คุณชายมาดเข้มกับคุณหนูสุดแสบ

บทที่ 503: เขาไม่ได้ตั้งใจจะอันธพาลใส่นะ!



บทที่ 503: เขาไม่ได้ตั้งใจจะอันธพาลใส่นะ!

“เต….เตชิต น้ำหวานปากอ้า ตาค้างจ้องคนที่ยืนอยู่ตรงหน้า ตาที่เดิมทีก็โตกลม อยู่แล้วยิ่งลืมตากว้างแบบนี้ สีหน้าอย่างกับคนเห็น ผี คนๆนี้นี่เดินไม่ให้ซุ่มไม่ให้เสียงเลย “คุณ เอาน้ำสาดจนผมเปียกไปทั้งตัว ยังมาโทษว่าผมเดิน ไม่ให้ซุ่มไม่ให้เสียงอีก? ผมว่าสมองคุณมัวแต่คิด เรื่องลามกอยู่ วิญญาณเลยล่องลอยไปไหนแล้วก็ ไม่รู้มากกว่ามั้ง?” เตชิตสวนกลับเธอ น้ำหวาน มึนตึ๊บ “เมื่อกี้ฉันพูดออกมาเหรอคะ? “ใช่ คุณพูดออกมาเอง” เตชิตดึงเสื้อตัวเอง “คุณดูที่ คุณทำซิ! น้ำหวานมองหน้าคนที่ยืนตรงหน้า ดูเหมือนเตชิตเพิ่งจะตื่น บนตัวใส่เสื้อกล้าม สีขาวบางๆที่ทำจากผ้าฝ้าย ช่วงล่างใส่กางเกงสี เข้มที่ใส่อยู่ในบ้าน น้ำในแก้วของเธอหกใส่เขา เกือบครึ่งค่อนตัว เสื้อและกางเกงของเขาเปียกไป หมด ……… พอมองต่ำลงไปอีก น้ำหวานหน้า แดงจนจะออกควันได้แล้ว เธอคิดจะรีบเดินผ่านเขา ไปทันที แต่เสียดายที่เธอเดินไม่กี่เก้าก็ถูกเต ชิตจับข้อมือไว้ “นี่คุณ ถึงคุณไม่คิดจะช่วยผม ซักผ้า แต่อย่างน้อยก็น่าจะพูดขอโทษหน่อยมั้ง? &“ขอ ขอโทษค่ะ…..” เสียงของเธอเบามาก สีหน้าดูรีบร้อน “นี่มันพูดแบบลวกๆเกินไปหรือ

เปล่า? คุณพูดด้วยความจริงใจอีกครั้งเลยนะ “นี่คุณ…..” น้ำหวานร้อนรนจนแทบอยากจะ เท้า “ขอโทษๆๆๆ โอเคหรือยัง? “ไม่โอเค” น้ำหวานแค่หันหน้ามาก็เผชิญกับสายตาที่ กลั่นแกล้งของเตชิต รู้ว่าเขาตั้งใจฟื้นฝอยหาตะเข็บ ทันใดนั้นเธอตะโกนเสียงดัง “นี่คุณ….คุณคุณจะ รังแกคน ก็ดูเวล่ำเวลาหน่อยได้มั้ย?” “ทำไม ต้องดูเวล่ำเวลาด้วย?” “อย่างน้อยก็ควรจะ รอให้ไม้จิ้มฟันของคุณหดลงไปก่อนมั้ยคะ?

” เตชิตเบิกตาโตขึ้นมาทันที ใบหน้าหล่อ เหลาเก้อเขินขึ้นมาทันที …………….. เขา ก้มหน้ามองไปที่ด้านล่าง พบว่าเจ้ามังกรใหญ่ของ ตัวเองชี้ตั้งขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะหลัง จากกางเกงถูกน้ำสาดสียิ่งดูเข้ม ถ้าเทียบกับเนื้อผ้า ส่วนอื่นที่แห้ง จะยิ่งเห็นเจ้ามังกรนั้นนูนออกมาใหญ่ มาก…………ผล ให้ตายสิ ละ เขาเกือบลืมไปว่า เขาลงมาทําอะไร 8 ชักโครกที่ห้องนอนเสีย เขา กะว่าจะลงมาดื่มน้ำที่ชั้นล่าง และแวะเข้าห้องน้ำ ด้วย คิดไม่ถึง…….. ขายหน้าจริงๆ! เตชิต เอามือสองข้างกุมศีรษะไว้ นึกถึงสายตาที่ดูถูกของ น้ำหวาน ทันใดนั้นยิ่งรู้สึกขายหน้าเข้าไปใหญ่

เขาไม่ได้ตั้งใจจะอันธพาลใส่นะ! ไม่ใช่นะ! หลังจากน้ำหวานหลุดพ้น ออกมาได้ก็รีบพุ่งกลับไปที่ห้องนอนอย่างไว เหมือน ข้างหลังมีหมาดุร้ายสามร้อยตัววิ่งตามเธออย่างไร อย่างนั้น ปิดประตู เธอหายใจหอบหืดพิงอยู่ที่ ประตู ท่าทางโจ่งแจ้งจนต้นข้าวทิ้งหนัขสือลงแล้ว วิ่งมาหาเธอ “พี่น้ำหวาน พี่เป็นอะไรคะ?“พี่……” น้ำหวานหายใจลึกๆทีหนึ่ง แล้วเผยรอย ยิ้มออกมา “ช่วงนี้พี่ไม่ค่อยได้ออกกำลังกาย เมื่อกี้ เลยออกไปวิ่งที่ข้างนอกรอบหนึ่ง ตอนนี้รู้สึกเหนื่อย นิดหน่อย…..555 ดูท่าต่อไปคงต้องวิ่งกำลังกาย บ่อยๆแล้ว ต้นข้าวเอียงศีรษะมองน้ำหวาน อย่างการคิดค้นวิจัย สีหน้าเต็มไปด้วย “ถึงแม้หนู ไม่เชื่อ แต่ในเมื่อพี่ตั้งใจหรอกขนาดนี้แล้ว งั้นหนู ก็ฝืนใจเชื่อหน่อยก็ได้” น้ำหวาน XX

“พี่น้ำหวาน หนูอ่านหนังสือวาดภาพของที่บ้าน จนหมดแล้ว สัตว์และตัวเลขของในหนังสือหนูก็จำ ได้หมดแล้ว หนูไม่ไปเรียนอนุบาลแล้วได้มั้ยคะ? ต้นข้าวเสนอข้อเรียกร้อง “ทำไมถึงไม่อยากไป เรียนอนุบาลล่ะค่ะ?” น้ำหวานดึงความคิดกลับมา นั่งลงมาลูบศีรษะของต้นข้าว “พี่รู้ว่าต้นข้าวฉลาด และเรียนรู้ไวมาก แต่ที่โรงเรียนอนุบาลมีเพื่อนๆ ที่สามารถเล่นกับหนูมากมาย หนูสามารถมีเพื่อน เยอะๆ นี่เป็นความสุขที่หนูหาจากที่บ้านไม่ได้นะ หนู รู้มั้ย? “หนูไม่อยากมีเพื่อนค่ะ” ต้นข้าวส่าย หัว น้ำหวานรู้สึกสงสารขึ้นมาทันที เธอกอด ต้นข้าวมาที่อ้อมอก กล่อมเธอด้วยเสียงอ่อนโยน “เพื่อนเป็นคนที่มีค่ามากบนโลกใบนี้ ตอนที่มีความ สุขสามารถแบ่งปันความสุขด้วยกัน ตอนมีความ ทุกเพื่อนสามารถปลอบใจและคอยให้กำลังใจอยู่ ข้างๆ หนูดูสิพี่น้ำหวานกับพี่พิงกี้เป็นเพื่อนที่ดีมาก พี่ชอบพี่พิงกี้มาก หนก็ชอบพี่พิงกี้มากถกมั้ย?ใช่ค่ะ” ต้นข้าวเอียงศีรษะคิดๆแล้วพยัก หน้า “งั้นหนูบอกพี่ได้มั้ย ว่าหนูไม่อยากมีเพื่อน เหรอคะ?” “เพราะเด็กวุ่นวายเกินไปค่ะ” ต้น ข้าวคิดๆแล้วถอนหายใจ “หนูไม่อยากเล่นกับเด็ก ที่ไม่รู้จักโตค่ะ น้ำหวาน ………. น้ำ หวานจิ้มไปที่ศีรษะของต้นข้าว “ยัยหนู หนูยังคงจำ ได้อยู่ใช่มั้ยว่าหนูก็เพิ่งจะห้าขวบเอง?” “หนู จำได้สิคะ” “แล้วหนูยังไปรังเกียจเด็กคนอื่น วุ่นวายอีก? “เพราะหนูไม่ใช่เด็กชอบสร้าง ความวุ่นวายนี่คะ อีกอย่างตอนนี้หนูผอมเกินไป หนู จะต้องกินให้ตัวใหญ่ๆก่อนแล้วค่อยไปเรียน ถึงเวลา ก็จะไม่มีเด็กคนไหนกล้าแย่งของๆหนูแล้ว! หนูจะ กินผักปวยเล้งเยอะๆ จะได้มีแรงเหมือนป๊อบอาย สามารถสู้ผู้ใหญ่อย่างคุณลุงเตชิตได้หลายๆคน * เธอเพิ่งเล่านิทานป๊อบอายให้เธอฟังเมื่อสองวัน ก่อนเอง คิดไม่ถึงเลยว่าเธอจะจำได้แม่นยำขนาด นี้ ที่ยิ่งทำให้น้ำหวานคิดไม่ถึงคือ ต้นข้าวยังมี ความกังวลกับการเข้าเรียนอนุบาลเยอะขนาดนี้ & ปมที่ถูกคนรังแกและถูกคนตี ยังอยู่ในใจเธอ ตลอด ไม่มีหนทางลบทิ้งไปได้ “ต้นข้าว ตอนนี้ หนูไม่ได้อยู่ที่หมู่บ้านBแล้ว แต่ได้มาอยู่เมืองหลวง กับพี่แล้ว ถูกมั้ย? ถึงแม้เด็กของที่นี่ก็ซนอยู่เหมือน กัน แต่ว่า ถ้าพวกเขารังแกหนูล่ะก็ หนูสามารถบอก ให้คุณครูว่าพวกเขาได้ คุณครูที่โรงเรียนอนุบาล ก็คือเกราะป้องกันของหน ตอนที่พี่ไปรับหน หนก็สามารถบอกพี่ได้ พี่จะปกป้องหนูอย่างแน่นอน หนูรู้ มั้ย? ต้นข้าวยังเด็ก ดวงตาไร้เดียงสาจ้องมอง น้ำหวาน ราวกับว่ากำลังทำความเข้าใจกับคำพูด ของเธอฆะ สักพัก ต้นข้าวถึงเปิดปาก “แต่ว่า พี่ เองก็ผอมมากเลย แถมยังไม่ชอบกินผักปวยเล้งด้วย พี่จะสามารถสู้คนอื่นไหวเหรอคะ?” น้ำหวาน 88 ไม่นานต้นข้าวก็คิดหาวิธีแก้ไขได้ ดวงตากลมโตเป็นประกาย “พี่น้ำหวาน หนูดูคุณลุง เตชิตเก่งมากๆเลย หรือว่าเราให้เขาไปตีเด็กที่รังแก หนูดีมั้ยคะ?” “เอ่อ แบบนี้…….. เธอจะ บอกกับเด็กยังไงดี เมื่อกี้เธอเห็นภาพไม้จิ้มฟันของ คุณลุงเตชิตของเธอ เพราะฉะนั้นตอนนี้เลยไม่มี หน้าไปหาเขา?


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ