บทที่288:เจ้าลิงน้อยตัวแดง
เงียบไปหนึ่งนาที ยังเป็นคุณหญิงเพียงดาวคนดีคน นี้เปิดปากพูดก่อน “เข้าห้องผ่าตัดไปสองชั่วโมงแล้วค่ะ ไม่รู้อาการเป็นยังไงบ้าง ถ้าคุณไม่มีธุระล่ะก็สู้นั่งรอที่นี่ดี กว่าค่ะ”
“ขอบคุณครับ” สุรพลเปิดปากพูด
เขาไม่ได้บอกว่าจะรอ แต่ยืนอยู่ที่นี่ไม่ขยับตัวเลย แม้แต่นิด ชัดเจนว่าจะรอนั่นแหละ
เตชิตเห็นเขาไม่คิดจะไป มองเขาแล้วรู้สึกเกะกะ สายตา ไม่มีเวลามาสนใจเคารพอาวุโสอะไรก็ได้ส่งเสียง เชอะเย็นชาใส่เขาทีนึง สีหน้าเต็มไปด้วยการเชิดใส่
นี่ยังถือว่าดี ถ้าหทัยรัตน์อยู่ที่นี่ เขารู้สึกว่ามีความเป็น ไปได้ที่เตชิตจะฆ่าคน
คุณหญิงเพียงดาวรู้สึกไม่ดี มีใจอยากจะต่อว่าเตชิต สองคํา
แต่ว่า ตอนที่เธอเห็นสีหน้าเย็นชาของสุรพลก็นึกถึง หทัยรัตน์ที่อาศัยบารมีของคนอื่นมาอวดเก่งและสีหน้า ที่เย้อหยิ่งจองหองของเธอ พอนึกถึงที่เตชิตบอกเธอ ว่าหทัยรัตน์เป็นคนผลักพิงกี้ถึงได้ทำให้พิงกี้กระทบ กระเทือนลูกในท้อง ทันใดนั้นเธอก็เชอะเสียงเย็นชาทีนึงอย่างไม่ต้องคิดไตร่ตรองเลย สีหน้าก็ดูแย่เป็นพิเศษ
สีหน้าของสองแม่ลูกนี้เหมือนกันเป๊ะๆไม่มีผิด
ป้าเฉินมองดูคนนี้ที เหลือบมองคนนั้นที ถึงแม้รู้สึก ร้อนรนใจ ในใจก็รู้สึกตลก เธอส่ายหัวอย่างจนปัญญา ตอนนี้เฝ้ารอแค่ผ่าตัดจะสามารถผ่านไปอย่างราบรื่น ถึงจะ คลอดก่อนกําหนด ก็ดีกว่าไม่สามารถรักษาลูกไว้ได้
ผ่านไปอีกครึ่งชั่วโมง ในที่สุดไฟในห้องผ่าตัดก็ได้
ดับลง
คุณหมอเดินออกมาจากห้องผ่าตัด เตชิตได้พุ่งไป หาก่อนคนแรก “หมอ ตอนนี้ข้างในอาการเป็นยังไงบ้าง ผู้ใหญ่ไม่เป็นอะไรใช่มั้ย?
รอมานานขนาดนี้ สิ่งเดียวที่เขารู้สึกโล่งอกหน่อยคือ ไม่มีคนออกมาถามว่าจะรักษาเด็กหรือผู้ใหญ่? นี่ทำให้เขา รู้สึกมีความหวัง
“อีกนิดเดียวก็เกือบจะตกเลือดหนัก แต่ตอนนี้ห้าม เลือดได้แล้วครับ ต่อไปต้องพักรักษาตัวดีๆครับ” หมอ พูดจากระหืดกระหอบเล็กน้อย มองดูสีหน้าสีหน้าของเต ชิตไม่ดี เลยรีบพูดต่อว่า “คลอดเด็กน้อยออกมาน้ำหนัก สองกิโลกว่าๆครับ เด็กคลอดก่อนกำหนดดีที่สุดให้อยู่ในตู้อบหลายเดือนหน่อยครับ
คลอดแล้ว……..
นี่ก็คลอดแล้วหรอ?
คำนี้พูดออกมาปุ๊บ ทุกคนที่รออยู่หน้าห้องผ่าตัดต่าง ก็รู้สึกเหลือเชื่อมาก
“คุณหมอ เมื่อกี้คุณบอกว่าคลอดลูกชายคนนึง หรอ?”
“ใช่ครับ ยังดีที่มาโรงพยาบาลทันครับ” หมอยิ้มเฉ่ง อีก และชี้ผ้าห่มที่อยู่ในมือของคุณหญิงเพียงดาว “คุณผู้ หญิง ผ้าห่มที่คุณเตรียมมาได้ใช้ประโยชน์แล้วนะครับ”
โรงพยาบาลส่วนตัวของตระกูลมหาเจริญศิลป์ หมอ และพยาบาลต่างก็รู้จักเทพหลายองค์นี้ของตระกูลมหา เจริญศิลป์
คุณหญิงเพียงดาวตื่นเต้นจนดวงตาเปล่งประกาย พุ่ง เข้าไปในห้องผ่าตัดด้วยความเร่งรีบ เอาผ้าห่มไว้อยากไป ดูเจ้าตัวเล็ก เตชิตมองร่างเงาแม่ของตัวเองด้วยสีหน้าเอ๋อ ที่นี้ถึงรู้สึกดึงสติกลับมาได้หน่อย
พอพิงกี้ถูกเข็นออกมาจากห้องผ่าตัด เตชิตเห็น สีหน้าที่ซีดเซียวของเธอแล้ว รู้สึกไม่สบายใจขึ้นมาทันที
เลยพลอยทำให้ไม่ชอบเจ้าตัวเล็กที่ถูกส่งเข้าตู้อบไป ด้วยเลย
เพื่อคลอดเจ้าลิงน้อยนั่น ผู้หญิงคนนี้ต้องทุกข์ ทรมานมากแค่ไหน?
พิงกี้เพิ่งลืมตาขึ้นมาก็รู้สึกเกิดเรื่องแย่แล้ว
ด้วยจิตใต้สำนึก เธอยื่นมือไปลูบที่ท้องของตัวเอง กลับพบว่าท้องแฟบไปแล้ว เดิมทีท้องที่กลมดิ๊กนาทีนี้ได้ แบนราบ ความรู้สึกว่างเปล่านี้ทำให้เธอกระวนกระวายใจ จะแย่
พริบตาเดียวน้ำตาก็ไหลรินออกมา เธอตะโกนด้วย เสียงแหบและหมดหนทาง “ลูก ลูกของฉันล่ะ?”
“อยู่ๆๆ!” เตชิตที่เฝ้าอยู่ข้างๆกระโดดโลดเต้นขึ้นมา พุ่งมาที่ตรงหน้าของพิงกี้และพูดด้วยความร้อนใจ “เด็ก อยู่ในตู้อบ คุณไม่ต้องเป็นห่วงนะเด็กร่างกายแข็งแรงดี มาก! ”
“จริงเหรอคะ?” น้ำตาคลอเบ้า พิงกี้มองเขาอย่างไม่ กล้าที่จะเชื่อ
แววตาที่ชุ่มฉ่ำด้วยน้ำตา เตชิตเห็นแล้วสงสารจะแย่
“จริงๆ!” เตชิตรับประกัน และยื่นมือออกมาสาบาน “ถ้าผมโกหก ผมจะเอาหัวของผมเป็นลูกบอลให้คุณเตะ เลย!”
ทีนี้พิงกี้ค่อยโล่งอกไปที
ที่แท้ไม่ใช่เสียลูกไป แต่ได้คลอดลูกออกมาแล้ว
หรอ?
“ลูกฉันสบายดีมั้ยคะ?
“เหอะ……” เตชิตทนแล้วทนอีก รู้สึกว่าตัวเองต้อง พูดจาดีๆหน่อย “สบายดี”
“เป็นเด็กดีมั้ยคะ?”
“……เป็นเด็กดี”
“หน้าตาหล่อมั้ยคะ?
ทีนี้เตชิตทนไม่ไหวแล้ว กลอกตาขาวที่นึงด้วย ความโกรธ สีหน้ารังเกียจอย่างไม่ปกปิดเลยสักนิด “แดง เหมือนดูดลิง น่าเกลียดจะตายอยู่แล้ว”
ถ้าเป็นเชื้อของเขา ต้องหน้าตาหล่อกว่าคนนี้แน่
พิงกี้ “
“ไสหัวไปไกลๆเลย” คุณหญิงเพียงดาวที่เดินเข้า มาได้ยินลูกชายตัวเองทำตัวโง่เขลาเลยรีบผลักเขาไป ข้างๆ จากนั้นก็พูดกับพิงกี้ด้วยความอ่อนโยนว่า “หนูพิงกี้ หนูอย่าฟังเตชิตพูดเหลวไหลนะ เด็กน่ารักมาก ตากับปาก เหมือนหนูมาก โตแล้วต้องเป็นหนุ่มหล่อแน่นอน!
พิงกี้ชอบที่คนอื่นชมลูก ในใจรู้สึกหวานแหววดีใจ มาก รู้สึกสบายกว่าตัวเองถูกชมเสียอีก
“หนูจะไปดูลูกได้เมื่อไหร่คะ?” เธอถามด้วยความ
ใจร้อน
เธออยากไปดูลูกมาก แต่ตอนนี้เธอรู้สึกร่างกายตัว เองหนักมาก เธอรู้สึกว่าตัวเองน่าจะขยับขั้วไม่ได้
“หนูผ่าคลอดแถมยังเป็นกรณีพิเศษด้วย คุณหมอ ให้หนูพักผ่อนอยู่ที่เตียง พรุ่งนี้ถ้าไม่มีเลือดออกแล้วถึงจะสามารถลงจากเตียงได้…….พรุ่งนี้ค่อยไปดูลูกเถอะนะ อย่าใจร้อน ป้าถ่ายรูปมาให้หนูดูด้วย! มาๆๆ ป้าเอาให้หนู
คนเป็นแม่ก็ย่อมเข้าใจอารมณ์ของคนเป็นแม่ คุณ หญิงเพียงดาวได้เตรียมไว้ตั้งแต่เนิ่นๆแล้ว หยิบมือถือที่ เมื่อกี้เพิ่งถ่ายรูปไปหลายร้อยรูปออกมา
“ดีค่ะ!” พิงกี้ได้ยินปุ๊บก็ถูกดึงดูดเลย
ทั้งคู่เริ่มดูรูปถ่ายจนหัวจะชนกันอยู่แล้ว
มองดูทารกตัวน้อยที่นุ่มนวลในรูปถ่าย พิงกี้ดวงตา เปล่งประกาย จนแทบอยากจะยื่นมือเข้าไปอุ้มเบบี้ของเธอ ออกมาจากมือถือ
ลูกที่เธอเฝ้ารอมานานขนาดนี้ ถ้าเสียไปเพราะถูก หทัยรัตน์ผลัก เธอไม่เพียงจะเกลียดหทัยรัตน์จนเข้า กระดูกดำ แต่ยังจะเกลียดตัวเองจนตายด้วย
มองดูรูปถ่าย สายตาของพิงกี้เต็มไปด้วยความรัก ถึง แม้ฝีมือถ่ายรูปของคุณหญิงเพียงดาวจะห่วยแตกมาก แต่ สายตาของเธอก็แฝงด้วยแสงอบอุ่นอัตโนมัติ รู้สึกเพียงว่า ทารกน้อยๆคนนี้ไม่ว่าจะมองยังไง จะมองมุมไหนก็น่ารัก ไปหมด อยากหอมแก้มและอยากจับมือเล็กๆของเขามากเป็นพิเศษ
คุณหญิงเพียงดาวก็ตื่นเต้นมากเช่นกัน รู้สึกเหมือน ที่บ้านของตัวเองก็ได้คลอดหลานออกมาคนนึงอย่างไร อย่างนั้น
เตชิตที่ถูกหลงลืมรู้สึกหมดคำพูดจริงๆ
ลิงน้อยตัวแดงตัวนึงมีอะไรน่าดู หล่อเหล่ามีเสน่ห์สู้ เขาได้หรอ?
ดูแต่ละคนซิละเลยเขาไปได้!
แต่ว่า ดูถูกส่วนดูถูก เขาก็ยังเดินไปที่ห้องทารกอย่าง ห้ามใจไม่ได้ เตรียมจะไปกำชับพยาบาลที่รับผิดชอบห้อง ทารกแรกเกิดว่าอย่าสะเพร่าต่อการดูแลเจ้าลิงน้อยตัวแดง
เขารู้ว่าตอนนี้คนที่พิงกี้หวงที่สุดก็คือเจ้าลิงน้อยนั่น
เชอะ~จนปัญญาจริงจริง!
ยังเดินไม่ถึงห้องทารกแรกเกิด พยาบาลก็ยังไม่ได้ เจอสักคน เตชิตเดินมาแต่ไกลก็เห็นร่างเงาที่หนักแน่นยืน อยู่หน้ากระจกโปร่งใสบอกน้องทารกแรกเกิด
ทำให้คนไม่อาจละเลยได้
สุรพลแววตาลุ่มลึก จ้องมองตู้อบเล็กๆตู้นึงในห้อง ทารกแรกเกิด เหมือนจะมองดูเด็กที่อยู่ข้างในนั้น
ในที่สุดนี่ก็รู้จักคิดถึงหลานแล้วหรอ?
เห็นเตชิตเดินมา สุรพลดึงสายตากลับและมองมาที่
พิงกี้ไม่เป็นอะไร เตชิตก็อารมณ์ดีแล้ว เป็นฝ่าย ทักทายก่อน “คุณลุงครับ”
“หนูพิงกี้….ตื่นแล้วหรอ?” สุรพลถาม
เป็นครั้งแรกที่เรียกพิงกี้ได้ใกล้ชิดขนาดนี้ สุรพลรู้สึก ไม่คุ้น เตชิตก็ฟังแล้วอึดอัดจะแย่ “เธอตื่นแล้วครับ อาการ ถือว่าโอเคอยู่ครับ แต่ถูกคุณป้าผลักอย่างแรงทีนึงทำให้ ตอนคลอดลูกมีเลือดออกเยอะจนทำให้ร่างกายทรุด ต้อง พักฟื้นร่างกายดีๆครับ
เตชิตเติมพริกเติมเกลือให้หทัยรัตน์อย่างไม่รู้สึกมี ความกดดันอะไรเลย
“เรื่องนี้ลุงรู้แล้ว” สุรพลเงียบไปครู่นึงแล้วพูดต่อว่า“คุณกับแม่ของคุณมีความสัมพันธ์ที่ดีกับหนูพิงกี้ หลาย วันนี้รบกวนพวกคุณช่วยดูแลเธอหน่อย ขาดเหลืออะไรก็ บอกกับลุงได้เลยนะ และช่วยลุงฝากบอกเธอด้วยเรื่องนึง เรื่องนี้ลุงจะให้คำอธิบายกับเธอเอง”
“ได้ครับ” เตชิตพยักหน้าแล้วถามต่อ “ผมขอถาม แบบเสียมารยาทหน่อยนะครับ คุณลุงจะให้คำอธิบายกับ เธอยังไงครับ?”
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ