ไม่ง่ายเลยที่จะได้รับเงินเดือนสองแสนห้า จากคุณดุสิต พิงกี้ตั้งใจจะไปเยี่ยมยายสมศรีที่
โรงพยาบาลเธอต้องรีบจ่ายค่าผ่าตัดของ ยายให้เร็วที่สุด หากถึงโรงพยาบาลแล้วเธอ
บอกยาย
ว่าทำงานหาเงินได้แล้วสองแสนห้าท่าน ต้องดีใจมากๆแน่ เมื่อนึกถึงจุดนี้
ทำให้พิงกี้ยิ้มกว้างด้วยความสดใส ทันทีที่ เธอกลับจากตระกูลกิจโอสถ
ก็ได้บอกคุณยายแล้วว่าคืนนี้จะไปเยี่ยม เมื่อยายสมศรีได้ฟังถึงกับหัวเราะ
ฟังจากน้ำเสียงในโทรศัพท์ก็รู้ว่ามีความสุข ขนาดไหน นั่นทำให้อารมณ์ของพิงกี้ดีขึ้นมาก
อารมณ์ดีๆ ที่ได้หายไปนานแล้ว ตั้งใจซื้อ ผลไม้ที่ยายสมศรีชอบเป็นพิเศษ เธอกลับห้อง
เช่าก่อน
เพื่อทําซุปไก่ที่หอมกรุ่น อาหารจานอร่อย สองสามอย่าง ไปยังโรงพยาบาลให้คุณยาย
ได้รับโภชนาการที่ดีและกินข้าวร่วมกัน สักมื้อ แบกของทั้งหมดไปถึงหน้าทางเข้าโรง
พยาบาล
พิงกี้ก็เจอกับอุบัติเหตุ มีร่างใหญ่วิ่งออกมา อย่างรวดเร็ว เมื่อเธอพบเข้าก็ไม่สามารถหลบ
หลีกได้ทัน ทำได้แต่ปิดตาแน่น ความรู้สึก เหมือนถูกชายคนนี้กระแทกเข้าที่หัวอย่างจัง
ถูกชนเข้าอย่างแรง ทำให้แอปเปิ้ลที่ อุตส่าห์ตั้งใจเลือกกลิ้งหลุนๆไปกับพื้น กระติก อาหารก็หล่น
“ตุ้บลงบนพื้น ยังดีที่กระติกนี้ปิดได้แน่น มาก ทำให้ซุปกับอาหารไม่หกออกมา
“ซี้ด” เธอจับบนหัวไหล่ที่ปวด อดไม่ได้ที่ จะส่งเสียงออกมา
ไม่รู้ว่าเธอคิดไปเองหรือเปล่า รู้สึกได้ว่า เกิดอาการมึนๆ นที่หัว
“คุณผู้หญิง เป็นอะไรมั้ยครับ” ทันใดนั้นก็ มีมือพยุงไหล่ของเธอไว้
เสียงที่ไพเราะของชายดังกล่าวก็ดังขึ้น เอ่ยคำขอโทษอย่างนุ่มนวล
“ต้องขอโทษด้วยครับ พอดีเมื่อกี้ผมรีบไป หน่อย ไม่คิดว่าจะวิ่งแล้วชนกับคุณเข้า
คุณเป็นยังไงบ้างครับ
“ฉันไม่เป็นไรค่ะ” พิงกี้ส่ายหัว ปัดมือของ ชายคนนี้ออกเบาๆ แม้จะขุ่นเคืองใจอยู่บ้าง
แต่เขาก็กล่าวขอโทษแล้ว เธอก็ไม่อยาก เป็นคนที่กัดไม่ปล่อยเหมือนกัน
เมื่อเงยหน้าขึ้น พิงกี้กลับเลิกคิ้วด้วยความ แปลกใจ ชายตรงหน้ากลับดูหล่อเหลา สะอาด
และดูดีเป็นอย่างมาก สวมเพียงเสื้อเชิ้ตสี ขาวกางเกงยีนส์สีน้ำเงินที่เรียบง่าย
ราวกับลมจากยอดหุบเขาสูงที่ให้ความรู้สึก สบาย เขาขมวดคิ้วเข้ม ดูเหมือนเขาเองก็เสียใจ
จริงๆ
“นี่คือนามบัตรของผม ด้านบนมีเบอร์โทร ของผมอยู่ ผมต้องการไถ่โทษจากคุณกับเรื่อง ในวันนี้
ให้อภัยกับความผิดของผมในครั้งนี้นะครับ
เขาเก็บผลไม้ทั้งหมดจากพื้นส่งให้พิงกี้ พร้อมกับนามบัตรของเขา
“ไม่ต้องหรอกค่ะ ฉันไม่ได้เสียหายอะไร”
พิงกี้ส่ายหัว
แต่เธอก็ยังอยากรู้อยากเห็นอยู่ดี มองไป ยังระหว่างนิ้วที่ถือนามบัตรอยู่ของชายคนนี้
ทำให้พิงกี้มองเห็นชื่อของเขา ณรงค์กร เป็นชื่อที่ไม่เลวเลย เข้ากันดีกับผู้ชายที่ใจเย็น และสดใส
เหมือนสายลมที่คอยพัดผ่าน พิงกี้ถอน หายใจอย่างเงียบๆ คิดว่านี่เป็นเพียงฉากเล็กๆ
กลับไม่รู้ว่าในอนาคตชื่อนี้จะมาข้องเกี่ยว กับเธอ นั่นทําให้เธอคาดไม่ถึงเลยทีเดียว
“พิงกี้ ช่วงนี้หลานงานมากใช่ไหม ไม่ได้มา เยี่ยมยายซะนานเลย
ยายสมศรีมองไปยังพิงกี้กุมมือเธอช้าๆ
“แต่หลานไม่มาเยี่ยมยายไม่เป็นไร หนู ต้องดูแลตัวเองดีๆรู้ไหม?
อย่าหักโหมงานหนักจนทำให้เสียสุขภา
พหล่ะ!”
“หนูรู้แล้วค่ะยาย” พยักหน้าพร้อมยิ้ม
พิงกี้จัดวางอาหารไว้บนชั้นวางอันเล็กอย่าง เป็นระเบียบ นำซุปไก่ให้ยายทานก่อน
“ยายรีบชิมดูซิคะ ตอนเย็นหนูเคี่ยวน้ำซุป นี้มาหลายชั่วโมงเลย
ซุปจะต้องหอมอร่อยมากแน่ๆค่ะ”
ยายสมศรีหรี่ตาซดเบาๆคำหนึ่ง ได้แต่พยัก หน้าที่เปื้อนยิ้ม
“ฝีมือการทําอาหารของหลานยาย ยอด เยี่ยมจริงๆ
ไม่รู้ว่าจะไปเตะตาเข้ากับชายคนไหนใน อนาคต “เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ ยายกลับถามขึ้น
“จริงสิ เมื่อไหร่หลานจะพาแฟนมาแนะนำ กับยายเป็นตัวเป็นตนสักที
ตอนนี้หนูก็อายุยี่สิบสองแล้ว สามารถหา คนรู้ใจได้แล้ว
“ยังไม่รีบค่ะยาย” พิงกี้สายหัว
เมื่อพูดถึงความรัก จู่ๆในใจกับปรากฏเงา ของชายร่างสูงโปร่งออกมา
นึกถึงดวงตาคู่ที่ดำลึกและเย็นชา กลับ ทำให้เธอเสียความรู้สึกจนต้องถอนหายใจเบาๆ
“ไม่รีบอะไรหล่ะ?สิ่งที่ยายอยากเห็นมาก ที่สุดในช่วงชีวิตนี้คือหลานได้แต่งงาน
แล้วมีเหลนให้ยายอุ้ม รอให้ร่างกายยาย แข็งแรงขึ้น ยังสามารถช่วยหนูเลี้ยงเหลนได้ ด้วย!”
“คุณยายล่ะก็
สายตาที่มองยายอยู่นั้นกลับยิ่งเห็นแต่ ความห่างไกล ใบหน้าที่ขาวนวลของพิงกี้กลับ
แดงขึ้น
คนไข้ที่อยู่ข้างๆหัวเราะจึงทักขึ้นว่า
“ยายแก่อย่าพูดต่อเลย เห็นมั้ยว่าหลาน สาวเธออายจนหน้าแดงแล้ว
หลานสาวเธอหน้าตาสวยขนาดนี้ แถมยัง เป็นเด็กกตัญญูด้วย
ต่อไปคงมีหนุ่มๆมาแย่งสู่ขอแต่งงานเข้า
บ้านกันเยอะแน่นอน”
ผู้ป่วยที่พูดขึ้นอยู่ในวัยกลางคนแล้ว รอย ยิ้มที่ดูดี ดูเหมือนคนมีฐานะ
มีความเข้าอกเข้าใจเป็นอย่างดี
“โตเป็นสาวเป็นแส้แล้ว ก็ควรมีแฟนได้ แล้ว ไม่ใช่เรื่องน่าอายเลย
ยายสายหัวไปพลางนึกขึ้นได้ ถามผู้ป่วย
ข้างเตียง
“แจ่มใส ลูกชายเธอก็ยังไม่ได้คบกับใคร เลยถูกไหม”
“ก็ใช่น่ะสิ ตอนนี้ก็อายุตั้งยี่สิบเจ็ดปีแล้ว
ฉันกังวลใจแทนเขาจะแย่อยู่แล้ว”
“เธอว่าพิงกี้หลานฉันเป็นไงบ้าง?”
“ห้า? ” ทำให้คุณแจ่มใสในวัยกลางคนตก ตะลึงงัน ปรบมือดังทีหนึ่งแล้วหัวเราะออกมา
“เธอดูซิ ทำไมฉันถึงนึกไม่ถึงนะ? ลูกชาย ฉันกับหลานสาวเธอ แค่ดูก็เหมาะสมกันมาก แล้ว”
“นั่นน่ะสิ” ยายสมศรีพยักหน้า
“เดี๋ยวลูกชายเธอยังจะมาอีกใช่มั้ย?พอดี เลยพวกเขาจะได้เจอหน้ากัน
“ความคิดนี้ไม่เลว งั้นเอาตามนี้เลยละกัน”
พิงกี้ “ .….………….
เธอมองดูยายที่พูดคุยกับคนอื่นอย่างมีความสุข กลับรู้สึกเหมือนกำลังถูกฟ้าผ่า
เธอหวังจะออกไปหลบสักหน่อย กลับ ได้ยินเสียงของแจ่มใสที่กำลังพูดอย่างอารมณ์
“ลูก รีบมานี่เร็ว แม่หาลูกสะใภ้ที่ทั้งสวย และกตัญญูให้ลูกคนนึง
รับรองลูกต้องชอบใจมากแน่ๆเลย!”
‘…”พิงกี้ไม่พูดอะไร หันหลังเดินออกนอก ประตูกลับเจอคนที่ทำให้น่าประหลาดใจ
“คุณหรือครับ ?”
“คุณหรือเนี่ย ?”
คำพูดที่ออกมาพร้อมกัน พิงกี้กับณรงค์กร ต่างเต็มไปด้วยความประหลาดใจ
ไม่มีใครคิดว่าเหตุการณ์สั้นๆที่เกิดขึ้นหน้าโรงพยาบาลก่อนหน้า กลับทำให้ทั้งสองมาเจอ กันอีกครั้ง
“หนูสองคนรู้จักกันหรอ? นี่มันอะไรยังไง
กัน?”
ทำให้ทั้งยายสมศรีและคุณแจ่มใสต่าง ก็เกิดความสงสัย ณรงค์กรเล่าเรื่องก่อนหน้า ทั้งหมด
ให้ทั้งสองฟัง “พรหมลิขิตทำให้มาพบกัน ยายสมศรีพอใจอย่างมาก
ตื่นเต้นที่จะให้พิงกี้กับณรงค์กรได้ทำความ รู้จักกันและกัน รีบไล่ให้ทั้งสองไปดูหนัง
ยังต้องส่งภาพที่ถ่ายจากหน้าโรงหนังมา ยืนยันกับเธอ เหมือนถูกบังคับขู่เข็ญ
พิงกี้กับณรงค์กรยืนถ่ายรูกันหน้าโรงหนัง ถ่ายรูปเสร็จต่างคนต่างมองหน้ากัน
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ