คุณชายมาดเข้มกับคุณหนูสุดแสบ

บทที่253:หามาถึงที่



บทที่253:หามาถึงที่

“เขาพูดแบบนี้จริงหรอคะ?” พิงกี้ไม่อยากจะเชื่อ

เธอเพิ่งตื่น ก่อนหน้านั้นหาวไปทีนึง ดวงตาคู่ใส สะอาดมีความแวววาว ภายใต้แสงไฟสาดส่อง ราวกับว่า นําตาคลอเบ้า……….

พริบตาเดียว คุณหญิงเพียงดาวก็ได้พาพิงกี้เข้าสู่ตัว ละครที่“ถูกพ่อแม่รังเกียจ” ทั้งเสียใจและน่าสงสารมาก

เธออยากปลอบใจสาวน้อยที่อายุยังน้อยคนนี้ อย่าง น้อยก็พูดความดีของตระกูลดำรงกูลหน่อย เพื่อให้สาว น้อยคนนี้อย่าเสียใจขนาดนั้น แต่ว่า…..เธอก็ห้ามไม่ให้ โกรธไม่ได้อยู่ดี!

คุณหญิงเพียงดาวที่ใสซื่อและอ่อนโยน ที่จริงเป็นคน ที่มีนิสัยตรงไปตรงมาเหมือนกัน

เธออยากให้พิงกี้เห็นธาตุแท้ที่โหดเหี้ยมของชาตรี ภายใต้ความโกรธ เลยไม่ได้คิดจะช่วยชาตรีปกปิดใดๆ แล้ว

“หนูพิงกี้ ป้าจะบอกให้นะ พ่อของหนูมันเป็นตัวเหี้ย ชัดๆ! หลังจากเขาพูดคำพูดนี้ออกมา ป้าก็ช่วยหนูปฏิ เสธไปแล้ว…….พวกเราไม่ได้โง่สักหน่อย จะไปเป็นตัว ตายตัวแทนให้กับลิสาทำไม ถูกมั้ย?พวกเขาเกิดเรื่องก็ไปแจ้งตำรวจสิ! แต่ปรากฏพ่อของหนูบอกว่า ขอแค่หนูยอม ไปเปลี่ยนตัวกับลิสา ทำผลประโยชน์ให้กับตระกูลดำรง กุล ต่อไปก็จะยอมรับหนูเป็นคนของตระกูลดำรงกุล และ จะยอมรับหนูด้วยความจริงใจ…….

“เขายังพูดแบบนี้ด้วยหรอคะ?” พิงกี้ถูกความคิด พิสดารของชาตรีทําเอาช็อคเลย

ตอนที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์ก็เห็นเธอเป็นอากาศ ตอน ที่ต้องการใช้ประโยชน์ ก็เห็นเธอเป็น…..เอาเถอะ ตอน ที่ต้องใช้เธอเป็นประโยชน์ก็เห็นเธอเป็นขยะที่อยากทิ้งก็ สามารถทิ้งได้เลย แถมยังให้คำมั่นสัญญาที่สั่นคลอนเชื่อ ถือไม่ได้ คนของตระกูลดำรงกูลทำไมหน้าด้านขนาดนี้?

พูดอะไรว่าจะเห็นเธอเป็นคนในครอบครัว นึกว่าเธอ จะซาบซึ้งในบุญคุณหรอ?

หรือพวกเขานึกว่าในจุดศูนย์กลางของโลก ทุกคน ต่างก็ต้องฟังคำสั่งของพวกเขา และต้องเอาความคิดของ พวกเขามาเป็นพระราชโองการหรอ?

อย!

นี่เห็นเธอเป็นคนโง่รึยังไงกัน?
“พิงกี้ คุณคงไม่สมองเพี้ยนจะสละชีวิตเพื่อไป เปลี่ยนตัวกับลิสามั้ง? ” ถึงมีความเปอร์เซ็นต์ไม่สูง แต่ เตชิตก็ยังถามออกด้วยความกังวล กลัวก็แต่พิงกี้จะสมอง เพี้ยนแล้วไปตอบตกลงข้อเรียกร้องที่ไร้ยางอายของ ตระกูลดำรงกูล

“คุณคิดว่าฉันโง่หรอ?” พิงกี้กลอกตาขาวทีนึงและ ย้อนถาม

“ฮ่าๆ คุณฉลาดมาก!

ฟังความหมายของพิงกี้ออกแล้ว เตชิตก็พึงพอใจ

แล้ว

เขากลัวก็แต่พิงกี้ขาดความรักจากพ่อแม่ตั้งแต่เด็ก เพราะคำมั่นสัญญาเดียวของชาตรีก็ทำให้เธอโง่ และคิด ใช้ชีวิตของตัวเองไปเอาใจไอ้พวกที่ไม่มีคราบความเป็น คน

“หนูพิงกี้เป็นคนฉลาดมากอยู่แล้ว!” คุณหญิงเพียง ดาวก็พึงพอใจแล้ว ลูบหัวพิงกี้ทีนึงเพื่อเป็นการปลอบใจ

แต่แล้ว ในขณะนี้เอง ด้านนอกมีเสียงอาละวาท โวยวายดังขึ้นมา
“คุณผู้ชาย คุณผู้หญิง พวกคุณเข้าไปไม่ได้นะ คะ..…..

“ทำไมจะเข้าไปไม่ได้? ฉันมาเยี่ยมลูกสาวฉัน ลูกสาวฉันถูกพวกคุณขังอยู่ที่โรงพยาบาลนี้ ยังไม่รู้อาการ เป็นยังไงบ้าง ฉันต้องไปดูให้เห็นกับตาถึงจะวางใจได้! นี่คือเสียงของมาลา

“รบกวนพวกคุณแจ้งก่อนว่าลูกของพวกคุณคือใคร ฉันเช็คให้พวกคุณก่อน รอก่อนค่ะ….คุณผู้หญิง คุณผู้ชาย รบกวนพวกคุณอย่าบุกเข้าไปมั่วชั่วได้มั้ย?”

“ถอยไป!”

“คุณผู้ชายท่าน……..

“ฉันบอกให้เธอไสหัวไป

หลังจากเสียงประตูถูกถีบออกหลายบานติดต่อกัน และเคียงข้างเสียงเกลี้ยกล่อมที่จนปัญญาและโมโหของ พยาบาล ประตูของห้องที่พิงกี้อยู่ก็ถูกถีบอย่างแรง

“ปัง” เสียงนึง บานประตูฟาดใส่ที่ผนัง และส่งเสียงดังออกมา

ในค่ำคืนที่เงียบเหงา แสดงให้เห็นว่าแสบแก้วหูมาก

ชาตรีกับมาลาตีโผล่อยู่หน้าประตูด้วยท่าทางที่ดุดัน ทั้งสองมีสีหน้ากำเริบเงิบสานมาก

โดยเฉพาะมาลา เธอจ้องด้วยสายตาดร้าย สีหน้า เหมือนจะกินคนอย่างไรอย่างนั้น แต่ว่า ตอนที่ทั้งสองเห็น คุณหญิงเพียงดาวกับเตชิตอยู่ ทั้งสองต่างก็รู้สึกอึ้งไป ตามๆกัน

สมกับเป็นไอ้จิ้งจอกเฒ่าที่อยู่ในแวดวงธุรกิจมานาน ชาตรีดึงสติกลับมาได้อย่างไว

ปรับเปลี่ยนสีหน้าไปครู่นึง เขายิ้มและเปิดปากกล่าว คำทักทายกับคุณหญิงเพียงดาว “คิดไม่ถึงว่าจะเจอคุณ หญิงเพียงดาวที่นี่ บังเอิญจังเลยครับ”

“ไม่บังเอิญหรอกค่ะ ฉันตั้งใจมาเยี่ยมหนูพิงกี้ ส่วน พวกคุณ….เหอะคงไม่ใช่มาเยี่ยมพิงกี้ แต่มาพังทลายที่ นี่มากกว่ามั้งคะ? ทำไม ก่อนหน้านั้นที่ฉันพูดกับคุณทาง โทรศัพท์ยังไม่ชัดเจนพอหรอคะ พวกคุณยังจะมาบีบ บังคับให้หนูพิงกี้ไปเปลี่ยนตัวกับลูกเลี้ยงของพวกคุณอีก เหรอ?”
ใครบอกว่าคนใสซื่ออ่อนโยนจะออกสนามรบไม่ได้?

คุณหญิงเพียงดาวโกรธขึ้นมาก็สามารถต่อต้านคน ได้เหมือนกัน!

“ผมจะทำอย่างนั้นได้อย่างไรครับ? ที่จริงผมก็ไม่ ได้บังคับพิงกี้…..” ชาตรียิ่งเจ้าเล่ห์กว่า ส่ายหัวและพูด ด้วยความขมขื่น “พิงกี้ก็เป็นลูกสาวผมเหมือนกัน ผมก็รัก และเอ็นดูเธอเหมือนกัน! แต่แค่…..เฮ้อ~โชคชะตามัน เล่นงานคนครับ!

ถอนหายใจลึกๆทีนึง แววตาที่จนปัญญาและละอาย ใจมองไปที่พิงกี้ “พิงกี้ ลูกมาหาพ่อหน่อยเร็ว พ่อมีเรื่อง จะคุยกับลูกนิดหน่อย เราหาที่เงียบๆคุยกันหน่อย โอเค มั้ย?”

แววตาของเขาเต็มไปด้วยความรักและความเมตตา

ท่าทางนี้ เหมือนว่าเขาเป็นพ่อที่ใจกว้างและมีเมตตา แต่แค่เพราะถูกโลกแห่งความจริงบีบบังคับ ดังนั้นถึงจำใจ ต้องเสนอข้อเรียกร้องให้กับลูกสาวแท้ๆของตัวเอง

ถ้าแววตาของเขาไม่ได้ร้อนรนขนาดนั้น ความขมขื่น บนใบหน้าไม่ได้เฟคขนาดนั้น อาจจะดูสมจริงมากขึ้น แต่ ตอนนี้…..…….….
พิงกี้หัวเราะเย็นชาทีนึง และพูดแทงใจดำ “คุณ ชาตรี ฉันถูกคุณไล่ออกจากตระกูลดำรงกุลและป่าว ประกาศว่าดัดความสัมพันธ์ฉานพ่อลูกกับฉันไปตั้งนาน แล้วไม่ใช่หรอ? ตอนนี้คุณหน้าด้านมาบอกว่าเป็นพ่อของ ฉัน คุณไม่รู้สึกอายบ้างเลยหรอคะ?

ชาตรีหายใจติดขัด

เขามองคนนอกที่อยู่ในห้องผู้ป่วยด้วยความอึดอัด

เตชิตเอามือกอดอก สีหน้ากวนประสาทเหมือน “ฉัน ดูแกแสดง แต่ฉันไม่พูดอะไร” ทำให้ชาตรีรู้สึกกลัดกลุ้ม มาก

ถึงตอนคุยโทรศัพท์ได้ให้คุณหญิงเพียงดาวกับ เตชิตรู้ความคิดของเขาแล้ว แต่คุยโทรศัพท์มันก็คือคุย โทรศัพท์ พอมาพูดต่อหน้าแบบนี้ เขาก็ยังค่อนข้างลดตัว ไม่ลงที่จะมาพูดแบบนี้

กำลังคิดอยู่ว่าจะพูดคำพูดอะไรที่ฟังดูดีแล้วหลอก พิงกี้ออกไป จะได้เกลี้ยกล่อมให้ไปเปลี่ยนตัวกับลิสา

แต่มาลา กลับทนไม่ไหวแล้ว ลูกสาวของเธอกำลัง ได้รับความลำบาก นั่งแพศยาคนนี้กลับยังมายืดเยื้อเวลา อยู่แบบนี้!
มาลา ตะคอกใส่พิงกี้ด้วยความโมโห “พิงกี้ แกยัง มีหัวจิตหัวใจอยู่บ้างมั้ย? พี่สาวแกถูกลักพาตัวไป ตอนนี้ อันตรายมาก แต่แกกลับไม่ร้อนรนใจอะไรเลย นั่งกินนอน สบายใจเฉิบอยู่อย่างนี้ แกไม่รู้จักละอายใจยังไง?”

“ฉันมีอะไรต้องละอายใจด้วย? ที่ฉันเป็นอยู่นี่คือ เรียกว่าชิวๆ? ถ้าลิสาสามารถรอดชีวิตกลับมาได้ล่ะก็ เธอ น่าจะบอกพวกคุณว่าเธอเห็นกับตาว่าฉันที่เจ็บจนเกือบ สลบถูกคุณเตชิตส่งมาที่โรงพยาบาล ตอนนี้อาการของ ฉันไม่ดี สามารถห่วงแค่ตัวเองเท่านั้น!

อะไรเรียกว่า “ถ้าสามารถมีชีวิตรอกกลับมาได้ล่ะ

ไม่ ลิสาของเธอต้องไม่เป็นอะไรแน่นอน!

“แกมีเรื่องอะไร ก็ไม่ใช่แค่เกือบจะแท้งหรอ?ผู้หญิง แท้งลูกจะมีปัญหาอะไร พักผ่อนหนึ่งเดือนก็หายดีแล้ว ไม่ ได้ถึงขั้นเอาชีวิตของแกสักหน่อย! แต่ถ้าแกไม่ไปช่วยลิ สา ถ้าเกิดเธอโรคหัวใจกำเริบแล้วเสียชีวิตจะทำยังไง? มาลาตีโมโหจนตัวสั่น

เธอถึงขั้นนอยากมากระชากมือของพิงกี้และแข็งข้อ พาเธอไป แต่ว่ายังไม่ทันพุ่งมาที่ข้างเตียง ก็ถูกเตชิตขวาง ไว้แล้ว
“คุณหญิงมาลาดี ผมว่าคุณใจเย็นลงก่อน ไม่ งั้น…..ผมไม่ใช่คนที่ไม่ตบตีผู้หญิงนะ!” แววตา แพรวพราวมีเสน่ห์ของเตชิตเต็มไปด้วยความเย็นชา มอง มาลาที่เหมือนมองคนตาย

เดิมทีเตชิตก็ไม่ใช่ผู้ชายจิตใจดีงามอะไรอยู่แล้ว ใน ฐานะที่เป็นผู้นำของหน่วยสืบหมาป่าแดง เขาเคยเอาชีวิต ของพวกอาชญกรไม่รู้ตั้งเท่าไหร่แล้ว

มาลาตีที่อกสั่นขวัญแขวนเผชิญกับแววตาที่เย็นชา ของเขา ราวกับว่าถูกแววตาอาฆาตของเขาทำจนเธอแข็ง ที่อไปทั้งตัว

ร่างกายสั่นไหว มาลาตีที่ถูกทำเอาตกใจทรุดลงกับ

ในเมื่อขายหน้าขนาดนี้แล้ว เธอก็ไม่คิดจะเอาหน้า

พื้น

แล้ว

เธอไม่เชื่อว่าจะบีบบังคับพิงกี้ไม่ได้!

ลุกจากพื้น มาลาตีได้คุกเข่าลงที่ข้างเตียงของ พิงกี้โดยตรง “พิงกี้ ถือว่าแม่ขอร้องลูกล่ะ ลูกช่วยลิสา หน่อยเถอะ ร่างกายเธออ่อนแอ ทนกับความทรมานไม่ได้ หรอก!”
มือที่อยู่ใต้ผ้าห่มของพิงกี้กำลังสั่นไหว

แววตาใสสะอาดทั้งคู่เต็มไปด้วยความไม่อยากเชื่อ แต่ไม่นานก็ถูกความโศกเศร้าและความเยาะเย้ยที่เข้มข้น ปกคลุมไว้

รู้สึกแค่ตลกมาก!

คุณหญิงเพียงดาวก็ตกใจเหมือนกัน ด้วยจิตใต้สํานึก อยากไปดึงมือของมาลาตี และสั่งสอนเธอด้วยความไม่ พอใจ “คุณหญิงมาลาตี นี่คุณทำอะไรน่ะ? คุณคุกเข่าให้ หนูพิงกี้ ไม่กลัวจะไปขัดลาภขัดบุญวาสนาของหนูพิงกี้ หรอ?”

“ยังขัดลาภขัดบุญวาสนาอะไรอีก? ถ้าลิสาตาย ทุก คนก็อย่าอยู่เลย!” มาลาตอดร้องไห้ไม่ได้ มือข้างนึงคอย ปาดน้ำตา มืออีกข้างคอยทุบที่อก ร้องไห้อย่างน่าโศก เศร้า พูดด้วยเสียงสั่น “นั่นคือลูกที่ฉันเลี้ยงมายี่สิบกว่าปี ฉันทรมานหัวใจ! พิงกี้ ลูกไปช่วยพี่สาวลูกหน่อยเถอะ!

ที่นี้ คุณหญิงเพียงดาวก็ไม่รู้จะพูดอะไรแล้ว

รู้สึกแค่ว่ามาลา คนนี้นี่สมองมีปัญหาจริงๆ ลูกสาว แท้ๆของตัวเองไม่รัก แต่กลับไปรักลูกเลี้ยงที่เต็มไปด้วย เล่ห์เหลี่ยม
“ถ้าคุณหญิงอยากคุกเข่าก็ตามใจเธอเถอะ!” เตชิต กลอกตาไปมา แล้วจ้องมองชาตรีและให้คําแนะนําโดย การเหน็บแนม “คุณชาตรี คุณจะคุกเข่ากับคุณหญิงด้วย กันมั้ย? ผมจะบริการถ่ายรูปให้ฟรีเลย จะได้หยุดวินาทีที่ ยากจะลืมเลือนไว้ ต่อพวกคุณจะได้มีภาพแห่งความทรง จําดีๆเก็บไว้ไง”

ชาตรีสีหน้าเปลี่ยนไปทันที “

สุดท้าย เขากลับไม่ได้พูดอะไร

ความหมายชัดเจนมาก เขาก็เต็มใจที่จะเห็นพิงกี้ถูก มาลา บีบบังคับจนจําใจต้องรับปาก แต่ถ้าจะให้เขาขาย หน้าพร้อมกับมาลา เขาทําไม่ได้ เขายังจะเอาหน้าอยู่

วินาทีนี้ คุณหญิงเพียงดาวกับเตชิตยิ่งสงสารพิงกี้ เข้าไปใหญ่

ชาตินี้ต้องเฮงซวยแค่ไหนถึงจะได้เจอพ่อแม่ที่ แยกแยะผิดชอบชั่วดีไม่เป็น

พิงกี้ก็รู้สึกขมขื่นในใจ เธอรู้ตั้งนานแล้วว่าชาตรีกับ มาลาตีลำเอียง โดยเฉพาะมาลาดียิ่งแล้วใหญ่เลย

ถ้าว่าชาตรียังแคร์เรื่องผลประโยชน์อยู่ ขอแค่เธอมีค่ากว่า เขาก็สามารถละทิ้งลิสาได้ แต่มาลา เนี่ยสิหัวใจ ทั้งดวงเทให้ลิสาหมด กลัวแต่ลิสาจะได้รับความลำบาก

ส่วนเธอ เป็นแค่เศษหญ้าที่ไม่มีใครเห็นหัว จะเขียวขจีหรือเหี่ยวแห้งก็แล้วแต่เวรแต่กรรม จะเป็นจะตายร้ายดียังไงก็ไม่เกี่ยวอะไรกับพวกเขา หายใจลึกๆ นิ่ง สงบไปครู่นึง พิงกี้ถึงมองไปที่มา ลาตีด้วยสายตาชิวๆถึงพวกคุณจะไล่ฉันออกจากตระกูล ดำรงกูลไปตั้งนานแล้ว แต่พวกคุณคงไม่มีทางลืมแน่นอน ว่าฉันถึงเป็นลูกสาวแท้ๆของพวกคุณใช่มั้ย?

มาลา ขมวดคิ้ว ไม่รู้ทำไมพิงกี้ต้องพูดให้ไกลจาก ประเด็นเยอะขนาดนั้นด้วย

จะรับปากหรือไม่ ไม่ใช่แค่คำพูดเดียวก็จบหรอ?

ยิ่งยืดเยื้อเวลา ลิสาก็ยิ่งมีอันตราย เหตุผลแบบนี้พิงกี้ ไม่เข้าใจรึยังไง?!

“เอาล่ะ แกอย่าพูดไร้สาระ อย่ามายืดเยื้อเวลาเลย!” เธอพูดด้วยน้ำเสียงหมดความอดทน “ฉันรักเธอกับลิสา เหมือนลูกแท้ๆในไส้เหมือนกัน…..จากใจจริง ฉันหวังให้เธอทั้งสองคนต่างก็อยู่ดีมีสุข ตอนนี้มีสาถูกลักพาตัวไป เธอจะไม่ช่วยไม่ได้นะ! เธอร่างกายแข็งแรงตั้งแต่เด็ก ทน ความลำบากความทรมานได้อยู่แล้ว แถมยังตั้งครรภ์ลูก ของเควินอีก สามารถพูดโน้มน้าวให้คนพวกนั้นเห็นด้วย กับการเปลี่ยนตัวประกันอยู่ มีแต่เธอเท่านั้นที่ช่วยสา ได้!”

“พูดได้ดีมาก รักฉันเหมือนลูกสาวแท้ๆในไส้” พิงกี้ หัวเราะเสียงต่ำ “งั้นฉันอยากถามคุณหน่อย แล้วคุณไม่ กลัวฉันมีอันตรายเลยรึยังไง? ฉันตั้งครรภ์อยู่ คุณไม่กลัว คนท้องอย่างฉันจะเกิดอุบัติเหตุหรือยังไง?”

นี่มีอะไรต้องกลัว?

มาลาตีพูดเหมือนมันก็ควรจะเป็นอย่างนั้นอยู่แล้ว “ลูกในท้องของเธอก็เป็นลูกมารผจญอยู่แล้ว ไม่ควร คลอดออกมา ถึงเธอไม่เกิดเรื่อง ฉันก็จะจับตัวเธอไป ทำแท้งอยู่ดี ถ้าครั้งนี้แท้งไปเลยก็ยิ่งดี จะได้ไม่ต้องมายุ่ง ยาก!”

“ลูกมารผจญ?” พิงกี้แววตาเป็นรูป

“ไม่ใช่ลูกมารผจญแล้วคืออะไร? ลิสาจะแต่งงา นกับเควิน ต่อไปก็เป็นคุณนายอย่างเชิดหน้าชูตา แต่แกที่ เป็นน้องสาวของลิสากลับท้องลูกของพี่เขยตัวเอง ถ้าแกคลอดลูกคนนี้ออกมา ไม่ใช่ให้ตระกูลเราถูกหัวเราะเยาะ ว่าพ่อแม่ไม่สั่งสอนหรอ?”

เธอมีอคติกับพิงกี้ตั้งนานแล้ว แต่แค่หลายปีมานี้เก็บ ไว้ในใจ วันนี้ทั้งร้อนรนใจทั้งโมโห เธอควบคุมไม่ได้เลย ปรี๊ดแตกออกมาเลย

“แกกับลิสาไม่เหมือนกัน แกมันหน้าด้านไร้ยางอาย ตั้งแต่เด็กแล้ว ไม่รู้จักรักนวลสงวนตัว ไม่งั้นก็ไม่มีทางยั่ว จนนายสมคิดจิตใจเคลิบเคลิ้มหลงใหลจนเกือบจะหลงกล แกหรอก!แกไม่เอาหน้า แต่ฉันยังเอาหน้าอยู่ ฉันจะให้แก มาทำลายชื่อเสียงของตระกูลเราไม่ได้! รอให้ครั้งนี้แก ช่วยลิสาออกมาได้ ต่อไปก็กลับไปอยู่ที่บ้านดีๆ พวกฉันจะ เลี้ยงดูแกตลอดชีวิตเอง แกก็อย่าออกมาขายขี้หน้าอีกก็ แล้วกัน!”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ