คุณชายมาดเข้มกับคุณหนูสุดแสบ

บทที่537 ช่วงนี้เธอสบายดีมั้ย?



บทที่537 ช่วงนี้เธอสบายดีมั้ย?

พิงกี้กลับไม่ได้สงบใจเย็นเหมือนเขา เธอไม่ กล้าพูดเลยด้วยซ้ำ

แผ่นหลังเย็นเฉียบ แต่ร่างกายกลับร้อนผ่าว

เธอถูกเควินกดทับที่ผนังและยืนทำอยู่อย่างนั้น ถึงแม้เสื้อผ้าไม่ได้ถอดจนหมดแต่ก็พอสมควรแล้ว บังที่ๆควรบังไว้ไม่อยู่ ที่ยิ่งเอาชีวิตคือ ห้องข้างๆก็ คือห้องทำงานของเลขาทั้งหลายและผู้ช่วยของเค วิน

พายุกับผู้ช่วยและเลขาต่างก็กำลังนั่งทำงาน อยู่ที่นั่น

ถึงแม้ประตูปิดเอาไว้ แต่ถ้าเธอส่งเสียงอะไร ออกมา ถูกคนได้ยินเข้าจะทำยังไง?

พิงกี้กัดริมฝีปากไว้แน่น ถึงเควินจะกระแทก และพุ่งชนอย่างบ้าระห่ำ ทุกครั้งที่กระแทกเข้าไปใน จุดที่ลุกที่สุด ความรู้สึกเสียวซาบซ่านจนทําให้คน ควบคุมไม่ได้ที่จะครางออกมา ก็ไม่สามารถดึงสติ เธอไปได้

ตั้งแต่ต้นจนจบเธอก็รักษาความอาย ความชัดเจนไว้
แต่ว่า สำเร็จก็เธอ ล้มเหลวก็เธอ

พิงกี้ยังมีสติอยู่ ดังนั้นเธอจึงไม่กล้าส่งเสียง ออกมาด้วยความอาย แต่ว่า ตอนที่พายุถือเอกสาร ฉบับหนึ่งมาเคาะประตู เสียงที่ใกล้แค่เอื้อมพริบตา เดียวกลับทำให้พิงกี้ที่ยังมีสติหลงเหลืออยู่ ตื่นเต้น ขึ้นมาสุดขีด

“เจ้านายครับ L.S.Groupได้ส่งใบแจ้งราคา ล่าสุดมาครับ ผมจะเอาเอกสารมาให้เจ้านายเซ็นต์ ไม่ทราบว่าผมเข้าไปได้มั้ยครับ?” พายุเคาะประตู เขารู้สึกแปลกใจเล็กน้อย

ไม่มีคนตอบ ด้วยจิตใต้สำนึกพายุยื่นมือไป หมุนลูกบิดประตูทีหนึ่ง ปรากฎว่าประตูล็อคเอาไว้

เขาแปลกใจมาก

ปกติประตูของเจ้านายไม่เคยปิดเลย ถึงปิดแต่ แค่ผลักก็เปิดออกแล้ว แต่วันนี้……..รู้สึกผิดปกติไป หน่อยนะ?

“เจ้านายอยู่ข้างในหรือเปล่าครับ?” พายุถาม อีกครั้ง และตั้งหน้าตั้งตารอคำตอบของเควิน
ด้านนอกเปิดไฟไว้ แสงไฟสว่าง ด้านในไม่ ได้เปิดไฟ แสงไฟมืดสลัว การเทียบกันระหว่าง ความมืดกับความสว่าง แสงไฟสาดส่องทำให้ประตู กระจกทรายเผยโครงสร้างของพายุออกมาอย่าง ลางๆ คนที่อยู่ด้านในแค่มองก็สามารถเห็นแล้ว

พิงกี้หันหน้าไปมองประตูที่อยู่ไม่ไกล ทันใดนั้น มีความรู้สึกอยากตาย

ที่ๆเธอกับเควินยืนอยู่ห่างจากประตูไม่ถึงครึ่ง เมตร ถึงด้านนอกสามารถเห็นฉากของด้านใน แต่ พิงกี้รู้สึกตัวเองแทบอายจนอยากตายแล้ว

เธอใช้แรงหยิกเควิน และข่มขู่เสียงต่ำ “ห้าม ให้เขาดูออกเด็ดขาด”

“ประตูปิดเอาไว้ เขามองไม่เห็นหรอก”

“ห้ามให้เขาฟังออกด้วย!” พิงกี้รีบพูดเสริม

เควินยักคิ้วเล็กน้อย แต่ไม่พูดจา

เขายิ้มมุมปาก เผยรอยยิ้มที่มีความหมายลึก ซึ้งออกมา แต่ท่าทางของช่วงเอวกลับยิ่งอยู่ยิ่งเร็ว ขึ้น ราวกับว่าไม่สนใจพายุที่อยู่ด้านนอกเลยด้วยซ้ำและไม่คิดจะรีบเครียร์เอกสารที่พายุเอามา ยิ่งไม่ คิดจะเพลาๆลงอย่างไรอย่างนั้น

ทําอะไรท่านประธานคนนี้ไม่ได้ พิงกี้ได้แต่ ปิดปากไว้สนิท

แต่แล้ว การกระตุ้นที่แอบซ่อนแบบนี้ สำหรับ เธอมันยิ่งกว่ายาปลุกเซ็กส์ที่แรงที่สุดเสียอีก ขยาย ความรู้สึกทั้งหมดของเธออย่างไร้ขีดจำกัด ขยาย ความเพลิดเพลินใจของเธอจนนับไม่ถ้วน

ไม่นาน พิงกี้ก็ถึงจุดสุดยอดพร้อมกับร่างกาย สั่นไหว เธอซบอยู่ที่บนตัวของเควินและหายใจหอบหืด

ไปด้วย รู้สึกตัวเองเหมือนตายไปแล้วครั้งหนึ่ง

ตอนที่พิงกี้หายใจหอบหืด เสียงทุ้มต่ำของเค วินดังขึ้น เขาพูดให้กับพายุที่อยู่นอกห้อง “นายกลับ ไปก่อน ฉันมีธุระนิดหน่อย เดี๋ยวค่อยโทรเรียกนาย เข้ามา”

ครับ” พายุอึ้งไปครู่หนึ่งแล้วตอบ

“นอกจากนี้ ถ้าไม่มีเรื่องเร่งด่วนก็ไม่ต้องมาหาฉัน ฉันจะพักผ่อนสองชั่วโมง

“ได้ครับ”

เควินควบคุมตัวเองได้ดีมาก เสียงของเขาหนัก แน่นเหมือนปกติ ถ้าไม่เห็นกับตา ใครก็ฟังไม่ออกว่า นาทีนี้เขากำลังถลำลึกเข้าไปในความใคร่ทางเมถุน อยู่

พายุที่ไม่สังเกตเห็นความผิดปกติใดๆทั้งสิ้นได้ หันหลังจากไป เควินหัวเราะเสียงเบา อุ้มพิงกี้เข้าไป ด้านใน

พอมาถึงห้องพักผ่อน เขาลูบริมฝีปากของพิงกี้ เบาๆ “ตอนนี้คุณร้องออกมาได้แล้ว”

พิงกี้กลอกตาขาวใส่ทีหนึ่ง

เธอไม่ได้อยากร้องสักหน่อย

ถูกทรมานอยู่ที่ห้องพักผ่อนไปหนึ่งชั่วโมงครึ่ง ตอนที่เหลือเวลาอีกครึ่งชั่วโมง นาฬิกาปลุกที่เควิน ตั้งเอาไว้ดังขึ้น เขาเงยหน้ามองทิศทางของมือถือ จากนั้นก็ก้มลงจูบหน้าผากที่ปุ่มด้วยเหงื่อของพิงกี้
ต่อจากนี้ ท่าทางของเขาเห็นได้ชัดว่าอ่อนโยน ขึ้นเยอะมาก แต่ท่าทางกลับไม่ได้ช้าเลย

เขาคอยดูแลความรู้สึกของพิงกี้ แต่กลับดึงสติ บางส่วนออกมาควบคุมตัวเองไว้

พอทั้งคู่ขึ้นไปถึงสวรรค์ชั้นเจ็ดเสร็จ เควินลุก ขึ้นจากเตียงอย่างหายใจหอบหืด

ในห้องพักผ่อนมีห้องน้ำ

อุ้มพิงกี้เข้าไปในห้องน้ำ เควินใช้ระยะเวลาอัน รวดเร็วในการชำระร่างกายให้เธอและตัวเอง

พออาบน้ำแต่งตัวเรียบร้อย เควินหยิบมือถือขึ้น

มาดู

อีกห้านาทีก็สองชั่วโมงเป๊ะๆแล้ว เพียงพอให้ เขาเดินไปที่ออฟฟิศอย่างสบายๆ และโทรเรียกพายุ เข้ามาแล้ว

“ผมออกไปก่อน คุณพักผ่อนอยู่ที่นี่สักพักนะ ตอนเที่ยงผมพาคุณออกไปทานข้าว” ห่มผ้าให้พิงกี้ เควินก้มหน้าจูบที่หน้าผากเธอทีหนึ่ง เสียงของเขา ทุ้มต่ำแต่มีเสน่ห์ มีความเซ็กซี่ที่อ่อนโยน
“อืมๆ” เสียงของพิงกี้ครางจนแหบ สีหน้าที่ เกียจคร้านของนาทีนี้ก็ทำให้คนรักใคร่เอ็นดูมาก

เธอมาส่งน้ำหวานทำงาน แต่นึกไม่ถึงเลยด้วย ซ้ำว่าสุดท้ายตัวเองจะถลำลึกเข้ามาอยู่ในนี้

ตั้งแต่เช้า ท่านประธานใหญ่คนนี้นี่ทำงาน หรือ ว่า…..ทําเธอกันแน่?

แอบทำปากตู่ด้วยความหดหู่ พิงกี้พลิกตัวที หนึ่ง เตรียมตัวพักผ่อนเอาแรง เธอต้องการพักผ่อน สักงีบเพื่อฟื้นฟูหัวใจที่เต้นแรงจริงๆ…..เมื่อกี้ ช่าง เสียวซาบซ่านจริงๆ

ตอนเที่ยง รอให้เควินเสร็จงาน พิงกี้กะว่าจะ เรียกน้ำหวานไปทานข้าวด้วยกัน แน่นอนว่าเรียก พายุด้วย

ถึงแม้ตอนนี้น้ำหวานบอกไม่อยากคิดเรื่อง ความรัก พิงกี้ก็ไม่คิดจะบังคับเธอ ไม่อยากเข้าไป แทรกแทรงมากเกินไป แต่สร้างโอกาศที่ได้อยู่ด้วย กันนิดหน่อย ผลกระทบที่ซึมซับอิทธิพลจากสภาพ แวดล้อมและสิ่งอื่นๆเข้าไปโดยไม่รู้ตัว ก็ไม่ได้ทำให้ คนเกลียดหรอก ยิ่งไม่ทำให้น้ำหวานมีความรู้สึกตื่น เต้นด้วย
พูดจากใจจริง ให้พิงกี้ไม่ต้องเป็นห่วงน้ำหวาน เลย เธอทำไม่ได้จริงๆ

ข้าวมื้อนี้ ถือว่าทานได้อย่างเอร็ดอร่อยและมี ความสุข

มองน้ำหวานเล่าถึงทุกอย่างของการทำงาน อย่างมีความสุข แทบจะเล่ารายละเอียดของตอน เช้ามาจนหมดเกลี้ยง ใบหน้าที่ขาวซีดดูมีเลือดฝาด ขึ้นเพราะความตื่นเต้น พิงกี้รู้สึกตัวเองถือว่าทำถูก เรื่องหนึ่งแล้ว

เดิมทีกะว่าทานข้าวเสร็จก็จะกลับบ้านเลย แต่ คิดๆแล้ว พิงกี้ตัดสินใจจะอยู่ถึงตอนเลิกงาน วันนี้ส่ง น้ำหวานกลับบ้านก่อนแล้วค่อยว่ากัน

เดี๋ยวตอนเลิกงานเรียกเตชิตมารับกระทันหัน ก็จะดูจงใจเกินไป แต่คืนนี้ตอนกลับบ้านพูดเปรยๆ ออกมาหน่อย พรุ่งนี้ค่อยให้เตชิตเริ่มรับส่ง น้ำหวาน ก็คงไม่คิดมากขนาดนั้นแล้ว

แบบนี้ดีเยี่ยม!
แต่ที่พิงกี้คิดไม่ถึงคือ ในตอนบ่ายแผนของเธอ เกือบจะเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิด

กำลังนอนพักอยู่บนเตียง จู่ๆมีสายเรียกเข้า เป็นเบอร์ที่ไม่รู้จัก แต่เสียงใสๆที่ก้องมาจากในมือ เป็นเสียงที่เธอคุ้นเคยสุดๆ

“พี่มานพ?” พิงกี้รีบลุกขึ้นมานั่งบนเตียง เบิก ตากว่างอย่างไม่อยากจะเชื่อ

“ใช่ พี่เอง” ในสาย เสียงหัวเราะของมานพก็ ยังอ่อนโยนมากอีกเช่นเคย “ตอนนี้เธออยู่ไหน ว่าง คุยกับพี่มั้ย?”

“ว่างสิคะ ว่างค่ะ!” พิงกี้รีบพยักหน้า “พี่หาย เงียบไปนานเลย น้ำหวานเป็นห่วงพี่จะแย่อยู่แล้ว! ช่วงนี้พี่ทำอะไรอยู่คะ ทำงานลำบากมากเลยใช่มั้ย? อ้อใช่ ตอนนี้ฉันอยู่ข้างนอกค่ะ น้ำหวานอยู่ใกล้ๆกับ ฉันเอง พี่จะคุยกับน้ำหวานมั้ยคะ? ฉันจะไปหาเธอ เดี๋ยวนี้เลย”

“ไม่ต้องหรอก พี่มีเวลาไม่เยอะ” เสียงของ มานพอ่อนโยน “ช่วงนี้เธอสบายดีมั้ย?”

“ฉันสบายดีค่ะ” พิงกี้ลังเลไปครู่หนึ่งแล้วถาม“พี่มานพ ฉัน….ส่งการ์ดเชิญงานแต่งให้พี่ พี่เห็นมั้ย คะ? เดิมทีฉันนึกว่าวันงานแต่งจะได้เจอหน้าพี่เสีย อีก ไม่คิดเลยว่าพี่จะไม่มา แต่ตอนนี้พี่โทรมาหาฉัน แล้ว งั้นฉันก็ยกโทษให้พี่ก็แล้วกัน คริๆ……พี่อวยพร ฉันหน่อยสิคะ

ความรักที่เคยมีให้ในวัยเด็ก อยู่ในใจของพิง กี้ได้กลายเป็นความรักความผูกพันเหมือนคนใน ครอบครัวแล้ว

เธอหวังว่ามานพก็จะเป็นแบบนี้เช่นกัน

ถ้าเป็นแบบนี้ ความสัมพันธ์ของทั้งสองก็จะ ยืนยาวเหมือนความสัมพันธ์ของเธอกับน้ำหวาน เธอ จะเห็นพ่อแม่ของตระกูลกิจโอสถเป็นพ่อแม่ของตัว เอง เห็นเขากับน้ำหวานเป็นพี่น้องของตัวเอง……..

มีแค่ฟ้าเท่านั้นที่รู้ว่าในใจเธอปรารถนาความ รักแบบนี้มาก ความอบอุ่นของครอบครัวแบบนี้ เธอ ละทิ้งไม่ลงจริงๆ

“ขอให้มีความสุขกับชีวิตคู่นะ” มานพพูดด้วย รอยยิ้ม “ก่อนหน้านั้นพี่ไม่มีเวลา เลยกลับมาไม่ทัน พี่ต้องขอโทษด้วยนะ ครั้งหน้าพี่ชดเชยของขวัญวัน แต่งงานให้ โอเคมั้ย?”
“โอเค ได้ค่ะ” พิงกี้พยักหน้าอบ่างยิ้มแฉ่ง

พูดคุยไปพักหนึ่ง พิงกี้ไม่ได้พบความผิดปกติ ใดๆเลย ในใจเต็มไปด้วยความสุข


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ