คุณชายมาดเข้มกับคุณหนูสุดแสบ

บทที่ 462: เอือมระอา



บทที่ 462: เอือมระอา

เสียงข้อความนี้ไม่ถือว่าดัง แต่ในขณะที่พิงกี้กับเค วินเงียบกริบ กลับเหมือนเสียงฟ้าผ่าดังเปรี้ยงลงมา

หยิบมือถือขึ้นมาดูคร่าวๆแว๊บหนึ่ง เควินเปิดปาก พูด “หลักฐานที่คุณอยากดูมาแล้ว”

พิงกี้รู้สึกตื่นเต้น

เธอเดินมาที่ตรงหน้าของเควิน อยากเอามือถือ ของเควินมา เควินกลับดึงมือกลับ “แค่ส่งข้อความมาบ อกผมว่าข้อมูลส่งมาทางอีเมล์แล้ว ถ้าคุณอยากดูล่ะก็ มานี่”

พอพูดจบ เขาก็เดินไปนั่งลงที่โต๊ะอ่านหนังสือ

พิงกี้หยุดไปครู่นึง จากนั้นก็เดินตามหลังเขาไป

เรื่องที่เกี่ยวข้องกับน้ำหวาน แถมยังเป็นเรื่องร้าย แรงขนาดนี้ เป็นไปไม่ได้ที่เธอจะไม่เป็นห่วง

ยืนอยู่ที่ข้างกายของเควินอย่างหัวใจวุ่นวายสับสน พิงกี้โน้มตัวลงไปดูในขณะที่เขาเปิดดูอีเมล์ กลับถูก ฝ่ามือใหญ่ของเควินดึง และนั่งลงไปที่ตักเขาโดยตรง

“ดูแบบนี้สะดวกกว่า” เขาพูด

” ..ค่ะ” ตอนนี้พิงกี้ไม่มีกะจิตกะใจไปสนใจอย่างอื่นแล้ว

เธอก็ถือซะว่าท่านประธานเป็นโซฟาที่นุ่มนวลตัว หนึ่งก็แล้วกัน พูดตามตรง นั่งแล้วนิ่มและสบายดีแฮะ แต่ถ้าหน้าร้อนนั่งก็จะร้อนไปหน่อยอยู่

เกี่ยวกับข้อมูลของตระกูลภักดีวัฒนากุล สายฟ้า เป็นคนส่งมา

สายฟ้าอยู่ในหน่วยสืบลับมีชื่อว่าอินทรีแดง เมื่อ ก่อนพิงกี้ก็รู้แล้ว นาทีนี้เห็นคนที่ส่งอีเมล์มาคืออินทรี แดง ก็รู้เลยว่าสายฟ้าที่ช่วงนี้หายตัวไปคือไปสะกดรอย ตามเรื่องของตระกูลภักดีวัฒนากุล

ถ้าไม่ใช่เห็นข้อมูลชุดนี้ เธอยังนึกว่าสายฟ้าไป ตามจีบAliceซะอีก

แต่ว่า นี่ไม่ใช่จุดสำคัญ

พอดาวน์โหลดข้อมูลของอีเมล์เสร็จ พิงกี้รีบกด เข้าไปดูด้วยความใจร้อน ตอนนี้ที่เธอเป็นห่วงที่สุดก็คือ เรื่องของน้ำหวาน

ความสามารถของสายฟ้าไม่เลว ถ้าคนทั่วไปอาจ จะตรวจสอบไม่เจออะไร แต่ภายใต้การสะกดรอยตาม ของเขา ข้อมูลที่เกี่ยวกับตระกูลภักดีวัฒนากุลทั้งระ เอียดและชัดเจน ในไฟล์งานไม่เพียงแต่มีการรายงานของตัวหนังสือที่ยาวเหยียดยี่สิบกว่าหน้า แต่ยังมีรูป ถ่ายหลายร้อยรูปด้วย

พิงกี้ไม่ได้ดูเนื้อหาของตัวหนังสือเลย นาทีนี้ อารมณ์ของเธอขึ้นๆลงๆก็อ่านไม่เข้า เอาไฟล์งานที่เปิด ออกมาทิ้งไปข้างๆก่อน เธอเริ่มกดเข้าไปดูรูปถ่าย

รูปถ่ายที่สายฟ้าส่งมาคือเรียงตามวันเวลา และลำดับของเรื่อง ตระกูลภักดีวัฒนากุลติดต่อกับ องค์กรSCหนึ่งครั้งก็ถือว่าเป็นหนึ่งเรื่อง ปกติถ้าสายฟ้า อยู่ข้างนอกพบเห็นพวกเขามีร่องรอยอะไรก็ถือว่าเป็น หนึ่งครั้ง ในไฟล์งานใหญ่ได้แยกไฟล์งานเล็กๆหลาย ไฟล์งาน ได้ทำเครื่องหมายของสถานที่และเวลาที่ เฉพาะเจาะจง

พิงกี้กดเข้าไปที่ไฟล์งานแรก กดแป้นพิมพ์อย่าง เร็วและดูรูปถ่ายพวกนี้อย่างคร่าวๆ ค่อนข้างที่จะสติไม่ อยู่กับเนื้อกับตัว แต่มีชั่วขณะหนึ่งจู่ๆเธอใจสั่น ราวกับ ว่าเห็นร่างเงาที่คุ้นเคย ทันใดนั้นท่าทางที่กดปุ่มขวา อย่างไม่หยุดได้นิ่งค้างไว้

พอเธอกลับไปที่รูปก่อนหน้านั้น ตอนที่เห็นน้ำ หวานที่ทั้งทำให้เธอรู้สึกคุ้นเคยและแปลกหน้า ถึงจะ เตรียมใจมาดีแค่ไหน แต่ก็ยังถอนหายใจแรงๆไปทีหนึ่ง ในใจรู้สึกซ้อนซ้อน
เล็บจิกเข้าไปที่ฝ่ามืออย่างแรง ความเจ็บปวด ทำให้สมองที่ขมุกขมัวของเธอตื่นตัวขึ้นเยอะ

เม้มปากไว้ พิงกี้ดูต่อไป

ดูไฟล์งานทั้งหมดจนจบ เธอพบว่าเหมือนที่เค วินพูดเป๊ะๆเลย น้ำหวานเข้าไปมีส่วนร่วมกับการทำ ค้าขายของตระกูลภักดีวัฒนากุลและองค์กรSC

ยังไม่พูดถึงอย่างอื่น แค่พูดถึงเฉพาะในรูปพวกนี้ มี ร่างเงาของน้ำหวานโผล่มาหลายครั้งมาก นี่ก็เพียงพอที่ จะแสดงให้เห็นว่า เธอไม่ได้ไปในฐานะเพื่อนติดตาม เท่านั้น แต่เธอได้เข้าร่วมจริงๆ เป็นตัวแทนไปพูดคุย เจรจากับองค์กรSCแทนตระกูลภักดีวัฒนากุลอยู่เป็น ประจำ แม้กระทั่งยังช่วยเซ็นต์สัญญาแทนด้วย

ทำไมถึงเป็นแบบนี้?

พิงกี้ไม่เชื่อ ไม่เชื่อจากใจจริงเลย

นอกเหนือจากรูปถ่าย และแฟ้มเอกสาร……..ใช่ ในแฟ้มเอกสารอาจจะมีพลิกผันล่ะ? ราวกับว่าเธอจะ ค้นหาที่พึ่งสุดท้ายโดยการเปิดแฟ้มงาน อ่านรายงาน ที่ทำให้เธออ่านไม่เข้าสมองใหม่อีกครั้ง ถึงแม้เธอเองก็ เข้าใจว่ามันก็แค่ความหวังลมๆแล้งๆ

หลังจากดูจบ เธอหลับตาลง ร่างกายหมดแรงอยู่บนตัวของเควิน เหมือนแรงทั้งหมดถูกดูดออกไปจากตัว หมด

“ทำไมถึงเป็นแบบนี้?” เธอพูดพึมพำ

เหมือนกำลังถามตัวเอง และเหมือนกําลังถามเควิน

ด้วย

มือที่เควินกอดเธอไว้ได้กอดแน่นขึ้น เพื่อให้เธอ ไม่ถึงกับหล่นล่วงลงไป เสี้ยงทุ้มต่ำสงบเหมือนเคย “สิ่งแวดล้อมมีผลกระทบกับคนไม่บอกว่าไม่เยอะก็ไม่ ได้ นอกเหนือจากนี้แล้วยังมี…..ความรัก ตอนนั้นที่น้ำ หวานได้เลือกดุสิต คุณก็น่าจะรู้แล้วว่ามีเปอร์เซ็นต์สูง มากที่เธอจะทำแบบนี้”

ถึงแม้บางทีเขารู้สึกเอือมระอากับผู้หญิงที่บ้าคลั่ง และขาดสติเพราะผู้ชาย แต่ก็ปฎิเสธไม่ได้ว่าความรัก สามารถทำให้คนตาบอดจริงๆ ถึงแม้กับเขาเองก็ไม่ ยกเว้น

น้ำหวานรักดุสิตมาก ส่วนดุสิตก็ถลำลึกเข้าไปใน ดินโคลนของตระกูลภักดีวัฒนากุล

เธอจะสามารถเลือกยังไง?

เลือกที่จะตัดขาดกับดุสิต หรือว่าเลือกที่จะร่วม กันก่อกรรมทำเข็ญกับตระกูลภักดีวัฒนากุล เห็นได้ชัดมาก ตอนที่อยู่ออนเซ็นน้ำหวานก็ได้เลือกแล้ว

ตอนนั้นน้ำหวานจากไปอย่างเงียบๆ ตอนจบของ วันนี้ อยู่ในการคาดเดาของเควินตั้งนานแล้ว

ก็เพราะเหตุนี้ เขาจึงไม่รู้สึกแปลกใจ

พอนึกถึงตอนนั้น เพื่อช่วยให้น้ำหวานหลุดพ้นจาก ตระกูลภักดีวัฒนากุล เขาได้สร้างโอกาศไว้เป็นชุด แม้ กระทั่งเอาการเตรียมการขอแต่งงานกับพิงกี้ ที่ใช้ใจทำ มากรวมเข้าไปด้วย สุดท้ายดุสิตก็ยอมปล่อยมือแล้ว แต่น้ำหวานกลับยังใจอ่อนวิ่งตามดุสิตไปอีก นึกๆแล้ว เขาก็โมโห

พูดตามตรง สำหรับผู้หญิงอย่างน้ำหวาน เขาดูไม่

เข้าตาจริงๆ

ไม่เพียงไม่มีตา แต่ยังไม่มีมันสมองด้วย!

“ไม่ ฉันก็ยังไม่เชื่ออยู่ดี” พิงกี้ส่ายหัวอย่างดื้อ

ด้าน “ถ้ามีโอกาศฉันอยากถามเธอดูด้วยตัวเอง ดู ซิว่าเธอพูดยังไง มีเรื่องลำบากใจอะไรหรือเปล่า เค วิน…..ฉันไม่เชื่อจริงๆ!

หันหน้าไปมองเควิน ดวงตาใสสะอาดของพิงกี้มี หมอกเมฆชั้นบางๆลอยขึ้นมา เอ่อล้นออกมาจากดวงตา ด้วยความเร่งรีบ
“คุณยังไม่เชื่ออีก?”

“ถึงหลักฐานที่มัดตัวจะแน่นหนาขนาดนี้ แต่บางที เห็นกับตาก็อาจจะไม่เป็นความจริงก็ได้ ไม่แน่เรื่องมัน อาจจะไม่เหมือนที่เราคิดล่ะ?” พิงกี้ยืนหยัด

“.……………….” เควินไม่ได้หักล้าง แค่พูดอย่างราบเรียบ “งั้นก็ตั้งหน้าตั้งตารอดูเถอะ”

พิงกี้ยังอยากถาม “แล้ว…….

“ผมสามารถอำนวยความสะดวกให้คุณได้บ้าง ให้คุณมีโอกาศได้พูดคุยกับเธอ แต่ด้านที่เกี่ยวข้องกับ โทษผมจะไม่ละเว้น ยิ่งไม่ให้เธอหลุดพ้นด้วย” ไม่ว่าพิง กี้จะเปิดปากหรือไม่เปิดปาก เควินก็ได้พูดดักทางของ เธอไว้หมดแล้ว “แน่นอน ถ้ามีวันไหนที่เธอสามารถ พิสูจน์ว่าเธอเป็นผู้บริสุทธิ์จริงๆ ผมก็จะคิดหาวิธีล้าง มลทินให้เธอเอง

ไม่ปล่อยคนร้ายไว้สักคนเด็ดขาด และไม่ปรักปรำ ผู้บริสุทธิ์สักคนเด็ดขาด นี่คือหลักกฏเหล็กของเควิน

แต่ไหนแต่ไรเขาก็เป็นคนที่ใจเย็นและไม่เห็นแก่ตัว อยู่แล้ว ว่องไวและเฉียบขาด โดยเฉพาะในการจัดการ เรื่อง ไม่เคยเอาอารมณ์ส่วนตัวเข้ามาปะปน และไม่อนุ ญาติให้คนอื่นอาศัยความสัมพันธ์มากระทบเขา
แม้แต่พิงกี้มาขอร้องก็ตาม ก็จะไม่ละเว้นเด็ดขาด

..โอเคค่ะ” พิงกี้เม้มปากไว้ ไม่เปิดปากพูด

อะไรอีก

เดิมทีเธอก็ไม่ได้จะขอร้องแทนน้ำหวานนะ ตอนนี้ ยิ่งไม่กล้าขอร้องแล้ว เพื่อจะได้ไม่ทำให้เควินโกรธ ต่อ ไปถ้าจะให้เขาช่วยเหลือก็จะได้พูดง่ายหน่อย แต่ว่า ใน ใจเธอก็ยังเชื่อว่าน้ำหวานไม่ใช่คนแบบนั้นอยู่ดี เธอต้อง มีความลำบากใจของตัวเองแน่ๆ

“คนสวย คุณจะไปไหนคะ?”

คนขายตั๋วบนรถมินิบัสเก่าคันหนึ่งกำลังถามหญิง สาวที่หน้าตาสะสวย สวมใส่เสื้อผ้าราคาแพง และนั่งพิง อยู่ที่กระจกรถข้างๆ


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ