คุณชายมาดเข้มกับคุณหนูสุดแสบ

บทที่262 ไม่สนลูกไม้ของท่านประธาน



บทที่262 ไม่สนลูกไม้ของท่านประธาน

ไม่มีอัตรายแถมยังถูกทำให้สะอิดสะเอียนอย่างหนัก ลิสาอดหัวเราะเยาะไม่ได้ “ที่แท้นี่ก็คือที่รองผู้อำนวยการ บอกว่าจะทำให้ฉันเสียวจนร้องไห้หรอ?แกมีความมั่นใจ เกินไปรึเปล่า?

ใส่เสื้อผ้าอย่างใจเย็น ลิสานั่งให้ห่างจากรองผู้ อำนวยการ ทำเหมือนเขาเป็นเชื้อไวรัส

ทำท่าสูงส่ง ราวกับว่าตัวเองยังเป็นดอกบัวขาวที่ไม่ เคยเปื้อนดินโคลนมาก่อน

เรื่องบางเรื่อง เธอก็คิดดีแล้ว

“แกก็เป็นคนของSCใช่มั้ย?” ลิสาถามด้วยเสียง เย็นชา “อย่ารีบปฏิเสธฉัน ถ้าแกไม่ใช่ แล้วจะรู้องค์กรนี้ ได้ยังไง แถมยังรู้ว่าฉันกลายเป็นคนขององค์กรนี้ด้วย? เหอะ……ผู้ป่วยที่ตายด้วยอุบัติเหตุของโรงพยาบาลจิต เวชปีๆนึงเยอะขนาดนั้น ตอนนี้ดูท่าแล้วไม่ได้เหนือความคาดหมายเลยจริงๆ

ผู้ป่วยที่ตายด้วยอุบัติเหตุ บางคนแม้แต่ศพก็ยังหาไม่ เจอ ส่วนมากได้กลายเป็นทรัพยากรที่ให้รองผู้อำนวยการ หาเงินไปแล้ว

อยู่ในองค์กรSC ผู้ป่วยแบบนี้เรียกได้ว่าเป็นปุ๋ยชั้นดี

เพราะมีปุ๋ยชั้นดีเยอะขนาดนี้ ถึงจะสามารถเลี้ยง ดอกไม้ชั่วร้ายที่อยู่ในดินโคลนได้

คิดถึงตรงนี้แล้ว ลิสาอดหัวเราะเสียงเบาไม่ได้

อาศัยท้องฟ้าที่สลัว รองผู้อำนวยการเห็นรอยยิ้ม หัวเราะเยาะของเธอ เขาหัวเราะเย็นชาขึ้นมาทีนึง “นัง แพศยา ฉันยังนึกว่าเธอเป็นสาวบริสุทธิ์จริงๆ ไม่ยุ่งเกี่ยว กับทางโลกเสียอีก คิดไม่ถึงก็ทำตัวต่ำช้าแบบนี้เหมือนกัน แหละ!”

“ฉันทำตัวต่ำช้า แล้วแกล่ะ?” ลิสาเหน็บแนมกลับ

“ฉันก็ต่ำช้าเหมือนกัน ฉันชอบแพศยาอย่างเธอ ที่สุดเลย แค่เห็นก็อยากกิ๊บแล้ว” จับผมของลิสาไว้อย่าง โหด รองผู้อำนวยการเอาของที่อ่อนยวบยาบของช่วงล่างยัดไปที่ปากของเธอโดยตรง หายใจผ่อนคลายออกมาที นึงแล้วพูดว่า “ปรนนิบัติกูดีๆ! ไม่งั้น ชาตินี้มึงอย่าคิดจะ ได้ออกจากโรงพยาบาลแห่งนี้เลย ไม่แน่ กูอาจจะเอามึง เป็นปุ๋ยชั้นดีแล้วส่งมอบไปเบื้องบนก็ได้! ต้องรู้ไว้นะว่า ทางองค์กรมอบภารกิจให้พวกเราทุกปี กูกำลังกลุ้มใจกับ ภารกิจที่ยังบรรลุเป้าหมายไม่ได้อยู่เลยเนี่ย!

“วๆ……” ลิสาถูกกลิ่นคาวทำจนวิงเวียน ได้แต่ร้อง วๆแต่กลับพูดอะไรไม่ออก

พอเจ้านกเขาที่อุบาทของผู้ชายบึงปิ้งขึ้นมาอีกครั้ง เธอถูกทับลงไปอย่างโหดอีกรอบ

ใช่แล้ว

ที่นี่คือโรงพยาบาลจิตเวช ถ้าอยากเล่นลูกไม้ภายใต้ สายตาของรองผู้อำนวยการมันยากจริงๆ นอกเสียจากเขา จะยอมให้ความร่วมมือเอง

น้ำตาไหลออกมาจากหางตาของลิสา ตอนนี้เธอ จำเป็นต้องก้มหัวให้คนพวกนี้ แต่ต่อไป เธอจะต้องให้พวก เขาชดใช้อย่างแน่นอน!
อุณภูมิยิ่งอยู่ยิ่งหนาวเย็น ไม่นาน อากาศในเมือง หลวงก็ไม่เหมาะกับการออกจากบ้านแล้ว

เตชิตรั้งตั้งนานสองนาน พิงกี้กับน้ำหวานก็ยังตัดสิน ใจจะย้ายกลับไปพักที่บ้านเช่า ก็คือบ้านที่เตชิตเช่าให้พวก เธอหลังนั้น

แผลที่ไหล่หายดีแล้ว เบบี้ก็ยิ่งอยู่ยิ่งร่าเริงแล้ว เธอ รู้สึกพักที่บ้านสบายใจกว่าเยอะ

พอถึงเวลาใกล้คลอด ค่อยมาโรงพยาบาลก็ยังไม่

สาย

กลับมาถึงบ้าน พิงกี้ได้ต้มบะหมี่ใส่ไข่กับมะเขือเทศ ที่หอมฉุยและลื่นคอให้ตัวเองก่อนชามนึง นี่มันสามารถ ทําให้คนลืมความทุกข์ใจทุกอย่างได้ชัดๆเลย!

หลังจากกินอิ่ม พิงกี้ได้นั่งดูทีวีอยู่บนโซฟา นาทีนี้ เสียงมือถือได้ดังขึ้นมา

หันหน้าไปดูมือถือ คนที่โทรมาคือมาลาตี

เธอบล็อกมาลาตี มาลาตีก็เปลี่ยนเบอร์มือถือแล้วโทร มาอีก เธอไม่รับสาย มาลาตีก็โทรจนกว่าเธอจะรับสาย แน่ จริงก็โทรจนแบตของเธอหมดสิ
“ครั้งนี้คุณมีเรื่องอะไรอีก?” พิงกี้รับสาย และพูด ด้วยน้ำเสียงไม่ดี

สําหรับตระกูลดำรงกูล เธอไม่มีอะไรต้องให้คิดถึง แล้วจริงๆ

“พิงกี้ ลูกเกลียดแม่ขนาดนี้เลยหรอ? ช่วงนี้แม่ พยายามอยากสนิทแนบแน่นกับลูก แต่แม่ดูแล้วเหมือนลูก ยังมีอคติกับแม่อยู่เลย นี่ลูกยังเกลียดแม่อยู่ใช่มั้ย?

“หยุด! ก่อนอื่น อย่าเรียกตัวเองว่าแม่ให้ฉันฟัง ทำ เหมือนว่าหลายปีมานี้คุณได้ทำหน้าที่แม่ที่ดีจริงๆอย่างไร อย่างนั้น ข้อสอง ฉันมีอคติกับคุณไม่ใช่เรื่องปกติมาก หรอ? ก่อนหน้านั้นคุณยังบอกว่าลูกของฉันคือลูกมารผจญ ฉันไม่ลืมง่ายๆหรอกนะจะบอกให้!

พูดถึงตรงนี้ พิงกี้ถูกลูกในท้องถีบครั้งนึง ทันใดนั้น เธอดีใจขึ้นมาทันที

ดูท่าแล้ว ลูกในท้องของเธอไม่ใช่คนที่นิสัยดีแน่นอน แถมยังเป็นคนเจ้าคิดเจ้าแค้นซะด้วย! นิสัยแบบนี้เหมือน เธอจริงๆ

นิ่งไปครู่นึง พิงกี้พูดขึ้นมาอีก “ถ้าคุณไม่พูดอีกว่า ครั้งนี้โทรมามีเรื่องอะไร งั้นฉันก็จะวางสายแล้ว”
“แม่พูดๆ ดูลูกซิทำไมใจร้อนแบบนี้ล่ะ? คืออย่างนี้ อีกสองวันยายสมศรีก็จะเข้ารับการผ่าตัดแล้ว แม่กะว่าจะ ไปเยี่ยมคนแก่อย่างท่านสักหน่อย ถึงเวลาลูกก็ไปด้วยกัน เถอะ”

“พรุ่งนี้หรือมะน?”

“มะรืน มะรืน.

“ฉันรู้แล้ว แต่ฉันอาจจะไม่ไปก็ได้ ถ้าพวกคุณจะไป พวกคุณก็ไปเองเถอะ ไม่ต้องสนใจฉันหรอก”

“แล้วจะได้ยังไงล่ะ?” มาลาที่เริ่มร้อนใจแล้ว “ยัง ไงซะตระกูลบุญถาวรก็เคยเลี้ยงลูกมา ถ้าแม้แต่เรื่องใหญ่ แบบนี้ลูกก็ยังไม่ไปอีก ลูกยังมีความเป็นคนอยู่มั้ย?”

“มีความเป็นคนมากกว่าคุณก็พอแล้ว ถ้าคุณดันจะว่า ฉันไม่ใช่คน ฉันก็ถือซะว่าคุณชมฉันก็แล้วกัน”

ไม่ใช่คน แต่เป็นนางฟ้า ดีออกจะตายไป

พูดจบ พิงกี้ก็วางสายไปเลย เธอขี้เกียจสนใจคนของ ตระกูลดำรงกูลอีก

ช่วงนี้มาลา ตั้งใจดีสนิทกับเธอคอยทำเป็นแม่ที่อ่อนโยนและโอบอ้อมอารี ก็ไม่รู้ว่ากำลังคิดวางแผนอะไร อยู่ ยังไงซะเธอก็ต้องระวังตัวให้มากๆ

สําหรับเรื่องที่ยายสมศรีจะเข้ารับการผ่าตัด……

ก็ไปดูหน่อยเถอะ

หยิบโน๊ตบุ๊คออกมา พิงกี้ส่งข้อความไปให้สายฟ้า

[สายฟ้า มะรืนฉันจะไปเยี่ยมยายสมศรที่โรง พยาบาล นายมารับฉันได้มั้ย?

เพื่อป้องกันอุบัติเหตุ เป็นไปไม่ได้ที่พิงกี้จะออกไป เดินเล่นข้างนอกคนเดียว ในท้องยังมีเบบี้ที่น่ารักอยู่คนนึง DNAครึ่งนึงในนั้นเป็นของผู้ชายบางคน ตอนที่มีธุระใช้ คนของเขาหน่อยคงไม่ถือว่าเกินไปมั้ง?

ถึงรู้สึกว่าเธอเกินไปก็อดกลั้นไว้ไ

ชั้นบนสุดของบริษัทข้ามชาติโมเดิร์นกรุ๊ป

สายฟ้ารีบยื่นมือถือไปที่ตรงหน้าของเควิน “เจ้านาย ครับ คุณพิงกี้ติดต่อผมแล้ว บอกว่ามะรืนจะไปเยี่ยมยาย สมศรีที่โรงพยาบาล เจ้านายจะแกล้งทำเป็นไปเจอโดย บังเอิญมั้ยครับ?”
ระหว่างพูด สายฟ้ามองเควินที่สีหน้าเคร่งขรึมด้วย ความเห็นใจมาก

ท่านประธานช่างน่าสงสารจริงๆ

กินเจมาหลายเดือนจวนจะครึ่งอยู่ปีแล้ว ดวงตา หิวจนกลายเป็นตากระต่ายอยู่แล้ว แต่ว่า อยากใช้ชีวิตที่ ภรรยาอยู่ในอ้อมอกยังคงอีกยาวไกล

พวกเขาที่เป็นลูกน้อง จำเป็นต้องช่วยเขาแบ่งเบา ความกังวล และคอยช่วยแก้ไขปัญหา!

เควินที่ชอบได้กินแห้วอยู่ในโรงพยาบาลพยักหน้า “งานของมะรืนเลื่อนถอยหลังไปหมด”

“ครับ!”

สายฟ้าทำความเคารพอย่างทหารด้วยสีหน้าจริงจัง และตอบข้อความพิงกี้อย่างว่องไว แสดงให้เห็นว่าทุก อย่างฟังคำสั่งของนายหญิง

พริบตาเดียว ก็ผ่านไปวันนึงแล้ว มองดูหิมะที่ลอยอยู่ นอกหน้าต่าง พิงกี้ดึงเสื้อกันหนาวขนแกะให้แนบชิดขึ้น
“ดึงด่อง ดึงด่อง”

เสียงกริ่งประตูดังขึ้น

เดินมาถึงหน้าประตู พิงกี้มองตาแมว กลับพบว่าตา แมวถูกคนเอามือปิดไว้

.” เธอก็ไม่ได้เปิดประตู แค่ถามว่า “ใครคะ?”

“ผมเองครับ คุณพิงกี้” พายุพูดเสียงดังอยู่ด้านนอก “ผมมารับคุณพิงกี้ไปที่โรงพยาบาลครับ”

.” พิงกี้กลอกตาขาวทีนึง

ปิดตาแมวไว้ ก็ไม่ใช่เพราะคนบางคนมาด้วยหรอ?

ช่วงนี้เธอไม่ได้มีสีหน้าที่ให้เควินเลย ถึงแม้จะชื่นชม เลือดอันร้อนลุ่มและความเข้มแข็งของเขา แต่ในฐานะที่ เป็นผู้หญิงคนนึง เธอไม่อยากตามใจกับเรื่องที่ผู้ชายชอบ ปิดบังเธอ

และเรื่องของสมุดจดทะเบียนด้วย…..

สรุปก็คือ ต้องดัดนิสัยของเควินสักหน่อย! เปิดประตูออก พิงกี้กำลังอยากพูดจาเหน็บแนมสักหน่อย เควินที่ยืนอยู่หน้าประตูก็เปิดปากพูดซะก่อน ใช้น้ำ เสียงที่เคร่งขรึมมากถามเธอ “ช่วงนี้คนของตระกูลดำรง กูลติดต่อคุณตลอดใช่มั้ย?”

“อื้ม?” ดึงดูดความสนใจจากพิงกี้ได้สำเร็จ “ใช่ค่ะ”

“อยู่ห่างๆจากพวกเขาหน่อย

“……เพราะอะไรคะ?” ถึงจะพูดแบบนี้ แต่พิงกี้ก็ อยากรู้สาเหตุอยู่ดี

เธอก็แปลกใจกับความผิดปกติของมาลาตีมาก ถ้ารู้ เยอะหน่อย ก็สามารถป้องกันตัวได้เยอะขึ้น

“เอ่อ…..มีส่วนเกี่ยวข้องกับงานของผม สรุปก็คือ คุณอย่าใกล้ชิดคนของตระกูลดำรงกูลมาก ในท้องของ คุณยังมีลูกของผมอยู่ ผมไม่อยากให้คุณเป็นเป้าหมาย ของพวกเขาอีก หรือว่าถูกคนใช้เป็นสะพานเชื่อมมาเข้า ใกล้ผม……”

พริบตาเดียวพิงกี้ก็เคร่งขรึมขึ้นมาทันที “คุณเค วิน คุณวางใจเถอะค่ะ ฉันไม่มีทางถูกใช้เป็นสะพานเชื่อม หรอกค่ะ เพราะฉันเองก็จะอยู่ห่างๆจากคุณเหมือนกัน!

ระหว่างพูด เธอก็ยังถอยหลังก้าวนึงเพื่อพิสูจน์ความยืนหยัดของตัวเอง

.” คำพูดติดอยู่ในคอของเควิน

เหอะๆ

พิงกี้หัวเราะอย่างได้ใจทีนึง

อยากดึงดูดความสนใจเพื่อเล่นลูกไม้กับเธอ คุณเค วินท่านประธานใหญ่ยังฝีมืออ่อนไปหน่อยนะ เธอมีอะไรที่ ไม่เคยเจอมาบ้าง?

รู้สึกสดชื่นกระปรี้กระเปร่าไปทั้งตัว พิงกี้ไม่แม้แต่จะ เหลียวมองเควินที่ถูกเมินใส่จนเหมือนน้ำแข็งแกะสลัก เธอเดินออกจากห้องอย่างชิวๆ

มาถึงที่โรงพยาบาล พิงกี้เดินอยู่ด้านหน้า ด้านหลังมี เควินและชายเสื้อดำหลายคนเดินตามหลังอยู่ เหมือนเป็น เจ้าแม่มาเฟียที่มาหาเรื่อง คนที่เห็นไม่มีใครไม่หลีกทาง ให้

พอมาถึงหน้าห้องของยายสมศรี มาลาตีที่เฝ้ารอมา นานเห็นภาพนี้แล้วถึงกับอึ้งจนตาค้าง
คนที่มาเยอะซะขนาดนี้ แผนการของเธอยากที่จะ ปฏิบัติการน่ะสิ!

พิงกี้กลับยิ้ม

ดวงตาที่สวยงามกวาดห้องผู้ป่วยไปทีนึง พบว่าข้าง ในมีคนค่อนข้างเยอะ เธอพูดด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม “วันนี้คน มากันครบจังเลยนะคะ ก็ไม่รู้ว่าเห็นแก่ตระกูลดำรงกูลหรือ ว่าเห็นแก่ตระกูลบุญถาวร

มาลาตีกับชาตรี วันเพ็ญ และหยาดทิพย์ที่เธอเคย เห็นหลายครั้ง แม้แต่ธีระที่ไม่ได้เจอมานานก็ได้มาด้วย

ยากที่จะได้เห็นจริงๆ

“พิงกี้ นี่คุณต้องพูดจาน่าเกลียดขนาดนี้เลยหรอ? ยังไงซะยายสมศรีก็เคยเลี้ยงคุณมา คุณอย่าทำตัว พิเรนทร์ขนาดนี้จะได้ไหม?” ธีระก็ยังมีนิสัยกำกวมเหมือน เดิม ที่ผ่านมาเขาก็ไม่ชอบขี้หน้าพิงกี้อยู่แล้ว เลยพูดออก มาตรงๆเลย

“โถ คุณธีระนี่คือรู้สึกไม่ได้รับความยุติธรรมหรือ คะเนี่ย?” พิงกี้แกล้งทำเป็นประหลาดใจ “คุณมาเป็น ตัวแทนของใครคะ?”
“ผมเป็นตัวแทนของลิสา ทำไมไม่ได้ยังไง?

“คุณไปพัวพันกับลิสาตั้งแต่เมื่อไหร่คะเนี่ย? ตอนนี้ เธอไม่ใช่บ้าไปแล้วหรอคะ?”

“ลิสาไม่ได้บ้า เธอไม่ได้เป็นบ้า!” ธีระทนน้ำเสียง ของพิงกี้ไม่ไหว จึงตะคอกเสียงดังขึ้นมา “พิงกี้ ผมจะ บอกคุณให้นะ ลิสาต้องไม่เป็นไรแน่นอน ผมจะต้องทำให้ เธอไม่เป็นไรแน่นอน!

“เธอไม่ได้บ้าจริงๆหรอ?”

ถูกพิงกี้ย้อนถาม ทันใดนั้นสีหน้าของธีระโมโหจน แดงเถือกขึ้นมา “คุณ คุณ……” เรียกคุณมาครึ่งค่อน วัน สุดท้ายก็พูดอะไรไม่ออก

มองดูปฏิกิริยาของธีระ พิงกี้ที่เดิมทีแค่อยากกวน ประสาทหน่อย นาทีนี้แววตากลับลุ่มลึกขึ้นมา


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ