บทที่331: ตัดสินใจที่เจ็บปวดใจ

เตชิตรู้สึกเรื่องนี้กระทบกระเทือนจิตใจเขาหนักมาก

เขาไม่เคยคิดจริงๆว่าจะมีวันนี้

อยู่ในใจเขา พ่อเป็นคนที่หนักแน่นเหมือนภูเขามา โดยตลอด ตอนนี้พ่อที่เขาเคารพมาตั้งแต่เด็กกลับบอก เขาว่า ท่านเป็นสมาชิกขององค์กรSC นี่จะให้เขารับได้ยัง ไง?

ฝ่ายนึงคือความซื่อตรงและโปร่งใส ฝ่ายนึงคือองค์ กรอาชญกรที่แทบจะมีความสุขมากหลังจากได้ฆ่าคน สอง ฝ่ายนี้มันต่างกันคนละขั้วเลย ฝ่ายนึงขาว ฝ่ายนึงดำ

ช่างตลกจริงๆ

“ไม่ ผมไม่เชื่อ” ลูกกระเดือกเคลื่อนไหวขึ้นลง เต ชิตพูดออกมาด้วยความยากลำบาก แววตาเต็มไปด้วยการ อ้อนวอน “นี่พ่อล้อเล่นกับผมแน่เลนใช่มั้ยครับ?

หลังจากช็อคและโกรธ เริ่มหวังว่านี่คือคำพูดล้อเล่น ของวันโกหกโลก แต่เขาลืมนึกไปด้วยซ้ำว่าวันนี้ไม่ใช่วัน โกหกโลก ส่วนไกรสรก็ไม่ใช่คนที่มีนิสัยชอบพูดล้อเล่น

“ไม่ใช่” ไกรสรพูดกระชับและรัดกุมตัดจินตนาการ เสี้ยวสุดท้ายของเตชิตทิ้ง “ถึงแม้พ่อไม่ได้สมัครใจ แต่พ่อก็ได้เข้าร่วมเป็นสมาชิกขององค์กรSCจริง ตอนนี้เรื่อง ถูกเปิดเผยแล้ว พ่อได้แต่เอาทุกอย่างนี้มอบให้ลูก ถ้าลูก ยอมช่วยพ่อ ครั้งนี้พ่ออาจจะผ่านด่านนี้ไปได้ ถ้าลูกไม่ ยอมช่วยพ่อ………ก็ไม่เป็นไร ขอแค่ลูกกับแม่ของลูก อยู่ดีมีสุข พ่อก็ไม่มีอะไรต้องห่วงแล้ว

คำพูดนี้ไกรสรพูดได้ไม่ฝืนใจเลยแม้แต่นิด ราวกับว่า ในใจของเขาคิดแบบนี้เลย

“ไม่มีทางเลือก พ่อไม่มีทางเลือกยังไง?” เตชิตถาม อย่างประชด

เขาอยากรู้จริงๆว่าพ่อของเขาจะหาข้ออ้างอะไร

“แม่ของลูกเคยป่วยหนักเมื่อสิบกว่าปีก่อน ลูกน่าจะ ยังจำได้ใช่มั้ย?”

“ผมจำได้” เตชิตพยักหน้า

ตอนนั้นเขาอายุสิบสี่สิบห้าแล้ว ความจำดีมากแล้ว เป็นไปได้ยังไงที่จะจำไม่ได้ แต่ว่านี่มันเกี่ยวโยงโดยตรง กับเรื่องที่เขาเข้าร่วมองค์SCยังไง?

จู่ๆ เตชิตคิดถึงจุดนึงแล้วลืมตาค้าง
“ตอนนั้นแม่ของลูกป่วยเป็นโรคยูเรเมีย ต้องปลูก ไถ่ไต แต่ตอนนั้นพ่อติดต่อทุกโรงพยาบาล ใช้ทุกเส้น สายที่มีเพื่อหาไต แต่ยังไงก็หาไม่ได้ แถมตอนนั้นชีวิต ของแม่ก็ถึงขีดอันตรายมากแล้วด้วย ไกรสรหลับตาจม เข้าไปในความทรงจำ “ในขณะที่พ่อลำบาก นายหน้า ขององค์กรSCก็มาหาพ่อบอกว่าสามารถให้ไตกับพ่อฟรี แถมยังเป็นไตทั้งสองข้างจากคนๆเดียวกันด้วย สิ่งที่เขา ขอร้องพ่อเป็นเพียงเรื่องที่เล็กมาก………. ตอนนั้นพ่อได้ ปฏิเสธเขาไป แต่ต่อมาแม่ของลูกอาการทรุดหนักจนจะไม่ ไหวอยู่แล้ว พ่อ………

“เพื่อไตสองข้างขององค์กรSC พ่อก็ร่วมกันก่อกรรม ทำเข็ญกับพวกเขา?” เตชิตหัวเราะเย็นชาทีนึง “ปากก็ บอกว่าเพื่อแม่ แต่พ่อเคยคิดมั้ยถ้าวันนึงแม่รู้การกระทำ ของพ่อแล้ว เธอต้องไม่เห็นด้วยอย่างแน่นอน!

“ดังนั้น พ่อจึงไม่อยากให้แม่รู้!

“ความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย ก่อนหน้านั้นพ่อไม่อยาก ให้ผมรู้ ตอนนี้พ่อก็ยังมาพูดหมดเปลือกกับผมเลยไม่ใช่ หรอ?” เตชิตย้อนถามด้วยเสียงสูง

ไกรสรถอนหายใจลึกๆทีนึง อยากพูดอะไรหน่อย สุดท้ายก็ไม่ได้เปิดปากพูด
ผ่านไปสักพัก เตชิตเป็นคนเปิดปากพูดก่อน “แล้ว ทำไมวันนี้พ่อถึงเลือกที่จะมาพูดเรื่องพวกนี้กับผม เพราะ เรื่องมันปิดไม่มิดอีกต่อไป พ่อเลยอยากดึงผมเข้าไปร่วม ด้วย?”

เขาไม่ได้ลืม เมื่อไกรสรยังพูดเองว่าจะให้ตัวเอง ช่วยเหลือเขา

“มีลูกน้องคนนึงขององค์กรเราทำข่าวรั่วไหล ทํา ให้ถูกเควินจ้องเป็นเป้าหมาย ที่ผ่านมาเควินทุ่มเทมากให้ กับการตามสืบเรื่องขององค์กรSC มองดูตรงหน้าใกล้จะ ตรวจสอบมาถึงที่ตัวพ่อแล้ว พ่อก็เลยต้องชิงลงมือกับเขา ก่อน…..แต่คิดไม่ถึงเลยว่าเควินจะดวงแข็งขนาดนี้ สาม รถรอดกลับมาจากอเมริกาได้

“ครั้งนี้ หลังจากเขากลับมาได้เอาหลักฐานที่อยู่ใน มือให้คุณอุดม พ่อเลยอยากสืบหาความจริงของเรื่องนี้ แต่ คิดไม่ถึงเลยว่าคนที่พ่อส่งไปจะไม่ได้เรื่องขนาดนี้ ถูกนาย พายุจับไปแบบนี้เฉยเลย!

“เมื่อกี้นายพายุขับรถออกไปจากวิลล่า ดูท่าแล้ว คงจะเอาไอ้ห้าคนนั้นไปมอบให้กับคุณอุดม…..เตชิต เรื่องมันมาถึงขั้นนี้แล้ว พ่อไม่พูดความจริงกับลูกไม่ได้ แล้ว”
พูดพวกนี้จบ ไกรสรใช้สายตาที่รักและเมตตามองเต

ชิต แววตาระยิบระยับ

หยุดไปครู่นึง เขาได้พูดต่ออีก “พ่อรู้ว่าในใจลูกดูถูก พฤติกรรมแบบนี้ของพ่อมาก แต่พ่อไม่รู้สึกเสียใจเลย ขอ แค่สามารถช่วยชีวิตแม่ของลูกได้ อย่าบอกว่าทํางานเล็ก น้อยให้องค์กรSCเลย ถึงเอาชีวิตของพ่อๆก็จะไม่กระพริบ ตาเลยแม้แต่น้อย! ส่วนลูก ถ้าลูกไม่ยอมช่วยพ่อ อย่าง น้อยหลังจากลูกรู้ข่าวแล้วก็ยังสามารถคิดหาวิธีปกป้องตัว เองได้ ต่อไปดูแลแม่ให้ดีๆ พยายามอย่าให้เรื่องของพ่อ ไปกระทบต่อลูกและแม่

ถูกปลุกมาตอนตีหนึ่ง เตชิตไม่คิดเลยว่าตัวเองจะมา ได้ยินข่าวแบบนี้

ตอนนี้เขารู้สึกเหนื่อยกายและเหนื่อยใจ

“ยังมีเรื่องอะไรอีกมั้ยครับ? ถ้าไม่มีผมจะกลับไปพัก ผ่อนที่ห้องแล้ว”

“ไม่มีแล้ว ลูกไปเถอะ”

“ครับ……” เตชิตตอบเสียงนึงแล้วเดินออกจาก

ห้องสมุด
ตอนที่ปิดประตู เขามองไปที่ไกรสรทีนึง พบว่าพ่อที่ อยู่ความทรงจําของเขาที่ไม่มีอะไรที่ทำไม่ได้ ตอนนี้ศรีษะ ทั้งสองข้างมีผมหงอกขึ้นมาเยอะแล้ว ร่างกายก็ดูไม่กํายำ เหมือนก่อนหน้านั้นแล้ว เห็นได้ชัดว่าค่อนข้างหลังค่อม และดูชรา ทันใดนั้นเขารู้สึกแน่นอก มีความรู้สึกซับซ้อนที่ ยากจะพูดออกมา

ประตูห้องสมุดถูกปิด

เดินไปที่ห้องนอนของตัวเองทีละก้าว แววตาของเต ชิตเต็มไปด้วยความงงงัน

ในขณะเดียวกัน เขานึกถึงน้ำตาคลอเบ้าของพิงกี้ นั่นคือดวงตาคู่ที่ดื้อดึงและสิ้นหวังหลังจากเธอรู้ว่าเควิน ตายแล้ว ในขณะเดียวกัน เขานึกถึงครอบครัวที่มีพ่อแม่ ลูกกำลังมีความสุขและปรองดองกัน ยังมีแม่ที่มีความสุข กับการดูแลเอาใจใส่และเป็นห่วงสองพ่อลูกอย่างพวกเขา วินาทีต่อมา ตรงหน้าเขาก็มีหน้าตาที่หมดกำลังใจของ ไกรสรในเมื่อกี้โผล่มา

ที่ยิ่งไปกว่านั้น สิ่งที่เขานึกถึงคือองค์กรSCได้ทำให้ ครอบครัวที่เดิมทีมีความสุขบ้านแตกสาแหรกขาด กลาย เป็นบ้านที่สมบูรณ์แบบไม่ได้อีกต่อไป

จะให้เขาทำยังไงกันแน่?
เขาจะต้องทำยังไง?

สติและความต้องการกำลังทำสงครามกันอยู่ในสมอง เตชิตเดินกลับมาที่ห้องของตัวเอง นั่งอยู่บนเตียง มือทั้ง สองกุมศีรษะไว้ สีหน้าทุกข์ทรมาน

ถ้าจะปกป้องพ่อ เขาก็ต้องฝ่าฝืนความมุ่งมั่นและ ความศรัทธาของตัวเอง ฝ่าฝืนมโนธรรมของตัวเอง แต่ อย่างนี้เขาสามารถช่วยพ่อที่ตัวเองรักและเคารพมาตั้งแต่ เด็กได้ ช่วยบ้านของพวกเขาได้ ให้รอยยิ้มที่อยู่บนใบหน้า ของแม่สามารถคงอยู่อย่างนี้ตลอดไป

ถ้าเลือกเปิดโปงพ่อ..………

ใช่ ยังมีทางเลือกนี้อยู่

ที่จริงเขาเข้าใจ พ่อบอกถ้าเขาไม่เลือกที่จะช่วย งั้นก็ ให้เขาคิดหาวิธีปกป้องตัวเอง……..สิ่งที่เรียกว่าปกป้อง ตัวเองนี้ วิธีที่ว่องไวที่สุดก็คือจัดการกับญาติพี่น้องด้วย ความชอบธรรม เอาเรื่องของพ่อไปรายงานให้เบื้องบน

แบบนี้ เขาไม่เพียงสามารถปกป้องตำแหน่งของตัว เองในตอนนี้ได้ ไม่แน่อาจจะได้เลื่อนขั้นด้วย

แต่ว่า นี่คือสิ่งที่เขาอยากได้จริงๆหรอ?