บทที่261:คนช่วย่อมมีคนชั่วมาปราบ
ลิสาบ้าไปแล้ว ตอนนี้ถูกนำตัวไปส่งที่โรงพยาบาล จิตเวช?
นี่จะเป็นไปได้ยังไง?!
พิงกี้อึ้งจนตาค้าง สีหน้าเต็มไปด้วยความเหลือเชื่อ รู้สึกว่าตัวเองหูฝาดไปแล้วแน่ๆเลย
แต่แล้ว……….
พายุพยักหน้าด้วยสีหน้าอย่างจริงจัง น้ำเสียงแฝง ด้วยการมีความสุขบนความทุกข์ของคนอื่น พร้อมพูด ด้วยอารมณ์คึกคัก “คุณพิงกี้ครับ ผมรู้ว่าผมพูดแบบนี้มัน เหมือนเป็นการซ้ำเติม แต่คุณไม่รู้สึกผลลัพธ์นี้เป็นที่ชอบ อกชอบใจมากเลยหรอครับ?”
“ฉันไม่รู้สึก….”พิงกี้ส่ายหัว “ถึงฉันจะเกลียดลิสา แต่ฉันยิ่งเกลียดชังความรุนแรงของพวกLinkin ส่วนลิ สา…….ถ้าเป็นไปได้ล่ะก็ ฉันยอมที่จะให้เธอสำนึกผิดเอง คิดได้เองว่าเรื่องที่ตัวเองทำมันเลวทรามเกินไป ดังนั้นถึง ได้บ้าเพราะละอายใจ
แต่ไม่ใช่เพราะถูกไอ้สารเลวอย่าง พวกLinkinข่มขืนถึงเป็นแบบนั้น……
” พายุหมดคําพูดจริงๆ เขาพูดด้วยน้ำเสียง ไม่ดี “ขอโทษที่ผมพูดตรงๆนะครับ คุณพิงกี้นี่ฝันกลางวัน ชัดๆ!”
คนอย่างลิสาไม่มีหัวจิตหัวใจ เธอเจ็บไม่เป็นด้วยซ้ำ!
ก่อนหน้านั้นเขาก็ไม่ชอบลิสาอยู่แล้ว ตอนนี้ลิสายิ่ง อยู่ยิ่งเผยธาตุแท้ให้ออกมาเห็นเยอะขึ้น เขายิ่งรู้สึกเธอน่า กลัว แม้แต่ใช้ให้เห็นใจยังเห็นใจไม่ลงเลย……ถ้าเทียบ กับรอยยิ้มที่อ่อนโยน มีความอ่อนช้อยเหมือนดอกบัวขาว แบบเมื่อก่อน ตอนนี้เธอได้ทิ้งความเป็นดอกบัวขาวใสซื่อ บริสุทธิ์ไปหมดแล้ว หัวใจทั้งดวงได้ดำสนิทไปแล้ว
“ฮ่าๆๆ เอาล่ะ…….” พิงกี้เองก็รู้ จึงอดขำไม่ได้ เธอ ได้ถามต่อว่า “ใช่แล้ว นายแน่ใจหรอว่าลิสาบ้าไปแล้ว จริงๆ?”
ทำไมเธอถึงรู้สึกว่าเรื่องนี้มันน่าสงสัยจังเลย
คนอย่างลิสา มีความสามารถในการทนแรงกดดันได้ แย่ขนาดนั้นเลยหรอ?
พายุพูด “ที่จริงก็ไม่ถือว่าบ้าหรอกครับ แค่เป็นโรค ซึมเศร้า โรคหวาดระแวง โรคไบโพล่าร์…….สรุปก็คือ ตอนนี้หมอบอกว่าอารมณ์ของเธอไม่คงที่ ถ้าให้เธอรักษาที่โรงพยาบาลทั่วไป มีความเป็นไปได้ที่จะเกิดเรื่องเหนือ ความคาดหมายต่างๆ ส่งเธอไปรักษาที่โรงพยาบาล จิตเวชจะดีกว่า แบบนี้ก็จะสามารถหลีกเลี่ยงเรื่องเหนือ ความคาดหมายที่ชั่วร้ายด้วย
ที่จริงพูดตามตรงก็คือ กลัวลิสาจะฆ่าตัวตาย
“อืม” พิงกี้แสดงให้เห็นว่าเข้าใจแล้ว
“แล้วคุณว่าจะจัดการลิสายังไงครับ? เจ้านายให้ผม มาถามความคิดเห็นของคุณ เขาบอกแล้วว่าคุณบอกว่าทำ ยังไงก็เอาตามนั้นเลยครับ
“ตอนนี้ปล่อยทิ้งไว้แบบนี้ก่อนเถอะ ยังไม่ต้องจัดการ อะไร ไม่ว่าลิสาจะบ้าจริงๆหรือแกล้งบ้า ตอนนี้ถ้าเราลงมือ กับเธอจะตกเป็นขี้ปากของคนอื่นได้ อีกอย่างฉันก็ไม่ อยากขัดลาภขัดบุญวาสนาของลูกเพราะเธอ แต่ว่า ต้อง คอยจับตาดูลิสาให้ดีๆ เพื่อป้องกันเธอแกล้งบ้าแกล้งโง่ แต่กลับทำเรื่องชั่วร้ายลับหลัง หรือนายคิดว่ายังไง?”
“ผมรู้สึกแบบนี้โอเคมากครับ!” พายุรีบประจบประ แจง และถามด้วยความหน้าด้านอีก “คุณพิงกี้ครับ คุณดู สินี่ก็ผ่านไปหนึ่งสัปดาห์แล้ว คุณจะย้ายกลับไปอยู่กับเจ้า นายเมื่อไหร่ครับเนี่ย? สามีภรรยาแยกกันอยู่นานๆมันไม่ดี นะครับ ผมช่วยคุณดูเจ้านายทุกวันก็เหนื่อยนะครับ คุณไว้หน้าผมหน่อยได้มั้ย ช่วยเฝ้าเจ้านายเองเถอะครับ?”
“เหอะๆ…….” พิงกี้หัวเราะแห้งๆ และรีบไล่คน “ฉันรู้สึกนายกลับไปดีกว่า ไม่ส่งแล้วนะ!
พิงกี้ปิดประตู เธอไม่สนว่าพายุที่อยู่ด้านนอกจะมี สีหน้าขมขื่นไหม นี่ไม่เกี่ยวข้องกับเธอ
ตอนนี้เธอมัวแต่ยุ่งกับการศึกษาก่อนคลอดทุกวัน ไม่มีเวลามาสนใจพายุหรอก
โรงพยาบาลจิตเวช
วันแรกที่ถูกนำตัวมาส่งที่โรงพยาบาลจิตเวช ลิสาม องผู้ป่วยที่ใส่ชุดสีน้ำเงินและเดินเร่ร่อนไปทั่วในโรง พยาบาลจิตเวช จู่ๆในใจรู้สึกอยากท้อถอย มีความคิดที่ อยากจะหันหลังหนีออกไป…….
เธอก็ได้วิ่งจริงๆ แต่ก็ถูกคนที่มาส่งจับตัวกลับมา
อย่างไว
พยาบาลในโรงพยาบาลจิตเวชต่างผ่านมาฝึกฝนมา นาน แต่ละคนล้วนก็ถูกผู้ป่วยจิตเวชที่หลากหลายฝึกฝนจนนํานาญ มีความสามารถในการเข้าป่าไปจับสัตว์ รับมือ กับผู้หญิงที่เพิ่งถูกทำลายล้างอย่างเธอ ย่อมไม่ต้อง เปลืองแรงใดๆอยู่แล้ว
ชีวิตที่อยู่ในโรงพยาบาลจิตเวชไม่ดีเลย
สองวันก่อน เธอฝันพักฟื้นร่างกายให้ดีขึ้น ขอแค่เธอ แกล้งทําเป็นบ้าจริงๆ คนอื่นก็ไม่กล้าทำอะไรเธอแล้ว
มีพยาบาลสองคนรับผิดชอบคอยดูแลเธอ ทายาทํา แผลให้เธอ แม้แต่จุดซ่อนเร้นที่ถูกพวกของLinkin ก็ได้ดูแลหมดเลย การดูแลที่ละเอียดอ่อนทำให้เธอฟื้นฟู ได้เร็วมาก
ร่างกายดีขึ้น เธอก็เริ่มคิดแล้วว่าต่อไปจะทำยังไง
ไม่งั้น หรือเธอจะต้องอยู่ในนี้ตลอดเลยรึยังไง?
เธอคิดแผนตอบโต้อย่างกระตือรือร้น แต่แล้ว ชีวิต ที่มีสติตื่นตัวอยู่ในโรงพยาบาลจิตเวช กลับถูกทำลายใน ยามค่ำคืนหลังจากหนึ่งสัปดาห์ต่อมา
กลางคืน
ลิสากำลังพักผ่อนอยู่ในห้องของตัวเอง จู่ๆเสียงบิดประตูได้ดังขึ้น เธอมองไปการป้องกันตัว นึกไม่ถึงเลยว่า คนที่มาเปิดประตูจะเป็นรองผู้อำนวยการของโรงพยาบาล จิตเวช
รองผู้อำนวยการที่หัวล้านเป็นทรงไข่ดาว สีหน้า กระปรี้กระเปร่า แววตาแค่ดูก็รู้ว่าเป็นเฒ่าหัวง
ลิสาหดร่างกายไว้ด้วยความระมัดระวัง ลืมแม้แต่ แกล้งบ้าและแกล้งโง่ เธอถามเสียงแหลม “แกอยากทำ อะไร?”
“ตะลึงมากเลยหรอ?” รองผู้อำนวยการหรี่ตายิ้มขึ้น มา “มาหาเธอยามดึก เธอว่าฉันอยากทำอะไรล่ะ?”
“แกอย่าเข้ามานะ! ถ้าแกเข้ามาอีก ฉันจะตะโกนเรียก คนมาแล้วนะ!”
“เรียกมาทำไม เรียกมาดูว่าคุณหนูใหญ่แห่งตระกูล ดำรงกูลไม่ได้เป็นบ้าหรอ?” รองผู้อำนวยการปิดประตู รอยยิ้มบนใบหน้าดูบ้ากามมาก ตั้งแต่วันแรกที่เธอเข้ามา ในโรงพยาบาลฉันก็สังเกตุเธอแล้ว เธอมันแกล้งบ้าชัดๆ!
“แก……แกพูดเหลวไหล!” ลิสาตื่นตกใจจนหน้า ซีด “นี่แกแอบสอดส่องฉัน?
“ฉันจะเรียกว่าสอดส่องได้ยังไง? โรงพยาบาลของ เราเพื่อรับผิดชอบต่อผู้ป่วย ได้ใส่กล้องวงจรปิดที่ห้องของ ผู้ป่วยทุกคน เพื่อสะดวกกับสังเกตุเห็นอาการของผิดปกติ ของผู้ป่วย………ฉันสังเกตเธอมาอย่างละเอียดหลายวัน เชียวนะ ถึงได้ข้อสรุปว่าเธอไม่ได้บ้า!”
นั่งลงที่ข้างกายของลิสา รองผู้อำนวยการลูบขาอ่อน เธอด้วยแววตาลามก “แต่ว่า ก่อนหน้าฉันคิดไม่ออกว่า ทำไมเธอต้องแกล้งบ้า มาจนถึงวันนี้ฉันถึงได้แน่ใจเรื่อง นึง และได้รู้ถึงสาเหตุในนั้น
“สาเหตุอะไร?” ร่างกายของลิสาสั่นไหว
เธอมองรองผู้อำนวยการด้วยสีหน้าตื่นเต้น แม้แต่ เสียงก็ยังสั่น ถึงขั้นลืมสะบัดมือของไอ้เฒ่าหัวงูนี้ออก
เธอรู้ว่าในห้องมีกล้องวงจรปิด ดังนั้น ตอนที่เพิ่ง เข้ามาในโรงพยาบาลจิตเวชนี้ เธอระมัดระวังตัวอยู่ทุกวัน กระทั่งถึงขั้นตอนที่อยู่ในห้องคนเดียวยังทำท่าทางที่ผิด ปกติ เพื่อพิสูจน์ว่าตัวเองเป็นบ้า
แต่ว่า ยืนหยัดวันสองวันยังพอได้ หนึ่งสัปดาห์ผ่าน ไป เธอรู้สึกเรื่องมันก็ไม่ได้น่ากลัวเหมือนที่เธอคิด เลย หละหลวมไปบ้าง
เธอคิดไม่ถึงเลยด้วยซ้ำว่าในโรงพยาบาลนี้ยังมีคน อย่างรองผู้อำนวยการด้วย!
รองผู้อำนวยการยิ้มเฮๆ ที่เธอแกล้งบ้า เพราะเธอ ได้เข้าร่วมองค์กรSC และรู้ความลับขององค์กรSC เพราะ เหตุนี้เธอจึงกลัวองค์กรSCจะส่งคนมาฆ่าเธอใช่มั้ย? เพราะยังไงซะก็มีแต่คนตายถึงจะเก็บความลับไว้ได้ คน เป็น…..นั้นมันไม่แน่เสมอไป
อะไรนะ?
ลิสาหยุดหายใจชะงักไว้
สีหน้าเธอซีดเซียวและเต็มไปด้วยความหวาดกลัว และตื่นตกใจ
เขา…….เขารู้ได้ยังไง?
ในความมืดมน มือของรองผู้อำนวยการได้ลูบไล้ขึ้น ไปจากช่วงเอวของลิสา จับกระต่ายขาวทั้งคู่ของเธอ คอย บีบนวดอย่างโหด ส่วนเธอก็ไม่ได้ต่อต้าน
เธอแค่พูดด้วยเสียงสั่น “ถ้า….ถ้าฉันนอนกับแก แก จะให้ผลประโยชน์อะไรกับฉัน?”
“ขอแค่เธอปรนนิบัติฉันดีๆ ฉันเต็มใจที่จะร่วมมือ กับเธอ ฉันคิดถึงเธอมาตั้งนานแล้ว…..” รองผู้อำนวย การเป่าลมไปที่หูของลิสา เสียงหัวเราะเหนียวข้นเหมือน น้ำลายของงู “เบบี้ ของๆฉันไม่เล็กกว่าของไอ้พวกผู้ชาย ยุโรปหรอก รับรองจะทำให้เธอเสียวจนร้องไห้เลย!”
ลิสาไม่ได้พูดอะไร
ร่างกายสั่นไหวแต่ไม่ได้ปฏิเสธ
นอนอยู่บนเตียงแคบๆ ลิสาหลับตาลงด้วยความ
ทรมาน
เธอปล่อยให้ผู้ชายที่น่าขยะแขยงทับร่างกายของตัว เองไว้ ปากที่มีกลิ่นเหม็นบุหรี่จูบอยู่ที่บนเรือนร่างของเธอ กระทู้ที่อุบาทเข้าๆออกๆอยู่ในจุดซ่อนเร้นที่เธอยังพักฟื้น ไม่หาย เธอกัดฟันไว้แน่นเพื่อไม่ให้ตัวเองส่งเสียงออกมา
ดีที่รองผู้อำนวยการเป็นคนที่พูดเป็นแต่ทำไม่เป็น ผ่านไปไม่กี่นาที เจ้านกเขาที่เหนื่อยล้าก็ได้ถอนทัพแล้ว
ตอนที่ถูกพวกของLinkin เธออันตรายถึงขั้น ชีวิต แต่ว่า เธอไม่รู้สึกว่ารองผู้อำนวยการจะกล้าฆ่าเธอ
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ