คุณชายมาดเข้มกับคุณหนูสุดแสบ

บทที่ 386 จุดจบ



บทที่ 386 จุดจบ

ลิสาที่อยู่ในรูป สภาพแย่จนดูไม่ได้เลย

อันที่จริงแล้ว มองไปก็ไม่ต่างอะไรกับเธอนอนหลับ ไป แต่แววตาที่ไร้วิญญาณ จ้องมองกล้องอย่างอาฆาต แค้นทำให้คนเห็นแล้วขนหัวลุก

ถึงมาลาตีจะเตรียมใจมาอย่างดี แต่ก็ยังรู้สึกตกใจ

เธอรีบโยนมือถือทิ้งไปอีกข้าง แล้วหันไปเรียกป้า จำปา “ นี่แกตั้งใจจะแกล้งฉันให้หัวใจวายตายหรือยัง ไง ?!รูปภาพแบบนี้แกยังกล้าเอามาให้ฉันดูอีก แกคงคิด ว่า พอหลังจากฉันตาย แกจะได้ไม่ต้องมาปรนนิบัติเจ้า นายที่เอาใจยากอย่างฉันอีกใช่มั้ย ? ”

ป้าจำปาไม่พูดอะไร

มาลาตีพูดขึ้นอีกว่า “เอาล่ะ พอแล้ว พูดกับแกยัง ไงแกก็คงไม่เข้าใจหรอก พรุ่งนี้แกไม่ต้องมาแล้ว ฉัน จะให้ลูกสาวฉันหาคนอื่นที่ซื่อสัตย์กว่าและไม่เจ้าเล่ห์ เหมือนแกมาแทน

พอได้ยินแบบนี้แล้ว ป้าจำปาก็เงยหน้าขึ้น

เธอยิ้มขึ้นอย่างดูถูก แววตาที่เยือกเย็นของเธอ มาลาตีเห็นแล้วยังกลัว นี่เป็นครั้งแรกที่เธอรู้สึกว่าคนที่ เธอจิกหัวใช้อยู่ทุกวัน ก็ไม่ใช่คนดีอะไร
จากนั้น ก็เห็นโทรศัพท์ในมือของป้าจําปาเขวี้ยงมา ที่หน้าของเธอ พอโทรศัพท์ที่แข็งโป๊ะกระแทกกับจมูก อย่างจัง มาลาตีเจ็บจนน้ำตาไหลออกมาทันที

ข้างหูของเธอคือเสียงที่ดูถูกดูแคลนและน้ำเสียงที่ เยือกเย็นของป้าจําปา “คนโง่ที่น่าสงสารอย่างคุณ คิด หรอว่าฉันอยากจะอยู่ด้วย ? ฉันจะบอกอะไรคุณให้นะ อย่าว่าคุณรําคาญฉันเลย ฉันเองก็ไม่อยากทํางานกับ คนอย่างคุณเหมือนกัน!”

เสียงเท้าเดินดังอยู่ในห้อง เหมือนป่าจำปากำลัง เก็บข้าวของอยู่

มาลาตีตะโกนเสียงดังขึ้นมา “แกจะไสหัวไปไหน ก็ไสหัวออกไปเลย แต่ฉันขอบอกไว้ก่อนเลยนะ อย่าคิด จะเอาของๆฉันไปแม้เด็ดขาด! ถ้าแกหยิบไปแม้แต่ชิ้น เดียวล่ะก็ ฉันจะแจ้งตำรวจจับแก และจะให้ลูกสาวของ ฉันเอาแกให้ตายแน่!”

พูดอย่างกับว่าในมือของเธอยังมีของมีค่าอะไร เหลืออยู่อย่างไรอย่างนั้น

พอมาลาตีเช็ดน้ำตาเสร็จ กระพริบตาอีกครั้ง ใน ห้องก็ไม่มีร่างเงาของป้าจําปาแล้ว กระเป๋าสัมภาระสี เหลืองที่ปกติป่าจำปาวางไว้ที่หัวมุมก็ไม่เห็นแล้ว

“เหอะ นังแพศยา!”‘มาลาตีหยิบมือถือออกมา แล้วโทรหาพิงกี้ด้วยความโกรธเคืองสุดขีด

ป้าจําปาเป็นคนที่พิงกี้จ้างมา ไม่เคารพเจ้านาย อย่างเธอ เธอจะไปถามพิงกี้ดูซิว่าจ้างคนอะไรมากันแน่ อยาก อยากทําให้แม่คนนี้ตายใช่หรือไม่?!

แต่ว่า ไม่นานอารมณ์ของมาลาตีก็ได้สงบลง นั่ง ซึมเศร้าเพราะสูญเสียของอะไรไปอยู่บนเตียง

เธอโทรหาพิงกี้ไปหลายสาย โทรไม่ติดบ้าง ไม่มี คนรับสายบ้าง พอสุดท้ายไม่นึกเลยสําจะคือ “ขออภัย ค่ะ หมายเลขที่ท่านเรียกในขณะนี้ไม่สามารถติดต่อได้ ในขณะนี้ กรุณาติดต่อใหม่อีกครั้ง”

จู่ๆ ในใจเธอมีความรู้สึกหวาดกลัวและตื่นตระหนก ก่อตัวขึ้นมา

เธอนึกถึงคำพูดที่ป้าจำปาเคยพูดกับเธอ ป้าจำปา บอก คนเราต้องรักษาบุญวาสนาเอาไว้ดีๆ อย่าทำบุญ วาสนาที่เหลืออันน้อยนิดสูญสิ้นไป ถึงเวลาจะเสียใจแค่ ไหนก็ไม่มีประโยชน์แล้ว………..

มาลาตีเห็นรูปที่หลังจากลิสาถูก“จัดการ”จากป้า จำปา พิงกี้ก็ย่อมได้เห็นด้วยเช่นกัน
เพราะยังไงซะ เรื่องนี้เควินเป็นคนบงการอยู่เบื้อง หลังเชียวนะ

มาลาตีเป็นแค่เป้าหมายที่ให้คนดูภายนอกเท่านั้น นี่ก็ถือว่ามาลาตีได้อุทิศตนเพื่อเควินกับพิงกี้นิดหน่อย ในฐานะที่ได้เสพสุขมานานขนาดนี้แล้ว

เพียงแต่ พิงกี้เองก็ไม่รู้รายละเอียดของเรื่องนี้ ยิ่ง ไม่รู้ว่าเควินมีการจัดเตรียมในขั้นต่อไปยังไง

เธอก็อยากรู้เหมือนกันนี่น่ะ!

พอตกดึกตอนที่เควินกลับมา พิงกี้ก็รีบเดินไป ต้อนรับในเวลาแรกเลย

ทั้งเอารองเท้าให้ ทั้งรับเสื้อสูทเขาเอาไว้ และทั้ง ถามว่าจะดื่มน้ำชามั้ย สีหน้าท่าทางประจบประแจงมาก

“คุณอยากทำอะไรอีก?” เควินหลุบตามองเธอที นึง แววตามีความจนปัญญา และมีความเอ็นดูที่ลึกซึ้ง มาก

“ก็ฉันคิดถึงคุณนี่คะ”พิงกี้ควงแขนเขาไว้ ไต่ที่ แขนเขาอย่างสนิทแนบแน่น “ฉันรอคุณมานานมาก แล้ว!วันนี้คุณแค่ให้คนส่งรูปมาให้ฉันดู และพูดคร่าวๆ ไปไม่กี่คำ ฉันยังไม่รู้เลยว่าต่อไปคุณจะจัดการลิสายัง ไง……….ไม่คิดจะบอกฉันจริงๆหรอคะ?”
“ผมอยากไปอาบน้ำก่อน”

“ได้ค่ะ เจ้านาย ข้าน้อยจะไปเปิดน้ำในอ่างให้ เดี๋ยวนี้เลยค่ะ!” พิงกี้ยิ้มแย้มแจ่มใส วิ่งขึ้นชั้นบนอย่าง ประจบประแจง

เควินคลายเน็กไทออก มองดูร่างเงาที่ร่าเริงของ เธอ ริมฝีปากบางได้เผยรอยยิ้มออกมา

เรื่องของช่วงนี้ทั้งเยอะทั้งรีบและซับซ้อนมาก ก็ ต้องฮึดสู้เข้าไว้ไม่รับมือกับปัญหาไม่ได้ เควินออกจาก บ้านแต่เช้าและกลับดึกทุกวัน อย่าบอกว่าจะได้นัวเนีย กับพิงกี้เลย แม้แต่เวลาที่ได้อยู่ด้วยกันสองต่อสองยัง น้อยมากเลย

ภายใต้สถานการณ์ปกติ ตอนที่เขาออกจากบ้าน เธอยังไม่ตื่น หรือไม่ก็ตอนเขากลับมาเวลาเที่ยงคืน เธอ ก็ได้หลับไปแล้ว

ดีที่ตอนนี้เรื่องก็จัดการได้พอสมควรแล้ว

ลิสาถูกจับ เกี่ยวโยงถึงชาตรีกับรองผู้อำนวยการ ที่อยู่ในโรงพยาบาลจิตเวช คนพวกนั้นต่างก็หนีไม่รอด ทั้งนั้น หลักฐานชัดเจนครบถ้วน ใครยังกล้าพูดอีกว่าตัว เองถูกปรักปรํา?

ตอนนี้เรื่องที่ลิสาอยู่ในคุกได้จัดการเสร็จแล้ว ต่อจากนี้ก็แค่รอให้เธอใช้ทั้งชีวิตมาชดใช้บาปกรรมที่ตัว เองก่อเอาไว้ ชาตรีก็ถูกตัดสินโทษประหารชีวิต ถึงแม้ ยังไม่ได้สรุปว่าจะประหารชีวิตวันไหน แต่ช้าสุดเดือนนี้ ก็คงจะถูกประหารแล้ว

รองผู้อำนวยการยังอยู่ระหว่างไล่ล่าจับกุมอยู่ คน อื่นก็พอๆกับรองอำนวยการ

ไม่ต้องไปเปลืองแรงเปลืองใจไปหาหลักฐานที่ ตัดสินโทษ นี่ก็แก้ไขปัญหายากได้ข้อนึงแล้ว

พูดถึงไกรสรที่ยังหลบหนีอยู่ในต่างประเทศ ดูจาก นิสัยที่เจ้าเล่ห์ของเขาแล้ว นั่นก็ไม่ใช่คดีที่จะวันสอง วันก็จะจับเขาได้ ดังนั้นก็ไม่จำเป็นต้องรีบและอารมณ์ ขึ้นเพราะเหตุนี้ จะได้ไม่สูญเสียการตัดสินใจอย่างมีสติ กลับทำให้มีผลเสียต่อการจับกุมไกรสร

เรื่องก็ถือว่าได้คลี่คลายมาถึงจุดนึงแล้ว ถือว่า สามารถได้พักหายใจสักที

เควินเผยรอยยิ้มอ่อนๆออกมา

ไม่มีนาทีที่อบอุ่นแบบนี้มานานมากแล้ว เขาคิดถึง ความรู้สึกอบอุ่นของครอบครัวแบบนี้จริงๆ
พิงกี้อาบน้ำเสร็จตั้งนานแล้ว พอเควินออกมาจาก ห้องน้ำ เธอก็ได้คุกเข่าขึ้นมาอยู่ที่บนเตียง และมองไปที่ เขาด้วยความแปลกใจและอดใจรอไม่ไหว “คุณรีบเล่า ให้ฉันฟังหน่อยว่าทางฝั่งของลิสามันยังไงกันแน่ คุณ คิดจะทำยังไงกับเธอต่อคะ?”

ที่จริงเรื่องนี้อธิบายไม่ยาก ก็แค่พูดสองสามคำก็ เล่าหมดแล้ว

เควินเช็ดผมที่เปียกชุ่มด้วยน้ำไปด้วย และนั่งลงมา ที่ขอบเตียงด้วย “ลิสาถูกทำจนกล่องเสียงแหบ ต่อไป ไม่สามารถพูดได้อีก แขนขาถูกตัดเส้นเอ็นจนขาด ต่อ ไปแขนขาก็จะไม่มีแรงและกลายเป็นคนพิการคนนึง

บรรยายอย่างผิวเผิน แต่มันก็แย่กว่านี้ไม่ได้แล้ว

พิงกี้อ้าปาก แต่พูดอะไรไม่ออก เควินเข้าใจความหมายของเธอ

แววตาเขาเยือกเย็นลงมา สีหน้าแววตาไม่สะทก สะท้าน “ฟังดูอาจจะโหดไปหน่อย แต่พอนึกถึงเรื่องที่ เธอเคยทำในอดีต นี่ก็ถือว่าสมควรแล้ว”

“เธอยังทำอะไรไปบ้างคะ?”
พิงกี้ไม่ค่อยรู้เรื่อง เพราะช่วงนี้เควินยุ่งมาก เธอไม่ ค่อยอยากไปรบกวนเขาสักเท่าไหร่

“ก่อนหน้านั้นลิสาทำร้ายคนไปไม่น้อยก็ไม่พูดถึง แล้ว หลังจากเธอศัลยกรรมเปลี่ยนโฉม คนที่ถูกเธอใช้ ความสวยล่อลวงไปควักเอาไตก็พบห้าหกรายแล้ว นี่ยัง เป็นภายใต้สถานการณ์ที่ระยะเวลาไม่ถือว่ายาว คุณ ลองคิดดู ถ้าให้เวลาเธอก่อคดี เธอจะทำลายคนไปตั้ง เท่าไหร่?”

ยิ่งไปกว่านั้น ลิสายังได้ฆ่าคมฝันด้วย! จุดนี้คือจุดที่ไม่ว่ายังไงเควินก็ทนไม่ได้

“อืม เธอเป็นอสรพิษจริงๆ “พิงกี้ไม่เห็นใจลิสาเด็ด ขาด ถ้าเห็นใจเธอ ก็เท่ากับเห็นใจงูตัวนึง นิทานชาวนา กับงูเห่า เธอเคยฟังมาตั้งแต่เด็กแล้ว

“ผมได้ให้คนแอบส่งตัวเธอไปแล้ว ให้เธอขอทาน แบบปิดหน้าก่อนหนึ่งปี ให้เธอได้ลิ้มรสความยาก ลำบากก่อน ในปีนี้ผมจะให้คนเฝ้าจับตาดูเธอเอาไว้ เอา เงินที่เธอขอทานได้ทั้งหมดไปทำการกุศล หลังจากหนึ่ง ปีข้างหน้า ให้เธอเผยใบหน้าของตัวเองออกมา ตอนนั้น สิ่งที่รอเธออยู่ก็คือวันสิ้นโลกแล้ว”

พิงกี้กระพริบตาปริบๆ
“ถ้าไม่ใช่เพราะอยากให้เธอทำการอุทิศตนเพื่อ คนอื่นหน่อย เงินที่ขอทานมาได้ผมจะไม่ให้เธอสักแดง เดียว มีแต่จะให้เธอตกนรกโดยตรง “เควินยกมุมปาก

ผู้หญิงคนนึงที่ไม่สามารถขยับเขยื้อนได้ แต่ยังมี ใบหน้าที่สะสวย จินตนาการไม่ยากเลยว่าในหนึ่งปีนี้ลิ สาจะเจอเรื่องอะไรบ้าง

แต่พวกนั้นล้วนแต่เป็นความทุกข์ทรมานที่เธอต้อง ลิ้มรส

ทีนี้พิงกี้ก็เข้าใจแล้ว

เธอเข้าใจแล้ว ในฐานะที่เป็นผู้หญิงคนนึง ในแวว ตาเลี่ยงไม่ได้ที่จะแฝงด้วยความลังเล แต่เธอกำลัง อยากเปิดปากพูด เควินกลับโน้มตัวลงจูบที่ริมฝีปาก ของเธอ ให้เธอไม่มีโอกาศที่จะได้เปิดปาก


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ