คุณชายมาดเข้มกับคุณหนูสุดแสบ

บทที่282 บีบให้เควิมปรากฏตัว



บทที่282 บีบให้เควิมปรากฏตัว

“คุณพิงกี้คะ คุณมาลาโทรมาค่ะ”

พิงกี้นั่งพักอยู่ที่โซฟา นั่งดูทีวีและกินผลไม้ไปด้วย ป้าเฉินรับสายปุ๊บ ไม่นึกเลยว่าคนที่โทรมาจะเป็นมาลา

พิงกี้คิดๆแล้วรับสาย “แม่โทรหาหนูมีอะไรหรอคะ?”

“ฉันได้ข่าวว่าช่วงนี้คุณหญิงหทัยรัตน์ไปหาเธอแก ใช่มั้ย?” เสียงของมาลาที่เหมือนจะร้อนใจเล็กน้อย “แก นี่ทำไมใจกล้าขนาดนี้ ไม่นึกว่าแกจะไม่ไว้หน้าคนที่ฐานะ สูงส่งอย่างคุณหญิงหทัยรัตน์เลย ถึงได้มาไม้แข็งกับ เธอ?”

“ถ้าฉันไม่มาไม้แข็งกับเธอ จะทำยังไงได้อีกคะ? หรือว่าถ้าเธอเรียกฉันไสหัวไปฉันก็ต้องไสหัวไป เธอเรียก ฉันไปตายฉันก็ต้องไปตายอย่างเชื่อฟัง?”

“แกพูดแบบนี้ได้ยังไง?

พิงกี้ยกมุมปากขึ้นเล็กน้อย ปิดปากเงียบไม่พูดอะไร

ราวกับว่ามาลาตีก็รู้ว่าตัวเองพูดจาเข้มงวดเกินไป ทันใดนั้นก็เปลี่ยนกลยุทธ์ “ก็ไม่ใช่แม่อยากว่าลูกนะ แต่ ยังไงซะต่อไปลูกก็ยังต้องไปมาหาสู่กับตระกูลภิรมย์ภักดี อยู่ ตอนนี้เควินก็เสียไปแล้ว ลูกต้องเอาใจแม่สามีท่านี้ไว้ถึงจะมีทางรอดรู้มั้ย? ไม่งั้น ลูกอย่าคิดว่าจะได้เงินจาก ตระกูลภิรมย์ภักดีสักแดงเดียว!”

” พิงกี้เงียบต่อ

“ยังมีอีก แม่ได้ยินว่าเควินยกบ้านหลังนั้น…….. มาลาตีพูดถึงตรงนี้ จู่ๆ เสียงกระแอมดังขึ้นทีหนึ่ง ทันใด นั้นเธอรีบเปลี่ยนประเด็น “ไม่ได้เจอลูกตั้งนานแล้ว ลูก กลับมาทานข้าวที่บ้านสักมื้อเถอะ คุณพ่อก็อยากเจอหน้า ลูกเหมือนกัน”

แค่ได้ยินเสียงกระแอมนั่นก็ทำให้พิงกี้รู้ว่าชาตรีอยู่ ด้านข้าง แต่เธอไม่อยากไปเลยสักนิด

“หนูดูก่อนนะคะ”

“ยังต้องดูอะไรอีก เดี๋ยวแม่ให้คนขับไปรับลูก พรุ่ง นี้พ่อลูกก็จะไปคุยธุกิจที่อเมริกาแล้ว ครั้งนี้ทางนั้นมี โครงการสำคัญให้ทางคุณพ่อรับผิดชอบ ก็ไม่รู้ว่าต้องอยู่ นานเท่าไหร่ แม่คาดว่าอย่างน้อยก็ต้องเดือนสองเดือน แหละ หรือว่าอยู่เมืองหลวงด้วยกัน ลูกกับพ่อกะว่าครึ่งปีก็ จะไม่เจอหน้ากันเลยรึยังไง?”

พิงกี้ขมวดคิ้วตรง และพูดเหมือนคุยเรื่องใน ครอบครัวทั่วไป ถามด้วยน้ำเสียงบางเบา “คุณพ่อไปอเมริกาทําไมคะ ให้คนลูกน้องไปไม่ได้หรอคะ? พ่อก็อายุ มากแล้ว ต่อไปก็ต้องพักผ่อนเยอะๆหน่อย ไม่นานภูผาก็จะ จบแล้ว ต่อไปให้ภูผามาแบ่งเบางานในบริษัทของคุณพ่อ ก็พอ”

“พวกเราก็อยากเหมือนกัน? แต่เพื่อที่จะหาเงิน ให้พวกลูกๆเยอะหน่อย กระดูกเฒ่าอย่างพวกเราก็ ไม่ใช่ต้องสู้ชีวิตหน่อยหรอ? เอาล่ะๆ เดี๋ยวคนขับก็ ถึงL.K.Crystalแล้ว ลูกไปเตรียมเนื้อเตรียมตัวหน่อย ได้ยินหรือยัง?”

พอพูดจบ มาลา ก็วางสายทิ้ง ราวกับว่ากลัวพิงกี้จะ

ปฏิเสธ

พิงกี้ก็ไม่คิดจะปฏิเสธ

เธอไม่อยากให้การไปมาหาสู่กับตระกูลดำรงกูล ทําลายอารมณ์ของตัวเอง แต่ว่า พอได้ยินเรื่องที่มาลาตีบ อกว่าชาตรีจะไปอเมริกา เธอมีใจอยากไปสืบหาความจริง

ไม่แน่ เรื่องนี้อาจจะเกี่ยวข้องกับเควิน เผื่อพวกเขาก็ คงอยากจะสืบหาความจริงจากเธอล่ะ?

“คุณผู้หญิงจะไปมั้ยคะ?” ป้าเฉินถาม
“ไปค่ะ” พิงกี้คิดๆแล้วพยักหน้า “ตอนนี้ตระกูล นํารงกูลน่าจะไม่กล้าทําอะไรฉัน ฉันไปก็ไม่น่ามีอันตราย อะไร แถมยังสามารถสอบถามข้อมูลได้

“งั้นคุณผู้หญิงต้องระวังตัวให้มากๆนะคะ

“ค่ะ” พิงกี้พยักหน้าและยิ้มละไม “ป้าวางใจเถอะค่ะ ฉันจะปกป้องตัวเองดีๆ พายุก็คงต้องเป็นห่วงแน่ๆ ฉันขึ้น ไปคุยกับเขาหน่อย เขาก็จะได้ไม่รู้สึกเบื่อด้วย”

คนขับของตระกูลดำรงกูลต้องใช้เวลาสักพักกว่าจะ มาถึงที่นี่ เธอสามารถฉวยโอกาศนี้ปรึกษาหารือกับพายุ ลองดูว่าเดี๋ยวจะรับมือยังไง

ยังมีอีก ก็ไม่รู้ว่าวันนี้พายุได้ติดต่อกับเควินมั้ย มีข่าว คราวล่าสุดของเขารึเปล่า

คิดถึงตรงนี้ พิงกี้ยิ้มมุมปากเล็กน้อย เผยรอยยิ้มที่ ผ่อนคลายออกมา

ตั้งแต่ที่รู้ว่าเควินยังมีชีวิตอยู่ ถึงแม้ตอนนี้เธอจะ ร้อนรนใจเหมือนถูกไฟเผาก็เถอะ แต่หัวใจทั้งดวงกลับ เหมือนมีความหวังขึ้นมา ไม่ห่อเหี่ยวเหมือนก่อนหน้านั้น แล้ว
ณ บ้านดำรงกูล

มาลา วางสายอย่างว่องไว ทันใดนั้นก็แสดงคุณงาม ความดีของตัวเองให้ชาตรีที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ไม้เก่า “เป็น ไงบ้าง ฉันไม่ได้ทำให้คุณเสียเรื่องใช่มั้ย? ฉันจะบอกคุณ ให้นะ ฉันก็เป็นคนฉลาดคนนึงเชียวเลยนะ ไม่ใช่แม่บ้านที่ ผลาญเงินเป็นอย่างเดียว!

“เหอะๆ…… .” ชาตรียิ้มอย่างสง่าเสียงหนึ่ง และ พยักหน้าอย่างลวกๆ “ใช่ ภรรยาของผมเป็นคนฉลาด มาก”

ใครๆก็สามารถฟังออกว่านี่เป็นคำพูดลวกๆ แต่ มาลาตีดันได้ใจมาก “แน่นอนอยู่แล้ว สามีฉันก็ตาถึง เหมือนกันที่มองความฉลาดของฉันออก

“เอ่อ~ใช่สิ คุณหญิงหทัยรัตน์จะมาเมื่อไหร่?

“คุณหญิงน่าจะไม่มาแล้วค่ะ ถึงเวลาคนขับของเรา จะส่งไปที่โรงพยาบาลโดยตรง คุณหญิงบอกว่าจะรวมตัว กับพวกเราที่โรงพยาบาลค่ะ” พูดถึงตรงนี้ มาลาตีลังเล นิดหน่อย “ตาแก่ คุณว่าเราตัดสินใจถูกรึเปล่าเนี่ย?

“ทำไม?”
“ถ้าเอาลูกของพิงกี้ไว้ ถึงแม้ในระยะเวลาสั้นๆเรา ไม่ได้ผลประโยชน์อะไร แต่ยังไงซะนั่นก็เป็นเลือเนื้อ เชื้อไขของตระกูลภิรมย์ภักดี สุรพลไม่มีทางเพิกเฉยไม่ สนใจแน่นอน! ต่อไป ไม่แน่ยังได้รับช่วงต่อจากธุรกิจของ ตระกูลภิรมย์ภักดีล่ะ! แต่ตอนนี้ถ้าเราเอาเด็กคนนั้นออก ถึงแม้จะได้เงินห้าสิบล้านในครั้งเดียว ไม่แน่อาจจะเก็บงา ได้แต่ต้องทิ้งแตงโมไปล่ะ…..ถ้าอย่างนั้นคงเสียดายแย่ เลย”

“เสียดายอะไรกัน? ถ้าเลี้ยงไปเลี้ยงมาเลี้ยงเป็นไอ้ คนเนรคุณล่ะก็ ไม่แน่ต่อไปไม่เพียงแต่ไม่ได้ผลประโยชน์ แถมยังต้องเจอเรื่องวุ่นวายอีก!” แววตาของชาตรีมืดครึ้ม

“เอาล่ะๆ คุณออกไปเถอะ ปิดประตูด้วย ชาตรี โบกมืออย่างหมดความอดทน ไม่อยากพูดมากกับมาลาตี

อีก

ยังบอกว่าตัวเองฉลาดอีก เป็นแม่บ้านที่โง่เขลาไม่รู้อี โหน่อีเหน่ชัดๆ!

“ก็ได้ค่ะ งั้นคุณยุ่งงานของคุณเถอะ เดี๋ยวตอนออก ไปฉันค่อยมาแจ้งคุณ
“ผมออกไป? หรือเรื่องพวกนี้คุณที่เป็นคุณผู้หญิง ของที่บ้านยังจะเอาไม่อยู่ ต้องให้ผมที่เป็นหัวหน้า ครอบครัวออกหน้า? คุณไม่รู้สกขายหน้ารียังไง?

“ได้ๆๆ ฉันไปเอง

รู้ว่าชาตรีราคาญมากแล้วจริงๆ มาลาไม่กล้าพูด อะไรมากอีก เธอรีบออกจากห้องสมุดโดยเร็ว

พอคนออกไป บ ชาตรีก็วางปากกาที่อยู่ในมือลง แววตามีรอยยิ้มที่ร้ายลึกเย็นชา

เขาได้รับข่าวสารแล้วว่าเควินดวงแข็งยังไม่ตาย หลบซ่อนไปมาอยู่ที่อเมริกาเหมือนหนู ถ้าลูกในท้องของ พิงกี้เกิดอะไรขึ้น หรือว่าเอาเด็กที่ใกล้เป็นรูปร่างคนมาทำ เป็นตัวอย่าง……ดูซิเควินยังสามารถทนได้นานเท่าไหร่!

ทําลายงานของเขาครั้งแล้วครั้งเล่า เควินต้องตาย สถานเดียว!

ทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับเควิน เขาก็เกลียดเข้า กระดูก าหมด!
หลังจากพิงกี้เตรียมตัวเสร็จ พูดคุยกับพายุ ยังพูดคุย กันไม่เสร็จก็ได้ยินเสียงเรียกของป้าเฉิน “คุณพิงกี้คะ คน ขับมาถึงหน้าบ้านแล้วค่ะ คุณจะออกไปตอนนี้เลยมั้ยคะ?”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ