คุณชายมาดเข้มกับคุณหนูสุดแสบ

บทที่233:ผู้หญิง กูชอบสลบไปแล้ว



“ฟังกี้ พิงกี้เธอตีนส์!”

“พิงกี้ เธอเป็นอะไรไป?! พยาบาล พยาบาล!”

น้ำหวานเขย่าร่างกายของพิงกี้ไปและ ตะโกนเรียกพยาบาลด้วยความร้อนรนใจ

ตะโกนไปสองสามครั้งเห็นไม่มีคนได้ยิน เลยจะออกไปเรียกเอง

ข้างหูได้ยินลางๆว่ามีเสียงคุ้นเคยกำลัง เรียกชื่อเธออยู่ พอลืมตาขึ้นมา สิ่งที่ทำอันดับ แรกก็คือดึงมือของน้ำหวานไว้ และถามอย่าง สติไม่อยู่กับเนื้อกับตัว “น้ำหวาน เมื่อกี้ฉันได้รับ โทรศัพท์สายนึงใช่มั้ย?

เธอร้อนรนใจมาก ในน้ำเสียงแฝงด้วย ความตื่นตระหนก

“ใช่ เธอรับสายแล้วคุยไปครู่นึงก็สลบไป เลย มีเรื่องอะไรรึเปล่า?” น้ำหวานมองเธอด้วย ความกังวล “เป็นเพราะว่าเหนื่อยเกินไปใช่มั้ยหรือว่ามีเรื่องอะไรรึเปล่า?”

มีเรื่องอะไรรึเปล่า?

นึกถึงคำถามนี้แล้ว น้ำตาของพิงกี้ก็ไหลริน ลงมาอย่างไม่ยอมหยุด

เธอไม่มีเวลาตอบคำถามของน้ำหวาน หยิบ มือถือขึ้นมาเช็คประวัติการโทร ยังดีที่เวลาผ่าน ไปยังไม่นาน เธอแค่สลบไปไม่ถึงสองนาที ดู ท่าแล้วเธอแค่วิงเวียนศรีษะเล็กน้อย

“น้ำหวาน ฉันออกไปทำธุระก่อนนะ”

พูดสั้นๆง่ายคำนึง พิงกี้หยิบมือถือไว้ในมือ แล้วพุ่งไปทางประตู

เธอจะไปหาเตชิต

“พิงกี้!” น้ำหวานวางใจไม่ลง ไม่มีเวลา สนใจร่างกายที่ไม่สบายของตัวเอง เธอเองก็วิ่ง ตามหลังพิงกี้ไป
ฟังก็ไม่รู้ว่าน้ำหวานตามมาด้วย เธอเดินไป พร้อมโทรหาสายฟ้าไปด้วย

เพิ่งโทรออก ไม่ถึงสองวินาทีสายฟ้าก็ถาม ด้วยความร้อนรนใจ “คุณพิงกี้ ทำไมจู่ๆถึงวาง สายไป? ฝั่งคุณพิงกี้ไม่ได้เกิดอะไรมั้งครับ?”

“ไม่มีอะไร” พิงกี้ถามด้วยเสียงสั่นไหว “เมื่อกี้นายบอกว่าคุณเควินเกิดอุบัติเหตุ ตอนนี้ ถูกส่งกลับมาอย่างลับๆแล้วใช่มั้ย?”

“ใช่ครับ อาการของเจ้านายตอนนี้แย่มาก ไม่รู้จะสามารถทนได้นานเท่าไหร่ ต้องรีบเข้า

รับการรักษาโดยด่วนเลยครับ”

“อย่าพูดคำพูดอัปมงคล!”

พบว่าอารมณ์ของตัวเองวู่วามเกินไป เธอ กัดริมฝีปากและขอโทษสายฟ้า “ขอโทษ ฉัน อารมณ์วู่วามไปหน่อย เรื่องที่นายพูดมาเมื่อกี้ ฉันจะไปจัดการเดี๋ยวนี้เลย นายพาคุณเควินมา โดยตรงเถอะ ฉันสามารถพูดโน้มน้าวคุณเตชิตได้แน่นอน”

“โอเคครับ งั้นก็รบกวนคุณพิงกี้แล้วนะ ครับ ผมดูเวลาหน่อย….พวกผมน่าจะอีกครึ่ง ชั่วโมงก็ถึงแล้ว ถ้าคุณจัดเตรียมได้ยิ่งไวยิ่งดี เรื่องของเจ้านายต้องปิดเป็นความลับนะครับ”

“คุณเตชิตก็บอกไม่ได้หรอ?”

“คุณเตชิตได้ครับ แต่นอกจากเขาแล้ว ดี ที่สุดอย่าให้รู้จะดีกว่าครับ” สายฟ้าย้ำอีกครั้ง “ไม่ว่าใครก็แล้วแต่

“โอเค ฉันรู้แล้ว!”

หลังจากวางสาย พิงกี้ได้เดินเข้ามาในห้อง ของเตชิต ตอนนี้เป็นเวลาบ่ายโมง เตชิตกำลัง นอนอยู่บนเตียง ในห้องก็มีแค่เขาคนเดียว

ถ้าเป็นปกติพิงกี้ต้องรอให้เขาตื่นก่อนแล้ว ค่อยพูดแน่นอน แต่เรื่องของวันนี้เร่งด่วนมาก จะล่าช้าไม่ได้เด็ดขาด
พิงกี้เดินมาที่ข้างเตียงและเขย่าแขนของ เตชิต พยายามใช้เสียงอ่อนโยนและเบาเรียก เขา “คุณเตชิต คุณตื่นหน่อยสิ ฉันมีเรื่องจะคุย กับคุณ คุณเตชิต คุณเตชิต….”

“คุยๆๆ คุยน้องมึง คุย!

เตชิตถูกรบกวนจนตื่น ตื่นขึ้นมาด้วย อารมณ์ฉุนเฉียว และไม่พูดดีด้วย

แต่ว่า พอเขาลืมตาเห็นคนที่ยืนอยู่ข้าง เตียงคือพิงกี้และสีหน้าที่ร้อนรนใจของเธอแล้ว ถึงจะโมโหแค่ไหน ทันใดนั้นเขาก็เก็บอารมณ์ เอาไว้ แถมยังอึดอัดเล็กน้อยที่ถูกเธอเห็นนิสัย ย่ำแย่ของตัวเอง

“เอ่อ…..แก๊กๆ เธอหาฉันมีเรื่องอะไร?” ขาขยับไม่ได้ เตชิตจึงยักคิ้วแสดงให้พิงกี้รู้ว่า ให้เธอปรับเตียงนอนขึ้น “ปรับให้สูงหน่อย ให้ ฉันได้คุยกับเธอดีๆหน่อย
พิงกี้กัดริมฝีปากไว้ และใช้เวลาอันรวดเร็ว ที่สุดในการปรับเตียง “ฉันไม่มีเวลาคุยกับคุณ นาน คุณเตชิต ฉันอยากขอร้องคุณเรื่องนึง คุณต้องรับปากฉันนะ”

“เรื่องอะไร?” ดวงตาของเตชิตมีเสน่ห์ และเปล่งประกาย เขาชายตามองเธอ “ต้อง ไม่ใช่เรื่องดีแน่ๆเลย ดูหน้าเธอแบบนี้ อยากวาง กับดักอะไรให้ฉันอีกใช่มั้ย?”

“ไม่ใช่ เป็นเรื่องจริงจังค่ะ” พิงกี้มองดู รอบๆ พบว่าไม่มีคนถึงพูดเสียงต่ำ “เกิดเรื่อง ใหญ่กับคุณเควินแล้ว คุณให้เขาเข้ารับการ รักษาที่นี่อย่างลับๆได้มั้ย? ไม่ ไม่ใช่ว่าได้หรือ ไม่ คุณต้องจัดการตอนนี้ เดี๋ยวนี้เลย!”

เควินเกิดเรื่องแล้ว?

พริบตาเดียว สีหน้าของเตชิตเคร่งขรึมขึ้น มาทันที

“ฉันจะจัดการเดี๋ยวนี้เลย!
“ยังมีอีกค่ะ เรื่องนี้จะต้องปิดเป็นความลับ นะคะ หาคนที่เชื่อถือได้ จากนั้น………

“ฉันรู้” เตชิตยื่นมือลูบที่ไหล่ของพิงกี้ เบาๆ “ไม่ต้องเป็นห่วง ฉันจัดการเอง”

..โอเคค่ะ”

เตชิตคนนี้นี่ปกติเชื่อถือไม่ได้อย่างมาก หน้าตาท่าทางเหมือนคุณชายเพลย์บอย แต่ พอจริงจังขึ้นมา ใบหน้าที่หล่อเหลาจนเป็นภัย ทำให้คนรู้สึกวางใจมาก

มองดูเตชิตที่จัดการเรื่องด้วยสีหน้าจริงจัง พิงกี้รู้สึกเหมือนได้รู้จักเขาใหม่อีกครั้งเลย

ใช้เวลาห้านาที เรื่องทั้งหมดก็จัดการเสร็จ เรียบร้อย

วางมือถือลง เตชิตเผชิญกับสายตาที่เหม่อ ลอยของพิงกี้ ขยี้ศรีษะเธอและอดขำไม่ได้ “ทำไม ตอนนี้พบเห็นความหล่อของฉันแล้วใช่มั้ยล่ะ? ฉันจะบอกเธอให้เอาบุญนะ ตอนนี้ถ้า เธอละทิ้งเควินแล้วกลับมาที่ข้างกายฉันก็ยังทัน นะ ฉันยอมให้โอกาศนี้กับเธอ”

เขาเช็ดหน้าพร้อมสีหน้าเย่อหยิ่ง

นาทีนี้พิงกี้ดึงถึงสติกลับมาได้ เธอหัวเราะ เหอะๆ นึง “ถ้าคุณสามารถรักษาผู้ชายของ ฉันหายได้ ฉันจะรู้สึกคุณหล่อกว่านี้นะ”

“ไอ้หัวดอ!”

เวลาไม่รอคน พิงกี้ตัดสินใจเด็ดขาดใน ยามวิกฤติ “งั้นฉันไปก่อนนะ ฉันไปรอพวกเขา ที่ด้านล่าง”

.” เตชิตขมวดคิ้ว

เย็ดแม่ง!

ผู้หญิงคนนี้นี่ข้ามแม่น้ำแล้วรื้อสะพานไว

ชะมัดเลย!
มองดูพิงกี้ใกล้เดินไปถึงประตู สุดท้ายเขา ก็พูดอย่างไม่เต็มใจ “รอก่อน!”

“เธอจะรีบร้อนไปไหน? ฉันยังพูดไม่จบ เลย เมื่อกี้ฉันได้จัดเตรียมให้พวกเขาเข้ามา ทางลับของโรงพยาบาล ประตูนี้คนธรรมดา ไม่มีทางรู้ เธอหาเองก็หาไม่เจอหรอก เอาแบบ นี้ เธอไปรอที่หน้าล็อบบี้ก่อน ฉันให้คนไปหาเธอ แล้วพาเธอไปที่ทางเข้านั้น หลังจากนั้นเธอค่อย ติดต่อคนของเควิน

“ได้ค่ะ”

พิงกี้จะไปอีก ข้างหลังก็มีเสียงของเตชิต ดังขึ้นอีก “รอก่อน เธอจะรีบขนาดนี้ทำไม?

หันหลังกลับ แววตาใสสะอาดเปล่ง ประกายมองไปที่เขา

เธอนึกว่าเขายังมีอะไรจะกำชับอีก แต่คิด ไม่ถึงว่าเขาแค่มองเธอและอ้าปากไว้ ผ่านไป ครึ่งค่อนวันถึงโบกมืออย่างรำคาญ “ไปๆๆ รีบไป อย่ามายืนขวางหูขวางหูตาฉัน!”

“ขอบคุณนะคะ คุณเตชิต”

พิงกี้ปิดประตูแล้วเดินจากไปอย่างเร่งรีบ

ฟังเสียงเท้าที่เดินไปไกล เตชิตชกบนเตียง หนักๆหมัดนึง สีหน้าเต็มไปด้วยความหงุดหงิด

ก่อนหน้านั้นก็เล่นลูกไม้อยากบีบเค้นผู้ หญิงคนนี้หน่อย ครั้งนี้เขาก็มีความคิดที่จะฉวย โอกาศ……….ถ้าเขาใช้เรื่องนี้มาขู่ บอกว่าอยาก ช่วยเควินได้ แต่จะให้เธอไปจากเควินแล้วมาอยู่ กับเขา เธอจะรับปากมั้ย?

เขาไม่รู้

และไม่มีทางตลอดไปแล้ว

เพราะว่า เขาพูดไม่ออก

ยอมจํานนต่อชีวิตแล้ว เขาหยิบมือถือขึ้นมาโทรให้คนลงไปหาพิงกี้ที่หน้าล็อบบี้ พาเธอ ไปที่ทางเข้าลับของโรงพยาบาล

ที่ตระกูลมหาเจริญศิลป์สร้างโรงพยาบาล แห่งนี้ ไม่ใช่เพื่อความสะดวกอย่างเดียว แต่ยัง เอาไว้ใช้ในด้านที่เปิดเผยไม่ได้ด้วย

ทางเข้าลับของโรงพยาบาลแห่งนี้ คนใน ตระกูลมหาเจริญศิลป์ที่รู้ทางเข้าลับนี้แค่หนึ่ง ฝ่ามือก็สามารถนับได้หมดแล้ว วันนี้เพื่อคำขอ ร้องของพิงกี้ เขาได้เปิดเผยทางเข้าลับนี้ให้ พิงกี้ ชีวิตวันข้างหน้าของเขาคงไม่ได้อยู่เย็น เป็นสุขแล้ว

ไม่ได้ลิ้มรสวิชาไม้ตีหมาของพ่อนานแล้ว ครั้งนี้คงจะได้ลิ้มรสอย่างสาแก่ใจแล้ว………

โยนมือถืออย่างหงุดหงิด เตชิตรู้สึกปวดหัว ชิบหายเลยแม่ง!พิงกี้มาถึงหน้าล็อบบี้อย่างรวดเร็ว ไม่นานก็

มีคนเดินมาหา

“สวัสดีครับคุณพิงกี้ เชิญมากับผมครับ”

“ได้ค่ะ รบกวนคุณแล้วนะคะ”

โทรศัพท์ไม่ค่อยสะดวกเท่าไหร่ พิงกี้เดิน

ไปด้วยและแชร์โลเคชั่นให้สายฟ้าไป ดีที่สายฟ้าเคยฝึกฝนมาจากหน่วยสืบลับ

เดิมทีก็ฝึกฝนทักษะเกี่ยวกับการสำรวจเส้นทาง

อยู่แล้ว พิงกี้แค่พูดคร่าวๆ เขาก็ตามหาเจอแล้ว

รถตู้คันนึงที่ไม่คุ้นตาขับมา พิงกี้ที่ยืนรออยู่ ข้างทางหัวใจเหมือนถูกบีบคั้น

รถได้จอดลง สายฟ้าโดดลงมาจากข้างคน ขับ “คุณพิงกี้ครับ”

“เควินล่ะ?” พิงกี้รีบถาม
“ตอนนี้เจ้านายยังไม่เป็นอะไรมาก คุณพิง ก็ไม่ต้องเป็นห่วงครับ” นี่เป็นเสียงของพายุ

เขาโดดลงมาจากท้ายรถของรถตู้ และได้

ยกเปลหามคนเจ็บกับผู้ชายอีกคนออกมา

ตอนนี้ยังไม่ได้เป็นอะไรมาก?

แต่มันก็แค่ตอนนี้หนี่!

พิงกี้รีบพุ่งเข้าไป ตอนที่เห็นคนที่อยู่บน หามเปลคนป่วยเต็มไปด้วยเลือด สีหน้าขาวซีด เหมือนกระดาษ ทันใดนั้นนั้นลมหายใจติดขัด อากาศในรอบๆเหมือนน้ำปรอทที่เข้มข้น ทำให้ เธอมีความรู้สึกเหมือนวิงเวียนและตื่นตกใจจน ใกล้จะขาดอากาศหายใจตาย

หน้ามืดตามัว ร่างกายของพิงกี้แกว่งไปมา เล็กน้อย แต่ดีที่ถูกสายฟ้าประคองตัวไว้ “คุณ พิงกี้ เป็นอะไรมากรึเปล่าครับ?”

“ไม่.พิงกี้พยักหน้า เพิ่งเปิดปากพูดไปแค่คํา เดียวก็สลบไปเลย

เตชิตที่อยู่ในห้องผู้ป่วยฟังคนรายงาน เรื่องนี้แล้วโมโหจนเกือบจะเขยี้วงมือถือทิ้ง เขา ตะคอกใส่คนที่อยู่ในสาย “มาพูดกับกูทำไม แม่ งเห็นเป็นหมอหรือตำรวจรึไง? คนไม่สบายก็ส่ง ไปที่ห้องตรวจโรคสิโว๊ย ยังมาล่าช้าอยู่ทำไม สมองมึงมีน้ำเข้ารึยังไง?”

หลังวางสายก็เขยื้วงมือถือทิ้ง เขายื่นมือ กดกริ่งเรียกพยาบาลอย่างสุดฤทธิ์

รอไปพักนึง กว่าจะรอพยาบาลมาถึงไม่ใช่ ง่ายๆ เขาตะคอกใส่พยาบาลที่เดินเข้ามา “ไป เอารถเข็นของฉันมา ฉันจะออกไปข้างนอก!”

“คุณเตชิตคะ ขาของคุณยังไม่หายดี เลย คุณหญิงบอกว่าคุณยังลงจากเตียงไม่ได้ ค่ะ” พยาบาลเคยเจอศึกเล็ก แต่ศึกใหญ่ขนาด นี้กลับไม่เคยเห็น ได้แต่เกลี้ยกล่อมด้วยความ ระมัดระวัง “คุณมีเรื่องเร่งด่วนอะไรก็บอกกับ196808669_824869985092889_6152921936275768513_n


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ