คุณชายมาดเข้มกับคุณหนูสุดแสบ

บทที่150: เกาะขาเจ้านายใหญ่ในอนาคต



ทีนิยายสมศรี งวางใจลงได้สักที “ ในเมื่อ หลานจ๊ดการเสร็จเรียบร้อยแล้ว งั้นครั้งนี้ก็ช่าง มันเถอะ แต่ว่าครั้งหน้ายายจะไม่ทำเรื่องที่มี ผลเสียต่อฟังกี้แล้ว ครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้ายแล้ว จริงๆ !

ลิสา หลานอย่าโทษยายลําเอียงเลยนะ ไม่ ว่ายังไงพิงกี้เป็นคนที่ยายเลี้ยงมากับมือ ความ สัมพันธ์นี้ยายไม่มีทางลืมแน่นอน”

” เสียงของลิสาหวานอย่าง “ลิสารู้ค่ะ” คล้อยตาม แต่ในใจกลับไม่ได้คิดเหมือนที่พูด

“ลิสา หลาน….เมื่อไหร่หลานจะมีเวลาว่าง

น๊า?”

พูดจนไม่มีอะไรจะพูดแล้ว ตอนที่ใกล้วาง สาย ยายสมศรีกลับอดถามคำถามที่เต็มไปด้วย ความคาดหวัง

เธอก็เคยเห็นลิสาแค่ครั้งสองครั้ง เด็กคนนี้ เหมือนสมคิดสมัยเด็กมาก สมคิดไม่เอาไหน แต่เธอยังมีหลานสาวที่แท้ๆที่ได้เรื่อง นี้ถ้าเอาไป พูดถึงไหนเธอก็รู้สึกมีหน้ามีตา

คราวก่อนลิสามาหาเธอ หน้าตาสะสวย งดงาม ดูก็รู้ว่าถูกเลี้ยงมาแบบลูกผู้ดี เธอจำได้ ว่าคนที่ห้องผู้ป่วยต่างก็ชื่นชมเธอมีหลานสาวที่ ทั้งสวยทั้งดี! สายตาเหล่านั้นอิจฉาเธอสุดขีด!

“ช่วงนี้ฉันไม่ว่าง ก็ไม่ไปเยี่ยมยายแล้ว ถ้า ยายอยากกินอะไรก็ให้พิงกี้ไปซื้อให้ยายเลย บอกเธอว่าอย่าประหยัด ฉันก็ไม่ให้พิงกี้เสียเงิน ฟรีๆหรอก รอวันเกิดเธอฉันจะมอบกระเป๋าแบ นรด์รุ่นลิมิเต็ดให้เธอ เอาที่ใบหน้าหลายแสน แบบนั้น ถือซะว่าตอบแทนน้ำใจที่พิงกี้ช่วยฉัน ดูแลยายนะ”

“ดีๆๆ” นอกจากพยักหน้า ยายสมศรีไม่รู้ ว่ายังจะพูดอะไรได้อีก

พอเธอพูดต่ออีกคำกลับถูกตัดสายทิ้งแล้ว ลิสาวางสายอย่างรำคาญ
“เด็กคนนี้นี่” ได้แต่ส่ายหัวและปน ยาย สมศรีเดินกลับไปที่ห้องผู้ป่วย ใบหน้ามีรอยยิ้ม อ่อนๆ

ต่อไปเธอทำดีกับพิงกี้หน่อยจะดีกว่า เด็ก คนนี้เป็นเด็กที่ชีวิตรันทด แม้จะรู้ว่าลิสาถึงจะ เป็นหลานสาวแท้ๆของเธอ แต่เธอก็ลำเอียงไม่ ได้ ถึงเธอจะแก่แต่ก็ยังถือว่ามีจิตใจที่ดีงามอยู่ ถึงจะลำเอียงก็ต้องเอียงมาข้างพิงกี้สิ

“เจ้านายครับ ณรงค์กรยัง ไม่ยอมเปิดปากพูดผู้บงการอยู่เบื้องหลังที่แท้ จริงคือใคร ตอนนี้เราจะทำยังไงดีครับ?”

เปิดประตู พายุเกาศรีษะอย่างจนปัญญา

สอบสวนเรื่องของณรงค์กรนี้ เขาเป็นคน สวบสวนเองเลย

เขารู้สึกก่อนหน้านั้น ถึงแม้ณรงค์สารภาพ ว่ามีจิ๊กโก๋คนนึงบีบบังคับเขา แต่จิ๊กโก๋คนนี้ไม่ ได้มีความแค้นอะไรกับพิงกี้เลย และไม่มีผลประโยชน์ขัดแย้งกัน ทําไมต้องลงมือกับพิงกี้ ให้ได้?

นี่มีเงื่อนง่าอย่างชัดเจนมาก!

เขาส่งคนไปจับจิ๊กโก๋นั่น คิดไม่ถึงคนอื่น เหมือนรู้ว่าจะเกิดเรื่องยังไงอย่างงั้น ได้หลบ ซ่อนไปตั้งนานแล้ว เรื่องยิ่งน่าสงสัยเข้าไปอีก! แต่ตอนนี้เหลือแค่ณรงค์กรคนเดียว ย่อมปล่อย ไปง่ายๆไม่ได้อยู่แล้ว ต้องถามให้ได้ความหน่อย ถึงจะยอม

แต่แล้ว ที่ทำให้เขาคิดไม่ถึงคือ ผู้ชายที่ดู เรียบร้อยมีมารยาทคนนี้กลับปากแข็งเหมือน ดอนหอยหลอด ถูกเฆี่ยนจนเนื้อฉีกหนังถลอก แล้ว จวนจะเหลือแค่ลมหายใจเฮือกสุดท้ายแล้ว ยังหัวดื้อขนาดนี้อีก

“เขายังไม่พูดอีก?” เควินดึงสายตาที่มอง นอกกระจกกลับ ค่อยๆหันหลังกลับ

“ไปเถอะ ฉันลองไปดูหน่อย
“ได้ครับ!” พายุมีอาการซึมเศร้า

เขารู้สึกงานของตนเองจัดการไม่เสร็จ ยัง ต้องมาให้เควินกังวลอีก ก็เพราะเขาไร้ความ

สามารถ

“ใช่แล้ว ฉันจำได้ว่าณรงค์กรมีน้อง ชายคนหนึ่งใช่มั้ย?” จู่ๆเควินถามขึ้นมา

“สถานการณ์ของน้องชายเขา

นายกุมสถานการณ์ได้ยังไงบ้าง?

พายุสายตาเปล่งประกาย “เจ้านายครับ ความหมายของเจ้านายคือพวกเราสามารถ ขู่เข็ญเขาผ่านน้องชายเขาใช่ไหมครับ?”

“ถ้าเขาแคร์น้องชายเขามากเหมือนที่พูด เอาไว้ งั้นก็ไม่ต้องกลัวว่าจะทำให้เขาเปิดปาก พูดไม่ได้” เควินพูดด้วยเสียงเย็นชา พร้อมยิ้ม มุมปากเล็กน้อย “ครับ!งั้นผมจะไปจัดการเดี่ยว นี้เลยครับ! ”
“รอก่อน!” เควินเรียกพายุที่กำลังจะไป

ระดมคนไว้และถาม

“สองวันนี้เบอร์หนึ่งได้ส่งข่าวอะไรกลับมา

มั้ย?”

เบอร์หนึ่งกับเบอร์สองต่างเป็นบอดี้การ์ดที่ เควินสั่งการให้ไปคุ้มกันพิงกี้

ปกติทุกวันเบอร์หนึ่งจะต้องรายงาน

สถานการณ์ของพิงกี้มาที่พายุ ถ้ามีสถานการณ์ ผิดปกติ พายุก็จะรายงานให้เควินทราบ

“ไม่ได้ส่งข่าวมาครับ ได้ข่าวว่าทุกอย่าง

ปกติครับ ” พายุส่ายหัว

“สองวันนี้เธอทำอะไรอยู่บ้าง?

“รู้สึกว่าไปเจอเพื่อนคนหนึ่ง จากนั้นก็ไป เยี่ยมยายสมศรีที่โรงพยาบาลมาหลายวัน ไม่ได้ มีเรื่องอื่นใดนอกเหนือจากนี้ครับ”
“ไม่ได้ติดต่อกับผู้ชาย

“น่าจะไม่มีครับ เนื้อหาที่เบอร์หนึ่งรายงาน ไม่ได้พูดถึงครับ”

“อืม” เควินสีหน้าพอใจอย่างยิ่ง คิด ไตร่ตรองเงียบๆอยู่ครู่นึงแล้วพูด สามารถ แนะนำงานลูกค้าใหม่หลายคนให้เธอได้ เธอไม่ ชอบอยู่เฉยๆ งั้นก็หางานให้เธอทำหน่อยก็แล้ว กัน”

พายุอึ้งจนอ้าปากค้าง “แต่ว่างาน ออกแบบขนาดเล็กแบบนี้ บริษัทเราไม่ได้ทำ เลยนี่ครับ บริษัทในเครือของเรามีก็มีแต่งาน ออกแบบขนาดใหญ่ ที่อย่างน้อยก็ระดับหลาย ร้อยล้าน……..

งานออกแบบที่ขนาดเล็กระดับหลักล้าน ในสายตาของโมเดิร์นกรุ๊ป นั่นเป็นแค่เศษเสี้ยว จริงๆ

“ไม่มีโอกาศ งั้นสร้างโอกาศไม่เป็นไง?
พายุ

เควินหรี่ตาเล็กน้อย ได้แต่พูดให้ระเอียด ยิ่งขึ้น “ไปซื้อร้านค้ามาสักสี่ห้าร้าน นายก็คอย ดูจะจัดการยังไง

เอาออกแบบตกแต่งมอบให้เธอทำหมด

“ครับผม!” พายุรีบตอบเสียงดัง เขารู้สึก ว่าถ้าเขาจัดการสองเรื่องนี้ได้ไม่ดี ตำแหน่งของ เขาก็จะเริ่มสั่นคลอนยังไงไม่รู้!

เอางี้มั้ย…….ไปเลียแข้งเลียขาคุณพิงกี้

ล่วงหน้าก่อนดีมั้ย ให้เธอช่วยพูดและออกหน้า แทนหน่อย?

เกาะขาเจ้านายใหญ่ในอนาคตต้องมั่นคง

มากแน่ๆเลย?

พายุคิดคำนวนแผนเล็กๆอยู่ในใจไปด้วย และวิ่งออกไปอย่างไวด้วย
พิงกี้กลับถึงบ้าน นอนเป่า

แอร์อยู่บนเตียง

พรุ่งนี้เธอไม่ไปโรงพยาบาลแล้ว เรื่องบาง เรื่องเธอมีแผนอยู่ในใจ

เธอก็คิดดดีแล้ว ไม่ว่าจะยังไงเธอจะต้อง ตรวจสอบให้มันกระจ่างแจ้ง

ถ้าเทียบกับว่ามานั่งคาดเดาไปคิดวนมา อย่างทรมานอยู่คนเดียว สงสัยไอ้นี่สงสัยไอ้นั่น สู้หาคำตอบที่กระจ่างแจ้งดีกว่า ถึงแม้คำตอบนี้ จะทำให้เธอเจ็บจนเลือดอาบ นั่นก็เป็นกระบวน การที่ต้องผ่าน

เธอจะกลัวไม่ได้ จะลังเลไม่ยอมก้าวไปข้าง หน้าเพราะกลัวไม่ได้ ถ้าเป็นอย่างนั้นจะทำให้ เธอถูกคนรอบข้างทำร้ายโดยที่ป้องกันตัวไม่ได้ และจะยิ่งโจมปักเข้าไปในอันตราย

“ดิ้ง” เสียงข้อความดังขึ้น
ฟังก์พลิกตัวกลับมาหยิบมือถือดู คนที่ลง ข้อความมาคือจิ้งจอกลับ (เธอเกิดเรื่องอะไร ตอนนี้เคลียร์จบหรือยังครับ? ข้อความนี้น่าจะ ส่งให้น้ำหวาน

ก่อนหน้านั้นตอนที่เกิดเรื่อง น้ำหวานเคย ล็อกอินเข้าสู่ระบบของเธอติดต่อกับจิ้งจอก ลับ อยากให้จิ้งจอกลับช่วยพลิกเปลี่ยนกระแส เหมือนคราวก่อน แต่จิ้งจอกลับไม่ได้ตอบกลับ ลิกที

เธอนึกว่าจิ้งจอกลับจะไม่เอ่ยถึงเรื่องนี้แล้ว คิดไม่ถึงว่าเขายังจำใส่ใจอยู่ เห็นได้ว่าเขาเป็น คนมีน้ำใจมาก มันก็ใช่น้อรู้จักกันมาหลายปี ที่ ผ่านมาจิ้งจอกลับเป็นคนเชื่อใจได้ ไม่ว่าทำเรื่อง อะไรก็มีความรับผิดชอบมาก

คิดถึงจุดนี้แล้ว พิงกี้ยิ้มแฉ่งเลย

เธอตอบกลับ (ฉันไม่เป็นไรค่ะ ตอนนี้ สบายดี ว่าแต่หลายวันมานี้คุณไปนอกโลกมา หรอคะ?]


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ