บทที่ 443:ตื่นตะหนกในพริบตา
&พิงกี้ไม่ได้รู้สึกอะไรเลย ด้วยงานที่ เวลาไม่แน่นอนของเควิน เธอรู้ว่าเขาไม่สามารถ แบ่งเวลาตามที่เธอต้องการได้ เธอชินกับจุดนี้ตั้ง นานแล้ว และไม่อารมณ์เสียเพราะเหตุนี้หรอก 8 สมัยเด็กๆตอนที่ใช้ชีวิตอยู่ที่ตระกูลบุญถาวร เธอก็ปลงกับโลกที่พอมีอำนาจก็มีแต่คนอยากจะ เข้าใกล้ แต่พอหมดอำนาจก็มีแต่คนอยากจะห่าง เหิน ไม่เคยรู้สึกว่าตัวเองเป็นจุดศูนย์กลางของโลก เลย กลับไปถึงตระกูลดำรงกู สถานการณ์ แบบนี้ก็ไม่ดีขึ้นเลย ไม่เพียงแต่ไม่ดีขึ้น แต่ยังแย่ ลงด้วยซ้ำ ดันนั้นเธอเลยรักษาจิตใจให้สงบมาโดย ตลอด หรือพูดง่ายๆคือ เธอไม่ใช่คนที่เอาแต่ ใจเลย บางครั้งที่เอาแต่ใจบ้าง ก็เพราะรู้ว่า ข้างกายมีคนที่คอยรักและอดทนในความเอาแต่ ใจของเธอ เธอถึงได้กล้าปลดปล่อยตัวเองแบบ นี้ นึกถึงเควินแล้ว มุมปากของพิงกี้ก็ได้ยิ้มขึ้น อ่อนๆ รถเช่าส่วนตัวที่ใช้แอปในมือถือเรียกนั้น สภาพดีกว่ารถแท็กซี่ปกติ พิงกี้ที่นั่งอยู่ในรถรู้สึก สบายกว่ารถแท็กซี่ด้วย หลังจากขึ้นรถ เธอรู้สึกง่วง เลยหลับตางีบสักพัก แต่เธอก็ยังระวังตัวอยู่ตลอด เวลา ตลอดทางเธอก็คอยสังเกตทางอยู่ตลอด พอเห็นตึกสูงที่คุ้นเคย รู้ว่ารถได้ขับไปยังที่ๆเธอตั้ง เอาไว้ ความกังวลในใจถึงได้ค่อยๆปล่อยวางลง
ไม่รู้เป็นเพราะอะไร ถึงเธอจะไม่ได้ขัดขวาง กันจากไปของเควิน แต่เธอก็รู้สึกหัวใจเต้นเร็วมากรู้สึกใจคอไม่ดี เหมือนจะมีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้นอย่างไร อย่างนั้น เธอเดาว่าคงเป็นรถที่เรียกมามีปัญหา หรือเปล่า? แต่ตอนนี้ดูแล้วไม่ใช่ พอยืนอยู่ตรง หน้าวิลล่าNo.1 ในที่สุดพิงกี้ก็โล่งอกไปที มาก ไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้น ป้ามะลิเห็นเธอกลับ มาแล้วรู้สึกดีใจมาก รีบเข้าไปตอนรับ “วันนี้คุณผู้ หญิงออกไปนานเลย คงเหนื่อยมากเลยใช่มั้ยคะ? ดิฉันเพิ่งชงชากุหลาบที่คุณชอบ ใส่ซานจาไปหนึ่ง แผ่นและใส่น้ำผึ้งอีกหน่อย คุณจะรองดื่มหน่อยมั้ย คะ?” “อืม ได้ค่ะ” เธอรู้สึกคอแห้ง “ป้ามะลิ เป็นของเย็นหรือเปล่าคะ? ถ้าไม่ใช่ ช่วยใส่น้ำแข็ง มาให้ก้อนนึงนะ” “คุณผู้หญิงคะ ตอนนี้คุณ ตั้งครรภ์อยู่นะคะ ทานของเย็นเยอะไม่ดีค่ะ นี่เป็น ประสบการณ์ที่สืบทอดมาจากบรรพบุรุษของเรา เลยนะคะ ถึงจะเป็นความต้องการของเธอ ป้ามะลิก็ไม่ได้ใส่น้ำแข็งมาให้เธอ พิงกี้ถือแก้ว ไว้แล้วมอง แล้วหันไปมองป้ามะลิ เห็นเธอสีหน้า ยืนหยัดเหมือนเคย พิงกี้ถึงเร่งรีบดื่มชากุหลาบใน มือเพื่อแก้กระหายน้ำแล้วรู้สึกสบายใจขึ้นเยอะ 8. เธอนั่งพักได้สักพัก ป้ามะลิเห็นเธอถอนหายใจ จึงได้ถามเรื่องของภูผาขึ้นอย่างสงสัย “คุณ ผู้หญิงคะ ใช่ คุณภูผาเกิดอะไรขึ้นหรือเปล่าคะ? ทำไมดิฉันเห็นสีหน้าตอนคุณกลับมาเหมือนไม่ ค่อยดีเลย และตอนนี้ก็อารมณ์ไม่ดีด้วย?” ป้ามะลิเป็นคนที่เควินหามา หลังเกิดเรื่องของป้าเฉิน แล้ว เขาได้จัดหามาเป็นพิเศษ แน่นอนว่าต้องเป็น คนที่เชื่อใจได้ พิงกี้ก็ไม่มีท่าทีจะปิดบังเธออีก อย่างป้ามะลิก็เป็นผู้ใหญ่ที่อายุสี่สิบกว่าห้าสิบแล้ว ประสบการณ์ชีวิตก็มากกว่าเธอ ไม่แน่อาจจะให้คำ แนะนำกับเธอได้บ้าง พิงกี้ก็เลยเล่าเรื่องที่เกิด ขึ้นในวันนี้คร่าวๆไปรอบหนึ่ง …….. เรื่องมัน ก็เป็นแบบนี้แหละค่ะ ผู้หญิงคนนั้นมาหาถึงที่ และ มีอะไรกับภูผา แถมฉันยังไปเจอเข้าพอดี พูดอย่าง นี้แล้ว ดูเหมือนว่าน้องชายฉันไม่รับผิดชอบผู้หญิง คนนั้นก็ไม่ได้แล้ว แต่ฉันรู้สึกว่าความประพฤติของ ผู้หญิงคนนั้นไม่ดี ฉันรับไม่ได้ที่จะให้เธอมาอยู่ กับน้องชายฉัน ฉันเกลี้ยกล่อมให้น้องชายให้เงิน เธอแล้วเลิกรากันซะ แต่เขาก็ไม่ยอม แถมยังแข็ง ข้อกับฉันอีก พูดตามตรง อันที่จริงพิงกี้ก็ยัง ค่อนข้าฃมีอคติกับดารินอยู่ ถึงสังคมในตอน นี้จะเปิดกว้างกว่าเมื่อก่อนมาก ไม่ใช่สังคมศักดินา แต่เป็นสังคมระบบใหม่ แต่หญิงสาวที่อายุเพิ่งจะ สิบห้าก็รู้จักใช้วิธีแบบนี้ไปยั่วผู้ชาย มันน่ากลัว ขนาดไหน? คนแบบนี้ ก็ควรที่จะรีบให้เงินแล้ว เลิกรากันไป ก่อนที่ยังไม่ได้มีลูกออกมาผูกมัด ใน เมื่อเธอเป็นคนปล่อยเนื้อปล่อยตัว ไม่รู้จักรักนวล สงวนตัวและหามาถึงที่เอง แถมยังรู้จักวางแผน จับผู้ชาย ให้ค่าชดใช้ถือว่าดีแค่ไหนแล้ว เธอ คิดแบบนี้จริงๆ เสียดาย ภูผาที่อ่อนต่อโลกถูกดารินดึงดูด ดันยังเห็นใจและรู้สึกว่าเธอน่าสงสาร มาก จะให้เธออยู่ด้วย “คุณผู้หญิงคะ อย่าหา ว่าดิฉันละลาบละล้วงเลยนะคะ ถึงที่คุณพูดมาก็ ไม่ผิด แต่ก็ต้องถูกปากของภูผาถึงจะได้ไม่ใช่เห รอคะ ? คุณภูผาตอนนี้ก็โตเป็นผู้ใหญ่แล้ว คุณจะ หว่งเขาก็อย่าไปห่วงเกินเลยๆค่ะ คนเรา บางครั้งก็ ต้องถูกหลอกสักครั้งถึงจะคิดได้ค่ะ” ป้ามะลิพูด “อืม ถูกค่ะ” พิงกี้พิงอยู่ที่โซฟาอย่างหมดแรง “ฉัน ก็คิดแบบนี้เหมือนกัน” “ในเมื่ออารมณ์คุณไม่ ดี ตอนเที่ยงดิฉันจะทำกับข้าวที่คุณชอบเพิ่มอีก สักสองอย่าง จะได้ไม่บดบังความอยากอาหารของ คุณ รอทานข้าวเสร็จก็ไปพักผ่อนสักพัก ตื่นมาก็ ลืมเรื่องพวกนี้หมดแล้วค่ะ อ้อ~ ใช่แล้วเดี๋ยวดิฉันจะ ไปเตรียมของว่างให้คุณไว้ รอคุณตื่นมาจะได้ทาน เลย 38 ป้ามะลิเป็นคนที่ระมัดระวังมาก ไม่เคย ไปแอบส่องเรื่องของเจ้านายสวันนี้รู้สึกสงสัยอยาก รู้เลยถามขึ้น ถือว่าเป็นข้อยกเว้นอย่างมากแล้ว แต่ ก็เพระเห็นว่าอารมณ์พิงกี้ไม่ค่อยดี เลยอยากจะ ช่วยเธอเลยถามขึ้น เห็นว่าไม่ใช่เรื่องใหญ่โต ที่เกี่ยวข้องกับพิงกี้ เธอก็ไม่ได้พูดอะไรต่ออีก พิงกี้รู้นิสัยเธอดี พยักหน้าหน้าแล้วปล่อยให้ป้า มะลิไปทำงานต่อ แต่ความในใจที่อยากระบาย กลับได้เพิ่มขึ้น ไม่ได้ระบายออกมา จะรู้สึก อัดอั้นมากเลยนี่น่ะ! ระบายให้ใครฟังดีล่ะ? น้ำหวานยัยตัวแสบคนนี้ ตั้งแต่คราวที่แล้วก็หายแซบหายสอยไม่มีวี่แววอีกเลย ถ้าไม่ใช่ว่าน้ำหวาน โทรหาเธอทุกเดือน เธอคงจะเป็นหว่งเธอจะแย่อยู่ แล้ว ถ้าโทรหาเจษฎา ใครบางคนชอบหึงอยู่ นั่นแหละ ไม่ยอมให้เธอติดต่อกับเขาเลยด้วยซ้ำ
มีแต่ ……… เอาล่ะ ไปหาคนที่อยู่ใกล้ที่สุดดี กว่า และอยู่แต่ในบ้าน ไม่มีอะไรทำอย่างคุณเตชิต ดีกว่า ไม่มีอารมณ์ร้ายไหนที่เกมส์ชกมวยยกนึง จะแก้ไขไม่ได้ ถ้าแก้ไขไม่ได้ ก็เพิ่มเป็นสองยก! 8 พิงกี้ได้ตัดสินใจอย่างอารมณ์ดี เป็นเพราะ อยู่ใกล้กับวิลล่าNo.3มาก เธอก็ไม่กะจะอยู่ที่บ้าน ของเตชิตนาน พิงกี้ได้พูดกับป้ามะลิที่กำลังยุ่งอยู่ใน ครัวคำนึงโดยไม่สนใจว่าเธอจะได้ยินหรือเปล่า จาก นั้นก็ได้พยุงท้องโตเดินไปทางบ้านของเตชิตอย่าง ชิวๆ พอถึงหน้าประตูใหญ่นอกบ้านของเตชิต เธอก็ได้กดรหัสอย่างคุ้นเคยประตูข้างๆก็ได้เปิด ออกมาย เข้าไปถึงประตูห้องรับแขก เธอกลับไม่ ได้เปิดประตูเอง แต่กดกริ่งประตู ยังไงซะก็เป็น บ้านของคนอื่น เธอก็จะทำตัวตามสบายเกินไปไม่ ได้ ไม่ใช่หรือ?3& “ ดึงด่อง ดึงด่อง ” เสียง กริ่งดังขึ้นทีนึง ไม่มีคนไม่เปิด พิงกี้ได้กดกริ่ง อีกที ในที่สุดครั้งนี้ ก็ได้ยินเสียงเท้าเดินดังมา ประตูได้ถูกเปิดออก เตชิตที่ยืนอยู่หน้าประตู สีหน้า แววตาต่างจากความเกียจคร้านและเยาะเย้ยของ ปกติ หลังจากเห็นว่าเป็นเธอ พริบตาเดียวใบหน้า ของเขาก็มีความตื่นตระหนกแว๊บผ่านเข้ามา
“นี่คุณมาได้ยังไง?”
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ