บทที่379: ความคิดของมาลาตี
“คุณหญิงคะ คุณใจเย็นลงก่อนดีมั้ยคะ?
ป้าจําปาไม่เต็มใจเอามือถือให้มาลาตี เธอรู้สึกไม่มี ความจำเป็นอะไรเลย คนที่จ้างเธอคือคุณพิงกี้กับคุณ เควิน เธอไม่ยอมให้พฤติกรรมของตัวเองไปสร้างความ เดือดร้อนให้คุณพิงกี้หรอก
พูดอะไรที่น่าเกลียดคำนึง เธอรู้สึกคนอย่างมาลาตี สามารถมีชีวิตอยู่ก็ถือว่าบุณโขแล้ว ถ้ายังมาเอะอะ โวยวายแบบนี้อีก ไม่แน่อาจจะทำบุญวาสนาที่เหลืออยู่ น้อยนิดนี้จางหายจนหมดสิ้นก็ได้
“ให้ฉันใจเย็น แกจะให้ฉันใจเย็นได้ยังไง? ลิสานัง แพศยานั่นถูกจับแล้ว แต่ฉันกลับไม่รู้เรื่องอะไรเลย ฉัน จะโทรไปถามนังพิงกี้ว่าทำไมต้องมาปิดบังฉัน เป็นเพ ราะว่านังพิงกี้มีจุดประสงค์อะไรรึเปล่า?”
มาลาตีตะคอกไปด้วย แววตาก็มีแสงที่ซับซ้อน เปล่งประกายอยู่ด้วย
สุดท้ายป้าจำปาถูกเธอตะคอกโวยวายจนหมด หนทาง ก็ได้แต่เอามือถือที่ชาร์ตแบตอยู่ข้างๆขึ้นมา แล้วยื่นให้เธอ
“เชอะ~เอาให้ฉันตั้งแต่แรกก็จบแล้ว ยังมายึกยัก อีก แกนี่มันหน้าตาขี้เหร่ไม่พอยังทำเรื่องเลวทรามอีก!” มาลาตีรับมือถือมาด้วยความโกรธ แถมยังแบะปากมองบนใส่ป้าจําปาทีนึง “แกนึกว่าแกเดินได้ปกติก็จะ สามารถมาดูถูกคนป่วยที่นอนอยู่บนเตียงอย่างฉันได้ งั้นหรอ? ฉันจะบอกแกให้นะ ถึงแกจะไม่เจ็บป่วยไม่มี เคราะห์ แกมันก็เป็นได้แค่ขี้ข้าที่คอยปรนนิบัติและเช็ด ขี้เช็ดเยี่ยวให้ฉันแค่นั้นแหละ!”
ป้าจำปาหายใจลึกๆทีนึง ไม่ได้สนใจมาลาตีที่ได้ใจ และสีหน้าบูดเบี้ยว เธอก็เดินออกไปโดยตรงเลย
“ยัยแก่เอ๊ย!” มาลาตีด่าเสียงต่ำคำนึง แล้วหยิบ มือถือขึ้นมาโทร
โทรออกไปไม่นาน ฝั่งนู้นก็มีเสียงสงบของพิงกี้ดัง ขึ้น แทบจะฟังไม่ออกว่ามีอารมณ์ซับซ้อนปะปนอยู่ใน นั้นด้วย “มีธุระอะไรหรือเปล่า?”
“ไม่มีธุระก็โทรไม่ได้หรือยังไง?” มาลาตีย้อนถาม ด้วยน้ำเสียงไม่ดี
เทียบกับก่อนหน้านั้นที่ทำตัวสูงส่งบีบบังคับป้า จำปา เสียงของมาลาตีในนาทีนี้กลับแฝงด้วยอารมณ์ที่ ตำหนิและคุ้นเคยมาก เหมือนกำลังพูดจาล้อเล่นอยู่
เพราะแบบนี้ พิงกี้ที่อยู่ในสายยังรู้สึกตื่นตกใจ เธอ ถามขึ้นอีกว่า “มีธุระอะไรหรือเปล่า?ถ้าฉันจำไม่ผิด ล่ะก็ ความสัมพันธ์ระหว่างเราสองไม่ได้ดีจนถึงขั้นที่ สามารถมาพดคยล้อเล่นได้นะ”
“เอ่อ…..คือ ฉันมาพูดคุยล้อเล่นอะไรกับแกล่ะ?” สีหน้าของมาลาที่มีความอึดอัดโผล่ขึ้นมาเสี้ยวนึง ไม่ นานก็หันกลับมาพูดว่า “ฉันได้ยินนังจำปาพูดเรื่องนึง เลยอยากมาถามสถานการณ์แกดู”
ครั้งนี้พิงกี้ไม่ได้ถามว่าเรื่องอะไร แต่ได้ถามตรงๆ ว่า “เรื่องของลิสาใช่มั้ย?”
“ใช่”
ไม่ว่ามาลาตีมีวัตถุประสงค์อะไร เธอก็อยากรู้ราย ละเอียดของสถานการณ์นี้
“ถ้าคุณถามเรื่องของลิสา ที่จริงไม่มีอะไรน่าพูด อีก ลิสาทําผิด พอดีตรวจหาเบาะแสเธอเจอ ก็เลยวาง กับดักล่อจับเธอได้ก็แค่นั้นเอง”
“เรื่องมันไม่น่าง่ายขนาดนี้หÌ แกมาหาฉัน โดยตรงเลย เรามาคุยรายละเอียดของเรื่องนี้กัน”
พิงกี้หยุดไปครู่นึง “นี่คุณอยากทำอะไรกันแน่?
มาลาติดคอ
เธอคงจะพูดว่าเธอจะฉวยโอกาศนี้เจอพิงกี้และดึง ความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองให้ใกล้ชิดกันมากขึ้น และ อยากเจอลิสาด้วยไม่ได้มั้ง?
แต่แล้ว ถึงเธอไม่พูด ความเงียบของเธอก็ทำให้พิง กี้ที่รู้สันดานเธอดีรับรู้ด้วยใจ
“คุณอยากเจอลิสา”
“………….…….” มาลาตีลังเลไปครู่นึง “ใช่ ฉันอยาก เจออยู่ แต่ถ้าแกถือสา งั้นฉันไม่ไปเจอนังแพศยานั่น ก็ได้ หลักๆคือฉันอยากรู้ว่าตอนนี้นังแพศยานั่นแย่แค่ ไหน เพราะยังไงซะมันทำให้ฉันเป็นแบบนี้ ฉันเกลียด มันจะตายอยู่แล้ว ในใจของฉัน ตอนนี้ฉันเห็นแค่แกเป็น ลูกสาวคนเดียวเท่านั้น ถ้าแกยังกังวลว่าที่ฉันไปดูมัน เพราะความคิดถึง งั้นฉันไม่ไปแล้วก็ได้ ”
“อ้อหรอ งั้นก็อย่าไปเลยดีกว่า “พิงกี้พูดอย่าง เรียบเฉย
มาลา ใจร้อนขึ้นมาทันที “นังตัวดี ทำยังไงแกถึง จะเชื่อฉันเนี่ย? ฉันก็แค่อยากไปสมน้ำหน้านังลิสาสัก หน่อย ไม่ได้จะพูดเข้าข้างมันซะหน่อย”
“เหอะ……… ((
” พิงกี้หัวเราะเย็นชาทีนึงแล้ววาง
เธอรู้ความคิดตอนนี้ของมาลาตีอยู่แล้ว ก็ไม่ใช่แค่ มีอารมณ์ประมาณว่า“เห็นแกอยู่ไม่เป็นสุข ฉันก็วางใจ แล้ว”หรอ? แต่เธอก็ไม่อยากปล่อยโอกาศที่จะให้ มาลาตีได้ลิ้มลองถึงรู้ชาติที่ใจร้อนรนเป็นไฟหรอก
แต่ว่า หลังจากวางสาย พิงกี้ก็ได้โทรหาพายุที่อยู่ ชั้นล่าง “พายุ นายเตรียมรถหน่อยนะ เดี๋ยวฉันจะออก ไปข้างนอก”
“ได้ครับ คุณผู้หญิง เสียงที่เต็มไปด้วยความ กระปรี้กระเปร่าของพายุก้องมาจากมือถือ
การปฎิบัติการจับกุมไกรสรครั้งนี้ล้มเหลว พายุ ก็ได้กลับมาจากอเมริกาแล้ว ตอนนี้เขายังไม่สะดวกมา รับช่วงต่อจากรังสิต ก็เลยถูกเควินจัดให้อยู่ข้างกายพิง
สําหรับการจัดแบบนี้ ตอนแรกพายุยังมีความรู้สึก เศร้าเหมือนขี่ช้างจับตั๊กแตนอยู่ แต่พอนึกถึงความคิด บางอย่างที่อยู่ในใจ ความไม่เต็มใจนั้นก็ได้จางหายไป หมดเลย
“คุณผู้หญิงครับ เชิญขึ้นรถครับ”
พิงกี้ยังไม่ได้เดินมาที่ข้างรถ ก็เห็นพายุยิ้มอย่าง ประจบสอพลอให้กับเธอ เปิดประตูรถให้เธออย่างเอาใจ ใส่แล้ว
หลังจากเธอขึ้นรถ พบว่าพายุก็ยังคงยิ้มอย่างเซ่อๆ อยู่ เธอจึงอดไม่ได้ที่ถามด้วยความแปลกใจ “พายุ นายมีเรื่องอะไรอยากขอร้องฉันหรือเปล่า?”
พายุได้ยินคำพูดนี้ก็หน้าแข็งทื่อไว้ แล้วลูบจับที่ หน้า “ผม……เฮ้อ ผมแสดงออกอย่างเห็นได้ชัดขนาด นั้นเลยหรอครับ?”
“อืม” พิงกี้พยักหน้าด้วยความแน่ใจ “เห็นได้ชัด มาก!”
“แหะๆ ผมแค่อยากถามเพื่อนสนิทของคุณผู้หญิง ที่ชื่อน้ำหวาน เธอมีความสัมพันธ์ดีกับคุณผู้หญิงมาก เลยใช่มั้ยครับ?”
“ใช่” พิงกี้สงสัยมาก “ทำไมจู่ๆนายถึงถามแบบนี้
ได้ล่ะ?”
“ก็ผมเคยเจอเธอที่อเมริกาหลายครั้งไม่ใช่เหรอ ครับ? เลยลองถามดูหน่อย
“อืมๆ” พิงกี้ขมวดคิ้ว
จากนั้น เธอก็ได้ยินเสียงของพายุดังขึ้นมาอีก “ตอนที่ผมเฝ้าจับตาดูนายไกรสรอยู่ที่อเมริกา ไม่ นึกเลยว่าจะได้เจอเพื่อนของคุณผู้หญิงตั้งหลายครั้ง เฮ้อ~อเมริกาก็ออกจากกว้างใหญ่ขนาดนั้น ไม่น่าเชื่อ ว่าเราจะได้พบกัน สงสัยเราคงจะมีวาสนากันมากเลย มั้งครับ?”
.อืม” พิงกี้พยักหน้าอย่างใจไม่อยู่กับเนื้อ
กับตัว
“คุณผู้หญิงก็คิดแบบนี้เหมือนกันใช่มั้ยครับ?” ได้ยินเสียงตอบของพิงกี้ พายุก็ยิ่งคึกคะนองเข้าไป ใหญ่ หันหลังมองมาที่เธอ และถามด้วยความเกรงใจ “งั้น งั้นคุณผู้หญิงสามารถให้เบอร์ติดต่อของเธอกับผม มั้ยครับ?”
“อ๋อ เสียใจด้วยนะ เธอมีแฟนแล้ว” พิงกี้ส่ายหัว
.” พริบตาเดียวพายุก็กลายมาเป็นผิด หวังมาก
จู่ๆพิงกี้นึกถึงปัญหาสำคัญมากอย่างนึง “อ้อ ใช่ แล้ว นายไม่รู้หรือไงว่าเธอไม่โสดแล้ว?”
“ไม่รู้นี่ครับ ก่อนหน้านี้ก็ได้ยินคุณผู้หญิงเล่าถึง เรื่องของเธอน้อยมาก รู้แค่ว่าพวกคุณรู้จักกัน จากนั้น ก็ได้ยินลางๆว่าความสัมพันธ์ของเธอกับแฟนไม่ดี และ เลิกกันอะไรประมาณนั้นครับ……จากนั้น อย่างอื่นก็ ไม่รู้แล้วครับ”
“แต่น้ำหวานตั้งครรภ์หลายเดือนแล้วนะ นายดูไม่ ออกว่าเลยหรือว่าเธอท้อง?”
“ห้า อะไรนะครับ?” ทีนี้ก็กลายเป็นพายที่ช็อค“เป็นไปไม่ได้นี่ครับ เธอดูแล้วไม่เหมือนคนท้องเลย มี อยู่ครั้งนึงตอนที่ผมเจอเธอ เธอ….เธอซื้อของอยู่ที่ร้าน สะดวกซื้อพอดี ผมเห็นตำตาเลยว่าเธอซื้อของใช้ส่วน ตัวของผู้หญิงนะครับ”
พิงกี้ “ …..….….”
ของใช้ส่วนตัวของผู้หญิง แล้วถูกพายุพูดเน้นขึ้น มาเป็นพิเศษอีก แทบจะพริบตาเดียวพิงกี้ก็เดาอะไร ออกแล้ว
ต้องเป็นผ้าอนามัยแน่ๆ!
เธออ้าปากค้างเล็กน้อย รู้สึกช็อคไม่แพ้พายุเลย
แทบจะด้วยสัญชาตญาณ พิงกี้นึกถึงข้อความ ที่ก่อนหน้านี้น้ำหวานส่งให้เธอ บอกว่าช่วงนี้เธอไป อเมริกาอีกแล้ว แถมยังจะซื้อของขวัญมาฝากเธอ ด้วย…….หรือว่าจะมีจุดประสงค์อย่างอื่นอยู่ในนั้น
เสียดาย หลังจากข้อความนั้น พวกเธอก็ไม่ได้ ติดต่อกันอีกเลย เธอไม่ได้ถามไถ่สถานการณ์ของน้ำ หวานมาสักพักแล้ว
ถ้าเทียบกับพามาลาตีไปวางอำนาจบาตรใหญ่ที่ ตรงหน้าของลิสา เธอควรจะเป็นห่วงสถานการณ์ของ เพื่อนรักเธอมากกว่านะ
เพียงแต่พิงกี้ยังไม่ทันได้โทรหาน้ำหวาน เควินก็ โทรมาก่อนแล้ว
“ได้ยืนนายพายุบอกว่าวันนี้คุณจะพามาลาตีไป เยี่ยมลิสาที่สถานกักกันหรอ?” เควินถาม
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ