บอกว่ารักเธอ แต่มาลาติยอมเอาหัวใจของ
ตัวเองให้เธอมั้ย?
เธอไม่มีทางให้หรอก!
คนเราต่างก็เห็นแก่ตัวกันทั้งนั้น แม้แต่แม่ คนนี้ที่บอกว่ารักเธอนักรักเธอหนาก็เป็นแบบนี้ แน่นอน!
น้ำตาไหลลงมาไม่ขาดสาย ในใจของลิสา เกลียดจนแทบจะหลั่งไหลเป็นสายเลือด!
“คุณแม่คะ อย่าเสียใจเพราะลิสาอีกเลย นะคะ ตอนนี้ลิสาแค่อยากเห็นคุณแม่มีความ สุข ถึงแม้….ถึงแม้ลิสาจะอยู่ทดแทนบุญคุณ ให้คุณแม่ได้อีกแค่สองปี ขอแค่เรามีความสุข ไปตลอด ลิสารู้สึกว่าก็ไม่มีอะไรน่าเสียใจแล้ว ค่ะ….…….”
เก็บความร้ายกาจในแววตาไว้ ถึงแม้ลิสา จะน้ำตาไหล แต่ก็ได้ฉีกรอยยิ้มออกมา ทำหน้า เหมือนผูกพันและคลอเคลียอยู่ในอ้อมอกของ มาลา
“ลิสา ลูกวางใจนะ แม่จะต้องหาหัวใจที่เข้า กับลูกมาให้ได้” มาลาตีเช็ดน้ำตา รับประกัน ด้วยสีหน้าสงสารและเอ็นดูลูกคนนี้ “ลูกเป็น คนดีขนาดนี้ สวรรค์ก็ไม่อาจแข็งใจให้ลูกจาก ไป…….ลิสาเชื่อแม่นะ พวกเราต่างก็ต้องไม่ ยอมแพ้นะ!”
“ค่ะ ลิสาเชื่อคุณแม่ค่ะ”
“แต่ว่า…..” จู่ๆสีหน้าของมาลาตีดูอึดอัด ขึ้นมาทันที “เอ่อ ลิสา คุณพ่อรู้ว่าอาการของ ลูกอยู่ที่นี่ก็ไม่มีวิธีรักษาที่ดีกว่านี้ ก็เลยฟังคำ แนะนำของหมอ พรุ่งนี้ก็เตรียมพาพวกเรากลับ บ้านแล้ว…….”
มือที่วางอยู่บนหัวเข่ากำไว้แน่น
เล็บจิกเข้าที่ฝ่ามือ เล็บมือเปียกชุ่มด้วย เลือดเหนียวข้น ทำให้เธอรู้สึกหัวใจของตัวเองก็ ถลำลึกเข้าไปในดินโคลน
ชาตรี………..
นี่เขาเห็นว่าเธอมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นาน ไม่มี ค่าให้เขาหลอกใช้แล้ว ดังนั้นจึงคิดจะละทิ้งเธอ แล้วใช่มั้ย?
เป็นอีกวันที่เข้าสู่ยามค่ำคืน
สายฟ้ายืนคุยโทรศัพท์อยู่ในมุมเปลี่ยวด้วย สีหน้าเคร่งเครียด
หลังจากวางสาย เขาเตรียมจะไปดูว่าพิง กี้ทำอะไรอยู่หรือว่ามีอะไรจะสั่งการมั้ย จะได้ ตอบข้อความสุดท้ายกลับไปให้เจ้านายตามคำ เรียกร้อง เพิ่งหันหลังเดินมาได้ครู่เดียว ก็เห็น พิงกี้เดินออกมาจากหน้าประตูเหมือนกำลังจะ ออกไปข้างนอก
“คุณพิงกี้ครับ”
“มาพอดีเลย ฉันว่าจะไปหานายอยู่พอดี เลย” พิงกี้ฉีกรอยยิ้มออกมา “เพื่อนฉันคนนึงกลับมาจากต่างประเทศ ฉันจะไปเจอเขาสัก หน่อย นายออกไปกับฉันได้มั้ย?”
‘…..ได้ครับ” ลังเลไปครู่นึง สายฟ้าถึง พยักหน้าแล้วรีบพูดขึ้นมาอย่างเข้มงวด “ตอน นี้หนึ่งทุ่มครึ่งแล้ว เพื่อคำนึงถึงร่ายกายของคุณ พิงกี้ ผมแนะนำให้กลับมาก่อนห้าทุ่ม คุณพิงกี้ คิดว่ายังไงครับ?”
“ลําบากนายแล้วนะ”
พิงกี้ยักคิ้ว และตอบแบบครุมเคลือ
รถวิ่งอยู่บนถนน พิงกี้หลักแหลมพบว่า สายฟ้ามองดูเธอหลายที่ผ่านกระจกมองหลัง เหมือนกำลังคาดเดาอารมณ์เธออยู่
สายตาของสายฟ้ามองมาอีกครั้ง พิงกี้ถาม ตรงๆ “นายมีคำถามอยากถามฉันใช่มั้ย?
” สายฟ้าเงียบไปครู่นึง “คุณพิงกี้ ยังโกรธเจ้านายอยู่ใช่มั้ยครับ?”
เรื่องที่ลิสาส่งรูปบนเตียงก็ผ่านมาสองวัน แล้ว ถึงแม้เขาได้ติดต่อกับเจ้านายในทันทีและ อธิบายให้คุณพิงกี้ทราบแล้ว แต่เขากลับรู้สึก สองวันมานี้คุณพิงกี้ดูเงียบสงบผิดปกติ
เมื่อก่อนเคยมีเพื่อนคนนึงบอกไว้ว่าผู้หญิง ต่างเป็นสิ่งมีชีวิตที่ยุ่งยากที่สุด ถ้าผู้หญิงไม่ สร้างปัญหาก็ไม่ใช่ผู้หญิงแล้ว บางเวลาผู้หญิง รักษาความสงบไว้ชั่วคราว ไม่ได้แปลว่าพวก เธอไม่อยากสร้างความวุ่นวายแล้ว แต่พวกเธอ กำลังออมแรงไว้ทำเรื่องใหญ่………
สายฟ้ารู้สึกว่าอาการของพิงกี้ในตอนนี้ก็ คือแบบนี้เลย เธอกำลังจะระเบิดจากความสงบ แล้ว
“ไม่ใช่” พิงกี้ยิ้มละไม อารมณ์ช่างแปลก
ประหลาด
ถึงจะเศร้าใจเล็กน้อย แต่ก็มีความสุขที่ได้ เจอเพื่อนเก่า
ครึ่งชั่วโมงผ่านไป
มาถึงสถานที่นัดพบ พิงกี้เพิ่งเดินมาได้สอง ก้าวก็เจอร่างเงาสูงใหญ่ที่ยืนรออยู่หน้าประตู
เธอรีบเดินไปทักทายมานพ”
ผู้ชายที่สวมใส่เสื้อโอเวอร์โค้ทสีขาวหัน หลังกลับ เสียงก็ยังอ่อนโยนเหมือนเมื่อก่อนอีก เช่นเคย “พิงกี้ ไม่ได้เจอกันแค่ไม่กี่เดือน สวย ขึ้นตั้งเยอะเลยนะ”
พิงกี้เม้มปากยิ้ม มองผู้ชายตรงหน้าที่ยิ่งอยู่ ยิ่งสุขุม ทันใดนั้นรู้สึกเคืองตาขึ้นมา
“พี่ขอกอดทีได้มั้ย?” มานพอ้าแขนรอด้วย รอยยิ้มอ่อนโยน
“ได้สิคะ”
กอดเบาๆทีนึง ราวกับว่าใกล้ชิดกันมากขึ้น เหมือนไม่เคยจากกันเลย
“ไปเถอะ ขึ้นชั้นบนกัน” กอดเบาๆทีนึง มานพ ได้คลายมือออก
“ค่ะ”
ทั้งสองขึ้นมาชั้นบน เรื่องที่คุยกันคือเรื่อง ของนํ้าหวาน
สองวันก่อนตั้งแต่ออกมาจากบ้านของน้ำ หวาน พิงกี้ก็ได้แจ้งข่าวให้กับมานพทราบเป็น เวลาแรก ไม่ใช่ว่าเธอหักหลังน้ำหวานนะ แต่เธอ รู้สึกว่าเรื่องนี้ถ้าให้มานพจัดการ คงจะดีกว่าเธอ กับน้ำหวานจัดการแน่
อย่างไรเสียมานพกับดุสิตก็เป็นเพื่อนสนิท กัน เขายิ่งเข้าใจความคิดของดุสิตมากกว่า ผู้ชายด้วยกันก็คุยกันเข้าใจง่ายกว่า
ถ้าตอนนี้ปิดเรื่องนี้กับมานพไว้ ถ้าหากเรื่อง นี้จัดการได้ไม่ดี ก็จะทำให้น้ำหวานได้รับบาด เจ็บ สามารถปิดได้ชั่วคราว แต่ไม่สามารถปิด ได้ตลอดชีวิตหรอก
พิงกี้รู้สึก ในเมื่อสักวันมานพก็ต้องรู้ งั้นให้ เขารู้ตอนนี้เลยจะดีกว่า
ถ้าจัดการได้ดีล่ะก็ ทุกคนก็จะดีอกดีใจ
ด้วย
ถ้าจัดการไม่ดีล่ะก็ ถึงความสัมพันธ์ของ มานพกับดุสิตจะกลับไปเป็นเหมือนเดิมไม่ได้ แต่อย่างน้อยน้ำหวานที่อยู่ภายใต้การปกป้อง ของมานพ อาจจะได้รับบาดเจ็บน้อยลงก็ได้
เล่าเรื่องตั้งแต่ต้นจนจบ พิงกี้มองไปที่เขา “พี่มานพ ตอนนี้ฉันคุมอารมณ์ของน้ำหวานให้ คงที่แล้ว เธอรับปากฉันว่าจะไม่ทำอะไรบู่วาม เธอจะคุยกับดุสิตดีๆก่อนแล้วค่อยตัดสินใจ แต่ฉันก็ยังกลัวเธอจะทำเรื่องโง่ๆ เรื่องนี้ต้อง จัดการให้เร็วที่สุด พี่จะนัดเจอดุสิตเมื่อไหร่ คะ?”
“คืนนี้”
“ห้า?” พิงกี้ตั้งตัวไม่ทัน
“อีกสักพักดุสิต มาแล้ว เดี๋ยวเราสามคน
นั่งคุยด้วยกัน”
“ค่ะ……” พิงกี้ตอบตกลง เธอรู้สึกว่าแบบ นี้ก็ไม่เลว
แต่ว่า ยังไม่รอให้ดุสิตมาถึง มือถือของเธอ ก็ดังขึ้น เป็นเบอร์ไม่รู้จักซะด้วย
พิงกี้นึกว่าไอ้พวกโทรมาขายประกัน เธอ ขมวดคิ้วและกดทิ้ง แต่อีกไม่กี่วินาทีมือถือก็ดัง ขึ้นมาอีก
“นี่มันอะไรเนี่ย?” เธอบ่นพึมพำ และหยิบ มือถือขึ้นมา “ฮัลโหล ไม่ทราบว่าใครคะ?”
“ไม่ทราบว่าคุณพิงกี้หรือเปล่าคะ?”
“ใช่ค่ะ”
“ไม่ทราบว่าคุณรู้จักคุณน้ำหวานมั้ยคะ?”
“รู้จักค่ะ” พิงกี้ตื่นตกใจและรีบถาม “มี อะไรรึเปล่าคะ?”
“ดิฉันโทรมาจากทางโรงพยาบาลนะคะ เมื่อครู่ตอนที่คุณน้ำหวานทำแท้งเกิดอุบัติเหตุ ทําให้ตกเลือด ตอนนี้ต้องการให้เลือด แต่กรุ๊ป เลือดของเธอเป็นจําพวกMacacus ทางเรา ไม่มีเลือดนี้สํารองไว้เลย ต้องไปหามาจากโรง พยาบาลอื่น ก็ไม่รู้ว่าจะหาได้มั้ย ตอนนี้อาการ ของเธอค่อนข้างอันตราย รบกวนคุณมาที่โรง พยาบาลหน่อยได้มั้ยคะ?”
พิงกี้แขนขาอ่อนแรงขึ้นมาอย่างควบคุมไม่
ได้ มือทั้งสองใช้แรงยันโต๊ะไว้
เธอหายใจลึกๆทีนึง พยายามทำให้ตัวเอง สงบลงและถาม “รบกวนแจ้งที่อยู่ ตึกไหน ชั้น ไหนมาให้ดิฉันด้วยค่ะ”
จดข้อมูลพวกนี้ไว้ เธอถามขึ้นมาอีก “รบกวนถามหน่อยค่ะ เพื่อนฉันเป็นกรุ๊ปเลือด อะไรคะ? ฉันจะลองหาดู ไม่แน่อาจจะหาเจอ
พิงกี้จดกรุ๊ปเลือดที่ฝั่งนู้นแจ้งมาอีกครั้ง
หลังจากวางสาย พิงกี้คีย์ข้อมูลลงบนโน๊ ตกันลืมของมือถือ พอเงยหน้าขึ้นมาอีกที มานพ ก็ได้นั่งลงมาที่ข้างกายเธอด้วยความกังวลแล้ว เขาสีหน้าตึงเครียดมองเธอไว้ และถามเหมือนมี ลางสังหรณ์ไม่ดี “พิงกี้ เกิดอะไรขึ้น?”
“พี่มานพ…” พูดมาสามคำ เสียงของพิง กี้ก็เปลี่ยนไป เธอจับมือของมานพไว้ น้ำตาที่ กลั้นเอาไว้ไหลลงมาอย่างไม่หยุด “ไม่ต้อง ไม่ ต้องรอดุสิตแล้ว พวกเราไปที่โรงพยาบาลก่อน เถอะ น้ำหวานอยู่ที่โรงพยาบาลแล้ว……. หวาน น้ำหวานทำแท้งไปแล้ว ตอนนี้ตกเลือด อาการ….อาการค่อนข้างแย่……
ยัยโง่!
ยัยน้ำหวาน ทำไมถึงได้ทำเรื่องโง่ๆแบบนี้!
มานพขมวดคิ้ว และลูบที่ไหล่ของพิงกี้เบาๆ
“ไม่เป็นไร น้ำหวานต้องไม่เป็นไรแน่นอน ตอนนี้เราไปที่โรงพยาบาลก่อนเถอะ!”
น้ำชาที่ทั้งสองสั่งยังไม่ทันมาเสิร์ฟ พวกเขา ก็ได้จากไปด้วยความเร่งรีบ
ที่ร้านชาที่พวกเขานัดเจอกันใกล้โรง พยาบาลอยู่แล้ว ห่างกันแค่ไม่กี่ซอย ถ้ารถไม่ ติด ไม่เกินสิบนาทีก็ถึงแล้ว
ตอนที่ออกมาถึงหน้าร้าน พวกเขาได้ พบกับดุสิตที่เพิ่งมาถึง ดุสิตยังไม่ได้กล่าวคำ ทักทาย มานพก็ชกเข้าไปที่หน้าเขาด้วยแววตา เย็นชาแล้ว ชกจนเขาโซเซและล้มลงพื้น
พอดุสิตลุกขึ้นมาอีกที มานพกับพิงกี้ก็ได้
ขึ้นรถและขับออกไปอย่างรวดเร็วแล้ว ราวกับ ว่าหันมามองดุสิตทีนึงก็ทำให้พวกเขาเสียเวลา
อยู่บนรถ พิงกี้ได้ติดต่อคุณหญิงเพียงดาว
ก่อนหน้านั้น เพราะความสัมพันธ์ของเต ชิต เธอจึงติดต่อกับคุณหญิงเพียงดาวอยู่เป็นประจำ
ตอนนี้น้ำหวานต้องการเลือด เธอรู้สึกว่า ตระกูลมหาเจริญศิลป์น่าจะสามารถช่วยเธอหา กรุ๊ปเลือดนี้ได้ ถ้าเธอรบกวนให้คุณหญิงเพียง ดาวติดต่อกับโรงพยาบาลใหญ่ น่าจะทำให้ ระยะเวลาในการได้เลือดไวขึ้นเยอะมาก
เดิมทีให้เควินช่วยเหลือจะดีที่สุด แต่ตอนนี้ ใครใช้ให้เขาไม่อยู่ในประเทศล่ะ?
ตอนนี้แม้แต่อยากหาเขายังไม่รู้จะไปหา
ที่ไหนเลย!
พิงกี้รู้สึกโชคดีที่ตัวเองเรียกมานพกลับ มา ถึงคุณหญิงเพียงดาวจะหากรุ๊ปเลือดของน้ำ หวานไม่ได้ในระยะเวลาอันรวดเร็วที่สุด แต่ก็ยัง มีมานพอยู่ พวกเขาเป็นพี่น้องสายเลือดเดียวกัน กรุ๊ปเลือดก็เหมือนกัน สามารถช่วยให้น้ำหวาน รอดพ้นขีดอันตรายได้ชั่วคราว
เดินมาถึงห้องผ่าตัดที่น้ำหวานอยู่ด้วย
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ