บทที่292 ยายสมศรีดินจะเจอคุณให้ได้
“คุณผู้หญิงคะ ข้างนอกมีแขกเยี่ยมค่ะ จะรับแขก
ไหมคะ?”
พิงกี้กำลังดูน้องแอ๊ปเปิ้ลที่ขึ้นผ่านตู้อบ สายตา หล่นอยู่ที่ใบหน้าของเขา ป้าเฉินเดินมาเคาะประตูด้วย สีหน้าไม่ดี
“ใครคะ?” พิงกี้หันหน้ากลับมาถามด้วยความแปลก
ใจ
ที่บ้านหลังนี้เธอแทบจะไม่เคยมีแขก นอกจากเต ชิต…..แต่เตชิตไอ้หมอนี่ก็ไม่ถือว่าเป็นแขกแล้วมั้ง?
ช่วงนี้เตชินถือว่าอยู่ที่นี่เป็นประจำเลยด้วยซ้ำ มาทาน ข้าวฟรีที่นี่วันนึงสามมื้อ ป้าเฉินยังทำของอร่อยให้เขาโดย เฉพาะ
“บอกว่าเป็นยายของคุณผู้หญิงน่ะค่ะ” ป้าเฉินพูด
ยาย?
ได้ยินคำแล้วนี้ สีหน้าของพิงกี้ห้อยลงมาทันที
อยู่บนโลกนี้มีอยู่คนเดียวที่เธอเห็นว่าเป็นยาย แต่ เสียดายเธอจําคนๆนั้นไม่ได้นานแล้ว
เคยควักหัวใจออกมาให้มากแค่ไหน ตอนนี้เธอก็รู้สึก เย็นชามากแค่นั้น
ที่จริงเธอไม่ใช่คนใจแคบเลย แต่ก็ไม่ได้ใจกว้างให้ อภัยได้ทุกอย่างเหมือนแม่พระ เธอเป็นแค่คนธรรมดาคน นึง
เธอรู้สึกความรักของตัวเองเหมือนฟองน้ำที่ชุ่มด้วย นํา คนอื่นทําลายความรักที่เธอมีให้ ก็เหมือนกำลังใช้แรง บีบฟองน้ำ พอน้ำในฟองน้ำยิ่งอยู่ยิ่งน้อยลง ฟองน้ำก็ยิ่ง อยู่ยิ่งแห้งฉาวเหมือนหัวใจของเธอ
พอถึงขีดจํากัดสุดท้าย ความรักของเธอก็ไม่หลง เหลือแล้วแม้แต่นิด
ความรักที่มีให้ยายสมศรีก็คือแบบนี้
“ป้าบอกว่าฉันไม่อยู่บ้านก็แล้วกันค่ะ” พิงกี้พูด บางเบาคำนึง แล้วหันหน้ากลับมามองน้องแอ๊ปเปิ้ลที่อยู่
ในตู้อบ
เธอดูเจ้าตัวเล็กทุกวันก็ไม่รู้สึกเบื่อ
“ค่ะ” ป้าเฉินตอบ
เพียงแต่ ไม่นานป้าเฉินก็กลับมาอีก “คุณผู้หญิงคะ คุณยายท่านนี้ไม่ยอมไปค่ะ ดันบอกว่าจะเจอคุณให้ได้ค่ะ”
พิงกี้ยกมุมปากขึ้นเล็กน้อย “งั้นก็ให้เธอรอต่อไป
เถอะ”
ยายสมศรีมายืนรอที่หน้าบ้านตรงตามเวลาทุกวันจน ติดต่อกันเป็นสามวันแล้ว
จากวันแรกที่ไม่มีประสบการณ์มาถึงวันที่สองที่ไม่ สําเร็จ พอมาวันที่สามเธอได้พกเก้าอี้พับได้มาด้วยตัวนึง และนั่งอยู่ที่หน้าบ้านอย่างนี้
เธอยังได้เลือกที่ๆดีโดยเฉพาะ ขอแค่พิงกี้ยืนอยู่ที่ริม หน้าต่างก็จะสามารถเห็นเธอ
พิงกี้ไม่แยแส
บางทีเธอรู้สึกว่าตัวเองหวั่นไหวมาก แต่บางเวลาเธอ ก็รู้สึกตัวเองเลือดเย็นจนน่ากลัว
ถ้าคนๆนึงไม่ได้มาแตะฟางเส้นสุดท้ายของเธอ เธอ ยอมให้อภัยและยอมทุ่มเท แต่ถ้าเลยเส้นฟางสุดท้ายปุ๊บทําลายความรักที่เธอมีให้ไปอย่างสิ้นเชิง ไม่ว่าศีลธรรม ใดๆที่ผ่านมาก็ไม่สามารถเรียกความอ่อนโยนของเธอกลับ คืนมาได้
ป้าเฉินเกลี้ยกล่อมเธอ บอกยังไงซะเธอกับยายสมศรี ก็เคยเป็นหลานยายกัน และท่านก็เป็นคนแก่คนนึงที่เพิ่ง ทําการผ่าตัดมาไม่ถึงครึ่งปีอะไรประมาณนี้ เธอฟังแล้ว รู้สึกสะอิดสะเอียน
ถึงแม้สายตาของป้าเฉินมีความไม่เห็นด้วยแอบแฝง อยู่ แต่ก็ไม่สามารถเปลี่ยนความคิดของเธอได้
เห็นได้ชัดว่ายายสมศรีสองสามวันนี้ถือใช้ชีวิต
ทรมาน
รอคอยอยู่ในท่ามกลางสายฝนลมหนาว ยิ่งไปกว่า นั้นนั่งอยู่ที่เด่นชัดขนาดนี้ ซ้ายขวาหน้าหลังไม่มีอะไร มาบดบัง นี่เป็นเรื่องที่กล้ำกลืนฝืนทนมาก ร่างกายเธอ ไม่ดี สองวันนี้ก็มีสัญญาณเตือนว่าจะเป็นหวัดแล้ว ถ้าไม่ ระมัดระวังเป็นหวัดขึ้นมาจริงๆ เธอกลัวกระดูกแก่อย่างเธอ จะแบกสังขารไม่ไหว
ในที่สุดก็ถึงเวลาห้าโมงเย็น ยายสมศรีหิ้วเก้าอี้พับ ขึ้นมาและจากไปอย่างกระโผลกกระเผลก
มองดูร่างเงาที่จากไปของเธอ แววตาของพิงกี้มี ความขัดขืนเสี้ยวนึงโผล่ขึ้นมา แต่ไม่นานความขัดขืน เดี๋ยวนี้ก็ได้จางหายไปจากแววตาที่ใสสะอาดของเธอ
กว่าจะกลับมาถึงบ้านไม่ใช่ง่ายๆ ยายสมศรีที่ถูกลม หนาวพัดจนร่างกายสั่นไหวได้โทรหาลิสา
พอรับสายปุ๊บ เธอก็ร้องไห้อย่างโศกเศร้า “ลิสาเอ๊ย ไม่ใช่ยายไม่ยอมช่วยหนูนะ แต่พิงกี้ใจดำกับยายเกินไป จริงๆ ยายนั่งรออยู่ที่หน้าบ้านมาสามวันติดต่อกันเธอก็ไม่ ยอมมาเจอหน้ายาย!พรุ่งนี้ยายไปไม่ไหวแล้วจริงๆ ถ้าไป อีก ต่อไปหลานคงไม่ได้เจอหน้ายายอีกแล้ว”
ลิสารำคาญมาก “พรุ่งนี้ถ้ายายไม่ไปขอร้องให้พิง กี้ยกโทษให้ ไม่แน่ต่อไปคงไม่ได้เจอหน้ากันจริงๆแล้ว! ไม่ใช่ฉันไม่อยากเจอยายนะ แต่ว่าหลานคนเดียวของ ตระกูลบุญถาวรอย่างฉันไม่มีชีวิตที่จะเจอหน้ายายแล้ว ด้วยซ้ำ!
“จะเป็นไปได้ยังไงล่ะ?” เสียงของยายสมศรีลังเล
“ทำไมจะเป็นไปไม่ได้?” ลิสาควบคุมอารมณ์โมโห ไว้ “ลิสาจะบอกยายใหนะ ยายได้ผ่าตัดมาแล้ว ถ้าดูแล ร่างกายดีๆก็สามารถมีชีวิตอยู่ได้ถึงเจ็ดแปดสิบ หรือเก้า สิบถึงร้อยปี แต่ลิสาล่ะ? หาหัวใจที่เหมาะสมไม่ได้ ตอนนี้ลิสาก็รอตายอย่างเดียว!
“แต่ว่า…..”
“ไม่มีแต่ว่า ไม่ว่าใช้วิธีอะไรยายต้องเข้าใกล้พิงกี้ให้
ได้!”
“ตุ๊ดๆๆ……”
ยายสมศรียังอยากพูดอะไรต่อ แต่ลิสาได้วางสายไป
แล้ว
“อิแก่ใกล้ตายเอ๊ย มัวแต่ห่วงตัวเองอยู่นั่นแหละ ก็ ไม่คิดเป็นห่วงคนอื่นบ้างเลย! ลิสาระบายอารมณ์โดย การเอามือถือเขยื้วงไปที่บนเตียง สีหน้าเต็มไปด้วยความ โมโห
เธอจะทำยังไงได้?
ตอนนี้ก็ได้แค่พึ่งยายสมศรีคนเดียวแล้ว
พ่อแม่แท้ๆของเธอยิ่งเชื่อถือไม่ได้ ถ้าไปหาพวกเขา มีแต่จะโดนยำกลับมา น่าเชื่อถือสู้ยายสมศรียังไม่ได้ อีก อย่างพิงกี้จะใจอ่อนต่อยายสมศรีได้ง่ายที่สุด
ตอนนี้ชาตรีก็กำลังหาหัวใจให้เธออยู่ ถึงแม้ องค์กรSCมีทรัพยากรเยอะมาก แต่ก็ถือว่าเป็นข้อได้ เปรียบที่ได้รับเงื่อนไขที่พิเศษกว่าใครๆ แต่ว่าเธอจะรอถึง วันนั้นมั้ย?
เธอรู้สึก ความหวังสุดท้ายคงจะต้องอยู่ที่หยาดทิพย์
แล้ว
ขอแค่หยาดทิพย์ตาย……..
เธอก็สามารถมีชีวิตอยู่ต่อได้!
ลิสารู้สึกเจ็บใจ ยายสมศรีก็จับมือถือไว้อย่างอึ้ง สีหน้าแย่และถอนหายใจแรงๆทีนึง
ไม่เพียงเพราะอารมณ์ไม่ดี แต่ยังเพราะสองวัน มานี้ถูกลมหนาวพัดจนร่างกายไม่สบาย เธอคิดไม่ถึง จริงๆว่าพิงกี้จะใจร้ายขนาดนี้ บอกจะไม่เจอก็คือไม่เจอ
ถึงยายอย่างเธอทำผิดไปบ้าง แต่พิงกี้ก็ตอนผู้ชาย คนเดียวของตระกูบุญถาวรไปแล้วไม่ใช่หรอ?
เดิมทีเธอยังหวังให้สมคิดหาผู้หญิงที่ข้างนอกแล้ว มีลูกสักคน อาศัยตอนที่เธอยังมีเรี่ยวแรงสามารถช่วยเขาเลี้ยงดูหลานหน่อย แต่ตอนนี้ความหวัง กลับพังทลายไป ไม่ใช่เพราะว่าพิงกี้หรอ?
ผู้หญิงคนนี้เนี่ย ทำไมไม่เห็นแก่ความหลังเก่าๆ ขนาดนี้เลย?
พอกลับมาที่ตระกูลดำรงกูลก็ไม่เอาตระกูลบุญถาวร แล้ว ตระกูลบุญถาวรตั้งชื่อให้เธอว่ามินตรา เธอก็เปลี่ยน ชื่อเป็นพิงกี้ มันบาปกรรมชัดๆ
กินแห้วติดต่อกันมาหนึ่งสัปดาห์ ยายสมศรีได้อดทน
ไว้
ตอนที่เตชิตมาได้เห็นสองครั้ง เขาได้ยกนิ้วโป้งให้ พิงกี้ที่“ใจแข็งเหมือนเหล็ก”
จากนั้นเขาก็อดพูดไม่ได้ “พิงกี้ ต่อไปถ้าผมได้ทำ เรื่องอะไรให้คุณโกรธ คุณอย่าทำแบบนี้กับผมเชียวนะ! ตั้งแต่เด็กผมก็เป็นนักเรียนดีเด่นที่ได้รับรางวัลประพฤติ ดี การเรียนดี สุขภาพดีเชียวนะ คุณต้องเชื่อมั่นคุณสมบัติ ประจำตัวของผม เชื่อว่าถึงผมจะทำเรื่องที่ผิดต่อคุณ นั่นก็ ไม่ได้ตั้งใจแน่นอน!
พิง ชายตามองเขาทีนึง “สมองมีปัญหาจริงๆ
เตชิตดีใจจนยิ้มแฮะๆ และทิ้งตัวลงบนโซฟาอย่าง โผงผางแล้วตะโกนให้ป้าเฉิน “ป้าเฉิน ผมอยากกินพุดดิ้ง ไข่แล้วก็คุกกี้ชาเขียวด้วย!”
ไม่นานป้าเฉินก็ยกของว่างออกมา และได้ชงนมให้ พิงกี้ด้วยแก้วนึง
เพียงแต่ เธอทนดูยายสมศรีนั่งตากลมอยู่หน้าบ้าน ด้วยความโศกเศร้าไม่ได้รู้สึกสงสารเลยอดเกลี้ยกล่อม ไม่ได้อีก “คุณผู้หญิงคะ ยายสมศรีได้นั่งอยู่ที่ข้างนอกมา หลายวันแล้ว ข้างนอกลมหนาวมาก คุณผู้หญิงให้ยายเข้า มาพักในบ้านหน่อยเถอะค่ะ นี่เป็นญาตินะคะไม่ใช่ศัตรู
พิงกี้ขมวดคิ้ว “เธอเคยทำร้ายฉันมาหลายครั้งมาก ถ้าไม่ใช่ฉันดวงแข็งป่านนี้คงได้ไปพบยมบาลตั้งนานแล้ว ค่ะ ป้ารู้สึกว่านี่ไม่ใช่ศัตรู? ยังมีอีกครั้งนึง เธอจงใจผลักฉัน ล้มลงที่พื้นเพื่ออยากให้ฉันแท้ง ป้ารู้สึกนี่เป็นญาติ?”
“อาศัยอยู่ชายคาเดียวกันมานานขนาดนี้ก็คือญาติ นั่นแหละค่ะ ถึงไม่ใช่ญาติ ตอนนี้ยายสมศรีก็อายุมากแล้ว ให้คนแก่คนนึงนั่งรออยู่ที่ข้างนอก คนที่ไม่รู้จะพูดลับหลัง คุณผู้หญิงเสียๆหายๆได้นะคะ” ป้าเฉินก็ยังเศร้าโศกมาก อยากเกลี้ยกล่อมพิงกี้ “คุณผู้หญิงฟังป้าสักครั้งเถอะค่ะเป็นคนจะเอาแต่ใจมากไม่ได้นะคะ
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ