คุณชายมาดเข้มกับคุณหนูสุดแสบ

บทที่231: หากเทียบกันที่ความหน้าด้าน



มานพจะไปเจาะเลือด ไม่มีเวลามาถือสา กับดุสิต เขาได้แต่เดินตามหลังพยาบาลอย่าง รวดเร็วที่สุด

แต่พิงกี้กลับไม่ยอมลามือง่ายๆ เห็นสีหน้า วิตกกังวลของดุสิต และซินดี้ที่สีหน้าเย่อหยิ่ง แล้ว ทำให้เธอรู้สึกสะอิดสะเอียนมาก เธออ้า แขนออกมาขวางไว้ที่ตรงหน้าพวกเขา

“คุณดุสิต คุณซินดี้ รู้สึกว่าเพื่อนฉันจะเป็น อะไรหรือไม่เป็นอะไรมันก็ไม่เกี่ยวกับพวกคุณ นะ เชิญพวกคุณกลับไปเถอะ!” พิงกี้พูดอย่าง เย็นชา

เธอคิดว่านาทีนี้ คนที่น้ำหวานไม่อยากเจอ ที่สุดก็คงจะเป็นดุสิตนี่แหละ

ทุกสิ่งที่เขาทำ ไม่เพียงแต่ทำร้ายจิตใจเธอ แต่ยังทําร้ายร่างกายเธอด้วย

“รบกวนคุณหลีกทางด้วย!”

คลิตยืนอยู่ตรงหน้าของพิงกี้ แววตาที่กระวนกระวายมองไปที่ข้างหลังของเธออยู่ ตลอด แต่เขาก็ไม่สามารถมองเห็นผู้หญิงที่ ทําให้เขากังวลได้

ใช่แล้ว เธออยู่ที่ห้องผ่าตัด

พยายามรักษาอารมณ์ให้สงบนิ่ง ดุสิตมอง พิงกี้ที่ขวางอยู่ตรงหน้า มือทั้งสองข้างกำหมัด ไว้แน่น ราวกับว่ากำลังควบคุมอารมณ์ที่มันพลุ่ง พล่านและเขย่าอยู่ในใจ เขาพูดด้วยน้ำเสียงสั่น ไหว “น้ำหวานเป็นแบบนี้ก็เพราะผม ผมต้องไป ดูเธอถึงจะวางใจได้ รบกวนคุณหลีกทางให้ผม ด้วย”

“ถ้าแค่ดูก็สามารถวางใจได้ งั้นโลกนี้ก็ ไม่มีเรื่องที่ต้องให้มาเสียใจทีหลังแล้วค่ะ” พิง กี้สายตาเฉียบคม ยิ้มมุมปากอย่างเย็นชา “ถ้า คุณหวังดีกับน้ำหวานจริงๆ งั้นรบกวนคุณพา คนรักใหม่ของคุณไปเดี๋ยวนี้เลย อย่างน้อยถ้า ไม่ได้เห็นหน้าพวกคุณ ตอนที่เธอตื่นขึ้นมาอาจ จะอารมณ์ดีขึ้นมาหน่อย! ถ้าคุณเพื่อให้ตนเอง รู้สึกสงบและสบายใจ งั้นฉันก็ยิ่งไม่มีทางให้คุณพาผู้หญิงแปลกประหลาดคนนี้ไปสร้างความ วุ่นวายให้เพื่อนฉันหรอกค่ะ! อารมณ์ของคุณจะ เป็นยังไงแล้วมันเกี่ยวอะไรกับฉัน?”

“พิงกี้ แกพูดจาระวังปากหน่อย ใครเป็น ผู้หญิงแปลกประหลาด ห้า?” ซินดี้ที่ยืนอยู่ ข้างๆพุ่งเข้ามา ใบหน้าที่สวยสดงดงามเต็ม ไปด้วยความโมโห “ฉันว่าแกมากกว่าที่เป็นผู้ หญิงแปลกประหลาด ฉันเพิ่งกลับมาจากต่าง ประเทศก็ได้ยินชื่อเสียงดีงามของแกว่าไปทั่ว สวาทพี่เขยตัวเอง สุดท้ายก็ถูกตระกูลดำรงกูล เฉดหัวออกจากบ้าน ช่างน่านับถือจริงๆเลย!

เธอแกล้งใช้สายตากวาดมาที่พิงกี้ทีนึง สีหน้าที่ดูถูกโอเวอร์ถึงขีดสุด ราวกับว่าแค่ มองอีกพิงกี้อีกทีก็จะทำให้ดวงตาเธอสกปรก อย่างไรอย่างนั้นเลย

“สิ่งที่คุณสู้ฉันไม่ได้มีเยอะแยะเลย แต่ถ้า เทียบเรื่องความหน้าด้านล่ะก็ คุณเก่งมากจน ฉันเองยังไม่อาจเทียบได้” พิงกี้พูดจาเหน็บแนม กลับ
“ฉันหน้าด้านยังไง? แกพูดมาให้ชัดเจน เลยนะ! ”

ซินดี้พุ่งมาที่พิงกี้ด้วยความโมโห และ ยกมือขึ้นอยากจะตบหน้าเธอ

พิงกี้ก็ไม่ใช่ย่อย ต้องเจอกับเรื่องที่ตบตี อยู่บ่อยๆ เธออยากกันไว้ดีกว่าแก้ ตั้งแต่ถูก นายสมคิดลอบทำร้าย เธอก็ตื้อให้เควินสอนวิธี ป้องกันตัวกับเธอ ฝีมือของเธอถ้าเอามาจัดการ กับซินดี้นี่ไม่มีปัญหาแน่นอน

ยื่นมือออกมาอย่างใจเย็นและล็อคข้อมือ ของซินดี้ไว้ จากนั้นก็พลิกมือเธอมาด้านหลัง ทำเอาซินดี้เจ็บจนน้ำตาไหล ทันใดนั้นเสียงกรีด ร้องของเธอได้ดังลั่นทั้งฟลอร์

“พิงกี้ แกบ้าไปแล้วหรอ? ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้ นะ!”

“แกรู้ว่าฉันเป็นใครมั้ย? ถึงกล้าทำแบบนี้ กับฉัน แกไม่กลัวฉันหาคนมาเล่นงานแกรียังไง?”

ซินดี้ดิ้นรนสุดฤทธิ์ แต่ดิ้นรนยังไงก็ดิ้นไม่ พ้นจากเนื้อมือเธอ

เธออยากขอความช่วยเหลือจากดุสิต แต่ กลับพบว่าดุสิตฉวยโอกาศตอนที่พิงกี้เล่นงาน เธอ เขาได้วิ่งตามไปยังทิศทางที่มานพจากไป แล้ว สีหน้าเหมือนอยากจะเจอน้ำหวานจนอดใจ รอไม่ไหวอยู่แล้ว ทันใดนั้นเธอโมโหจนกัดฟัน แน่น

“พิงกี้ แกต้องเสียใจแน่ที่ทำกับฉันแบบ นี้! “เธอตะคอกด้วยความโกรธ

“บนโลกใบนี้มีคนที่อยากให้ฉันเสียใจ ทีหลังมีถมเถไป ตอนนี้เพิ่มอีกคนจะเป็นไรไป พิงกี้ก็เห็นท่าทีของดุสิตแล้ว แต่กลับไม่ได้ขัด ขวางเขา
เพราะยังไงตอนนี้เขาก็เข้าห้องผ่าตัดไม่ได้ อยู่แล้ว ยังไงก็ต้องรออยู่ด้านนอก

พอซินดี้ได้ลิ้มรสถึงความเจ็บปวดพอ สมควรแล้ว พิงกี้ได้สะบัดมือเธอออกอย่างแรง “ถ้าคุณอยากถูกดุสิตไล่ตะเพิดใส่ งั้นคุณก็ทำ นิสัยแย่ๆเหมือนคุณหนูต่อเลย ตอนนี้เพื่อนฉัน ยังอยู่ในห้องผ่าตัด ฉันจะคอยดูซิว่าเขายังจะ ตามใจคุณอยู่มั้ย?! ”

ซินดี้แค้นอยู่ในใจ แต่ก็ไม่กล้าโวยวายต่อ อีก เธอแค่ใช้สายตาจ้องพิงกี้ไว้ ชัดเจนว่าจะจำ ความแค้นที่มีต่อเธอไว้ในใจ

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป

มองดูมานพที่กำลังจะเจาะเลือดเป็นครั้งที่ สามแล้ว พิงกี้ที่ได้แต่ดูอยู่ข้างๆร้อนรนใจจะแย่ เธอโทรหาคุณหญิงเพียงดาว แต่มือถือของคุณ หญิงเพียงดาวไม่มีสัญญาณ
“พี่มานพ พี่เจาะเลือดอีกไม่ได้แล้วนะ ขืน เจาะอีกร่างกายของพี่จะทำยังไง?” พิงกี้ดึงเสื้อ ของมานพ สีหน้าเขาซีดเซียว ถึงแม้จะกัดฟัน ทนไว้ แต่แค่ดูก็รู้ว่าร่างกายเขาเริ่มไม่ไหวแล้ว

ถ้าขืนช่วยน้ำหวานมาได้ แล้วเขากลับล้ม ไปอีกคนจะทำยังไง?

“แต่ถ้าพี่ไม่เจาะ น้ำหวานจะทำยังไง?” มานพถามกลับ

พิงกี้ “

มองดูมานพที่กำลังยื่นมือออกมาอีก พิง กี้น้ำตาคลอเบ้า มีความรู้สึกเหมือนเกินความ สามารถที่ตัวเองจะทำได้

ในขณะนี้นี่เอง เสียงที่ทำให้เธอดีใจได้ดัง

“พิงกี้!”
มองไปตามเสียง พิงกี้รู้สึกเซอร์ไพรส์มาก

“คุณหญิงเพียงดาว!

คิดไม่ถึงว่าคุณหญิงเพียงดาวจะโผล่มาใน ตอนนี้ ดูท่าเมื่อกี้เธอน่าจะอยู่ชั้นใต้ดินหรืออยู่ ในลิฟท์ เพราะไม่มีสัญญาณจึงโทรไม่ติด

นี่เป็นตัวช่วยสำคัญในเวลาขับขันเชียวนะ!

“น้าเอาถุงเลือดมาแล้ว น้าไม่ได้มาล่าช้า ใช่มั้ย?” คุณหญิงเพียงดาวแค่โบกมือ หมอที่ อยู่ข้างหลังก็ยกกล่องรักษาอุณภูมิสีเทามาตรง หน้า ในกล่องน่าจะเป็นเลือดที่น้ำหวานต้องการ

“ไม่ค่ะ มาได้ทันเวลาพอดีเลยค่ะ!” พิงกี้ รีบพาคุณหญิงเพียงดาวไปทางห้องผ่าตัด และ เอาถุงเลือดให้กับพยาบาล เธอกล่าวขอบคุณ คุณหญิงเพียงดาวด้วยความจริงใจ “วันนี้ต้อง ขอบคุณน้ามากเลยค่ะ! ถ้าไม่ใช่คุณน้า ตอน นี้พวกเราคงยังร้อนรนใจจนทำอะไรไม่ถูกแน่ๆ เลยค่ะ”
“ขอบคุณอะไรกัน นี่เป็นเรื่องเล็กน้อย” คุณหญิงเพียงดาวลูบมือของพิงกี้ “ที่จริงน้า มาเองก็ไม่ได้มีเรื่องอื่นใดหรอก ก็แค่เตชิตลูก น้า เอ่อ….เตชิตกำชับน้ามาว่าอยากให้หนูพูด กับหนูน้ำหวานว่าให้ย้ายไปที่โรงพยาบาลของ ตระกูลเรา หนูวางใจได้เลย โรงพยาบาลของ ตระกูลเรามีแต่จะดีกว่าที่นี่ทุกอย่าง แถมยัง สามารถเตรียมห้องvipไว้ให้หนูน้ำหวานด้วย และไม่ต้องให้พวกหนูออกค่าใช้จ่ายอะไรเลย”

“เอ่อ….. ”

“เตชิตหวังว่าตอนที่หนูอยู่เป็นเพื่อนหนูน้ำ หวาน ก็ไปเยี่ยมเขาหน่อย เขาอยู่ที่โรงพยาบาล คนเดียวน่าเบื่อจะแย่อยู่แล้ว บอกว่าหนูไม่ได้ไป เยี่ยมเขานานมากแล้ว” คุณหญิงยิ้มอย่างอ่อน โยน

รอยยิ้มของเธอละมุนละม่อม หางตามีริ้วรอ ยอ่อนๆ ทำให้เธอดูแล้วยิ่งเป็นคนเข้าหาง่ายขึ้น

“หนูจะลองปรึกษากับเพื่อนดูนะคะ แต่จะ196631201_274253214450180_4350905600654285422_n


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ