คุณชายมาดเข้มกับคุณหนูสุดแสบ

บทที่271. ไม่ถนัดเรื่องทะเลาะวิวาท



บทที่271. ไม่ถนัดเรื่องทะเลาะวิวาท

ซินดี้ชายตามองสายฟ้าทีนึง สีหน้าเหมือนไม่เห็น สายฟ้าอยู่ในสายตา สีหน้าเหมือนมั่นใจว่าสายฟ้าไม่กล้า ทำอะไรเธอ พุ่งไปถามพิงกี้ด้วยความหยิ่งยโส “แกก็มา หานังน้ำหวานใช่มั้ย?”

” พิงกี้ยักคิ้ว รอซินดี้พูดคำต่อไป

“แกเป็นเพื่อนสนิทของนังนั่น งั้นแกก็คงรู้สินะว่า หล่อนไปพัวพันกับดุสิตอีกแล้ว? ดุสิตคือทายาทของ ตระกูลภักดีวัฒนากุล นังน้ำหวานก็เป็นแค่เศษหญ้า เท่านั้น พวกเขาไม่คู่ควรจะอยู่ด้วยกัน แกไม่คิดจะเกลี้ย กล่อมเพื่อนของแกหน่อยหรอ ไม่กลัวต่อไปหล่อนจะเสีย เปรียบมากกว่านี้รึไง?”

“ดูไม่ออกเลยว่าคุณเป็นห่วงเธอมากขนาดนี้ ฉัน ขอบคุณแทนน้ำหวานด้วยนะคะ”

พิงกี้ยิ้มมุมปากเล็กน้อย

เธออยากไป แต่กลับถูกซินดี้ที่มือไวขวางเอาไว้

“แกอย่าเพิ่งไป! ฉันไม่ได้เป็นห่วงนังนั่นหรอก ฉัน เกลียดนังน้ำหวานจะตาย!” ซินดี้พูดด้วยความโมโห “ถ้า ฉันจำไม่ผิดล่ะก็ ตั้งแต่วันที่นั่งนั่นทำแท้งจนถึงวันนี้ก็เพิ่ง จะผ่านไปแค่ไม่กี่เดือน บาดแผลเพิ่งจะหายดีก็ลืมความเจ็บปวดแล้วหรือ? ยังไร้เดียงสานึกว่าตระกูลภักดีวัฒนา กุลจะยอมรับลูกสะใภ้อย่างตัวเองหรอ นั่งน้ำหวานนี่โง่ เปล่าเนี่ย?”

กลัวคำพูดของตัวเองจะไม่มีคนตอบ พิงกี้ทำเหมือน จะยิ้มแต่ไม่ยิ้ม มองจนซินดี้มีไฟแห่งความโมโหได้ปะทุ ขึ้นมา เธอได้แต่กระชากเพื่อนที่อยู่ข้างกายและถามด้วย น้ำเสียงไม่ดี “กุ๊บกิ๊บ เธอว่าใช่มั้ย?”

“เอ๊ะ…….” กุ๊บกิ๊บรีบดึงแขนเสื้อของตัวเองกลับ และตอบอย่างหมดความอดทน “ซินดี้ เธอคุยก็คุยดีๆสิ อย่ามากระชากเสื้อของฉัน ฉันชอบเสื้อตัวนี้ของฉันมาก เธออย่าทำขาดเด็ดขาดเชียวนะ”

จัดความเรียบร้อยของเสื้อผ้าเสร็จ กุ๊บกิ๊บไม่ได้ระเบิด ใส่พิงกี้เหมือนที่ซินดี้คิด แต่ว่าได้สำรวจเธอด้วยความ สนใจ ในความหยิ่งยโสแฝงด้วยความแปลกใจที่แท้แกก็ คือพิงกี้หรอ?”

อืม” พิงกี้มองผู้หญิงคนนี้แล้วรู้สึกแปลกใจ เล็กน้อย

ผู้หญิงคนนี้ไม่เหมือนมาทะเลาะวิวาทกับเธอ แต่

เหมือน…….
“คนอื่นต่างก็บอกว่าแกสำส่อนทางเพศ เคยมีเพศ สัมพันธ์กับผู้ชายมากหน้าหลายตา แถมยังเป็นโรคติดต่อ ทางเพศสัมพันธ์ด้วย……แต่ฉันดูสีหน้าของแกก็แจ่มใส ดีหนี่ ไม่เหมือนคนป่วยเลย ข่าวลือพวกนั้นเป็นเรื่องจริง มั้ย?”

พิงกี้แน่ใจแล้วว่าผู้หญิงคนนี้ค่อนข้างซื่อบื้อ “แล้ว คุณคิดว่าไงล่ะ?”

“ฉันเคยเรียนแพทย์มาอยู่ แต่ฉันดูไม่ออกว่าแกเคยมี อะไรกับผู้ชายเยอะมากมั้ย?”

พิงกี้ “

“เป็นความจริงมั้ย?” กุ๊บกิ๊บซักถามต่อ

พิงกี้ “.

“คนอื่นต่างก็บอกว่าแกเป็นมางจิ้งจอก แต่ฉันรู้สึกแก ก็เป็นหญิงสาวดีงามคนหนึ่งเลยแหละ! แต่แปลกนะ แก ไปชอบเควินที่เย็นชาเหมือนน้ำแข็งคนนั้นได้ยังไง แกไม่รู้ สึกว่าอยู่กับเขามันไร้ความหมายหรือ? อีกอย่างเขายังเป็น โรครักความสะอาดด้วย เขาไม่ถือสาที่แกเคยผ่านผู้ชาย มาเยอะขนาดนี้หรอ?”
พิงกี้แอบกลอกตาขาวอยู่ในใจ ไม่อยากตอบคำถาม ปัญญาอ่อนแบบนี้เลยจริงๆ

ซินดี้ก็โมโหจะแย่อยู่แล้ว ฉุนจนควันจะออกจากหู

แล้ว

“กุ๊บกิ๊บ เธอนี่แยกแยะสถานการณ์ออกรึเปล่า? ฉัน ให้เธอมาช่วยฉันนะไม่ใช่ให้มาทำลาย! ซินดี้ตะคอกใส่

ไม่นึกเลยว่าเพื่อนรักของตัวเองจะมาทำเรื่องของตัว เองให้เสีย!

เสียแรงที่เธอพากุ๊บกิ๊บมา หวังจะเพิ่มแรงต่อสู้ เพื่อ ให้น้ำหวานถอนตัวไปซะ และเพิ่มความมั่นใจในการพูด โน้มน้าวดุสิต…….ตอนนี้ดูท่าแล้ว พึ่งพาไม่ได้จริงๆ

.” ตั้งใจคิดๆแล้ว กุ๊บกิ๊บปรับเปลี่ยนสีหน้า เชิด หน้าชายตามองพิงกี้ “ฉันดูแกก็ไม่ใช่คนดีอะไรหรอก ทางที่ดีที่สุดแกรีบไปบอกนั่งน้ำหวานซะ ต่อไปอย่ามาราวี ดุสิตอีก รู้รึยัง?”

แต่ว่า แค่ดูแววตาก็รู้สึกแปลกใจมาก

พิงกี้ ” .….….….…..
โรคจิตทั้งสองคน

“สายฟ้า ขวางพวกเธอไว้” สั่งการสายฟ้าด้วยน้ำ เสียงบางเบาทีนึง พิงกี้หลบมือที่จะมาขวางของซินดี้อีก เธอเดินผ่านสองคนนี้และเดินไปที่บ้านโดยตรง

ซินดี้ตะโกนอยู่ข้างหลังเธอ “พิงกี้ แกกลับมาเดี๋ยวนี้ ฉันยังมีเรื่องจะคุยกับแกอีก!

“ตอนนี้ดุสิตมัวแต่หมกมุ่นอยู่กับนังน้ำหวานจนไม่ สนใจเรื่องของบริษัท แกถามเขาดูซิว่าเขาจะไม่เอาตระกูล ภักดีวัฒนากุลแล้วจริงๆใช่มั้ย? ถ้าดุสิตไม่กลับไป ต่อ ไปT.Cกรุ๊ปถูกนายภูภูมิไอ้สารเลวนั่นแย่งไป ฉันจะคอยดู ซิว่านังน้ำหวานยังจะชอบเขาอยู่มั้ย?

“พิงกี้ แกเกลี้ยกล่อมนั่งน้ำหวานหน่อย อย่าทำลาย อนาคตของดุสิต แกได้ยินที่ฉันพูดมั้ยเนี่ย?

“ถ้าไม่มีT.C กรุ๊ป ดุสิตยังทำอะไรได้อีก? หรือว่ายัง จะเปิดบาร์เล็กๆและใช้ชีวิตเหมือนเมื่อก่อนอีกหรอที่เดือน หนึ่งหาเงินได้แค่แสนสองแสนบาท แม้แต่จะประทังชีวิต ยังยากลำบาก?
ซินดี้พูดซะยาวเหยียด พิงกี้ที่เดินไปไกลไม่มีปฏิ กิริยาใดๆเลยทั้งสิ้น แต่เธอหลบยังไงก็หลบไม่พ้นเนื้อมือ สายฟ้า ได้แต่โมโหจนย่ำเท้าอยู่กับที่

“แกถอยไปเดี๋ยวนี้นะ” เธอตะคอกใส่

สายฟ้าหน้าทิ้งไว้ “คุณซินดี้ คุณพิงกี้ไม่ได้อยาก พัวพันกับคุณเลยสักนิด รบกวนคุณทำอะไรดูความเหมาะ สมด้วย”

“ฉันจะไม่ดูความเหมาะสม แล้วจะทำไม? แกมันก็แค่ บอดี้การ์ด อย่าลืมฐานะของตัวเองสิ” ซินดี้คิ้วคว่ำ

“ใช่ ผมเป็นบอดี้การ์ด ผมแค่ทำตามคำสั่งของคุณ พิงกี้ ไม่ลืมฐานะของตัวเองหรอก”

“แกมันไอ้สารเลว!” ซินดี้โมโห แต่ก็ไม่มีวิธี ได้แต่ มองดูพิงกี้เดินจากไปไกล

“ซินดี้ เราไปกันเถอะ ยืนอยู่ที่นี่ตั้งนาน ฉันเหนื่อย แล้ว ฉันจะไปหาอะไรกินที่ร้านของหวานสักหน่อย” กุ๊ บกิ๊บเคลื่อนไหวเท้าไปครู่นึง และบ่นเหมือนลูกคุณหนู

ใบหน้าของเธอเพอร์เฟคมาก ถึงนิสัยจะเอาแต่ใจ ไปหน่อย แต่สีหน้าท่าทางเหมือนสาวน้อยแบบนี้ก็ไม่ได้ทําให้คนเกลียดชังอะไร กลับทำให้คนอยากปกป้องและ เอ็นดูเธอเสียมากกว่า

ซินดี้ไม่มีความคิดที่อยากปกป้องกุ๊บกิ๊บเลยแม้แต่นิด แต่ด้วยฐานะทางบ้านของกุ๊บกิ๊บดีกว่าบ้านเธอเยอะ เธอ ก็ไม่กล้าทำนิสัยคุณหนูกับกุ๊บกิ๊บ ได้แต่พูดด้วยความอด กลั้น “ก็ได้ๆ ในเมื่อเธอเหนื่อยแล้ว งั้นเรื่องของวันนี้ก็ช่าง มันไปก็แล้วกัน”

“อืม” กุ๊บกิ๊บยิ้มขึ้นมาทันที รู้สึกผิดเล็กน้อย เธอ ควงแขนของซินดี้ด้วยรอยยิ้มอ่อนหวานและพูดว่า “ซินดี้ เธอดีที่สุดเลย เดี๋ยวไปเดินช๊อปปิ้ง ฉันซื้อกระเป๋า เสื้อผ้า ให้เธอ เธอเลือกตามสบายเลยน

“งั้นก็ขอบใจเธอนะ” ใบหน้าของซินดี้ก็เผยรอยยิ้ม ออกมา

เมื่อก่อนตอนอยู่บ้านเธอยังถือว่าได้รับความเอ็นดู จากพ่อแม่ แต่หลังจากที่เธอแต่งงานแล้วหย่าร้าง ทาง บ้านก็ไม่ได้ดีกับเธอเหมือนเมื่อก่อน ถ้าไม่ใช่แบบนี้ เธอก็ ไม่ราวีดุสิตไม่ยอมเลิกลาแบบนี้หรอก

เธอมั่นใจว่าดุสิตไม่มีทางลืมเธอลงได้หมดจด เธอจะ อาศัยโอกาศนี้จับเขาให้อยู่หมัด
แต่ว่า คิดไม่ถึงว่าน้ำหวานที่ดูภายนอกเหมือนสวย หวานไม่มีพิษไม่มีภัย แต่กลับเป็นคนที่มีเล่ห์เหลี่ยม เหมือนกัน

มันช่างน่าโมโหเสียจริงๆ

เธอจะคอยดูซิ ถ้าดุสิตเสียสิทธิ์ในเป็นทายาท ของT.Cกรุ๊ปต่อ น้ำหวานจะเผยตัวตนที่แท้จริงออกมามั้ย?

พิงกี้มีกุญแจของบ้านเช่า แต่เพื่อหลีกเลี่ยง สถานการณ์ที่อึดอัดเหมือนครั้งก่อน เธอก็ได้ตัดสินใจกด กริ่ง

รอหลายนาที น้ำหวานที่ใบหน้าแดงก่ำถึงออกมาเปิด ประตู และพูดด้วยความเกรงใจ “พิงกี้ เธอ….เธอมาไว จัง”

กระพริบตาปริบๆ เธออึดอัดจะแย่อยู่แล้ว

พิงกี้ ” …….…….”

น้ำหวาน “ ….……….…….”
ทั้งคู่จ้องตากัน สุดท้ายก็พิงกี้เป็นคนเปิดปากพูดก่อน “ดุสิตของเธอยังไม่ไป?”

“ยัง..……..”

ไม่เพียงแต่ไม่ไป แถมยังจับเธอมาออกกำลังกายบน เตียงอีก บอกว่ากว่าจะรอวันหยุดของเธอมาถึงไม่ใช่ง่ายๆ จะต้องปรนนิบัติเธอให้ดีๆหน่อย เพื่อชดเชยให้กับความ เสียใจที่วันทำงานเธอไม่ได้เสพสุขเต็มอิ่ม

ที่จริง เธอไม่เสียใจเลยแม้แต่นิด!

วันนี้พิงกี้บอกจะมา เดิมทีเธอไม่อยากนัวเนียกับเขา หรอก แต่ว่าทั้งสองอยู่ๆไปก็……ตอนที่ได้ยินเสียงกด กริ่ง เธอกับเขายังกำลังลองท่วงท่าใหม่อยู่เลย…….

พอนึกถึงเรื่องของเมื่อกี้ น้ำหวานรู้สึกเก้อเขินจะแย่

อยู่แล้ว

“งั้น….หรือว่าฉันค่อยมาวันหลังเถอะ

“ไม่ต้องๆ” น้ำหวานรีบผายมือปฏิเสธ “เธอรอฉันที่ ห้องนั่งเล่นแป๊บนึงนะ หรือจะไปเก็บของที่ห้องของเธอ โดยตรงก็ได้ ฉันแต่งตัวเสร็จจะรีบมาช่วยเธอนะ ถ้า…ถ้า เธอกลัวอึดอัดฉันจะบอกให้ดสิตไม่ต้องออกมา ฉันจะขังเขาไว้ในห้องเอง

.อืม” พิงกี้พยักหน้า

วันปกติ หวานไม่อยู่ ที่บ้านก็เหลือแต่ดุสิต ถึงเวลา ยิ่งอึดอัดเข้าไปใหญ่

ในเมื่อวันนี้มาแล้ว เก็บข้าวของให้เสร็จทีเดียวไปเลย

ดีกว่า

ที่จริง เวลาที่ใช้ในการเก็บของก็ไม่ได้นานเท่าไหร่

เรียกสายฟ้ามาช่วยยกของ พิงกี้ก็นั่งคุยกับน้ำหวาน ที่โซฟา

พูดเรื่อยเปื่อยไปสักพัก พิงกี้ลังเลครู่นึงแล้วพูด ว่า “เมื่อกี้ฉันเจอซินดี้ที่หน้าบ้าน ได้ยินเธอพูดเรื่องของ ดุสิต …..น้ำหวาน เธอรู้เรื่องของดุสิตมั้ย? ”

น้ำหวานชิวๆมาก “เรื่องของบริษัทใช่มั้ย?

“ใช่ เธอคิดยังไง แล้วดุสิตได้คิดวางแผนอะไรหรือ

ยัง?”

“ดุสิตบอกกับฉันแล้วว่าต่อไปเขาจะอยู่กับฉัน ฉันรับผิดชอบหาเงิน แฮะ…” น้ำหวานสีหน้าเหมือนคนไม่มี หัวจิตหัวใจ และพูดอย่างได้ใจ “เธอว่า ขอแค่ฉันดีกับเขา หน่อย เขาก็คงไม่ไปจากฉันแล้วใช่มั้ย?”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ