บทที่294: ลิสา เตรียมพร้อมหรือยัง?
ที่จริงป้าเฉินรู้สึกพิงกี้ใจดำเกินไปแล้ว
ยังไงซะก็เป็นยายหลานกันมาสิบกว่าปี ถึงจะไม่ใช่ ยายแท้ๆ แต่ยายสมศรีก็ได้ทำตัวต่ำต้อยขอคืนดีด้วยความ จริงใจแล้ว ทำไมคุณพิงกี้ยังทำท่าทีไม่ยอมคืนดีล่ะ?
ยังไงซะยายสมศรีก็เป็นคนเฒ่าคนแก่ เป็นผู้อาวุโส
กว่า!
ถึงแม้เธอเคยฟังพิงกี้เล่าเรื่องแย่ๆที่ยายสมศรีทำ แต่ เธอรู้สึกต้องเป็นการเข้าใจผิดแน่ๆ
ยายแก่ที่อายุเจ็ดแปดสิบจนใกล้จะถึงเวลาขึ้นสวรรค์ อยู่แล้ว ยังจะมีความคิดชั่วร้ายแบบนั้นได้ยังไง? มองยาย สมศรีที่ร่างกายอ่อนแอขนาดนี้ ยิ่งเป็นไปไม่ได้ที่จะผลัก พิงกี้ล้มลงพื้นจนเธอเกือบแท้งนี่น่ะ!
พอคิดแบบนี้แล้ว ป้าเฉินก็ยิ่งรู้สึกเห็นใจยายสมศรี เข้าไปใหญ่
“หรือว่าอาศัยตอนนี้คุณพิงกี้หลับอยู่ ฉันพายายไปดู หลาน? แต่ว่า ฉันขอบอกไว้ก่อนเลยนะ มากสุดยายอยู่ใน ห้องได้แค่สองนาทีนะ อยู่นานไม่ได้ ถ้าหากถูกคุณพิงกี้ จับได้ พวกเราจะซวยกันทั้งคู่นะ”
ที่ยายสมศรีรอก็คือคำนี้แหละ แล้วจะไม่รับปากได้ยัง
ไง
เธอรีบพยักหน้าและกุมมือของป้าเฉินกล่าวคำ ขอบคุณอย่างไม่หยุด “ขอบคุณนะ ขอบคุณมาก คุณเป็น คนดีจังเลยและเข้าใจหัวอกคนเป็นยายอย่างฉัน…….ฉัน ก็แต่อยากเห็นหน้าหลานหน่อย อย่างอื่นฉันไม่ขออะไรอีก แล้ว……..”
ป้าเฉินแตะที่มือของยายสมศรีเบาๆเพื่อปลอบใจเธอ
นึกถึงชั้นบนยังมีพยาบาลที่เฝ้าน้องแอ๊ปเปิ้ลอยู่ เธอ จึงพูดว่า “ชั้นบนยังมีพยาบาลอยู่คนนึง ฉันล่อพยาบาล คนนั้นออกไปก่อน ยายขึ้นไปดูหลานคนเดียวนะ อย่าเปิด ตู้อบเด็ดขาดและอย่าอยู่ที่ห้องนาน ยายจำไว้ด้วยนะ
“ได้ๆๆ ฉันจำใส่ใจหมดแล้ว”
“อืม” ป้าเฉินตอบเสียงนึงแล้วเดินขึ้นไปชั้นสอง
ไม่นาน ยายสมศรีมองจากช่องว่างของประตูก็เห็น ป้าเฉินพาพยาบาลลงไปที่ชั้นใต้ดิน เธอรีบเปิดประตูออก แล้วเดินขึ้นไปชั้นสองอย่างไว หัวใจทั้งดวงเต้นแรงมาก
เฝ้ามาหนึ่งสัปดาห์ ในที่สุดก็มีความคืบหน้าหน่อยแล้ว เธอจะไม่ตื่นเต้นได้ยังไงล่ะ?
เดินมาถึงห้องของน้องแอ๊ปเปิ้ล เห็นทารกที่ถีบขาอยู่ ในตู้ ยายสมศรีตื่นเต้นจนเอาหน้าแนบอยู่บนตู้อบ มองน้อง แอ๊ปเปิ้ลที่อยู่ข้างในด้วยสายตาโลภ
เด็กคนนี้น่ารักน่าชังจริงๆ น่าตาสวยมาก ตากับปาก เหมือนพิงกี้ตอนเด็กไม่มีผิด แต่ไม่รู้ว่านิสัยจะเหมือนกัน มั้ย
เดิมทีเด็กคนนี้ต้องเข้าใกล้เธอแน่นอน แต่ตอน
แววตาของยายสมศรีแฝงด้วยความผิดหวัง
หยิบมือถือออกมา เธอถ่ายรูปของน้องแอ๊ปเปิ้ลไป หลายรูป แต่ไม่ได้ทำอะไรมากไปกว่านั้น จากนั้นก็เดินจาก ไปอย่างอาลัยอาวรณ์
เธอกลับมาถึงที่ห้องของป้าเฉินได้ไม่นาน ก็ได้ยิน เสียงฝีเท้าดังขึ้น ประตูถูกเปิดออก ป้าเฉินได้เดินเข้ามาใน ห้อง
“ได้เห็นหลานหรือยังคะ?” ป้าเฉินถามเสียงต่ำ
“ได้เห็นแล้ว!” ยายสมศรีพยักหน้าด้วยความตื่นเต้น จากนั้นก็หยิบมือถือออกมาให้ป้าเฉินดู “คุณดูสิ ฉันยัง ถ่ายรูปของหลานชายฉันมาด้วย เขาน่ารักมาก…..มองดู หน้าตาของเขาแล้ว หัวใจของฉันเหมือนจะละลายเลย
ยายสมศรีได้ถ่ายรูปของน้องแอ๊ปเปิ้ลไปหลายรูป ระหว่างสไลด์ดู จู่ๆมือของเธอหยุดนิ่งไว้ และถามด้วย ความตื่นตระหนก ป้าเฉิน ฉัน….ฉันทำแบบนี้คงไม่ถือว่า ผิดใช่มั้ย?”
“อะไรนะ?”
“ฉันก็แค่เห็นแอ๊ปเปิ้ลน่ารัก คิดว่าต่อไปคงยากที่จะ ได้เห็นแอ๊บเปิ้ลหลานชายฉันอีก กลัวก็แต่ต่อไปจะไม่มีคน ดีอย่างคุณคอยช่วยฉันและคงไม่มีโอกาศดีแบบนี้อีกแล้ว ดังนั้นฉันก็เลยถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึก…..ถ้าแบบนี้ไม่ดี งั้นฉันจะลบตอนนี้เลย ฉันลบ…….
ระหว่างพูด ยายสมศรีมือสั่นเตรียมจะลบรูปถ่าย แต่ ยังไงก็ทำใจกดปุ่มลบไม่ลง
ป้าเฉินกำลังดูรูปของน้องแอ็ปเปิ้ลกับยาสมศรีอย่าง เพลิน ตอนนี้ได้ยินยายสมศรีพูดแบบนี้ เธอมีสีหน้าอึ้ง แต่ ไม่นานก็ดึงสติกลับมาได้ จากนั้นก็ยิ้มและผายมือ “ยาย เก็บไว้เถอะค่ะ ต่อไปถ้ามีโอกาศ ฉันก็จะให้ยายได้เจอน้องแอ๊ปเปิ้ลอีก ยายอย่าใจร้อนนะ”
“จริงหรอ?” ยายสมศรีดีอกดีใจใหญ่ แต่พริบตา เดียวแววตาก็ได้กลับมามืดมน เธอถอนหายใจและพูดว่า “คุณอย่ามาปลอบใจฉันหน่อยเลย ต่อไปฉันจะมีโอกาศ เสียที่ไหน? ครั้งนี้ฉันก็พึ่งบุญบารมีของสายฝนถึงได้โชค ดีเข้ามาเหยียบบ้านหลังนี้ได้ ต่อไปพิงกี้ไม่มีทางให้ฉันได้ เข้ามาอีกหรอก”
“เข้าบ้านไม่ได้ แต่ยังสามารถเจอที่ข้างนอกได้หนิ
ป้าเฉินยิ้ม
“เจอกันที่ข้างนอก
“ก็ใช่น่ะสิ เดือนนึงน้องแอ๊ปเปิ้ลจะต้องไปตรวจ ร่างกายที่โรงพยาบาลหลายครั้ง ถึงเวลายายก็ตามมาด้วย ฉันจะหาโอกาศให้ยายได้เจอหน้าเอง
ยายสมศรีฟังปุ๊บก็พยักหน้าอย่างรัวๆ “งั้นก็ขอบคุณๆ มากเลย คุณเป็นคนดีจริงๆเลย
“นี่เป็นแค่เรื่องเล็กน้อยค่ะ ถ้ายายกับคุณพิงกี้เคลียร์ เรื่องเข้าใจผิดกันได้ ต่อไปเข้าหากันดีๆทำให้คุณพิงกี้ อารมณ์ดีขึ้น งั้นก็ยิ่งดีเลยค่ะ”
“ฉันก็เฝ้ารอวันนั้นเหมือนกัน! ข้างกายของพิงกี้มีคน เก่งอย่างคุณเป็นความโชคดีของเธอจริงๆเลย
ถูกยายสมศรีชมแล้วชมอีก ป้าเฉินรู้สึกเหมือนตัวเอง
ได้ทำเรื่องดีๆไปเรื่องนึง
ป้าเฉินกับยายสมศรีกำลังพูดคุยกันอย่างถูกคอ แต่ ในขณะนี้คนขับของเตชิตได้มาเคาะประตูแล้ว
ถึงยายสมศรีไม่อยากไปจากบ้านหลังนี้แค่ไหน สุดท้ายก็ได้แต่เดินตามคนขับไป
ก่อนจะขึ้นรถ ยายสมศรีได้หันมามองบ้านหลังนี้ที นึง ในสมองเกิดความคิดขึ้นมากมาย คิดๆแล้วก็ได้ถอน หายใจอย่างแรงทีนึง แต่แววตากลับแฝงด้วยความดีใจ
วันนี้ถือว่ามีความคืบหน้าเสียที ลิสาคงไม่รังเกียจว่า เธอมีความเคลื่อนไหวช้าแล้วมั้ง?
ขอแค่ลิสาสามารถรักษาหัวใจให้หายไวๆ ต่อไปมี ชีวิตที่ดี ยายแก่อย่างเธอก็สามารถเสพสุขกับหลานสาวที่ มีอนาคตกว้างไกลคนนี้แล้ว
ตอนนี้เพราะร่างกายของสมคิดไม่สมบูรณ์ ทำให้ อารมณ์ยิ่งอยู่ยิ่งหงุดหงิด มองอะไรก็ไม่เข้าตาไปหมดแม้แต่แม่แท้ๆอย่างเธอก็ยังลงไม่ลงมือด้วย ส่วนวันเพ็ญก็ ไม่ดีดับเธอเลย พิงกี้ก็ไม่อยากสนใจเธอ ชีวิตของเธอยาก ลำบาก ได้แต่หวังพึ่งลิสาคนเดียวแล้ว
ถ้าไม่ใช่เพราะแบบนี้ เธอก็ไม่ทุ่มสุดตัวขนาดนี้หรอก
ต่อจากนี้ ป้าเฉินได้ทำตามคำมั่นสัญญาของตัวเอง จริงๆด้วย ทุกครั้งก่อนที่น้องแอ๊ปเปิ้ลจะไปตรวจร่างกายที่ โรงพยาบาล เธอก็จะแจ้งให้ยายสมศรีได้ทราบล่วงหน้า ให้ยายสมศรีมาที่โรงพยาบาลเพื่อรอโอกาศ
ถึงแม้ไม่ใช่ทุกครั้งที่จะหาโอกาศดีๆได้ แต่หนึ่งเดือน มานี้ ป้าเฉินก็ได้ให้ยายสมศรีเจอน้องแอ๊ปเปิ้ลมาสองครั้ง แล้ว
ภายใต้คำขอบคุณด้วยน้ำตาของยายสมศรี ป้าเฉิน ยิ่งยืดอกรับประกันว่า “คุณหมอบอกแล้วว่าต่อไปน้อง แอ๊ปเปิ้ลไม่ต้องอยู่ในตู้อบแล้ว สามารถอุ้มอยู่ที่มือ ไม่มีข้อ จำกัดแบบนี้ ต่อไปโอกาศที่ฉันจะจัดเตรียมให้ยายจะเยอะ กว่านี้ ยายรอดูเถอะ
ยายสมศรีได้ข้อมูลสำคัญอีกอย่างนึง จากนั้นก็รีบ กล่าวขอบคุณยกใหญ่เลย
ยายสมศรีได้รีบแจ้งข่าวให้ลิสาทราบในเวลาแรก ได้ยินเสียงเรียก“ยาย” ที่เต็มไปด้วยการออดอ้อนแทนคำ ขอบคุณ อีกอย่างนึง เธอยังได้เงินสดห้าหมื่นบาทมาเป็น ค่าตอบแทนด้วย
ตอนนี้ร่างกายของน้องแอ๊ปเปิ้ลก็ใกล้เคียงกับเด็ก ปกติแล้ว งานศพของเควินถูกสุรพลเอ่ยขึ้นมาอีกครั้ง ใน ใจของสุรพลที่ไม่รู้ความจริงคิดว่าเรื่องนี้จะยืดเยื้อต่อไป ไม่ได้อีกแล้ว
ครั้งนี้ พิงกี้ไม่มีเหตุผลที่จะไม่ไปร่วมงานจริงๆ
เพียงแต่ เธอก็ยังเป็นห่วงร่างกายของน้องแอ็ปเปิ้ ลอยู่ดี กะว่าจะพาน้องแอ๊ปเปิ้ลไปตรวจร่างกายก่อน ถ้า หมอไม่คัดค้านเธอพาแอ๊ปเปิ้ลไปสุสานสถานที่ๆอากาศ ค่อนข้างชื้น งั้นเธอก็จะไป
เอาของๆน้องแอ๊ปเปิ้ลขึ้นรถ พิงกี้เป็นคนอุ้มน้อง แอ๊ปเปิ้ลขึ้นรถเองกับมือ
ภายใต้การดูแลที่ใช้ใจมาก ตอนนี้แก้มของน้อง แอ๊ปเปิ้ลเริ่มมีเนื้อขึ้นมาแล้ว ทั้งขาวทั้งนุ่มเหมือน ชาลาเปาเลย
พิงกี้หอมไปที่แก้มของเขา ทำเขาดีใจจนส่งเสียง ครวญออกมา
พอถึงโรงพยาบาล เตชิตได้จัดเตรียมหมอไว้พร้อม แล้ว พิงกี้แค่พามาถึงที่ก็สามารถเสพสุขกับบริการที่ชั้น เลิศที่สุดแล้ว
หลังจากตรวจร่างกายออกมา จู่ๆพิงกี้อยากไปเข้า ห้องน้ำ
ป้าเฉินเห็นเธอเหลือบมองทิศทางของห้องน้ำ จึงได้ รีบพูดขึ้นมาว่า “คุณพิงกี้ ถ้าคุณจะไปเข้าห้องน้ำล่ะก็เอา น้องแอ๊ปเปิ้ลให้ฉันอุ้มเถอะค่ะ ฉันยืนรอคุณอยู่ที่นี่ค่ะ”
“ได้ค่ะ” พิงกี้เอาน้องแอ๊ปเปิ้ลวางไว้ในอ้อมอกของ ป้าเฉินอย่างเบามือ
เวลาอยู่ที่บ้าน ป้าเฉินก็อุ้มน้องแอ๊ปเปิ้ลเป็นประจำ น้องแอ๊ปเปิ้ลคุ้นเคยกับกลิ่นไอของเธอ ดังนั้นจึงไม่ร้องไห้ เลย
มองดูพิงกี้ได้เข้าห้องน้ำไปแล้ว ป้าเฉินจึงโทรศัพท์ ให้ยายสมศรี “ยายรีบมาเร็วๆ ฉันรอยายอยู่ที่ลิฟท์ชั้นสอง ยายมาดูหลานทีเดียวก็ไปนะ มีเวลาไม่มาก
ได้ๆๆ ฉันจะขึ้นไปเดี๋ยวนี้เลย!” ยายสมศรีรีบตอบ
หลังจากวางสาย ยายสมศรีมองไปยังผู้หญิงที่สวม หมวกแก๊ป “ลิสา เตรียมตัวพร้อมหรือยัง?”
“เตรียมตัวพร้อมอยู่แล้ว!” ลิสายิ้มมุมปากขึ้นเล็ก น้อย แววตาเต็มไปด้วยความเย็นชา
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ