บทที่307: หาหยาดทิพย์เจอ
มองไปรอบๆ พิงกี้ไม่ได้พูดอะไร
แต่เป็นเควินที่เปิดปากพูดก่อน “ผมให้ป้าเฉินไป ทำงานที่วิลล่าอีกที่นึงของผมแล้ว คนขับเพิ่งจะส่งเธอไป ได้ไม่นานเอง ต่อไปคุณไม่ต้องคบค้าสมาคมกับเธออีก แล้ว”
“ค่ะ” พิงกี้พยักหน้า
เรื่องบางเรื่องไม่จำเป็นต้องทำให้มันเฉียบขาดเกิน
ไป
ก่อนหน้านั้นป้าเฉินกับเธอถือว่าเข้ากันได้ดี ครั้งนี้ โชคดีที่เธอกับน้องแอ๊ปเปิ้ลต่างก็ไม่ได้เป็นอะไร เรื่องบาง เรื่องถ้าสามารถผ่านไปได้ก็ให้มันผ่านไปเถอะ
แต่ว่า ท้ายสุดเธอก็ได้ถอนหายใจที่นึง
รู้สึกไม่สบายใจยังไงไม่รู้
หลังจากเควินกลับมาหลายวันนี้ พิงกี้มีชีวิตชีวามาก
อารมณ์เบิกบาน
แต่ร่างกาย……..ทรมานมาก
ไม่ได้อยู่ด้วยกันมาครึ่งปี ใครบางคนเหมือนจะ ชดเชยปริมาณของครึ่งปีนี้กลับมาอย่างไรอย่างนั้น ขยัน ทำการบ้านหามรุ่งหามค่ำเหมือนจะปั๊มเบบี้คนที่สองออก มาเลย
ดีที่พิงกี้ยังมีน้องแอ๊ปเปิ้ลเป็นเกราะป้องกันตัว
ทุกวันต้องใช้เวลาอยู่กับลูกสองชั่วโมง ถึงแม้ฟ้าผ่า ก็ไม่ยอมขยับตัวไปไหน ตอนที่น้องแอ๊ปเปิ้ลคลอดใครใช้ ให้ท่านประธานใหญ่คนนี้ไม่อยู่ล่ะ ในใจไม่เพียงแต่รู้สึก เสียใจ แต่ยังรู้สึกละอายใจด้วย
ถึงท่านประธานใหญ่อยากกลับไปจู้จี้ที่ห้อง พิงกี้ก็ไม่ อนุญาติ ยังไงก็ต้องกล่อมน้องแอ๊ปเปิ้ลให้อารมณ์ดีเสีย ก่อน
เพียงแต่ ถึงจะใช้ลูกชายมายืดเยื้อในการทำการบ้าน แต่พิงกี้ก็ใกล้จะทนไม่ไหวแล้ว
วันนี้ พิงกี้ลืมตาที่พร่าเลือนขึ้นมา มองดูแสงอาทิตย์ นอกหน้าต่าง รู้สึกเวลาคงได้เลยเที่ยงไปแล้วแน่ๆ เลย………พอหยิบมือถือมาดูแล้วเป็นอย่างที่คิดจริงๆ ด้วย ตอนนี้ก็บ่ายสองแล้ว
ไม่ว่าใครที่ถูกทรมานร่างกายจนถึงตีสองตีสาม วันที่ สองก็ไม่มีทางมีชีวิตชีวาหรอก
แต่งเนื้อแต่งตัวลงมาถึงชั้นล่างก็บ่ายสองครึ่งแล้ว
ป้าเฉินไปแล้ว ที่บ้านได้หาคนรับใช้มาใหม่หนึ่งคน ชื่อป้ามะลิ
ป้ามะลิเป็นคนทํางานว่องไวและคล่องแคล่ว ไม่ว่า จะนําอาหารหูหนานหรืออาหารเสฉวนก็ถนัดมาก ตรง ตามความชอบของพิงกี้เลย เพียงแต่ตอนนี้พิงกี้ต้องให้ นมน้องแอ๊ปเปิ้ล สามารถทานได้แต่อาหารรสจืด อาหารที่ รสชาติจัดแตะไม่ได้เลยแม้แต่นิด
เห็นพิงกี้ลงมาจากชั้นบน ป้ามะลิรีบถามว่า “คุณผู้ หญิงจะทานข้าวตอนนี้เลยมั้ยคะ?”
“ค่ะ” พิงกี้พยักหน้าด้วยรอยยิ้ม และถามอย่างชิวๆ “วันนี้มีอะไรน่าทานบ้างคะ?”
“วันนี้มีคากิติ์นถั่วเหลือง เต้าหู้ไข่ผัดหมู และหอย นางรมอบค่ะ” ป้ามะลิตอบไปคำนึง จากนั้นก็ได้เข้าไป ทำงานครัวต่ออย่างว่องไวแล้ว
ตุ้นคากิตุ้นถั่วเหลืองอีกแล้ว
พิงกี้ร่ำไห้อยู่ในใจ
พิงกี้นั่งทานคากิตุ้นถั่วเหลืองที่โต๊ะอาหาร และใช้นิ้ว แตะที่จมูกของน้องแอ๋เปิ้ลทีนึง “ยัยตัวแสบ ถ้าไม่ใช่เพื่อ ลูก ป่านนี้แม่ได้กินอาหารรสเผ็ดรสแซ่บแล้ว”
น้องแอ๊ปเปิ้ลไม่เข้าใจอะไรทั้งนั้น นึกว่าพิงกี้กำลัง เล่นกับเขาอยู่เขาที่ถูกพยาบาลอุ้มอยู่ในอ้อมอกก็ได้ส่ง เสียงหัวเราะออกมา ยิ้มกว้างๆอย่างไร้ฟันให้พิงกี้
พิงกี้อารมณ์ดีขึ้นมาทันทีและอดขำไม่ได้
แต่แล้ว บรรยากาศที่ชิวๆสบายๆแบบนี้ไม่ได้คงอยู่
เพิ่งทานข้าวเสร็จ รังสิตก็วิ่งมาที่ตรงหน้าเธอด้วย ความเร่งรีบ น้ำเสียงแฝงด้วยความตื่นเต้นที่ควบคุมไม่อยู่ เขาพูดว่า “คุณผู้หญิงครับ คุณเควินได้หาลิสาเจอแล้ว ครับ และให้ผมมาถามคุณผู้หญิงว่าจะไปดูมั้ยครับ
พิงกี้อึ้งเล็กน้อยและถามว่า “หาหยาดทิพย์เจอหรือ
ยัง?”
“ถ้าไม่เกิดเรื่องเหนือความคาดหมาย ทั้งคู่น่าจะอยู่ ด้วยกันครับ”
“งั้นฉันไปด้วย” พิงกี้พยักหน้าอย่างไม่ลังเล “นาย รอฉันแป๊บนึงนะ ฉันไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อน
พอพูดจบ เธอก็วิ่งขึ้นไปชั้นบนเพื่อเปลี่ยนเสื้อ
อยู่ที่บ้าน เธอสวมใส่แค่ชุดธรรมดา จะออกไปทำงาน ใหญ่ใส่ชุดแบบนี้ไม่ได้แน่นอน
พุ่งมาถึงที่ห้องเปลี่ยนเสื้อ พิงกี้เปลี่ยนมาใส่กางเกง ยีนส์และสเวตเชิ้ตที่มีขนปุกปุย จากนั้นก็วิ่งลงมาชั้นล่าง แล้วพูดกับรังสิตว่า “ไปเถอะ”
เธอใจร้อนมากกว่ารังสิตเสียอีก
หลังจากขึ้นรถ พิงกี้เพิ่งคาดเข็มขัดนิรภัยเสร็จ รถ ก็ได้ซิ่งออกไปอย่างบ้าคลั่งแล้ว ภายในระยะเวลาสั้นๆก็ เพิ่มขึ้น50กิโลเมตร/ชั่วโมง เพราะความเคยชิน พิงกี้พิง ไปที่เบาะนั่งแล้วรู้สึกวิงเวียนเล็กน้อย
พิงกี้ “ …….…..”
รังสิตก็รู้เริ่มตัวแล้ว “ขอโทษนะครับคุณผู้หญิง ผม ขับเร็วไปหน่อย”
“ไม่เป็นไร นี้ไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไรสักหน่อย” พิงกี้ส่ายหัว
เธอรู้สึกแค่ว่าตลก
รังสิตคนนี้ช่างต่างกับพายุและสายฟ้าจริงๆ อย่าพูด ว่านิสัยของสายฟ้าหนักแน่นเหมือนก้อนหินเลย แค่พูดถึง พายุเถอะ ถึงแม้บางเวลานิสัยจะขี้เล่นไปหน่อย แต่สไตล์ การทำงานก็ยังค่อนข้างอ่อนโยนกว่าเยอะ
นิสัยของรังสิตใจร้อนกว่าสองพี่น้องนี้ไม่น้อยเลย แน่นอนว่าเวลาทำงานก็รวดเร็วกว่าอยู่แล้ว
มีความเร็วของรังสิตแบบนี้ ไม่เกินครึ่งชั่วโมง รถก็ได้ จอดลงที่ข้างตลาดแล้ว
มองดูรอบๆทั้งสี่ทิศ พิงกี้รู้สึกคุ้นกับที่นี่มาก
ตั้งใจดูดีๆอีกที นี่อยู่แถวบ้านตระกูลบุญถาวรไม่ใช่ หรอ? เดินไปอีกไม่กี่ร้อยเมตรก็เป็นบ้านของน้ำหวานแล้ว เธอเคยใช้ชีวิตอยู่ที่นี่มาสิบกว่าปี ที่นี่แทบจะไม่มีอะไร เปลี่ยนแปลงเลย
“คนอยู่ที่นี่?” พิงกี้ถาม
“ไม่ใช่ครับ” รังสิตส่ายหัว “ขับรถไปไม่สะดวก เพื่อไม่แหวกหญ้าให้ตื่นเราต้องเดินไปหน่อยครับ
ดูท่าเดี๋ยวต้องมีความเคลื่อนไหวแน่นอน
พิงกี้คิดถึงฝีมือการต่อสู้ของตัวเองแล้วถามด้วย ความเป็นกังวลว่า “ฉันคงไม่ทำให้พวกนายต้องเดือดร้อน มั้ง? หรือว่ารอให้พวกนายบุกเข้าไปแล้วฉันค่อยไปดู? จะ ได้ตัดปัญหาถึงเวลาพวกนายยังจะต้องแยกสมาธิเพราะ ฉันอีก เดี๋ยวจะสร้างความวุ่นวายให้พวกนายเปล่าๆ
เธอเจียมเนื้อเจียมตัวดี ถึงจะเรียนวิชาป้องกันตัวมา กับเควินนิดหน่อย รับมือคนทั่วไปยังพอได้ แต่ถ้าจะรับมือ กับคนที่ฝึกวิชามาอย่างดีล่ะก็เธอคงถูกถีบตั้งแต่เข้าหน้า ประตูแล้ว
“ไม่ต้องครับ” รังสิตหัวเราะขึ้นมา “มีคุณเควินอยู่ คุณผู้หญิงไม่ต้องเป็นห่วงหรอกครับ
คิดๆแล้ว พิงกี้ก็ไม่ได้ปฏิเสธอีกแล้ว
ถ้าไม่มีความมั่นใจร้อยเปอร์เซ็นต์ เควินก็คงไม่ให้ รังสิตพาเธอมาหรอก เธอเชื่อว่าเขาเป็นคนรู้ขอบเขต
หลังจากทั้งสองได้ลงจากรถ และเดินไปอีกประมาณ สิบกว่านาที ในที่สุดก็หยุดอยู่ตรงหน้าของตึกสองชั้น
คนที่พักอยู่ที่โซนนี้ต่างก็ไม่ใช่คนร่ำรวยอะไร ตึกที่มี สองชั้นพร้อมลานบ้านถือว่าหรูแล้ว เพียงแต่แย่กว่าบ้าน ของน้ำหวานนิดหน่อย
เข้ามาในบ้าน พิงกี้เห็นเควินแล้ว
เขานั่งอยู่บนโซฟาในห้อง กำลังก้มหน้าดูเอกสารอยู่ มีคนที่ดูแล้วซื่อสัตย์จงรักภักดีสี่ห้าคนถูกจับมัดไว้คุกเข่า อยู่บนพื้น ดูแล้วเหมือนเป็นคนที่ก่อนหน้านั้นพักอยู่ที่นี่ ตอนนี้กลายเป็นนักโทษ พวกเขาได้ยินมีคนเข้ามาปุ๊บก็ตื่น เต้นขึ้นมมาใหญ่เลย
“คุณเควินครับ ผมพาคุณผู้หญิงมาแล้วครับ รังสิต เปิดปากพูด
ในที่สุดเควินก็เงยหน้าขึ้นมา สายตาหล่นอยู่ที่บนตัว ของพิงกี้ แววตาอ่อนโยนขึ้นไม่น้อยเลย เดินมากุมมือเธอ ไว้ เขาสั่งการได้สมาชิกของหน่วยสืบลับที่อยู่ในห้อง “อีก สิบนาทีเราก็จะโจมตีเข้าไปแล้ว พวกนายรวบรวมสมาธิ หน่อย อย่าประมาทเพียงเพราะภารกิจครั้งนี้ไม่มีอันตราย อะไร ได้ยินหรือยัง?
“รับทราบครับ!”
ทุกคนรวมทั้งรังสิตต่างก็ทำความเคารพท่าทหารตอบด้วยเสียงทุ้มต่ำแต่จริงจัง
ตึกสองชั้นนี้เป็นแค่ที่พักอาศัยชั่วคราวของ องค์กรSC เพื่อให้ได้จุดประสงค์ป้องกันตัว ฐานที่แท้จริง ของพวกเขาอยู่ชั้นใต้ดินของบ้านหลังที่ดูเก่าและโทรมฝั่ง ตรงข้าม ที่นี่มีคนดูคอยจับตาดูทุกความเคลื่อนไหวผ่าน กล้องวงจรปิดของระแวกนี้ทุกวัน คอยเป็นหูเป็นตาให้กับ ฐานของพวกเขา
ฐานที่ห้องใต้ดินคล้ายกับสถานที่ๆชำแหละและแยก บรรจุ คนเป็นเข้าไป อวัยวะมนุษย์ออกมา สามารถบอกได้ ว่าเป็นที่ๆน่ากลัวยิ่งกว่านรกเสียอีก
ฐานในชั้นใต้ดินไม่เพียงแค่กักขังเหยื่อที่น่าสงสาร ไว้มากมาย แต่ยังมีอุปกรณ์การผ่าตัดที่ล้ำหน้ามาก คน ที่ต้องการปลูกถ่ายอวัยวะสามารถทำการผ่าตัดอยู่ในนี้ โดยตรงเลย
กว่าจะหาสถานที่นี้เจอ เควินเสียแรงไปเยอะมาก
การรักษาความปลอดภัยของฐานใต้ดินเข้มงวด มาก ทางเข้าลับนั่น ทุกเดือนมีแค่วันที่สิบสี่ห้าโมงเย็นที่ สามารถเข้าออกได้ ก่อนที่ทางเข้าจะเปิด ยังต้องรอให้คน ทางนี้ส่งข่าวให้ ฝั่งนู้นก่อนถึงจะเปิดตรงตามเวลา
ถ้าไม่ใช่เพราะเหตุนี้ เควินก็ไม่ไว้ชีวิตไอ้พวกระยำนี้ หรอก ถ้าไม่อย่างนั้นเขาก็ยิงไอ้พวกนี้ทิ้งไปตั้งนานเพื่อ แก้แค้นให้กับสหายทั้งหลายของหน่วยสืบลับแล้ว
ถึงตอนนี้ยังฆ่าคนไม่ได้ รังแกหน่อยก็ไม่มีปัญหา อะไรหรอก
ตอนที่ถูกคนขององค์กรSCจับไปเป็นเชลย พิงกี้ถูก ทุบตีไปไม่น้อย นาทีนี้เควินอยู่ข้างกายเธอ เธอใจกล้าจะ ตาย พุ่งไปตรงหน้าของพวกที่ถูกจับมัดแล้วกระทืบไป หลายที
หน้าตาที่ดุร้ายเหมือนเสือชีตาห์ตัวเมียนี้ สมาชิก หน่วยสืบลับที่เดิมทีสีหน้าเคร่งขรึมต่างก็แอบหัวเราะกัน หมด มองแววตาของเควินก็เต็มไปด้วยการเยาะเย้ย ความ ฮึดสู้ไม่ได้ลดน้อยถอยลง แต่ทันใดนั้นบรรยากาศกลับ ผ่อนคลายลงไม่น้อย
เควินก็ไม่ได้ขัดขวางพิงกี้ แถมยังให้คำชี้แนะเธอไป หลายคำว่าต้องกระทืบยังไงถึงจะกระทืบจนพวกมันเจ็บ เพื่อพิงกี้จะได้ไม่ถูกแรงสะท้อนกลับมา เพื่อเลี่ยงไม่ให้ เธอปวดขาทีหลัง
หน้าตาที่โอ๋และเป็นทาสเมียนี้ ได้ทำให้สมาชิกของ หน่วยสืบลับต่างก็เศร้าใจกันอีก
พวกเขาส่วนใหญ่ยังโสดอยู่เลย!
ทําไมต้องทรมานคนโสดขนาดนี้ด้วย!
ตอนที่เริ่มจะปฏิบัติการ ในที่พิงกี้ก็ตื่นเต้นขึ้นมา
ดีที่เควินเอาเธอไว้ข้างกายตลอด มองผู้ชายที่อยู่ข้าง กาย เธอรู้สึกมีความมั่นใจ ไม่นานหัวใจก็ไม่ได้เต้นแรง ขนาดนั้นแล้ว
เหมือนที่เควินพูดเลย ปฏิบัติการครั้งนี้ได้เตรียมการ นานมาก ได้ทําการเตรียมงานล่วงหน้าเยอะมาก แต่ตอนที่ จู่โจมเข้าไปจริงๆ การต่อต้านที่พบไม่ได้ถือว่าดุดัน เพราะ ฐานที่ชั้นใต้ดินเพื่อตบตาคนจึงไม่ได้มีชายติดอาวุธประจำ การอยู่ ส่วนมากจะเป็นหมอทั้งนั้น
เพียงแต่ หมอพวกนี้ไม่ได้ช่วยชีวิตคน แต่เอาชีวิตคน
ด้วยซ้ำ
กำลังที่เควินพามาเยอะมาก ไม่นานก็ควบคุมพื้นที่ ส่วนใหญ่ได้แล้ว
จู่ๆ สมาชิกที่บุกอยู่ด้านหน้าได้ตะโกนเสียงดังว่า “หัวหน้าครับ พบเป้าหมายเลขสองแล้วครับ!”
หมายเลขสอง…..
หยาดทิพย
พิงกี้ดวงตาเปล่งประกาย และเร่งรัดเควิน “คุณเควิน เรารีบไปดูกันเถอะค่ะ!”
พอพิงกี้พุ่งมาถึงจุดหมาย ตอนที่เห็นสภาพในห้อง ทันใดนั้นเธออึ้งจนตาค้าง กัดฟันไว้แน่น ริมฝีปากยังอดไม่ ได้ที่จะสั่นคลอน
โหดเหี้ย……………โหดเหี้ยมเกินไปแล้ว!
หยาดทิพย์นอนเปลือยกายอยู่บนเตียงผ่าตัดที่เย็น เฉียบ เธอถูกฉีดยาสลบจนหลับไปแล้ว แต่คนที่ถือมีด ผ่าตัดไว้กำลังกรีดที่หน้าอกข้างซ้ายของเธอ……..เนื้อถูก กรีดออก พิงกี้ยืนอยู่หน้าประตูยังสามารถเห็นหัวใจดวงนั้น กำลังเต้นอย่างลางๆอยู่เลย
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ