คุณชายมาดเข้มกับคุณหนูสุดแสบ

บทที่ 440: อุดหูขโมยกระดิ่ง ในก็แค่นี้เอง!



บทที่ 440: อุดหูขโมยกระดิ่ง ในก็แค่นี้เอง!

มีสายเรียกเข้าจากป้าน้อย ปฏิกิริยาแรกของพิงกี้ ก็คือแย่แล้ว

ต้องเกิดปัญหาอะไรขึ้นแน่เลย

“ป้าน้อยโทรมาหาฉันนี่คือ ภูผาเกิดเรื่องอะไรหรือ เปล่าคะ?” เธอถามด้วยความเร่งรีบ

“ใช่…ก็ไม่ใช่ค่ะ……” เหมือนป้าน้อยค่อนข้าง จะลำบากใจ “ป้าก็ไม่รู้ว่าควรจะโทรหาคุณมั้ย ป้าอาจ จะคิดมากไปเองก็ได้ค่ะ แต่……แต่ป้ารู้สึกคุณภูผาผิด สังเกตอ่ะค่ะ”

พิงกี้ตื่นเต้น “ผิดสังเกตยังไงคะ?”

“วันนี้คุณภูผาให้ป้าไปรับสาวน้อยคนหนึ่งที่สถานี รถไฟ สาวน้อยคนนั้นกลับมาถึงที่บ้านปุ๊บก็เข้าไปที่ ห้องนอนของคุณภูผา ทั้งสองยังปิดประตูห้องนอน ด้วย…….ที่จริงก็ไม่ได้มีอะไรค่ะ แต่ว่า เด็กผู้หญิงคนนั้น เข้าไปในห้องของคุณภูผาชั่วโมงกว่าแล้ว ตอนนี้ยังไม่ ออกจากห้องเลยค่ะ”

เสียงของป้าน้อยกังวลใจมาก ด้านหนึ่งคือเป็นห่วง ภูผา อีกด้านก็กลัวพิงกี้จะตำหนิเธอ

“แล้วป้าไปเคาะประตูหรือยัง?” พิงกี้ถาม
“ป้าไปเคาะประตู และถามคุณภูผาแล้วค่ะว่า กลางวันนี้อยากทานอะไร แต่คุณภูผาบอกว่าให้ป้าไป จัดเตรียมเอง ไม่ต้องรบกวนเขาค่ะ”

“ป้าไปถามมานานเท่าไหร่แล้ว?”

“ถามมาครึ่งชั่วโมงแล้วค่ะ”

“นอกจากอันนี้ ข้างในยังมีความเคลื่อนไหวอะไร

มั้ย?”

“มีอ่ะไม่มีค่ะ ป้าก็ฟังไม่ออกว่าทั้งคู่กำลังทำอะไร กันอยู่” เสียงของป้าน้อยค่อนข้างลังเล

ฟังแล้วรู้สึกเหมือนคำพูดบางอย่างไม่รู้จะพูดยังไง

ดี?

“นี่ป้า……………” พิงกี้ไม่อยากอารมณ์ขึ้นเลย แต่ก็อด พูดเสียงสูงไม่ได้ “ป้าน้อย ฉันจ้างป้ามาทำงานก็เพื่อให้ ป้าดูภูผาไว้ เขาให้ป้าไปรับคนที่สถานีรถไฟ ทำไมป้า ไม่บอกฉันสักคำเลยล่ะ? ในเมื่อป้าตัดสินใจที่จะโทรหา ฉัน แล้วมีอะไรต้องปิดบังอีก?”

ทันใดนั้นป้าน้อยก็ร้อนใจขึ้นมาแล้ว “คุณภูผาเล่า ให้ป้าฟังชุดใหญ่เลยบอกว่าเด็กสาวคนนั้นไร้พ่อไร้แม่ น่าสงสารมาก อีกทั้งยังเป็นผู้มีพระคุณเคยช่วยชีวิตเขา ด้วย ป้าก็คิดว่าเป็นแค่เด็กผู้หญิงก็คงไม่มีปัญหาอะไรก็เลยไปรับเด็กคนนั้นที่สถานีรถไฟ อีกอย่าง….อีก อย่างคุณภูผายังรับปากด้วยว่าเขาจะไม่ทำเรื่องที่ทำให้ ใครลําบากใจ ให้ป้าวางใจได้ล้าน% แต่ว่า ถ้าป้าบอก ให้คุณผู้หญิงรู้ คุณภูผาก็จะไล่ป้าออก ป้า…..ป้าเสีย งานนี้ไปไม่ได้นะคะ ป้าคิดว่าป้าแค่จับตาดูคุณภูผาไว้ ดีๆก็พอแล้ว คิดไม่ถึง คิดไม่ถึงว่าพวกเขาจะเป็นแบบนี้ ค่ะ…….

พอเข้าห้องปุ๊บทั้งคู่ก็รีบปิดประตูเลย ต้องทำเรื่อง บัดสีบัดบัดเถลิงแน่นอน

ป้าน้อยคิดแบบนี้ จึงรู้สึกกังวลมาก ถึงได้โทรหาพิง กี้ ไม่งั้นเธอก็ยอมที่จะไม่โทรดีกว่า

(( .” อารมณ์โกรธโผล่ขึ้นมาจากในใจของพิง กี้ในทันที เธอสะกดอารมณ์ไว้และพูดว่า “เอาล่ะ ฉันรู้ แล้ว ตอนนี้ป้าไปเคาะประตูอีก ให้ภูผาเปิดประตูให้ และ เชิญผู้หญิงคนนั้นออกมา ถ้าพวกเขาไม่ยอมเปิดประตู ถึงป้าพังประตูก็ต้องให้พวกเขาประตูให้ พอคนออกมา แล้ว ป้าดูผู้หญิงคนนั้นไว้ดีๆ ฉันจะรีบไปเดี๋ยวยวนี้เลย

“ได้ค่ะ คุณผู้หญิง” ป้าน้อยตอบ

เธอรู้ว่าตัวเองทำผิดแล้ว แม้แต่ถามก็ไม่กล้าถาม ว่าตัวเองจะถูกลงโทษยังไง ยังสามารถอยู่ทำงานต่อ มั้ย?
หลังจากวางสาย สีหน้าของพิงกี้ดูแย่มาก

เควินที่นั่งอยู่ข้างๆมองเธอไว้ และขมวดคิ้วเล็ก น้อย “มีเรื่องอะไร คุณจะไปไหน?”

“ฉันจะไปคอนโดของภูผาค่ะ” พิงกี้ตอบ เควินรีบลุกขึ้นมา “พายุไม่อยู่ ผมไปส่งคุณ

“ได้ค่ะ” พิงกี้พยักหน้า

เปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จ อารมณ์ของเธอได้สงบลงมา เล็กน้อยแล้ว และมีความต้องการอยากจะระบาย อดไม่ ได้ที่จะบ่นให้เควินฟัง

“คุณเควิน คุณว่าภูผานี่สมองขี้เลื่อยหรือเปล่า คะ?” พิงกี้เปิดปากพูด “ตอนนั้นฉันเคยพูดกับเขามา เยอะมาก บอกให้เขาไม่ต้องสนใจลูกสาวของนาย อนันต์ เขาก็รับปากแล้ว แต่ตอนนี้กลับพาผู้หญิงคนนั้น เข้าบ้านอีก ฉันจะบ้าตายอยู่แล้ว!”

เรื่องนี้เควินก็เคยได้ยินพิงกี้เล่าให้ฟังหนหนึ่งอยู่ “ตอนนี้ผู้หญิงคนนั้นอยู่ที่คอนโดของภูผาแล้ว?”

“แค่อยู่คอนโดซะที่ไหนกันล่ะ แต่ยังเข้าไปอยู่ใน ห้องนอนของภูผาแล้วด้วย ก็ไม่รู้ว่าทำอะไรกัน”พิงกี้ โมโห “ฉันฟังป้าน้อยพูดซ้ำๆอึ้งๆ คาดว่าสองคนนั้นคงทําเรื่องที่ขาดสติแน่ๆเลย……..

พิงกี้ถอนหายใจ

ทั้งคู่ขึ้นรถ เควินเหยียบคันเร่งเต็มที่ พริบตาเดียว

รถก็วิ่งอยู่บนถนนอย่างเร็ว ร่างกายของพิงกี้พิงไปที่ ด้านหลังอย่างควบคุมไม่ได้ แต่พิงกี้ก็ยังไม่พอใจ เธอเร่งรัด “ที่รัก คุณเร็วอีก

หน่อยค่ะ”

“ถ้าคำพูดนี้คุณพูดอยู่บนเตียงอ่ะได้ แต่ตอนนี้ ไม่ได้” เควินเหลือบมองเธอทีนึง ไม่เพียงแต่ไม่เพิ่ม ความเร็ว แต่ยังเหยียบเบรคและขับให้นิ่มนวลขึ้น

“เพราะอะไรคะ?”

“คุณคิดว่าไงล่ะ?” เควินมองสีหน้าขาวซีดของ เธอ แววตามีความสงสาร “เมื่อกี้เพราะผมไม่ระวังเอง ดู ซิทำเอาสีหน้าคุณแย่มากเลย”

“แต่ว่า ”

“คุณเป็นแค่พี่สาวของภูผา ไม่ใช่แม่ของเขา ถ้า ภูผาสมองขี้เลื่อยเกิดทำเรื่องอะไรขึ้นมาจริงๆ คุณไป ตอนนี้มันก็สายไปแล้ว ไม่จำเป็นต้องใจร้อนขนาดนั้น หรอก”
พิงกี้ “

“กว่าจะถึงที่คินโดก็ใช้เวลาหนึ่งชั่วโมงแล้ว ถึง เรื่องที่เร่งด่วนที่สุดก็ไปไม่ทันหรอก คุณก็แค่ไปเช็ดตูด ให้คนอื่น ไม่ต้องไปรีบร้อนขนาดนั้นหรอก อีกอย่าง ไม่ แน่ภูผาอาจจะไม่ได้สมองทึบขนาดนั้นก็ได้ล่ะ?”

พิงกี้ “

แต่เธอรู้สึก ภูผาก็สมองทึบอย่างที่ว่าจริงๆนั่น

แหละ!

ตั้งแต่เล็กจนโตถูกเลี้ยงมาอย่างดีเกิน แถมยังได้ เดียงสาจะแย่อยู่แล้ว ภูผามีความหวังดีกับทุกคน แต่ บางทีความหวังดีที่ไม่แยกแยะแบบนี้ ง่ายที่จะถูกคน หลอกใช้มาก

ง่ายมาก!

เดินเข้าลิฟท์ด้วยความเร่งรีบ พิงกี้ใจร้อนจะแย่อยู่

แล้ว

เควินปกป้องอยู่ที่ข้างหลังเธอ มือทั้งสองล้อมอยู่ที่ เอวของเธอตลอด กลัวว่าเธอจะล้มเพราะความใจร้อน
เดินมาถึงที่หน้าห้อง พิงกี้กดกริ่ง ไม่นานป่าน้อยก็ รีบมาเปิดประตูให้

“คุณผู้หญิงมาสักที” ป้าน้อยเหมือนเห็นเจ้าแม่ กวนอิมที่ช่วยภัยช่วยความลำบาก เธอพนมมือ “คุณผู้ หญิงมาก็ดีแล้วค่ะ ป้าเคาะประตูแต่พวกเขาไม่ยอมเปิด ให้สักที ป้าก็หมดหนทางจริงๆค่ะ”

“ไหนฉันลองไปดูซิ” ถึงแม้พิงกี้จะใจร้อน แต่ตอน นี้ก็หายโมโหแล้ว ก็ไม่คิดจะพาลใส่ป้าน้อย

เดินไปที่หน้าห้องนอนของภูผา พิงกี้เคาะประตู

“ภูผา ฉันรู้ว่านายอยู่ข้างใน นายเปิดประตูเดี่ยว

เธอส่งเสียงปุ๊บ เดิมทีข้างในยังมีเสียงเบาๆอยู่ ตอน นี้กลับเงียบสนิทเลย

อุดหูขโมยกระดิ่ง มันก็แค่นี้แหละ!

“ได้ยินหรือยัง? ภูผา!” พิงกี้ทำเสียงสูงอีก

ตะโกนไปหลายที เห็นด้านในก็เงียบกริบ พิงกี้ชัก จะหมดความอดทนแล้ว เธอหันไปมองเควินที่ยืนอยู่ข้าง หลัง “คุณเควิน คุณมาเถอะ”
พอพูดจบ เธอก็เดินห่างๆจากประตู

ในเมื่อคนที่อยู่ข้างในไม่ยอมเปิดประตูให้ งั้นก็ต้อง พังประตูเข้าไปแล้ว

เควินพยักหน้า และก็เดินออกมาห่างๆหน่อย จาก นั้นก็พุ่งชนประตูอย่างแรง พุ่งชนอย่างแรงหลายที

ประตูถูกกระแทกใส่ผนังอย่างแรง

พิงกี้รีบเดินเข้าไปตรงหน้า

แต่ว่า ตอนที่เธอมองไปจากหน้าประตู กลับถูก

สถานการณ์ของในห้องทำเอาโมโหสุดขีด


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ