คุณชายมาดเข้มกับคุณหนูสุดแสบ

บทที่ 429: กรรมใดใครก่อ…….……



บทที่ 429: กรรมใดใครก่อ…….……

พิงกี้เป็นคนเลือกรูปถ่ายบนป้ายหลุมศพเอง ไม่ใช่ เพราะยังมีเยื่อใยต่อมาลาตี แต่เพราะเรื่องนี้นอกจาก เธอแล้ว ไม่มีใครไปทำเรื่องนี้

ภูผาเป็นลูกชายของมาลาตีก็จริง ตามธรรมเนียม ของในประเทศแล้วล้วนแต่เป็นลูกชายที่มาจัดการเรื่อง งานศพของอาวุโส เขาโกรธและเสียใจกับการจากไป ของมาลาตีก็จริง แต่ทางสุสานก็จะโทรหาเธอที่เป็น ผู้ซื้อที่ดินเท่านั้น ส่วนเธอก็ขี้เกียจไปปรึกษาเรื่องเล็ก น้อยแค่นี้กับภูผา

ไม่มีอะไรน่าปรึกษาหารือกันหรอก

เธอก็เป็นคนมีอารมณ์เหมือนกัน คนบางคนเลือก ที่จะทุ่มเทความรักให้คนอื่น คนบางคนเลือกที่จะทุ่มเท เรื่องเงินให้ หรือว่าคนที่ทุ่มเทเรื่องเงินก็จะด้อยกว่าคนที่ ทุ่มเทความรักรึไง?

เธอไม่มีความรักให้กับมาลาตี แต่ก่อนหน้านั้นก็ พยายามอย่างสุดความสามารถแล้ว เท่าที่เธอดูเธอไม่มี จุดไหนที่ผิดต่อมาลาตี และไม่จำเป็นต้องแบกความไม่ พอใจของภูผาไว้

ภูผามีสิทธ์อะไรคิดว่าตัวเองมีคุณธรรมสูงกว่า?

เธอไม่คิดว่าอย่างนั้น
แต่ว่า ในกรรมสิทธิ์ของที่สุสาน พิงกี้ก็ไม่ได้ระบุ เป็นชื่อของตัวเอง

แต่ระบุเป็นชื่อของภูผา

ตอนที่มาลาตีมีชีวิตอยู่ เธอไม่ยอมรับว่ามาลา คือ แม่แท้ๆของตัวเอง ตอนนี้มาลาตีตายแล้ว เธอก็ไม่อยาก มีความสัมพันธ์ใดๆเกี่ยวข้องกับมาลาตีอีก

“อันนี้ให้นาย” ก่อนจากไป พิงกี้ได้เอากรรมสิทธิ์ ที่ดินให้กับภูผา แววตาของพิงกี้เฉยเมย “นายเป็น ลูกชายของเธอ ของสิ่งนี้นายเอาไว้เถอะ

“นี่คืออะไร?” ภูผาอึ้ง

วันนี้ตั้งแต่ที่เจอกัน เขาดูเย็นชาอย่างเห็นได้ชัด ไม่มีทีท่าจะพูดคุยกับพิงกี้เลย แต่ตอนนี้พิงกี้เป็นฝ่าย พูดคุยกับเขาก่อน เขาก็ค่อนข้างที่จะทำอะไรไม่ถูก

“กรรมสิทธิ์ของสุสาน ในนี้เขียนชื่อของนายไว้ เรื่องเงินนายไม่ต้องเป็นห่วง พี่จ่ายหมดแล้ว ”

สุดท้ายพูดถึงเรื่องเงิน คือพิงกี้จงใจ

จงใจกระตุ้นภูผา

มองดูใบหน้าขาวซีดของภูผาเริ่มแดงขึ้นมา พิงกี้ถึงหลุบตาและหันหลังจากไป

ตั้งแต่ถูกตบไปทีนึง เธอก็ดูแลเป็นห่วงคนที่ขึ้นชื่อ ว่าเป็นน้องชายคนนี้น้อยลงมาก แต่พอเห็นภูผายังรู้จัก อะไรเรียกว่ายางอายและเกรงใจ เธอก็ยังรู้สึกอารมณ์ดี อยู่

อย่างน้อย ภูผาก็ไม่เหมือนมาลาตี เขายังรู้อยู่ว่า ไม่ใช่ใครๆก็สมน้ำหน้าและเฮงซวยที่ต้องคอยทุ่มเทเพื่อ เขา

พอขึ้นรถ จู่ๆพิงกี้ก็นึกถึงในมือถือของตัวเองยังมี รูปของมาลาตีอยู่ ตอนนั้นคือจะส่งให้ผู้ดูแลสุสานเลย เซฟรูปเอาไว้

ตอนนี้เรื่องก็จบลงแล้ว เธอก็ไม่อยากเซฟรูปๆนั้น ไว้แล้ว อยากลบมันทิ้งไปซะ

แต่ว่า นาทีที่เธอเปิดรูปถ่ายใบนั้นออกมา จู่ๆรู้สึก

เหม่อลอย

ในรูปถ่าย มาลาตีสีหน้ายิ้มอย่างผ่อนคลาย อ่อน โยนและอบอุ่น เหมือนแม่ท่านนึงที่มีอ้อมอกที่อบอุ่น จริงๆ
พูดจากใจจริง ที่จริงมาลาตีเป็นคนที่หน้าตาสวย

เธอไม่ใช่คนที่หน้าตามีน่าจู่โจมมากแบบนั้น แต่ เป็นคนอ่อนช้อย เวลายิ้มจะทำให้คนรู้สึกว่าเธอเป็นผู้ หญิงที่มีนิสัยอ่อนโยน ถ้าไม่ใช่แบบนี้ เธอก็ไม่สามารถ คลอดพิงกี้ที่หน้าตาสวยงามขนาดนี้ออกมาหรอก

แต่เธอดันเป็นคนที่มีความคิดเห็น หรือการกระทำ ที่รุนแรงเกินกว่าเหตุ ความทรงจำที่ทิ้งไว้ให้คนอื่นคือจะ เหมือนคนเป็นโรคฮิสทีเรียอยู่ตลอด

คนอื่นมีแต่จะหลบหนีเธอซะด้วยซ้ำไป แล้วจะมา ชื่นชมใบหน้าสวยงามเธอได้ยังไง?

“ไม่ต้องดูแล้ว ลบทิ้งซะ” เควินพูด

พิงกี้มองดูรูปถ่ายอย่างลึกซึ้งทีนึง จากนั้นก็พยัก หน้า มือที่ขาวเนียนจิ้มไปสองที รูปถ่ายของมาลาตีก็ สูญหายไปจากมือถือของเธอชั่วนิรันดร์

มาลาตีคนๆนี้ ต่อไปก็จะสูญหายไปจากโลกของ

เธอเช่นกัน

กลับมาถึงที่วิลล่า พิงกี้ขึ้นไปอาบน้ำก่อนเป็นอันดับแรก

พออาบน้ำเสร็จ เปลี่ยนมาใส่ชุดอยู่บ้านที่หลวม สบาย ทีนี้ถึงรู้สึกสบายขึ้นเยอะเลย

เควินอยู่ที่ห้องอ่านหนังสือ

พิงกี้นั่งกอดหมอนอยู่บนโซฟาของห้องนอนไปพัก นึง จู่ๆรู้สึกเย็นๆ ในสมองคิดถึงแต่ความทรงจำเก่าๆที่ อยู่บ้านดำรงกูลกับบ้านบุญถาวรอย่างห้ามไม่ได้ ยิ่งคิด ยิ่งรู้สึกไม่สบายใจ ก็เลยอยากไปหาเควินและนั่งเล่นที่ ห้องอ่านหนังสือ

เขาทำงาน เธอก็นั่งอ่านหนังสืออยู่ในห้องอย่าง เงียบๆ ไม่ไปรบกวนเขา

แต่แล้ว พอเดินมาถึงที่ห้องอ่านหนังสือ พิงกี้เดินไป ที่ข้างกายของเควิน ทันใดนั้นกลับเห็นรูปถ่ายใบนึงจาก บนหน้าจอคอมพิวเตอร์ของเขา ในรูปคือร่างเงาที่คุ้น เคย

ไม่นึกเลยว่าจะเป็นลิสา?

ไม่ได้ติดตามข่าวสารของลิสามานานมากแล้ว พิงกี้รู้เพียงว่าลิสาไปเป็นขอทาน รายได้ที่ได้จากการ ขอทานก็ถูกคนที่เควินสั่งให้ไปเฝ้าจับตาดูยึดไป และ เอาไปบริจาคให้กับการกุศลโดยตรง
แต่ว่า ตั้งแต่ที่ลิสาไปเป็นขอทาน เธอก็ไม่ได้เห็น หน้าตาของเธออีกเลย

ตอนนี้พอดูรูปปุ๊บ เธอก็ประหลาดใจขึ้นมาทันที

“ทำไมเธอดูเหมือนยังใช้ชีวิตอยู่อย่างสุขสบาย เลยล่ะคะ? นี่…นี่คือถูกคนช่วยเหลือไปแล้วหรอคะ?” พิงกี้พูดอย่างประหลาดใจ

เธอนึกว่าลิสาเป็นขอทานมาโดยตลอด น่าจะมีเนื้อ ตัวสกปรกมอมแมมและผมเผ้ายุ่งเหยิงสิถึงจะถูก

แต่ว่า ในรูปถ่ายลิสากลับสวมใส่เสื้อชั้นในลาย ลูกไม้สีแดงที่น่าเย้ายวนใจ และนอนอยู่บนเตียงที่ สะอาด ถึงแม้หน้าตาจะซูบผอมไปมาก แต่หุ่นก็ยังมี ส่วนเว้าส่วนโค้งอย่างสวยงาม สีหน้าถือว่าไม่เลว

“อยู่ภายใต้การควบคุมของผม เป็นไปได้ยังไงที่ เธอจะถูกคนช่วยเหลือไป?”

เผชิญหน้ากับความข้องใจของพิงกี้ เควินกลับยิ้ม มุมปากอย่างเยาะเย้ย แววตามีความเย่อหยิ่งอยู่เล็ก น้อย

“แล้วมันอะไรกันคะ?”
“คุณดูต่อไป ……” เควินเคาะแป้นพิมพ์ไปสองที จากนั้นก็มีรูปถ่ายแสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงของ ลิสาโผล่มา

ตอนแรกลิสาช่างสวยเย้ายวนใจมากก็จริง แต่ต่อ มาหน้าตาเธอก็ค่อยๆเปลี่ยนไป

ยิ่งอยู่ยิ่งอิดโรย ยิ่งอยู่ยิ่งดุร้าย

ลิสาจากสวยสดงดงามกลายมาเป็นอิดโรยจนดู ไม่ได้ เธอเหมือนแอ๊ปเปิ้ลสีแดงที่ถูกคนเด็ดลงมาจาก ต้นไม้ ไม่มีการหล่อเลี้ยงของต้นไม้ เวลาผ่านไปก็ค่อยๆ แห้งเหี่ยว ดูไม่มีน้ำไม่มีมวล เชื้อโรคกัดกินจนเปลือก และเนื้อของเธอเน่าเปื่อย ทำให้เธอเริ่มมีจุดด่างดำขึ้น มาและเหม็นเน่า

รูปถ่ายใบสุดท้าย ลิสานอนอยู่บนเตียงเหมือนใกล้ หมดลมหายใจ แววตาไม่มีชีวิตชีวา ริมฝีปากปากแห้ง แตกเป็นขุย

เสื้อผ้าที่ยุ่งเหยิงไม่อาจบดบังผิวพรรณที่เหลือง แห้งไม่มีน้ำไม่มีนวลของเธอ ยิ่งบังกลิ่นเน่าเสียที่เธอ กระจายออกมาไม่อยู่ หน้าตาของเธอทำให้คนรู้สึก ขยะแขยงมากกว่าตอนแรกเริ่มที่เธอเป็นขอทานเสียอีก

“นี่มันอะไรกันคะ?” พิงกี้ถามอีก
“ตอนแรกผมกะว่าจะให้เธอเป็นขอทานหนึ่งปี หลังจากให้เธอได้ลิ้มลองรสชาติที่ถูกคนรังเกียจและ เกลียดชังแล้ว ต่อจากนั้นก็ค่อยว่ากันอีกทีว่าจะเอายัง ไงกับเธอ แต่ว่า คิดไม่ถึงว่าลิสาไปเป็นขอทานแล้วทน ความยากลําบากไม่ได้เลย ขอทานไม่ถึงหนึ่งสัปดาห์ ก็ เริ่มคิดหาวิธีไปยั่วลูกน้องที่ผมสั่งให้ไปเฝ้าจับตาดูเธอ ในเมื่อเธออดใจรอไม่ไหวขนาดนั้น ผมก็เลยเปลี่ยนงาน ใหม่ให้เธอซะเลย

“งานอะไรคะ?”

“จากขอทานกลายเป็นหญิงขายบริการ ผมคิดว่า เป็นการลงโทษ แต่เธอกลับนึกว่าตัวเองได้เปรียบแล้ว” เควินมองหน้าจอคอมพิวเตอร์ด้วยการเยาะเย้ย “คุณก็ เห็น นี่ก็คือผลที่ตามมาของเธอในตอนนี้”

“เธอเป็นคนเรียกร้องเองหรอคะ?


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ