา ว่าไปแล้วมาลาตี ก็โง่นัก แต่เธอก็เป็นคนที่ดูสีหน้าคนอื่นเก่ง เคยชินกับ การประจบผู้อยู่เบื้องสูงและเหยียบหยามผู้ที่ด้อยกว่า ตอนที่คนอื่นดีกับเธอ เธอจะไม่แคร์ ตอนที่คนอื่นทำไม่ ดีกับเธอ เธอก็มักไม่กล้าที่จะเผชิญกันซึ่งๆหน้า
จริงๆแล้ว มาลาตีไม่มาน่ะดีแล้ว เธอยังขี้เกียจที่จะ ต้องรับมือกับเธอด้วย
ไม่ถึงครึ่งชั่วโมง ผ่านไปยี่สิบนาทีกว่าๆ ป้าจำปาก็ ไปเข็นมาลาตีที่นั่งอยู่บนรถเข็นเข้ามา
มองไปรอบๆ เห็นพิงกี้ที่นั่งพักผ่อนอยู่บนเก้าอี้ มาลาตีพูดด้วยรอยยิ้ม “พิงกี้ แม่ทำให้ลูกต้องรอนาน เลยใช่มั้ย?”
พิงกี้ลุกขึ้น ไม่ไว้หน้ามาลาตีเลยแม้แต่น้อย แล้ว พูดอย่างเย็นชาว่า “เอาเถอะ อย่ามาทำเป็นแม่ลูกที่รัก กันเลย เป้าหมายของคุณในวันนี้ก็คือได้เจอหน้าลิสา เท่านั้นเอง ฉันให้โอกาสคุณแล้ว คุณตามคนเข้าไป เถอะ”
ระหว่างพูด ตำรวจหญิงคนนึงได้เดินเข้ามาหา “คุณพิงกี้ คุณหญิงมาลาตี ฉันพาคุณสองคนเข้าไปค่ะ”
พิงกี้พยักหน้า “ขอบคุณมากค่ะ”
เดิมที มาลาตียังอยากพูดอะไรอีก แต่พอเห็นพิงกี้ จะตามไปด้วย ไม่ใช่ว่าจะทิ้งเธอไว้ที่นี่ ก็แค่ขยับปาก แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร
ลิสาถูกขังไว้ในโซนเรือนจำหญิง ถ้าหากมีคนจะ เจอเธอ ยังต้องให้ตำรวจหญิงพาตัวเธอออกมาจากโซน เรือนจําหญิง
แต่ว่าพิงกี้ได้เคลียร์เอาไว้ก่อนหน้านี้แล้ว ตอนที่ เธอกับมาลาตีตามตำรวจหญิงมาถึงที่ห้องเล็กๆห้อง นึง เพื่อไม่ให้เสียเวลา ลิสาที่ทําศัลยกรรมจนหน้าตา เปลี่ยนไปทั้งหน้าก็ได้นั่งรออยู่อีกฝั่งนึงของโต๊ะแล้ว
สายตาของพิงกี้มองไปแล้วรู้สึกแปลกใจจริงๆ
สำหรับลิสาแล้ว พิงกี้ไม่รู้ว่าคุ้นเคยขนาดไหน และรังเกียจขนาดนี้แล้ว แต่ผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้านี้ ไม่มี จุดไหนของหน้าตาที่คล้ายกับลิสาเลย เหมือนเป็นคน แปลกหน้าชัดๆ
ถ้าหากไม่ใช่เพราะคนที่อยู่ตรงหน้ามีสายตาที่โหดเหี้ยมเลือดเย็นเหมือนลิสาล่ะก็ พิงกี้ยังสงสัยจริงๆว่าตัว เองถูกพามาผิดห้องรึเปล่า
“คุณพิงกี้คะ ต้องขอโทษจริงๆนะคะ เรามีกฎว่า เวลาเยี่ยมห้ามเกินสิบห้านาทีค่ะ……..” ตำรวจหญิง เตือนด้วยความเกรงใจ
พิงกี้ยิ้มละไม ไม่เป็นไรค่ะ นี่ก็ถือว่าช่วยเราได้ มากแล้วค่ะ”
“ไม่ต้องเกรงใจค่ะ เชิญคุณมาชี้ตัวผู้ฐานะของ ต้องสงสัยหน่อยค่ะ ทางเราต่างหากที่รบกวนคุณค่ะ” ตำรวจหญิงพูดเก่งมาก พูดจบด้วยรอยยิ้มก็ได้ปิดประตู จากไปเลย
ในห้องเหลือแค่สามคน ลิสาที่ถูกมัดตัวไว้มองไปที่ พวกเธอ แล้วยิ้มอย่างเย็นชา “เห็นฉันโดนจับแล้ว พวก แกคงจะสะใจมากสินะ?”
พิงกี้ยิ่งรู้สึกขำ“ใช่”
อารมณ์เธอยังถือว่าสงบนิ่ง แต่มาลาตีกลับทน ความโมโหในใจไว้ไม่อยู่ พยายามดิ้นลงจากรถเข็นแต่ ไม่สําเร็จ ก็เลยควบคุมรถเข็นพุ่งเข้าไปหาลิสา
เธอกัดฟันไว้ ในตาเต็มไปด้วยเส้นเลือดแดง ดูๆ แล้วหน้าตาช่างดร้ายนัก และตะโกนว่า“นังแพศยา แกนี่มันแพศยา เอาของๆฉันคืนมาเลยนะ!”
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ